[เมืองอู่หลิง]

[คัดลอกลิงก์]




武陵郡






อู่หลิง

[ จิงโจว ]

“หากโลกภายนอกพลุ่งพล่านเกินกว่าจะเข้าใจ จงล่องเรือสู่หลินหยวน แผ่นดินซึ่งฤดูกาลไม่เร่งเร้า ดอกไม้ไม่หลอกลวง และคำพูดไม่จำเป็น”

   เมืองอู่หลิง (武陵) ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของมณฑลจิงโจว เป็นเมืองที่ถูกโอบล้อมด้วยแนวเขาสูงชันและแม่น้ำสายกว้าง แม้จะเป็นดินแดนห่างไกลจากเส้นทางราชการใหญ่ หากแต่ก็มีชื่อเสียงในหมู่นักเดินทางและนักกวีว่าเป็น “เมืองที่มีฤดูใบไม้ผลิอ้อยอิ่งอยู่ตลอดปี” ด้วยอากาศอบอุ่น สายลมชื้น และพรรณไม้เขียวสดชั่วกาล เมืองนี้เป็นเส้นทางผ่านที่ต้องแล่นเรือเข้าลึกสู่ป่าและหุบเขา จนถึงที่ราบที่หุบหายและเผยเมืองเล็กสงบที่ดูเหมือนหลบซ่อนจากโลกภายนอก

   เมืองหลินหยวน (林苑) คือหัวใจของอู่หลิง เมืองนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอู่อี๋ และลึกเข้าไปในป่าริมเชิงเขา ชื่อหลินหยวนแปลว่า "สวนแห่งพฤกษา" และชื่อนี้ไม่ได้กล่าวเกินจริง — เรือนชาที่ตั้งตามไหล่เนินถูกกลบด้วยเงาไม้สูง สน มะพลับ ปอจีน ไผ่ดำ และเถาไม้ดอกป่าเลื้อยพันระเบียง บริเวณโดยรอบเมืองมีสวนสมุนไพรโบราณที่ยังได้รับการดูแลจากหมอยาผู้สืบเชื้อสายบรรพชนแต่โบราณ

   ในฤดูใบไม้ผลิ ดอกหยู๋หลาน (玉兰 – ดอกแมกโนเลียขาว) จะผลิบานทั่วเขา กลีบขาวบริสุทธิ์ตัดกับใบไม้เขียวชอุ่ม ในฤดูร้อน กลิ่นหอมของดอกหลาน (兰花 – กล้วยไม้) จะลอยคลอไปตามสายลม ส่วนฤดูใบไม้ร่วง เมืองทั้งเมืองจะถูกย้อมด้วยสีทองแดงของใบเมเปิ้ลป่า ราวกับหลินหยวนทั้งเมืองกำลังจุดคบเพลิงอ่อนในยามเย็น

   ชาวเมืองหลินหยวนสงบเสงี่ยม มีนิสัยรักสงบและนิยมวรรณศิลป์ ช่างฝีมือในเมืองสร้างขลุ่ยไม้ไผ่คุณภาพเลื่องชื่อไปถึงเมืองหลวง ขณะที่หมอยาท้องถิ่นก็ขึ้นชื่อเรื่องยาสมุนไพรที่ปรุงจากพืชเฉพาะถิ่นซึ่งหาไม่ได้จากที่อื่น ในช่วงเทศกาลขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 จะมีการลอยกระทงยาหอมไปกับสายน้ำเพื่อขับไล่โรคภัยและรำลึกถึงผู้จากไป

   หากเดินลึกเข้าไปในเขตเงาไม้ จะพบ “สะพานเงียบ” ซึ่งเป็นสะพานไม้เก่าแก่ที่ทอดผ่านธารน้ำใส สะพานแห่งนี้มีตำนานว่าหากผู้ใดเดินข้ามในยามฟ้าหม่นพร้อมร่ายกวีให้ครบหนึ่งบท วิญญาณที่สถิตในป่าจะมอบนิมิตหรือความฝันที่ไขความจริงแก่ตน

