12345
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
เจ้าของ: Admin

[ตำหนักตงเฉิน | 冬晨宫]

[คัดลอกลิงก์]
โพสต์ 2025-6-27 14:00:10 | ดูโพสต์ทั้งหมด







มีพบ ต้องมีจาก


26 เดือน 5  รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11 ยามเหม่า < 05.00  น. - 07.00 น. >



ณ ยามเหม่าของอีกวันหนึ่ง เมื่อแสงตะวันเริ่มจับขอบฟ้าและลำแสงแรกเริ่มสาดผ่านยอดจันทน์ เงาร่างของเหล่านางกำนัลและขันทีภายในตำหนักตงเฉินก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างเป็นจังหวะ หน้าที่ในแต่ละวันถูกดำเนินไปด้วยความเคยชินของผู้คนที่อาศัยอยู่ภายในกำแพงหินและระเบียงไม้หลังคาสูง



ในขณะที่หลิวหรูเสวียนกำลังรับสำรับเช้าอย่างเรียบง่ายท่ามกลางความเงียบสงบของตำหนัก กลิ่นข้าวหอมอ่อน ๆ และไออุ่นจากน้ำแกงที่อยู่ตรงหน้าก็ยังไม่อาจกลบความรู้สึกบางอย่างที่แทรกซึมเข้ามาได้อย่างแนบเนียน นางกำนัลผู้หนึ่งน้อมกายเข้ามาใกล้ เอ่ยด้วยเสียงนอบน้อมราวไม่กล้าขัดอากาศของยามเช้า



"กราบทูลองค์ชายเพคะ… นางกำนัลที่พึ่งเข้าวังมาเมื่อวาน ได้ขออนุญาตกลับออกจากวังไปแล้วเพคะ"



มือของหรูเสวียนที่กำลังจะตักข้าวในถ้วยหยุดนิ่งกลางอากาศชั่วครู่ ริมฝีปากของเขาขยับเล็กน้อยราวจะถามต่อ แต่สุดท้ายกลับเงียบงัน ดวงตาสีหยกนิลนิ่งขรึมลงเพียงเสี้ยวขณะ เขาหันหน้ากลับไปมองทิวไม้สนที่เริ่มลู่ลมอย่างสงบอยู่เบื้องนอกหน้าต่าง



"กลับออกไปแล้วหรือ" เขาเอ่ยเสียงแผ่ว แต่แฝงความหมายบางอย่างไว้ในประโยคนั้น



ภายในใจของเด็กหนุ่มยังคงมีความสงสัยค้างคา ไม่ใช่เพียงเพราะการจากไปอย่างรวดเร็วของเด็กสาวผู้นั้น แต่เพราะสิ่งที่หลงเหลืออยู่ในแววตา... แววตาที่ครั้งหนึ่งเคยอ่อนโยนและเปี่ยมชีวิตชีวา แต่กลับหม่นเศร้าและร้างไร้เมื่อยามต้องเผชิญหน้ากับตน



หรูเสวียนนั่งนิ่งอยู่เช่นนั้น ไม่ได้เอ่ยถามนางกำนัลต่อว่าเหตุใด หรือผู้ใดเป็นผู้อนุญาต เขาไม่จำเป็นต้องไต่สวนใดให้มากความ เพราะคำตอบนั้นเขารู้ดีว่าไม่มีวันได้จากปากใครง่ายดาย โดยเฉพาะเมื่อเบื้องหลังคือใต้เท้าจางผู้มากด้วยเล่ห์เหลี่ยมและไม่อาจคาดเดา



‘นางคงไม่มีทางเลือก’ เด็กชายนึกในใจ



บางที...การที่นางจากไป อาจจะเป็นทางรอดเดียวที่นางเลือกได้ภายใต้เส้นด้ายพันธนาการนั้น หรูเสวียนมิเคยเชื่อว่าการเป็นนางกำนัลคือสิ่งที่เด็กสาวผู้เคยยื่นขนมไหมฟ้าให้อย่างเปิดใจจะปรารถนา เขามิเคยถาม และไม่มีสิทธิ์ถาม แต่ลึกในใจก็ยังอดจะคิดไม่ได้ว่าหากตนทำสิ่งใดสักอย่าง...นางอาจไม่ต้องถูกผลักให้อยู่ในจุดที่ไม่มีทางเลือก



"หวังว่านางจะพบที่ซึ่งสงบกว่า… นอกกำแพงวัง" เสียงขององค์ชายเอ่ยกับตนเองเบา ๆ ดวงตาคู่นั้นทอดมองออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้งราวกำลังมองข้ามแมกไม้และภูผา เพื่อภาวนาให้นกตัวน้อยที่ถูกปล่อยจากกรงนั้นจะบินไปได้ไกล พ้นจากบ่วงกรรมและคมมีดของผู้มีอำนาจเสียที



หรูเสวียนไม่รู้ว่านางจะได้อิสรภาพเพียงไร แต่ในใจเขาหวังเพียงให้นางไม่ต้องร้องไห้ในความเงียบงันอีกต่อไปแล้ว…




