ในครานี้หาได้เร่งรีบเพื่อกู้ชีพผู้ใดไม่ นางยังคงตื่นในยามเหม่าเช่นเดิม ที่ประหลาดคงจะเป็นในยามนี้นางเตรียมตัวอย่างว่าง่าย ตื่นง่าย และจบที่ไปนอนอีกสักงีบบนรถม้าต่อด้วยเหตุนี้เองทำให้จ้าวหนิงเฟยเข้าใจแล้วว่าไยสตรีผู้เป็นตัวเกียจคร้านแห่งวังหลังถึงขยันตื่นนัก
นางมิได้ตื่น นางเพียงเปลี่ยนที่นอน
ราวกับผ่านเพียงทางรอบเมืองมิได้เข้าไปภายในตัวเมืองหรือหมู่บ้านใด ๆ ทำให้สตรีสองสตรี บ่าวขับรถม้าและหมาป่าหนึ่งตัวจึกต้องเดินทางต่อไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่หัววัน เดินทางไปได้ราว ๆ สองชั่วยามจากต้นยามเฉิน เว่ยซานที่กำลังนอนขนกับพื้นรถม้าก็ทำท่าทางเหมือนได้กลิ่นบางอย่าง มันเห่าออกมาเสียงดังก่อนจะตะกุยประตูรถม้าจนทำเอาเว่ยเจียเหลียนฮวาต้องเปิดประตูให้มัน พร้อมกันนั้นรถม้าก็หยุดกระทันหัน
“เกิดอะไรขึ้น”
“เรียนพระสนม เหมือนจะมีบางสิ่งนอนขวางถนนพะยะค่ะ”
เว่ยเจียเหลียนฮวาที่ชาชินกับการก้าวเดินลงไปสำรวจด้วยตนเอง ติดนิสัยของผู้เดินทางกอบกู้มาตลอดหนึ่งเดือน บัดนี้ตรงหน้ารถม้าคือร่างของสุนัขตัวสีดำขลับขนาดตัวเล็กกว่าเว่ยซานมากเฉกเช่นลูกสุนัข มันกำลังบาดเจ็บและหิวโหย อ้างว้างและสั่นเทา ด้วยรูปร่างที่ไม่ต่างจากเว่ยซานเท่าไหร่ ต่างก็สีขนที่ดำขลับราวกับรัตติกาล ดวงหน้าดุดันและน่ารักในเวลาเดียวกัน ดวงตาสีทองของตระกูลสุนัขดูงดงาม เจ้าตัวนี้ต้องเป็นสุนัขตัวหนึ่งเป็นแน่ เว่ยซานที่ดูเหมือนว่าจะเข้าไปดมกลิ่นและเห่าคล้ายให้นางเข้าไปดูบริเวณแผลจึงได้พบว่าเจ้าตัวนี้กำลังบาดเจ็บเป็นรอยยาวพอควร
“ช้าก่อน คุ้น ๆ ว่าข้าได้ตำรารักษาสัตว์จากชิงหลีมา เจ้าทั้งสองเฝ้าเอาไว้นะ”
พหูสูตรน้อยครานี้คงพ่วงด้วยห้องตำราเดินได้ด้วยกระมัง นางเร่งก้าวขึ้นรถม้าเพื่อแอบซ่อนจากสายตาของบ่าวใช้ หยิบตำราจากแหวนดาราจรัสม้วนแล้วม้วนเล่าจนกองเต็มพื้นรถม้ากว่าที่นางจะได้ม้วนที่ต้องการในมือ ใบหน้าของสตรีผู้เติบโตขึ้นพอควรในช่วงเวลาหนึ่งปีนี้งดงามขึ้นในแบบของตัวนางเองและใบหน้านั้นกำลังแย้มยิ้มด้วยความรู้สึกสนุก อยากรู้อยากเห็นที่จะได้ลองรักษาตามตำรา
“เจ้าหนู ข้าจะกู้ชีพเจ้าเอง”
