วันที่ 9 จิ่วเยว่ รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามเฉิน(เวลา 07.00 - 09.00 น.)
@LinYa
ซูเหยามายืนรออยู่ก่อนแล้วหน้าเหมืองแร่ทองแดงจื่อถงซานที่ซ่อนตัวอยู่ลึกในป่า นางมองตามเส้นทางดินที่คดเคี้ยวพร้อมกุมห่อสมุนไพรแห้งไว้แน่น การได้สมุนไพรจำนวนมากในวันนี้เป็นเป้าหมายสำคัญในวันนี้ อย่างน้อยก็ต้องได้มากกว่าเมื่อวาน
เมื่อแม่นางหนานในชุดผ้าฝ้ายอ่อนยอบกายคารวะ ซูเหยาก็คลายรอยยิ้มอย่างใจจริง
“สวัสดีเจ้าค่ะแม่นางหนานวันนี้อากาศดีนะเจ้าคะ” นางกล่าวทักทาย “ข้าเตรียมผงสมุนไพรพิเศษมาด้วยบรรจุในถุงหนังเล็ก หากเราเจอปีศาจหนูหรือสัตว์ร้ายอื่น ๆ เข้าจะเป่าผงนี้เข้าตามันช่วยถ่วงเวลาให้ท่านนะเจ้าคะ น่าจะพอช่วยได้บ้าง” ซูเหยากล่าวอย่างมั่นใจในสรรพคุณของโอสถที่ตนปรุง
@LinYa
“นั่นสิเจ้าคะ” ซูเหยากล่าวพลางก้าวเดินอย่างระมัดระวังเข้าไปในปากอุโมงค์เหมืองแร่ที่มืดครึ้ม ลึกลงไปในความเงียบสงบของป่า แม้ไม่ได้เข้าไปลึกนัก แต่อุโมงค์ที่ถูกทิ้งร้างไปชั่วคราวก็ทำให้เสียงฝีเท้าและเสียงพูดของพวกนางสะท้อนกลับมาเป็นจังหวะเนิบนาบ
“ข้าเองก็รู้สึกว่าช่วงนี้เราได้พบกันบ่อยจริง ๆ เจ้าค่ะ”
นางหยุดก้าวเล็กน้อยเพื่อให้ดวงตาปรับเข้ากับความมืดสลัวที่เต็มไปด้วยกลิ่นไอของดินและแร่
“ข้าดีใจยิ่งกว่าท่านเสียอีกที่เจ้าค่ะ” ซูเหยาสารภาพด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนลงอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะเดินเคียงข้างแม่นางหนานต่อไปตามทางเดินที่เป็นหินขรุขระ “นับตั้งแต่ข้าย้ายมาอยู่ที่ฉางอัน ข้าก็ทุ่มเทให้กับการปรุงโอสถและการรักษาคนไข้เสียจนไม่มีเวลาออกไปพบปะผู้คนเลย ที่นี่ไม่มีใครที่ข้าจะสามารถเรียกได้ว่าเป็นสหายที่สนิทสนมได้เลยจริง ๆ”
นางเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยมองเพดานอุโมงค์ที่มืดมิด “ในแต่ละวันก็มีเพียงการพูดคุยกับคนไข้ที่มาขอความช่วยเหลือเท่านั้น ที่พอจะช่วยให้ข้าคลายความเหงาลงไปได้บ้าง การที่ได้พูดคุยอย่างเปิดใจและเป็นกันเองกับท่านเช่นนี้...ทำให้ข้ารู้สึกดีมากจริง ๆ เจ้าค้ะ” ซูเหยากล่าวปิดท้ายพร้อมรอยยิ้มที่ไม่ได้เกิดจากการฝืน แต่มาจากใจจริงที่รู้สึกขอบคุณในมิตรภาพอันเรียบง่ายที่ก่อตัวขึ้น
@LinYa
“จริงหรือเจ้าคะ?” ซูเหยาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่แสดงความสนใจอย่างชัดเจน พลางนึกภาพตามที่แม่นางหนานบรรยาย สหายที่ดีงามและใจดีย่อมเป็นบุญของคนรอบข้าง
“ฟังจากคำพูดของท่านแล้ว ข้าก็รู้สึกได้ทันทีเลยว่าสหายของท่านต้องเป็นสตรีที่ดีพร้อมอย่างยิ่ง โชคดีจริง ๆ ที่ท่านได้มีสหายเช่นนี้เจ้าค่ะ” ซูเหยากล่าวด้วยรอยยิ้มอย่างจริงใจ “ข้าเข้าใจดีว่าการมีมิตรสหายที่ดีนั้นเป็นพรที่หาได้ยากในโลกนี้”
นางกระชับห่อผ้าบรรในมืออีกครั้ง แล้วหันไปสบตากับหลินหยาที่ยิ้มกว้าง “ข้าต้องขอขอบใจท่านมากจริง ๆ เจ้าค่ะ ที่อุตส่าห์นึกถึงข้า” นางกล่าวอย่างซาบซึ้งใจ “หากมีโอกาสที่เหมาะสม ข้าก็ยินดีที่จะได้พบกับแม่นางหรงเล่อตามที่ท่านเชื้อเชิญ เพื่อที่จะได้มีโอกาสสานสัมพันธ์กับบุคคลที่น่าชื่นชมเช่นนั้นบ้างเจ้าค่ะ”