ยามเหม่าเคลื่อนคล้อยไปช้า ๆ ดวงอาทิตย์เริ่มขึ้นสูงเหนือปลายยอดไม้ เงาของไม้ไผ่ที่ทอดยาวบนพื้นก็เริ่มหดสั้นลง ความเงียบภายในตำหนักตงเฉินยังคงดำเนินไปอย่างสงบเสงี่ยมราวกับไม่ได้มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลง หากแต่ในหัวใจของหลิวหรูเสวียนกลับมีเสียงสะท้อนที่ไม่อาจขับไล่ให้จางหาย



นางจากไปแล้ว



ข่าวคราวที่นางกำนัลแจ้งเมื่อครู่แม้กล่าวอย่างง่ายดายว่า "นางกำนัลคนใหม่ขอออกจากวัง" แต่หรูเสวียนรู้ดีว่า ในวังหลวงแห่งนี้ ไม่มีผู้ใดจะออกไปได้ง่ายดายนัก โดยเฉพาะคนที่เพิ่งก้าวเข้ามาเพียงข้ามวัน อีกทั้งยังถูกส่งเข้ามาโดย “จางกงกง”



เด็กชายลูบปลายนิ้วช้า ๆ ไปตามขอบถ้วยชาเบื้องหน้า ดวงตานิ่งสนิทแต่นัยน์ที่ซ่อนอยู่ภายในกลับวาววับด้วยความคิดมากมาย



‘หัวหน้าขันทีไม่มีทางทำอะไรโดยปราศจากจุดประสงค์แน่นอน’



เขาคิด พอจะรู้ว่าอีกฝ่ายคือคนเช่นไร มือที่เคยชี้นำราชกิจแทนหวงตี้ยามหลังม่านมุก เสียงแผ่วเบาของขันทีผู้หนึ่ง แต่กลับมีอำนาจสั่งตายคนทั้งจวนได้โดยไม่ต้องลงมือเอง นิสัยเช่นนี้ หาใช่ผู้เมตตา หรือปล่อยผ่านเรื่องใดเพราะใจอ่อน



‘หากเขาคิดจะใช้หลินหยาเป็นหมากตัวหนึ่ง แล้วเหตุใดจึงปล่อยไป? หรือว่า…’



ความเป็นไปได้ผุดขึ้นมากมาย หรูเสวียนพลันหรี่ตาลงพลางนึกใคร่ครวญ บางที...บางทีอาจเป็นเพราะตัวนางเองไม่ได้ “เล่นตามบท” ที่ใต้เท้าจางวางไว้ หรือไม่เช่นนั้น ก็เป็นไปได้ว่า สิ่งที่เขาคาดหวังจากนาง ไม่อาจใช้การได้อีกต่อไปแล้ว



‘แต่หากนางเพียงล้มป่วย เขาย่อมไม่ปล่อยแน่’



บางสิ่งต้องเปลี่ยนแปลงไปภายในคืนเดียว หรืออาจเป็นเพราะ...นาง “เห็นอะไร” ที่ไม่ควรเห็น หรือ “รู้บางอย่าง” ที่ไม่ควรรู้ เขาไม่อาจชี้ชัดได้ แต่ก็พอแน่ใจว่า ไม่มีทางที่จางกงกงจะปล่อยไปโดยปราศจากเหตุผลลึกซึ้งเบื้องหลัง



หรูเสวียนทอดถอนใจเบา ๆ ขณะที่ดวงตายังคงทอดมองออกไปนอกตำหนัก แสงแดดบางเบาสาดลงระหว่างช่องไม้ระแนง สะท้อนเงาระยิบระยับที่แผ่วเบาและเปล่งประกายไม่ต่างจากคลื่นของความคิดที่ปั่นป่วนอยู่ภายในใจของเขาเอง



‘ยามนี้ ข้ายังไร้ซึ่งอำนาจบารมี’



ความจริงข้อนี้หล่อเลี้ยงสติของเขาไว้ ไม่ให้พลั้งเผลอไปทำสิ่งใดโง่เขลา จางกงกง…แม้ดูอ่อนน้อมในถ้อยคำ ทว่าหากมีใครคิดตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับเขาโดยไร้กลไกหนุนหลัง นั่นย่อมไม่ต่างจากการเดินเข้าไปในแดนเสือโดยหวังจะขู่มันด้วยเสียงแมว



เขาไม่กลัวเพื่อชีวิตของตนเอง แต่เขารู้ว่า มารดาของเขา พระสนมลู่กุ้ยเฟย ที่บัดนี้อ่อนแอจากอาการป่วย และพี่สาวน้องสาวของเขา ทั้งพี่หรูเยี่ยนและหรูเหมย หากเขาพลาดพลั้งเพียงก้าวเดียว...ทุกผู้คนที่เขารักอาจถูกลูกหลงจากเกมอำนาจที่ไร้ปรานี เด็กชายจึงทำได้เพียงนิ่ง เฝ้าสังเกต และไม่ประมาทในทุกย่างก้าว