   แม้หลินหยวนจะไม่มีความคึกคักของตลาดใหญ่หรือเสียงฆ้องกลองแห่งสนามยุทธ แต่ก็เป็นที่หลบเร้นอันแสนปลอดภัยของจอมยุทธ์ผู้หลีกหนีโลก ชาวเร่ที่ใฝ่สงบ นักพรตผู้บำเพ็ญ หรือแม้แต่กวีผู้สิ้นหวังและมารดาผู้ต้องการพบบุตรในนิมิต—ต่างก็เคยทิ้งรอยเท้าไว้บนผืนดินนี้







แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 8710 ไบต์และได้รับ 4 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-22 19:05
โพสต์ 2025-6-22 19:13:00 | ดูโพสต์ทั้งหมด




ระยะเวลาพบเจอเหตุการณ์อัศจรรย์
-- 23 - 30 เดือนมิถุนายน 2025 --

-- เขียนโรลเพลย์ผ่านมายังริมแม่น้ำนอกเมืองอู่หลิง
-- เขียนโรลเพลย์เจอนักพรตท่านหนึ่งสวมหมวกไผ่ผ้าคลุมสีขาวบริสุทธิ์กำลังนั่งตกปลา

“ปลาตัวใหญ่ มักไม่แหวกผิวน้ำ… เช่นเดียวกับชะตาใหญ่ มักซ่อนอยู่หลังความเงียบ” เขาขยับหมวกงอบให้เงาทาบบังดวงตา แล้วเอ่ยขึ้นเบา ๆ “เจ้ามีลมปราณแปรปรวน... จิตไม่สงบ หรือว่า... ฝันประหลาดเมื่อคืน?” 
เขายกสายตาขึ้นมาช้า ๆ มองสบตาคุณแวบหนึ่ง แววตานั้นมีทั้งความหยอกเย้าและลึกล้ำราวกับอ่านใจได้ 
“วาสนานำพาให้เจ้าผ่านทางนี้... สนใจทำนายอักษรหรือไม่?” “เพียงบอกอักษรหนึ่งตัว... ข้าจะแลกมันกับชะตาหนึ่งบท”

-- เขียนโรลเพลย์ (1) สนใจทำนาย (+30 ตำลึงเงิน) | (2) เดินผ่านไป
-- หากทำนาย แนบอักษรจีนท้ายโรลเพลย์ และ แจ้งเรื่องที่ต้องการทำนาย 1 เรื่อง

-- หลังทำนายเสร็จ และคุณแค่หันหลังแวบเดียว หันกลับมาอีกที เขาก็หายไปราวกับกลีบเมฆแล้ว ไม่เหลือแม้แต่รอย


รางวัลพบเจอ
-- รับคำทำนาย 1 เรื่อง | +2 Point --

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 4307 ไบต์และได้รับ 1 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-22 19:13
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x200
x200
x300
x300
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x600
x200
x200
x200
x500
x400
x500
x200
x500
x200
x500
x1
x1
x504
x1
x1
x2
x1
x6
x1
x1
โพสต์ 2025-6-24 01:36:59 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย WeijiaLianhua เมื่อ 2025-6-24 18:52


荷香万里夏
กลิ่นบัวหอม คิมหันต์หมื่นลี้

วันที่ยี่สิบสาม อู่เยว่ เจี้ยนหยวนศกที่สิบเอ็ด


   ขอบคุณจางเค่อที่ทำให้นางได้สมุนไพรมาเพียบเชียว

   การเดินทางยังคงดำเนินไป ในวันนี้ดูเหมือนว่าเจ้าตัวก้อนขนดำจะดูมีแรงขึ้นมาแล้ว ถึงจะมีอาการเหมือนจะขู่กันบ้าง ทว่าขอบคุณเว่ยซานที่เห่าไปเห่ามามันก็รู้เรื่องราวกับเว่ยซานกำลังบอกว่าพวกนางคือคนที่รักษามัน ชีวิตภายในรถม้าจึงพอจะสงบขึ้นมาได้บ้าง และขอบคุณที่มันยังเป็นเจ้าตัวน้อยทำให้การเปลี่ยนผ้าพันแผลและการใช้สมุนไพรนั้นไม่ได้มากเท่าที่ประเมินไว้ตอนแรก