@LinYa
ซูเหยาถูกแรงผลักของแม่นางหนานจนเซถลา นางพุ่งไปด้านหลังตามสัญชาตญาณจนแผ่นหลังปะทะกับผนังหินชื้น หมอหญิหลบเข้าสู่เงามืดของร่องหินอย่างรวดเร็ว พยายามหายใจให้เบาที่สุดเพื่อไม่ให้เสียงใดเล็ดรอด ขณะที่นางก้มต่ำหลบอยู่ สายตาอันเฉียบคมก็เหลือบไปเห็นสมุนไพรกำลังงอกงามในรอยแยกของหินก้อนใหญ่ นางยื่นมือออกไปอย่างรวดเร็วปานวายุ คว้าเอาใบและลำต้นมาเก็บใส่ตะกร้าไว้อย่างเงียบเชียบราวกับกลัวว่าแม้แต่สายลมก็จะรับรู้ถึงการกระทำอันเร่งรีบและฉวยโอกาสของนาง
นางก้มต่ำลงอย่างเงียบกริบ มืออีกข้างหนึ่งกำถุงหนังบรรจุผงสมุนไพรพิเศษไว้แน่น พร้อมฟังเสียงข่วนหินที่ดัง ครืด ครืด และเสียงแหลมที่ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ซูเหยาสอดส่ายสายตาไปยังเงามืดที่กำลังคลืบคลานเข้าหาแม่นางหนาน รอคอยจังหวะที่เหมาะสมที่สุดเพื่อเข้าช่วยเหลือสหายอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
@LinYa
ซูเหยาหดกายอยู่แนบชิดกำแพงหินเย็นเฉียบเบื้องหลัง พยายามเก็บซ่อนลมหายใจเอาไว้ แต่ดวงตาของนางกลับเบิกกว้างด้วยความตื่นตะลึง นางมองภาพแม่นางหนานที่ใช้ขลุ่ยอันเดียวปะทะกับพลทหารหนูถึงห้าตัวอย่างไม่หวั่นไหว การโจมตีแต่ละครั้งรุนแรงและแม่นยำจนน่าตกใจ ยิ่งเมื่อเห็นหัวของปีศาจตัวแรกหมุนคว้างและเสียงกะโหลกของตัวที่สองแตกดัง แคร๊ก! นางก็ตระหนักว่าสหายผู้นี้มิใช่สตรีธรรมดาเลยแม้แต่น้อย
ทว่าปีศาจที่เหลืออีกสามตัวยังคงเป็นภัยคุกคามที่ไม่อาจประมาทได้ พวกมันกรูเข้าโจมตีพร้อมกันตามสัญชาตญาณสัตว์ป่า ถึงแม้แม่นางหนานจะกำลังรับมืออย่างองอาจ แต่การปะทะด้วยอาวุธที่หลากหลายพร้อมกันย่อมทำให้นางเสียเปรียบ ซูเหยารู้ดีว่านี่คือจังหวะที่จะต้องเข้าช่วยเหลือแล้ว
หมอหญิงไม่รอช้า นางรีบดึงถุงหนังเล็กที่บรรจุผงสมุนไพรพิเศษออกจากสาบเสื้อ พลางรีบคลายปากถุงออกด้วยมือที่มั่นคงและรวดเร็ว นางตั้งจิตอธิษฐานต่อเทพเจ้าแห่งโอสถ แล้วสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะ เป่าผงสีเทาปนเขียวที่มีกลิ่นฉุนรุนแรงออกไปอย่างสุดแรงเกิด
มวลผงฝุ่นขนาดเล็กฟุ้งกระจายออกไปดุจละอองหมอกในอุโมงค์ที่แสงสลัวส่องถึงพอดี มันพุ่งเข้าปะทะดวงตาแดงก่ำของปีศาจหนูทั้งสามที่กำลังพุ่งเข้าประชิดตัวแม่นางหนานในระยะประชิดทันที
เสียงแหลมกรีดร้องที่เคยดุดันแปรเปลี่ยนเป็นเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดทรมาน ปีศาจหนูทั้งสามหยุดชะงักและใช้เกราะสนิมที่มือขึ้นปิดบังดวงตาที่กำลังแสบร้อนและน้ำตาไหลอาบใบหน้า เงามืดของพวกมันเริ่มสั่นไหวและสับสน ซูเหยาได้สร้างช่องว่างแห่งความล่าช้าขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ในขณะที่แม่นางหนานกำลังใช้ขลุ่ยฟาดซ้ำเข้าใส่ปีศาจที่กำลังตาบอดอย่างรวดเร็ว ซูเหยาก็ฉวยโอกาสทองนี้ทันที นางก้มตัวลงต่ำอย่างรวดเร็วราวกับนกที่โฉบลงจับเหยื่อ พลางยื่นมือไปฉกฉวยเอาสมุนไพรที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ก้อนหินแตกอีกก้อนหนึ่งซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่กี่ก้าว นี่คือสมุนไพรช่วยห้ามเลือดที่ล้ำค่าอีกชนิดหนึ่งที่นางกำลังตามหามานาน นางบรรจุช่อดอกไม้สีเข้มนั้นไว้ในตะกร้า ก่อนจะกลับมายืนประจันหน้ากับปีศาจหนูอีกครั้ง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับการต่อสู้ที่อาจจะตามมาโดยไม่รอช้า