‘วันหนึ่ง…หากข้ามีอำนาจมากพอ ข้าจะสืบให้รู้ว่าทำไมนางจึงมา และเหตุใดจึงต้องจากไป’





แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 19999 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-27 14:00
โพสต์ 19,999 ไบต์และได้รับ +3 EXP +6 คุณธรรม จาก พู่กันคัดอักษร  โพสต์ 2025-6-27 14:00
โพสต์ 19,999 ไบต์และได้รับ +6 คุณธรรม จาก พัดคุณชาย  โพสต์ 2025-6-27 14:00
โพสต์ 19,999 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม +4 ความชั่ว +5 ความโหด จาก เกราะทองแดง  โพสต์ 2025-6-27 14:00
โพสต์ 19,999 ไบต์และได้รับ +10 คุณธรรม +2 ความชั่ว +5 ความโหด จาก อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ช)  โพสต์ 2025-6-27 14:00
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
แหวนดาราจรัส(D2)
พู่กันคัดอักษร
พัดคุณชาย
เกราะทองแดง
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ช)
ลาภลอย
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x5
x5
x2
x2
x10
x10
x53
x50
x20
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x4
x2
x2
x10
โพสต์ 2025-6-30 12:00:07 | ดูโพสต์ทั้งหมด







รับเบี้ยประจำเดือน


30 เดือน 5  รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11 ยามอู่ < 12.00  น. - 13.00 น. >



ยามอู่ยังไม่ทันล่วงเลยไปครึ่งเค่อ แสงแดดยามสายทอดผ่านบานหน้าต่างไม้ฉลุลายเมฆมงคล แลอาบไล้ผืนพรมที่ปูเรียงอยู่ตรงโถงกลาง ตำหนักตงเฉินแม้มิอาจเรียกว่าหรูหราเทียบเท่าตำหนักเว่ยหยาง หากด้วยกลิ่นหอมของชาดอกเหมยที่กรุ่นอยู่ในอากาศ แซมกลิ่นเครื่องหอม ทำให้บรรยากาศในตำหนักมิได้ขาดความละมุนละไมแม้แต่น้อย



 เด็กชายร่างสูงผู้หนึ่งนั่งอยู่บนขอบเตียง แข้งขาทั้งสองแกว่งไปมาอย่างไม่คิดกริ่งเกรง ใบหน้าเล็กมีประกายของความคาดหวังระคนช่างคิด ริมฝีปากที่ดูเหมือนจะสงบเรียบร้อยตามครรลองกลับแอบมุมขึ้นอย่างมีเลศนัย ดวงตาดำขลับวาววับด้วยแสงอันซุกซน คล้ายเจ้าตัวกำลังวางแผนการบางอย่างในใจ



องค์ชายน้อยหรูเสวียนอยู่ในอาภรณ์สีครามเข้ม ปักลายมังกรเล่นคลื่นด้วยเส้นไหมทอง เขาไม่ได้นั่งคอยอย่างเรียบร้อยนัก มือหนึ่งยกชามขนมงาหวานขึ้นมาเคี้ยวกรุบกรอบ อีกมือเอื้อมไปเขี่ยพัดกระดาษที่วางอยู่ข้างตัวเล่นไปมา แววตาเขาชำเลืองไปทางประตูใหญ่ด้วยความกระตือรือร้น



วันนี้น่าจะมาตรงเวลานะ หากมาช้า ข้าจะเขียนฎีกาไปร้องเรียนกรมคลังเสียเลย” น้ำเสียงเล็กพูดลอย ๆ ไม่ได้ตั้งใจให้ผู้ใดได้ยิน แต่ก็ไม่ใช่ความลับอะไร



ยามอู่ของวันสิ้นเดือน เด็กน้อยกำลังรอสิ่งที่เขาคุ้นเคยมาตั้งแต่เริ่มรู้ความ…เบี้ยหวัดรายเดือนจากราชสำนัก



สามสิบตำลึงทอง ไม่มากไม่น้อยนัก หากในสายตาองค์ชายแล้ว มันคือคลังสมบัติประจำตนที่ใช้ทำเรื่องน่าตื่นเต้นทั้งหลาย ไม่ว่าจะซื้อขนมเปี๊ยะอบใหม่จากร้านโปรดในตลาดตะวันออก หรือเก็บไว้เป็นของแลกเปลี่ยนเวลาต้องการข่าวลับจากใครบางคน



เด็กน้อยพ่นลมหายใจอย่างรำคาญเมื่อเห็นเงาผู้คนยังไม่ทอดมาถึงหน้าตำหนัก พลันกระโดดลงจากเตียงโดยไม่ลังเล ชายผ้าคลุมสะบัดตามแรง หมอนสองสามใบกระเด็นลงจากเตียงตามแรงดีดของเขา



