“บังเกิดไอปีศาจปกคลุมทั่วบริเวณ”
“นำหายนะมาสู่หมู่บ้าน”
“ห้ามมิให้เข้าไปในอาณาเขตใกล้เคียงมิเช่นนั้นจะถูกไอปีศาจทำร้าย และค่อยๆ คลายสภาพเป็นปีศาจ…กล่าวกันว่าพวกมันคือปีศาจในร่างมนุษย์”
ถ้อยคำที่เล่าลือมายังคงก้องสะท้อนอยู่ในหัวของหญิงสาว ร่างในชุดสีน้ำเงินยวงราวกับแสงจันทร์เดินตามคำบอกเล่าไปที่หมู่บ้านร้างของสกุลโอวหยาง เมื่อเข้าใกล้อาณาเขตอันเร้นลับ ไอมารแสนน่าอึดอัดก็ค่อยๆ เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ความน่าสะพรึงที่คืบคลานเข้ามาทำให้หลงเยวี่ยรู้สึกไม่สบายใจ ยิ่งเข้าใกล้ร่างกายของนางก็ยิ่งกระอักกระอ่วนไม่สบายตัว
คิ้วคมขมวดมุ่น…นัยน์ตากวาดมองซากปรักหักพัง
นางนำผ้าที่พกมาชุบน้ำสะอาดในเต้าพกพาและนำมาปิดจมูกไว้ นี่เป็นวิธีการง่ายๆ ที่ใช้เมื่อต้องเดินทางกลางทะเลทราย กล่าวกันว่าจะช่วยชะลอสกัดฝุ่นผง หลงเยวี่ยหาได้มีความรู้ด้านอาคม จึงคิดว่าวิธีนี้อาจจะสกัดไอมารก็เป็นได้
ละอองน้ำทำให้นางแน่นจมูกฝืดเคืองจนหายใจไม่ออก…
หลงเยวี่ยสำรวจก้อนดินและแผ่นอิฐที่แตกหัก ราวกับว่าทุกอณูของผืนดินที่นี่ถูกแแทรกด้วยไอมาร หมอกปีศาจที่ปกคลุมทำให้หมู่บ้านราวกับตกอยู่ในห้วงอนธการทุกเวลา สัมผัสรับรู้ของหลงเยวี่ยพลันผิดเพี้ยนไป นางไม่รู้ว่าตนเองเดินสำรวจอยู่ในสถานที่แห่งนี้นานเท่าไรแล้ว
…เกรงว่าคงจะมืดค่ำเสียแล้วกระมัง
หญิงสาวหาได้พบสิ่งมีชีวิตใดๆ มีเพียงความวังเวงโอบล้อมอยู่รอบกาย “นั่นใคร!” หลงเยวี่ยหรี่นัยน์ตามองไปด้านหนึ่ง รู้สึกคล้ายมีกระแสลมพัดผ่านทางด้านหลัง จึงใช้เสียงกรรโชกตวาดเรียก คิดเพียงว่าอีกฝ่ายจะตื่นกลัวที่นางรู้ว่ามีคนเฝ้ามอง
สองเท้าย่างสามขุมไปยังทิศทางที่ได้ยินเสียง กระบี่สลักจันทราเล่มหนึ่งถูกกระชากออกจากฝัก แม้ในสถานที่ที่ราวกับแสงเดือนและตะวันส่องลงมาไม่ถึงก็ยังคล้ายเปล่งแสงสีเงิน มองดูน่าครั่นครามเป็นอย่างยิ่ง เงาหนึ่งพลันวิ่งผ่านหน้าต่างผุพังทางด้านหลัง หลงเยวี่ยหันขวับทันที ทว่าสิ่งที่เห็นกลับมีเพียงกระดาษตัดรูปดอกไม้ที่แห้งกรอบคล้ายจะแตกสลายเป็นผุยผงทุกวินาที
ขณะที่หลงเยวี่ยเดินเข้าใกล้หน้าต่าง คิดจะเอื้อมมือไปแตะดู ทางด้านหลังก็ปรากฏร่างสีดำราวกับถ่าน ผิวหนังแตกเป็นเกล็ดมีสีระเรื่อแดง อวัยวะภายในเรืองแสงอย่างน่าสยดสยอง นัยตาสีเพลิงลุกฉาน มองอย่างไรก็คืออสูรกายในร่างมนุษย์!
หลงเยวี่ยตวัดกระบี่วาดผ่านร่างกายของมัน กลับถูกเกล็ดสีดำนั้นสกัดกั้นไว้ มันผละมือผลักหญิงสาวจนชนโครมเข้ากับระแนงไม้ ไผ่อ่อนยวบที่ถูกสานเป็นตาข่ายผุพังจนเป็นซาก เวลานี้ไม่อาจรองรับน้ำหนักของหญิงสาว มันพลันถูกร่างบางพังจนเป็นรูโหว่ง
แล้วถลาวิ่งเข้ามาซ้ำ!
แต่ไหนแต่ไรหลงเยวี่ยก็เป็นเด็กที่ไม่กลัวเจ็บ มีหรือบาดแผลแค่นี้จะทำให้นางร้องโอ๊ย! แล้วล่าถอยกลับไป
กรรร!!!