มือเล็กยกขาหลังของมันมาล้างด้วยน้ำสะอาดเบา ๆ ไม่รู้ว่าโชคร้ายหรือโชคดีกันที่เจ้าตัวนี้สลบไปแล้ว มือเล็กที่รู้สึกได้ถึงความกดดันว่าต้องรักษาให้ได้แม้ว่าจะอุ้มไปฝังง่าย ๆ เลยก็ไม่ผิด ทว่า…หากโอกาสได้ช่วยมันอยู่ตรงหน้า ไยต้องยอมแพ้ก่อนจะลงมือเต็มที่เท่าที่นางมีความรู้
หากจะเป็นอัจฉริยะโดยไม่อาจเอาสิ่งใดมาใช้งาน ก็ไปต้มม้วนตำรากินแทนข้าวแทนโต้วาทีเสียเถิด
“ทั้ง ๆ ที่กะจะเก็บไว้ศึกษาตอนนอนสบายที่ตำหนักแท้ ๆ”
ดวงตากลมไล่อ่านให้ไวที่สุดเพื่อเปิดหาการรักษาใดที่เข้ากับเจ้าสุนัขตัวนี้ให้รวดเร็วที่สุด โชคดีนักที่พอจะเหลือยาจากตอนที่เดินทางอยู่บ้างทำให้นางตัดสินใจหยิบสมุนไพรมาปิดแผล รากอู่เวิน, ใบฝาง, ชะเอมป่า ถูกบดผสมกันเพื่อโปะลงแผลและพันแผลให้เรียบร้อย เว่ยซานที่กระดิกหางเบา ๆ ยืนให้กำลังใจส่งเสียงแหลมออดอ้อนราวกับถามว่าเจ้าตัวนี้จะปลอดภัยหรือไม่
“มันต้องไม่เป็นอะไร เว่ยซาน เราทิ้งมันคงไม่ได้ ฝากอุ้มมันขึ้นรถม้าที”
มือเรียวที่มีกลิ่นสมุนไพรได้เอื้อมไปลูบขนเจ้าสหายผู้ภักดีเบา ๆ ก่อนจะบอกให้บ่าวอุ้มร่างของเจ้าตัวขนสีดำเข้ารถม้า ต้องยอมรับอีกหนึ่งประการคือการที่ใส่สมุนไพรจำนวนมากนี้ ช่วยกลบกลิ่นสัตว์ป่าได้ดีจริง ๆ
ในวันนี้ที่เดินทางต่อไปจนเข้าเจตของเมืองจางเค่อ การเดินทางนี้จำต้องเข้าเมืองเพื่อตามหาโรงหมอ ต่อให้หมอจะไม่อาจถนัดรักษาสัตว์ได้ก็ตาม อย่างน้อยการเดินทางในวันนี้จำต้องได้ซื้อสมุนไพรสำหรับสัตว์ตามม้วนตำรานี้ให้ได้
เว่ยเจียเหลียนฮวาผู้เป็นห่วงเจ้าขนดำนั้นไปซื้อฟางมาก่อกองในรถม้า เนรมิตพื้นไม้ให้กลายเป็นคอกหลังโตสำหรับมันพร้อมกับหยิบใบกุ้ยฮวาและจันทน์หอมมาวางไว้ เห็นว่ามันจะช่วยคลายความกังวลให้สัตว์เลี้ยงได้พอควร
“ท่าทาง…พระสนมจะได้สุนัขทรงเลี้ยงเพิ่มอีกตัวนะเพคะ”
“นี่ข้าต้องมานั่งคิดชื่ออีกแล้วหรือ”
ในคืนนี้ที่ที่เว่ยเจียเหลียนฮวา จ้าวหนิงเฟย บ่าวใช้จากหนานเจ้า เว่ยซานและเจ้าตัวขนดำได้พักผ่อน คือใต้ท้องนภาเมืองจางเค่อ
- สามารถโรลเพลย์ค้นคว้าหาความรู้จากการฟัง หรือ อ่าน +30 EXP (วันละครั้ง)
ศึกษาตำรารักษาสัตว์เพื่อเจ้าตัวขนดำ...
@Admin