เขาเดินไปยังหน้าต่าง บานไม้บานหนึ่งแง้มอยู่เล็กน้อย เจ้าตัวสอดตาไปมอง เห็นแค่พุ่มต้นเหมยที่ปลูกไว้เรียงรายกับพื้นหินที่ทอดตัวยาวไร้เงารองเท้าของกงกงผู้ใด



“อืม...สายขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะแวะไปตำหนักของใครก่อน ก็ต้องมัวไปกินขนมที่ครัวหลวงกระมัง”



องค์ชายหันกลับมาแล้วเดินไปหยิบผลเกาลัดอบที่วางเรียงอยู่ในจานสีขาวเคลือบ คราวนี้เขาเลือกนั่งบนตั่งริมระเบียง ท่วงท่าการนั่งดูผ่อนคลาย ทว่าก็เจือแววคะนึงอยู่ในที



แม้ใบหน้าจะยังเป็นเด็ก หากแววตาที่ทอดออกไปนั้นกลับแฝงไหวพริบเกินวัย มือเล็กลูบผืนพรมเบา ๆ ขณะกล่าวกับตนเองว่า



“ข้าว่าต้องมีสักครั้งที่คนพวกนั้นจะนึกเอาเบี้ยของข้าไปแบ่งใช้ก่อน แล้วค่อยมาส่งทีหลัง หากครั้งนี้ขาดไปแม้แต่ครึ่งตำลึงล่ะก็...ข้าจะเขียนกลอนวิจารย์ไปแปะหน้าประตูกรมคลัง”



ว่าแล้วก็หัวเราะในลำคอเบา ๆ ด้วยความชอบใจในเล่ห์กระบวนการที่ตนคิดขึ้นมาเมื่อครู่



ทันใดนั้นเอง เสียงฝีเท้าหนักแน่นก็ดังขึ้นจากลานด้านหน้า เสียงพื้นหินกระทบกับปลายรองเท้าทำจากไม้แกะสลักเป็นจังหวะสม่ำเสมอ เด็กน้อยชะโงกหน้าออกไปมองจากระเบียง แล้วแสร้งทำเป็นยกมือขึ้นกั้นแสง



“อ่า…ท้ายที่สุดท่านก็มา”



เสียงสดใสเย้าหยั่นลอยลงไปจากระเบียง องค์ชายน้อยพลิกกายลงจากตั่ง เดินตรงไปยังโถงรับแขกที่อยู่ถัดไป ท่วงท่าการก้าวของเขาเต็มไปด้วยความมั่นอกมั่นใจ และไม่ลืมจะหยิบผ้าเช็ดมือผืนเล็กมาซับนิ้วที่เปื้อนแป้งขนมด้วย



เมื่อไปถึง พานทองสำหรับวางเงินก็ถูกนำมาตั้งไว้ตรงหน้า ร่างเล็กโน้มตัวลงดูอย่างสนอกสนใจ สายตากวาดไปยังถุงเบี้ยที่วางไว้บนพาน






“เอาล่ะ วันนี้ข้าอารมณ์ดีเพราะอากาศกำลังสบาย เงินก็มาถึงครบ ขนมก็ยังไม่หมด งั้นข้ายอมปล่อยท่านกลับโดยไม่ต้องตอบอะไรแล้วกัน...”



เสียงสดใสกล่าวด้วยรอยยิ้มอันมิอาจมองข้าม วาจาเหมือนล้อเล่น ทว่าย่อมมีความหมายแฝงอยู่ในทุกประโยค



เมื่อผู้นำพานเงินถอยออกจากตำหนักไป องค์ชายน้อยก็หันกลับไปยังห้องด้านใน ดวงตาเต็มไปด้วยประกายของความพึงใจ เขาหยิบตำลึงทองสองสามเหรียญใส่ถุงเล็กผูกด้วยเชือกไหม แล้วสะพายข้างตัวไว้ ก่อนจะกล่าวเบา ๆ กับตนเองว่า



“วันนี้ข้าอาจไปแวะดูร้านขนมใหม่ที่ตลาดตะวันออกเสียหน่อย ท่าทางจะมีขนมไส้ลิ้นจี่สดอย่างที่ข้าชอบด้วย...”



ว่าพลางก็ทอดกายลงนอนบนตั่ง แสงอาทิตย์สาดเข้ามาเป็นลำ เขายกมือบังตาแล้วค่อย ๆ หลับตาอย่างอ้อยอิ่ง บนใบหน้าประดับไปด้วยรอยยิ้มพึงใจที่เก็บงำความคิดบางอย่างไว้เพียงในใจ...