   เว่ยเจียเหลียนฮวาทำแผลให้มันซ้ำตอนช่วงก่อนออกจากจางเค่อ บัดนี้พวกนางกำลังเดินทางมายังเมืองต่อไปอย่างเมืองที่เป็นเมืองคั่นกลางของมณฑลอี้โจวอย่างอู่หลิงเขตมณฑลจิงโจว การเดินทางครานี้ทำให้นางได้ตระหนักถึงการดึงดูดสัตว์ตัวน้อยจำพวก ‘หมา’ ทั้งหลาย ว่าแล้วก็รู้สึกว่าเหมือนในจำนวนของที่ได้จากจื่อเซวียนชิงหลีจะมีสิ่งที่เรียกว่าไข่ของหมาป่าสีเงินอยู่ ปีศาจที่เป็นจ่าฝูงบนหุบเขาเทียนซาน

   “หากข้าฟักมันออกมาก็คงทำให้เว่ยซานรู้สึกเหมือนอยู่ในฝูงแบบที่เคยอยู่ได้กระมัง ?”

   “พระสนมยังจะทรงเลี้ยงเพิ่มอีกตัวหรือเพคะ ?”

   จ้าวหนิงเฟยที่ได้ยินเสียงสตรีผู้เป็นนายเอ่ยกับหมาป่าข้างกายจำต้องโงหัวขึ้นมาจากการเย็บปักตรงหน้าทันที การที่บอกว่าถ้าฟักมันออกมาหมายความว่าเข้าไข่นั่นคือสัตว์อสูรในตำนานงั้นหรือ ที่พวกเล่าปากต่อปากเป็นเรื่องเล่ามันกำลังอยู่ภายในแหวนดาราจรัสของสตรีผู้มีสุนัขแล้วถึงสองตัวและกำลังจะมีตัวที่สามในเร็ววันนี้เสียด้วย

   “ก็ถ้ามันได้มีโอกาสเลี้ยงจริง ๆ มันก็น่าสนใจมิใช่หรือ”

   ว่าจบก็เอาไข่ของหมาป่าสีเงินออกมาอวดโอ้ราวกับว่าได้เจอสมบัติล้ำค่าก่อนจะเก็บกลับคืนเพราะสตรีผู้นี้กังวลเรื่องความปลอดภัย ในยามนี้ยังไม่อาจรู้ได้ว่าต้องทำอย่างไรให้ฟักออกมาเป็นตัวจึงต้องถนอมไว้ก่อนจะยกตำราว่าด้วยเรื่องการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงม้วนพิเศษที่ว่ากันว่าเป็นความรู้ที่ลึกและแน่นขึ้น ช่วงเวลานี้เองที่เจ้าก้อนขนสีดำเริ่มเดินหยองแหยงมาเล่นกับชายกระโปรงของสตรีผู้รักษามันด้วยความสนอกสนใจ เมื่อนั้นเองที่ดวงตากวาดไปเจอเรื่องของการตั้งชื่อให้สัตว์เลี้ยงนั้นสำคัญเพียงใด

   “ตั้งนามดี สัตว์ย่อมจำ ตอบรับโดยมิลังเล
   ตั้งนามพลั้ง สัตว์ย่อมหลง ไร้รากไร้จิตผูกพัน”


   “ชื่อ คือเสียงแห่งพันธะ”
   “เสียง คือสายใยแห่งชีวิต”


   ตำราว่าด้วยการตั้งชื่อนั้นเป็นดั่งการผูกจิตร่วมชะตา ทั้งมีข้อห้ามในการตั้งชื่ออย่าง อย่าตั้งชื่อซ้ำกับคนในตระกูล – เป็นการไม่เคารพ, อย่าใช้นามต้องห้ามของวังหลวงหรือวัด – อาจนำเคราะห์, อย่าเปลี่ยนชื่อพร่ำเพรื่อ – จิตสัตว์อาจสับสน พันธะจางคลาย, สัตว์ที่อยู่ด้วยชั่วคราว อย่าตั้งนามเกินตน – เช่น ตั้งชื่อสูงศักดิ์แก่สัตว์เร่ร่อน อาจเกินกรรมสัตว์นั้นแบกไว้