@LinYa
ซูเหยาคลี่ยิ้มออกอย่างโล่งอกและเต็มไปด้วยความชื่นชม ขณะที่นางเห็นแม่นางหนานจัดการปีศาจหนูทั้งหมดลงได้อย่างรวดเร็วและเด็ดขาด เพียงแค่ขลุ่ยอันเดียวก็สามารถโค่นพลทหารหนูติดอาวุธห้าตัวลงได้อย่างราบคาบ ท่าทางที่เปี่ยมไปด้วยพลังและรอยยิ้มที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของแม่นางหนานนั้น ช่างเป็นภาพที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก
หมอหญิงเดินออกมาจากเงามืดของร่องหินอย่างสง่างาม นางไม่แสดงอาการตกใจหรือหวาดกลัวแม้แต่น้อย (พยายามไม่กลัวแต่จริง ๆ ตกใจแทบแย่)
“เจ้าจัดการได้รวดเร็วยิ่งกว่าที่ข้าคาดการณ์ไว้เสียอีกเจ้าค่ะ” ซูเหยากล่าวตอบด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลและจริงใจ
นางเดินเข้าไปใกล้แม่นางหนานที่กำลังหอบหายใจเล็กน้อยด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน
“ส่วนเรื่องสมุนไพรนั้น... ข้าก็ถือโอกาสในระหว่างที่ท่านกำลังต่อสู้เก็บมาได้บ้างแล้วเจ้าค่ะ” ซูเหยากล่าว พลางยกตะกร้าให้ดู “ได้มากกว่าเมื่อวานด้วยเจ้าค่ะ ต้องขอบคุณที่ช่วยถ่วงเวลาให้ข้าได้เก็บของล้ำค่าเหล่านี้นะเจ้าคะ”
@LinYa
“ว่ะ... วิน?” ซูเหยาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แววตาที่ฉายความสงบเป็นนิจยามนี้กลับเผยความฉงนงงงวยออกมาอย่างชัดเจน นางพยายามทวนคำที่ได้ยินจากปากของแม่นางหนานที่เพิ่งเอ่ยถึงคำที่ฟังดูแปลกประหลาดราวกับเป็นภาษาของชนเผ่าเร่ร่อนที่อยู่ห่างไกลจากกำแพงเมือง นางครุ่นคิดอย่างหนัก
คำว่า ‘วิน’ นั้น มิได้มีความหมายอยู่ในตำราแพทย์เล่มใดเลยที่นางเคยอ่าน แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มที่สดใสและท่าทางที่ไม่ถือสาใด ๆ ของแม่นางหนาน ที่กำลังก้มลงเก็บขลุ่ยที่ใช้ฟาดปีศาจหนูเมื่อครู่อย่างไม่ยี่หระ ซูเหยาก็เลือกที่จะไม่ไต่ถามถึงความหมายของคำแปลกประหลาดนั้นในทันที
นางเพียงแต่คลี่ยิ้มตอบรับอย่างอ่อนโยน พร้อมกับก้าวเดินนำไปสู่ทางออกของเหมืองแร่จื่อถงซานที่ตอนนี้เต็มไปด้วยแสงแดดจ้า
“แม่นางหนานเป็นคนมีอารมณ์ขันและมีคำพูดที่น่าสนใจอยู่เสมอจริง ๆ นะเจ้าคะ” นางกล่าวออกมาเบา ๆ แทนการถามถึงความหมายของคำนั้น
@LinYa
หลักฐานการต่อสู้ (ชี้ไปที่รูปด้านบนของหลินหยา)
เลื่อนขั้นจาก หมอผู้มากฝีมือ (ม่วง) เป็น หมอพเนจร (ทอง)
เงื่อนไขพัฒนาคลาส: Level 50 เป็นต้นไป สเตตัส VIT 70 ขึ้นไป สเตตัส INT 40 ขึ้นไป อัปเกรด หมอผู้มากฝีมือ ถึงระดับ 20 (ใช้หินอัปเกรด) มีโรลเพลย์รักษาผู้เล่น 3 โรลเพลย์ 1 | 2 | 3 มีโรลเพลย์เคยรักษาชาวบ้าน 6 โรลเพลย์ 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6
คุณสมบัติพิเศษจำเพาะ อัปเกรดสกิลพิเศษติดตัว: จะมีโอกาสได้สมุนไพรล้ำค่า โสมร้อยปี และ บัวหิมะ ขึ้นอีก 1 ตัวแปร ได้รับภูตวิญญาณ [ภูตเบญจพิษ] ปล.ขอภูตสายไฝ้ว์ได้มั้ย หมอสู้เองไม่เป็น
@Watcher |