รับ - เบี้ยหวัดฐานะประจำเดือน 30 ตำลึงทอง

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 10591 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-30 12:00
โพสต์ 10,591 ไบต์และได้รับ +2 EXP +4 คุณธรรม จาก พู่กันคัดอักษร  โพสต์ 2025-6-30 12:00
โพสต์ 10,591 ไบต์และได้รับ +4 คุณธรรม จาก พัดคุณชาย  โพสต์ 2025-6-30 12:00
โพสต์ 10,591 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม +4 ความชั่ว +5 ความโหด จาก เกราะทองแดง  โพสต์ 2025-6-30 12:00
โพสต์ 10,591 ไบต์และได้รับ +2 คุณธรรม +2 ความชั่ว +2 ความโหด จาก อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ช)  โพสต์ 2025-6-30 12:00

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตำลึงทอง +30 ย่อ เหตุผล
Admin + 30

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
แหวนดาราจรัส(D2)
พู่กันคัดอักษร
พัดคุณชาย
เกราะทองแดง
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ช)
ลาภลอย
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x5
x5
x2
x2
x10
x10
x53
x50
x20
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x4
x2
x2
x10

1

กระทู้

21

ตอบกลับ

357

เครดิต

คนสร้างตัว

พลังน้ำใจ
171
ตำลึงทอง
100
ตำลึงเงิน
104
เหรียญอู่จู
10980
STR
3+2
INT
6+0
LUK
5+2
POW
5+0
CHA
0+5
VIT
2+2
คุณธรรม
103
ความชั่ว
0
ความโหด
73
โพสต์ 2025-6-30 16:40:45 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Activity Form

ตำหนักตงเฉิน | 冬晨宫



หน้าประตูวังหลวงยังคงสงบนิ่งดังเช่นทุกวัน แต่บรรยากาศยามนี้กลับเต็มไปด้วยความรู้สึกแปลกแยก ลมหอบบางผ่านผ้าคลุมหน้าขององค์หญิงตัวน้อยที่ยังยืนหยัดไม่ก้าวเข้าไป แม้จะกล่าวอำลาไปแล้ว


ท่าน...ไปเถอะ” หรูเหมยเอ่ยเสียงแผ่ว เบือนหน้าหนีไม่สบตาอีกฝ่าย


แววตาคู่นั้นสุดท้ายก็เลื่อนผ่านใบหน้าน้อย ๆ เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะหมุนกายจากไป ม้าศึกคู่ใจรออยู่ไม่ไกล เขาขึ้นควบอานในคราเดียว เสียงเกือกม้ากระทบพื้นหินดังก้องกลางลาน ก่อนจะหายลับไปทางตะวันตก


หรูเหมยเฝ้ามองจนลับตา ก่อนจะสูดลมหายใจลึก แล้วหมุนตัวเดินผ่านประตูวัง ดั่งนกน้อยโผกลับเข้ากรงทองอีกครา


แต่เมื่อเดินกลับเข้าเขตวังชั้นใน เสียงแหลมสูงเยียบเย็นกลับดังขึ้นทันทีที่เงาร่างเล็กเข้าสู่เขตพระราชฐาน


องค์หญิงหรูเหมย


เสียงนั้นฟังแล้วหนาวเยือกเสียยิ่งกว่าลมยามค่ำ ดวงหน้าน้อยชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะหันมาสบตากับคนที่นางไม่อยากเจอที่สุด อย่าง จางกงกง ดูนี้จะเป็นการต้อนรับที่ดีทีเดียว


เขายืนอยู่ไม่ไกล ดวงตาเรียวเล็กหรี่มอง เหมือนจ้องลึกเข้าไปในความคิดของนางอย่างแม่นยำราวจับอารมณ์ทุกระลอกได้ถนัด


พระองค์หนีออกจากตำหนักตั้งแต่ยามเฉิน.. .” เสียงยังคงนิ่งเย็น “ และกลับมาโดยปราศจากผู้ติดตามจากวังหลวงแม้แต่คนเดียว


ข้าแค่...แค่ไปเดินเล่น ข้าไปกับ.... ” เสียงเด็กสาวตอบเบาหวิว ความแน่วแน่ที่เคยมีกลับกลืนหายไปกับแรงกดดันอันหนาหนักที่อีกฝ่ายแผ่ออกมา นางเหมือนจะบอกอะไรเเต่ก็ไม่ทันได้บอก โดนผู้วางมาดตรงหน้าพูดตัดเสียก่อน


ตำราสอนหญิง สิบจบ...ในคืนนี้ น่าจะเพียงพอให้พระองค์ได้คิดทบทวน


หลังจากนั้น จางกงกงไม่ได้กล่าวอะไรต่อ เขาหมุนกายเพียงเล็กน้อยแล้วเอ่ยสั้น ๆ ด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งที่เฉียบคมยิ่งกว่าดาบในสนามรบ


เด็กสาวที่ได้เเต่กำหมัด ตั้งแต่ท่านพ่อไม่อยู่ เจ้านี้ก็วางอำนาจ เสียใหญ่โต 


ใน ค่ำคืนในวังหลวงแผ่ขยายความเงียบงันอย่างหนักหน่วงเหลือเกิน ในตำหนักเสียงมีเสียงเด็กสาวที่วางพู่กันเเบบแรงๆ สลับไปมา อย่างหัวเสีย