   เว่ยเจียเหลียนฮวาผู้อ่านตำราแล้วลิงคิดตามก็ริอยากตั้งชื่อให้เจ้าก้อนขนสีดำขึ้นมาจนต้องขยับลุกจากการเอนกายพิงหมอนเอกขเนกมาอุ้มเจ้านุ่มนิ่มเล็กนี้ขึ้นมาวางที่ตักก่อนจะจดจ้องดวงตาราวกับว่าต้องการสื่อไปให้ถึงจิตใจ แม้ในสายตาของสตรีผู้นี้จะแลเห็นเป็นเพียงแค่สัตว์ตัวน้อยน่ารักก็ตาม

   “ขนสีดำ ดูน่าจะโตไปเป็นเจ้าตัวดุดันไม่น้อย เฮยเฉวียน (หมัดดำ) เป็นอย่างไรเล่า ?”

   ในตำราว่าไว้ว่าหากชื่อใดถูกชะตาให้เอาอาหารไปวางไว้ให้มันกินแล้วลองเรียกสามครา หากมันหันแสดงว่าถูกชะตา ทว่ายามนี้นางที่เพิ่งจะคิดชื่อออกยังไม่เตรียมสิ่งใดเจ้าเฮยเฉวียนก็เห่าออกมาพร้อมส่ายหางน่ารักน่าชังราวกับรู้เรื่องรู้ราวเสียนี่ บัดนั้นร่างกายำพลันรู้สึกเหนื่อยอ่อนพร้อมกับว่ามีเสียงแว่วเข้ามาราวกับสื่อสารภาษาของกันและกันได้

   “ข้ามีนามว่าเฮยเฉวียน ข้ามีนามว่าเฮยเฉวียน !”

   “เดี๋ยวก่อน เจ้าพูดได้ ?”

   แม้ว่าจะเหนื่อยเพียงใด ทว่ายามนี้ความตกใจมีมากกว่า ก่อนหน้านี้นางยังฟังเสียงเห่าไม่รู้เรื่องแท้ ๆ ใยบัดนี้กลับรู้ทุกคำที่มันต้องการสื่อได้เล่า จ้าวหนิงเฟยเองก็ดวงตาเบิกโพลงขึ้นมา สุนัขตัวนี้สื่อสารภาษาต้าฮั่นได้

   “อย่าบอกนะว่า…”

   นี่นางเก็บสัตว์อสูรตัวน้อยได้งั้นหรือ



   ไม่รู้ว่าเพราะเผลอไปตั้งชื่อให้สัตว์อสูรหรือไม่ เรี่ยวแรงของเว่ยเจียเหลียนฮวาพลันหดหายไปจนหมดสิ้น สตรีผู้ที่หลับข้ามการเวลาอย่างเอร็ดอร่อยลงมาจากรถม้าอีกคราก็กลายเป็นว่ายามนี้นางอยู่ ณ ริมแม่น้ำนอกเมืองอู่หลิงเสียแล้ว ในช่วงเวลาที่จันทราส่งสว่าง การเดินทางจำต้องหยุด ณ ที่แห่งนี้

   สตรีผู้นอนเอาเป็นเอาตายเมื่อครู่นี้ได้โอกาสเดินเหินเล่นบ้างก็เดินกินลมชมทัศนาร่วมกับเว่ยซานและเฮยเฉวียนที่เดินตามไม่ห่าง จ้าวหนิงเฟยและบ่าวรับใช้ผู้ที่มีนามว่า จางสู่ บอกว่าจะตระเตรียมสถานที่และมื้ออาหารให้อย่างดีจึงวางใจเดินออกมาไกลเสียหน่อย ทว่ายังแลเห็นควันไฟจาง ๆ ท่ามกลางสายลมคิมหันต์พัดโบก ณ จุดที่เคยว่างเปล่าพลันปรากฎร่างของนักพรตท่านหนึ่ง สวมหมวกไผ่ผ้าคลุมสีขาวบริสุทธิ์กำลังนั่งตกปลา