เสีงที่ฟังไม่ได้ศัพท์ดังมาจากร่างตรงหน้า หลงเยวี่ยปาก้อนหินใส่ร่างดำนั่น ทว่ามันกลับไม่สะทกสะท้าน ใช้มือแข็งดั่งหิน ร้อนประดุจไฟคว้าหมับเข้าที่แขนนางก่อนจะฟาดร่างของหญิงสาวลงกับพื้น! หลงเยวี่ยพลิกตัวอาศัยเอวของมันเป็นฐาน บิดร่างเล็กน้อยแล้วใช้อีกมือชักกระบี่ออกเสือกแทงไปที่ท้องของมัน ร่างของปีศาจพลันลุกโชนไปดวงสีเพลิง มันปล่อยแขนของหลงเยวี่ย ก้าวเดินอย่างสับสนวุ่นวายพลางกู่ร้องไปทั่วห้อง
กรร!!!
เสียงของมันดังขึ้นอีก ทว่าเวลานี้มีเสียงร้องรับมาจากด้านนอก ไอมารทำให้นางอ่อนแอลง อีกทั้งปีศาจตนนี้ยังมีพลังมากกว่านางอีก… หญิงสาวถีบตัวทะยานออกมา วาดกระบี่สองมือปาดเฉือนร่างตรงหน้า หลงเยวี่ยใช้การจู่โจมอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ตั้งรับซึ่งเป็นการโจมตีที่นางถนัดที่สุด ตัวของนางสวมทับด้วยชุดอาภรณ์ที่ลดการปะทะ ต่อให้บ้าระห่ำเพียงใด ริ้วรอยที่ปีศาจสร้างให้นางก็น้อยนิด
นางกลับคล้ายเกิดจำได้ขึ้นมาว่าปีศาจพวกนี้เรียกว่า เจวี๋ยฮว่า…
คนที่กลายเป็นเช่นนี้มักจะยังไม่ตาย ฉะนั้นหากทำให้มันสงบได้ละก็ไม่จำเป็นต้องฆ่าทิ้ง ร่างกายของมันเป็นแหล่งตบะชั้นดีของพวกจอมยุทธ์… หญิงสาวเปลี่ยนวิถีโจมตี นางคว้าหมับเข้าที่คอของปีศาจเจวี๋ยฮว่า บีบคอให้มันเปิดปาก…นางเคยได้ยินมาว่ามันคือการสูดเอากลิ่นไอ
หลังซ้อมมันจนปางตายแล้วนางก็สูดเอาตบะของมันมา นั่นปะไร— ร่างที่คล้ายการแตกระแหงของภูเขาไฟสั่นกระตุก ละอองสีดำลอยจากผิวกลับเข้าสู่ร่างกายของหลงเยวี่ย พลันสีแห่งชีวิตชีวากลับคืนสู่ร่างในมือนาง
มุกปีศาจเม็ดหนึ่งพลันลอยออกมา
ปีศาจเจวี๋ยฮว่าเมื่อครู่กลับกลายเป็นสตรีสวมผ้าเนื้อหยาบ นอนหายใจรวยรินอยู่เบื้องหน้า เมื่อลืมตาขึ้นมาเห็นหลงเยวี่ยก็จับแขนของนางไว้แน่น เอ่ยเสียงละลักละล่ำ “ช่วยด้วย ช่วยสามีข้าด้วย! เขา…เขาถูกผีร้ายเข้าสิง!” นัยน์ตาของนางเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ดูเหมือนนางจะไม่รู้สติในช่วงที่กลายเป็นปีศาจ…
หลงเยวี่ยสลัดมือของนางออก “อย่ามาแตะตัวข้า!” ความรู้สึกพรั่นพรึงที่ตกค้างเมื่อสักครู่ยังคงไม่หายไปจากร่าง ทันใดนั้นฝ้าด้านบนพลันตกลงมาพร้อมปีศาจอีกตนหนึ่ง แสงสีแดงลุกโชนรอบตัวมัน หญิงสาวชาวบ้านชี้ไปที่คนผู้นั้น… นางเอ่ย “สา…สามีข้า…ชุดนั้นเป็นชุดของสามีข้า…”
มันพลันโถมร่างกายเข้ามาปะทะกับดาบของหลงเยวี่ยอย่างไม่กลัวเกรง!
.
.
.
เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ ทว่าหมู่บ้านร้างของสกุลโอวหยางยังคงปกคลุมด้วยความมืดราวกับการเวลาถูกแช่แข็ง หลงเยวี่ยถูกปีศาจร้ายจู่โจมทั้งหมดห้าตัว เมื่อดูดซับตบะของมาร ร่างปีศาจก็กลับกลายเป็นมนุษย์…
“ขอบคุณท่านจอมยุทธ์”
ตัวแทนของคนทั้งห้าเอ่ยต่อหลงเยวี่ย นางเอ่ย “ข้าจะพาพวกเจ้าไปที่สมาคมชางลั่งถิง” ประกาศคนหายบางส่วน เห็นทีจะต้องรื้อทิ้งสักที