เสียงพู่กันเสียดสีอย่างช้าๆ บนกระดาษพยายามแต่งเติมแต่ละตัวอักษรให้เรียบร้อย คำว่า “สตรี” เริ่มทวิลึก ลายเส้นคมโค้งชัดเจน แต่ในใจหฤหรรษ์นั้นกลับเต็มไปด้วยแรงต้านกับความทรมาน เธอระบายทุกอารมณ์ออกมาในแต่ละตัวอักษร ทั้งความเจ็บปวด เสียใจ โกรธเกรี้ยว


" ฝาก ไว้ ก่อน เถอะ จาง กง กง "

เธอคัดเสียดึกดื่น ไม่รู้จัวว่าเธอนั้นหลับไปตั้งแต่ยามใด แต่รู้ตัวอีกทีก็เช้าเสียแล้ว

รุ่งสางของเช้าวันใหม่ เพียงแสงแรกจากขอบฟ้าเล็ดรอดเข้ามาภายในตำหนัก ละอองหมอกบาง ๆ ยังลอยเอื่อยอยู่เหนือพื้นหินเย็น 

ประตูตำหนักก็เปิดออกอย่างเงียบเชียบ เสียงก้าวเท้าละเมียดละไมของผู้หนึ่งก็ดังขึ้นจากปลายทางเดิน เสียงเฉพาะตัวของรองเท้านั้นทำให้รู้ได้ในทันทีว่า เจ้านกหัวจุก อย่างกงกงมาแล้ว

ในมือของเขาถือห่อผ้าสีครามลายคลื่นน้ำแน่นหนา ผูกด้วยเชือกไหมสีทองอ่อน พอมาถึงหน้าห้องตำราที่องค์หญิงน้อยนั่งเฝ้าพู่กันมาตลอดคืน เขาหยุดยืนอยู่เงียบ ๆ อยู่เพียงครู่ ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเย็นแต่ชัดเจน

องค์หญิง...พระองค์ได้รับเบี้ยหวัดประจำเดือนนี้จากคลังหลวงแล้วพ่ะย่ะค่ะ

เหมือนว่าน้ำเสียงจะ ดีกว่าเมื่อวานนะ เขากล่าวพลางวางห่อผ้าลงบนโต๊ะเตี้ยเบื้องหน้านางอย่างเรียบร้อย เสียงเงินตำลึงข้างในขยับกระทบกันเบา ๆ

หรูเหมยเงยหน้าขึ้น ดวงตาที่ล้าเพราะการคัดตำราทั้งคืนสะท้อนแสงสว่างแรกของวัน ดวงตาคู่นั้นกะพริบหนึ่งครา มองห่อเงินตรงหน้าอย่างนิ่งเงียบ ไม่ได้เอื้อมมือไปรับทันที

สามสิบตำลึงทอง...มากพอสำหรับชีวิตเรียบง่ายหนึ่งเดือน ” จางกงกงกล่าวต่อ สีหน้าไม่แสดงอารมณ์แม้แต่น้อย “ หากพระองค์ตั้งใจเรียนและประพฤติดี อาจมีเพิ่มขึ้นในฤดูหน้า...

คำพูดที่ฟังคล้ายจะเมตตา แต่หากพินิจกลับแฝงด้วยนัยถึง “กรง” ที่ถูกขึงไว้ด้วยเบี้ยหวัด เงินทองเหล่านี้คือเครื่องผูกมัดใจ ไม่ต่างจากห่วงเหล็กที่หล่อด้วยทองคำชัดๆ

หรูเหมยเม้มริมฝีปากน้อยๆ อย่างเจ็บใจ ดวงตาจ้องเหรียญทองที่สะท้อนแสงตะวัน

แต่เขาก็ไม่ได้กล่าวอะไรอีก เพียงโค้งคำนับอย่างสุภาพแล้วหมุนกายจากไป

หรูเหมยจ้องมองห่อเงินนานนับนาที ก่อนจะยื่นมือเล็กไปแตะมันเบา ๆ



รับเบี้ยประจำเดือน -  เบี้ยหวัดฐานะประจำเดือน 30 ตำลึงทอง

เพิ่มเติม
เทพธิดาดอกท้อ - ระงับโทสะ : ยากจะทำให้ผู้คนโกรธ ด้วยความน่ารักสดใสจะทำให้ผู้คนที่กำลังโกรธค่อย ๆ เย็นลง

[NPC-11] จางกงกง - โรลเพลย์พูดคุยประจำวัน ได้รับความสัมพันธ์ +5 แต้ม

แสดงความคิดเห็น

เสียงบางอย่างดังขึ้น.... จงตามหาข้า จงตามหาข้า.... จงตามหาข้า.... จงปลดปล่อยข้า....  โพสต์ 2025-6-30 16:47
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-11] จางกงกง เพิ่มขึ้น 5 โพสต์ 2025-6-30 16:46
โพสต์ 21245 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2025-6-30 16:40
โพสต์ 21,245 ไบต์และได้รับ +6 คุณธรรม จาก พัดคุณชาย  โพสต์ 2025-6-30 16:40
โพสต์ 21,245 ไบต์และได้รับ +3 EXP +10 คุณธรรม +10 ความโหด จาก กู่เจิง  โพสต์ 2025-6-30 16:40

