
ซีเฉิง
[ จิงโจว ]
“ใต้ฟ้าตะวันตก แสงจันทร์หล่นซบหลังคาเก่า เมืองแห่งกกหญ้าและบทกวีจิ่ว”
หากกล่าวถึงเมืองซีเฉิงในเขตจิงโจว ก็ราวกับเอ่ยนามของเมืองที่ซ่อนตัวอยู่หลังม่านหมอกตะวันตก แม้ไม่อึกทึกดังนครหลวง หากแต่เปี่ยมด้วยกลิ่นอายของชีวิตและบทกวี เมืองนี้ตั้งอยู่ไม่ห่างจากแควสายรองของแยงซี ฝั่งหนึ่งเป็นแนวไม้ไผ่ทอดยาว ฝั่งหนึ่งคือภูเขาเตี้ยเขียวครึ้มที่คอยปกป้องเมืองจากลมตะวันตกเฉียงเหนือ ทุกเช้ายามหมอกลงจัด แสงอาทิตย์จะลอดผ่านซี่ไม้ กระทบกับกระเบื้องหลังคาสีครามซีดของบ้านเรือน ส่องเงาไหวระริกไปตามพื้นหินเรียบของตรอกโบราณ
ในอากาศมีกลิ่นผสมกันระหว่าง น้ำหมักสมุนไพรจากร้านยา, กลิ่นกำยานจากศาลเจ้าเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ตามหัวมุมถนน, และ กลิ่นโคลนชื้นจากท่าน้ำ ที่เพิ่งรับเกวียนบรรทุกจากทางใต้ — เป็นกลิ่นของเมืองชายแดนที่ยังมีรากฝังลึกอยู่ในผืนดิน ผู้คนในซีเฉิงแต่งกายเรียบง่าย — พ่อค้าใส่เสื้อผ้าฝ้ายทอหยาบปักสัญลักษณ์ประจำกิลด์, บัณฑิตสวมเสื้อคลุมยาวสีเทาน้ำหมึก มือถือพัดผ้าไหมหรือหนังสือผูกเชือก เด็กๆ วิ่งเล่นหน้าโรงช่างไม้ เสียงตีเหล็กจากตรอกตะวันออกดังเป็นระยะ
สิ่งที่เห็นได้ชัดเมื่อย่างเท้าเข้าสู่เมือง คือ กำแพงเมืองหินเก่า ที่ปกคลุมด้วยเถาวัลย์เขียวชอุ่ม แม้ร้าวแตกรานด้วยกาลเวลา หากแต่ยังยืนหยัดเป็นพยานแห่งอดีตกาล ถัดเข้ามาคือ สะพานไม้ยาวข้ามลำธารแคบ ที่เชื่อมไปยังตลาดหลักของเมือง — ที่ซึ่งชาวเมืองมาขายพืชผัก ดอกไม้ สมุนไพร และผ้าทอจากหมู่บ้านรอบนอก
ในยามบ่าย ซีเฉิงจะเงียบสงบอย่างน่าประหลาด เสียงขลุ่ยจากหอคอยน้ำฝั่งเหนือแว่วมาจากที่ไกลราวกับสายลม เมื่อแดดเริ่มอ่อน บรรดาพ่อค้าเกวียนจะเริ่มตั้งแคมป์ริมท่าน้ำ — พร้อมเล่าเรื่องเล่าจากแดนไกลให้บุตรชายฟังก่อนนอน และเมื่อถึงค่ำ แสงจากโคมกระดาษจะส่องไหวในละอองหมอก เมืองนี้จึงคล้ายเมืองในฝัน — อยู่กึ่งกลางระหว่างความเป็นจริงกับความทรงจำที่ร่วงหล่น
|