   “ปลาตัวใหญ่ มักไม่แหวกผิวน้ำ… เช่นเดียวกับชะตาใหญ่ มักซ่อนอยู่หลังความเงียบ” เขาขยับหมวกงอบให้เงาทาบบังดวงตา แล้วเอ่ยขึ้นเบา ๆ “เจ้ามีลมปราณแปรปรวน... จิตไม่สงบ หรือว่า... ฝันประหลาดเมื่อคืน?”

   บุรุษผู้นั้นละสายตาจากคันไผ่ตกปลาขึ้นมาช้า ๆ ผินใบหน้าที่แลไม่ชัดทว่าดวงตากลับจดจ้องสบมองชั่วขณะ แววตานั้นมีทั้งความหยอกเย้าและลึกล้ำราวกับอ่านใจได้

   “วาสนานำพาให้เจ้าผ่านทางนี้... สนใจทำนายอักษรหรือไม่? เพียงบอกอักษรหนึ่งตัว... ข้าจะแลกมันกับชะตาหนึ่งบท”

   คำทำนายงั้นหรือ ?

   วงคิ้วบางดั่งใบหลิวของสตรีผู้สูงศักดิ์เลิกขึ้นด้วยความสงสัยระคนใคร่รู้ หากคำทำนายนี้ได้มาด้วยชะตาหรือต้มตุ๋น เจียดตำลึงเงินที่มีให้สักหน่อยคงไม่เป็นไรกระมัง เมื่อนั้นที่ถุงตำลึงเงินจำนวนหนึ่งถูกยื่นไปให้พร้อมวจีหวานเอื้อนเอ่ย เมื่อนั้นคำตอบรับของคำถามก็บังเกิดขึ้น


yuán
(วาสนา)


  

พิธีตั้งชื่อสัตว์อสูร (โดยไม่ได้ตั้งใจ)
- ใช้ตบะ 500 หน่วย: +8 Level ทันที

รางวัลพบเจอ
-- รับคำทำนาย 1 เรื่อง | +2 Point --



พรสวรรค์ อัจฉริยะ
- สามารถโรลเพลย์ค้นคว้าหาความรู้จากการฟัง หรือ อ่าน +30 EXP (วันละครั้ง)


@Admin




แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับ 30 EXP โพสต์ 2025-6-24 12:34
(ก่อนคุณเผลอเสี้ยววิและหันมามองอีกทีเขาก็หายไปแล้ว)  โพสต์ 2025-6-24 12:34
โพสต์ 18274 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-24 01:36
โพสต์ 18,274 ไบต์และได้รับ +6 EXP +10 คุณธรรม +8 ความโหด จาก กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)  โพสต์ 2025-6-24 01:36
โพสต์ 18,274 ไบต์และได้รับ +10 EXP +2 คุณธรรม จาก ยอดนักดนตรี  โพสต์ 2025-6-24 01:36

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตบะฝึกฝน -500 ย่อ เหตุผล
Admin -500

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ยอดคีตศิลป์
อัจฉริยะ
กระบี่
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
แหวนดาราจรัส(D)
พัดคุณชาย
พู่กันคัดอักษร
ชุดเหวินชิงฮวาเฟิน(เสียนอี๋)
หมวกไผ่ผ้าคลุม
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x16
x5
x10
x38
x1
x209
x2
x5
x2
x1
x163
x2
x2
x4
x6
x1
x1
x21
x33
x10
x2
x1
x19
x10
x4
x6
x3
x20
x2
x2
x11
x15
x134
x4
x3
x2
x277
x10
x4
x238
x6
x64
x33
x1
x50
x111
x67
x28
x164
x6
x17
x81
x16
x10
x21
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้