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตำลึงทอง +30 ย่อ เหตุผล
Admin + 30

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
พัดคุณชาย
กู่เจิง
หมวกไผ่ผ้าคลุม
น่ารัก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x20
x1
x10
โพสต์ เมื่อวานซืน 10:13 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย LiuRuxuan เมื่อ 2025-7-31 10:50








รับเบี้ยประจำเดือน


31 เดือน 6  รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11 ยามเฉิน < 07.00  น. - 09.00 น. >



ยามเฉินคล้อยผ่านครึ่งหนึ่ง แสงแดดอ่อนจางพลิ้วพาดผ่านม่านไหมโปร่งบางในห้องชั้นในของตำหนักตงเฉิน เสียงนกกระจอกเจื้อยแจ้วอยู่นอกชานแฝงกลิ่นอายความเรียบสงบของฤดูร้อน แต่หาได้รบกวนความสำราญขององค์ชายน้อยไม่แม้แต่น้อย เด็กน้อยผิวผ่องดังหยกขาวนอนเอนอยู่บนตั่ง มือเรียวหยิบผลไม้ลูกหนึ่งวางลงบนริมฝีปากของตัวเองอย่างเชื่องช้า ท่วงท่าราวกับคุณชายใหญ่ในเรือนผู้ดี ไม่รีบร้อน ไม่ละโมบ ทว่าแววตากลมใสใต้ขนตาดกหนากลับกวาดมองซ้ายขวาอย่างลอบสังเกต



ปลายแขนเสื้อลายเมฆหมอกขยับเบา ๆ เมื่อเขาขยับกาย ยกมือปัดสายไหมที่ห้อยลงมากวนหน้าผาก เส้นผมดำขลับปล่อยยาวประบ่า ทอดลงมาแนบผ้าทอเนื้อละเอียดข้างแก้ม สีหน้าขององค์ชายดูเรียบเรื่อ จับอารมณ์มิได้แน่ชัด ทว่าริมฝีปากเล็กขยับขึ้นคล้ายจะกล่าวบางอย่าง หากยังมิทันจะเปล่งเสียง ทวารด้านข้างก็ค่อย ๆ เปิดออก



เสียงฝีเท้าของรองเท้าผ้าไหมขัดเบา ๆ บนพื้นกระเบื้องหิน ราวกับเกรงจะรบกวนผู้ประทับอยู่ด้านใน หนึ่งในข้ารับใช้จากกรมพระราชวังที่มักวนเวียนมาเยี่ยมตำหนักตงเฉินก็ปรากฏตัวขึ้น



ขันทีผู้หนึ่งก้าวเข้ามาอย่างสงบเสงี่ยม กุมห่อผ้าสีเหลืองทองไว้ในมือทั้งสอง ก่อนจะหยุดยืนห่างออกไปราวสองก้าวจากองค์ชาย เด็กชายผินหน้าช้า ๆ ดวงตาคู่นั้นไม่แสดงแววตกใจแม้แต่น้อย หากแต่ทอดมองด้วยความสนอกสนใจคล้ายรอคอยอยู่ก่อนแล้ว



“ถวายพระพรองค์ชาย” เสียงเจื้อยแจ้วอ่อนน้อมของขันทีดังกังวานแต่ไม่สูงเกินงาม



เจ้าตัวเล็กบนตั่งเอียงศีรษะเล็กน้อยแทนการตอบรับโดยไม่ต้องเอ่ยคำใด ใบหน้าเรียบเฉย ราวกับเรื่องเหล่านี้หาใช่เรื่องใหม่ที่ต้องใส่ใจนัก



ขันทีประคองห่อผ้าวางลงบนโต๊ะกลมเตี้ยเบื้องหน้า แล้วถอยกายออกไปเล็กน้อย องค์ชายมิได้รีบร้อนหรือหยิบสิ่งของด้วยความตื่นเต้นแต่อย่างใด หากแต่ลุกขึ้นยืนช้า ๆ ก้าวเท้าอย่างสง่างามผิดวัยเข้าหาโต๊ะนั้นอย่างผู้มีวุฒิภาวะเหนือเด็กทั่วไป เขาใช้สองมือคลี่ห่อผ้าออกอย่างระมัดระวัง เผยให้เห็นแผ่นเงินกลมโค้งจำนวนสามสิบชิ้นเรียงเป็นระเบียบ สะท้อนแสงอ่อนของแดดยามสายดั่งน้ำแข็งต้องแสงเดือน



“สามสิบตำลึงทอง…” เสียงเด็กชายเอ่ยพึมพำเบา ๆ กับตนเอง น้ำเสียงไม่ได้ตื่นเต้นหรือผิดหวัง หากแต่ปะปนด้วยแววพินิจตามแบบฉบับผู้มีความคิดลึกซึ้ง



เขาใช้นิ้วเรียวปัดเบา ๆ ไปบนผิวของตำลึงทอง คล้ายวัดน้ำหนักหรือสัมผัสความเย็นของโลหะ ดวงตาคู่นั้นเป็นประกายขึ้นวูบหนึ่ง ทว่าเพียงครู่ก็หายวับดั่งสายลมวูบ



“อากาศวันนี้ค่อนข้างร้อน ตำลึงพวกนี้เย็นกว่ามือเสด็จแม่เสียอีก” เด็กน้อยกล่าวขึ้นอย่างไร้พิษภัย คล้ายบ่นลอย ๆ 



แม้จะเอ่ยอย่างนั้นแต่ก็หาได้มีท่าทีละโมบไม่ องค์ชายกลับใช้ชายผ้าคลุมปิดห่อผ้าลงดังเดิม แล้วนั่งลงข้างโต๊ะอย่างสำรวม มือซ้ายประคองคางเอนเล็กน้อย สายตาจ้องไปยังเหล่าตำลึงทองด้วยสีหน้าครุ่นคิด ราวกับกำลังคำนวณในใจว่าควรนำไปใช้อย่างไรให้สมเหตุสมผล



ขันทีที่ยืนอยู่มิกล้ารบกวน จึงทำเพียงยืนตัวตรงอย่างเงียบงัน เด็กน้อยหันมองแล้วกระพริบตาช้า ๆ พลางกล่าวด้วยเสียงนุ่มนวลว่า



“เงินพวกนี้… เจ้ากลับไปแจ้งว่ารับไว้แล้วก็พอ  หากมีใครคิดกล้าเบียดบัง ก็คงทำมานานแล้ว”



องค์ชายพยักหน้าเล็กน้อยอย่างพอใจเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่พูดอันใดเกินความจำเป็น เสียงลมที่พัดผ่านม่านไหมข้างหน้าต่างยังคงสงบเย็น บรรยากาศภายในห้องมิได้คึกคักหรือเคร่งขรึม หากแต่คล้ายเวลาหยุดนิ่งลงชั่วครู่



เพียงครู่เดียว เด็กชายก็ลุกขึ้นเดินกลับไปยังตั่งหยก มือเล็กยกชายแขนเสื้อเช็ดเหงื่อที่หน้าผากตนเองเบา ๆ สีหน้าเปลี่ยนจากสงบกลายเป็นเหนื่อยล้าเล็กน้อย คล้ายเพิ่งผ่านงานใหญ่หลวงมา



เมื่อทิ้งตัวลงนั่ง ดวงตาคู่นั้นก็มองออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง กลิ่นลมจาง ๆ ของใบหลิวโชยเข้ามาแผ่วเบา



บางที... อาจนำไปแลกขนมงาดำร้านหน้าตรอกตะวันออก บางที... อาจเก็บไว้ให้พระขนิษฐาในวันเกิด หรือบางที... อาจซ่อนไว้ในลิ้นชักลับใต้ตั่งเผื่อวันใดถูกหวงตี้กริ้ว จะได้ใช้หนีไปซ่อนตัวสักเดือนสองเดือน



ความคิดของเด็กน้อยแล่นวูบไปมาดังสายลมฤดูร้อน ไม่มีแบบแผน ไม่มีข้อจำกัด แต่กลับมีรอยยิ้มจาง ๆ ผุดขึ้นที่มุมปาก ดวงตากลมสุกใสดั่งหยดน้ำค้างยามเช้า แวววาวไปด้วยความฝันอันไม่รู้จบของวัยเยาว์



และเมื่อสายลมพัดไหวผ่านม่านอีกครั้ง องค์ชายก็หลับตาลงอย่างสงบ ราวกับจะพักผ่อนหลังภารกิจอันสำคัญ… รับตำลึงสามสิบเหรียญในยามเฉินของวันสิ้นเดือน







รับ - เบี้ยหวัดฐานะประจำเดือน 30 ตำลึงทอง

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 16,526 ไบต์และได้รับ +3 EXP +10 คุณธรรม +6 ความโหด จาก ลาภลอย  โพสต์ เมื่อวานซืน 10:13
โพสต์ 16,526 ไบต์และได้รับ +10 คุณธรรม +2 ความชั่ว +5 ความโหด จาก อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ช)  โพสต์ เมื่อวานซืน 10:13
โพสต์ 16,526 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม +4 ความชั่ว +5 ความโหด จาก เกราะทองแดง  โพสต์ เมื่อวานซืน 10:13
โพสต์ 16,526 ไบต์และได้รับ +6 คุณธรรม จาก พัดคุณชาย  โพสต์ เมื่อวานซืน 10:13
โพสต์ 16,526 ไบต์และได้รับ +3 EXP +6 คุณธรรม จาก พู่กันคัดอักษร  โพสต์ เมื่อวานซืน 10:13

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตำลึงทอง +30 ย่อ เหตุผล
Admin + 30

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
แหวนดาราจรัส(D2)
พู่กันคัดอักษร
พัดคุณชาย
เกราะทองแดง
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ช)
ลาภลอย
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x5
x5
x2
x2
x10
x10
x53
x50
x20
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x4
x2
x2
x10
12345
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้