
วันที่ 04 เดือน 6 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามเฉิน เวลา 07.00 - 09.00 น. ณ ถนนสิบลี้ สมาคมพ่อค้าสกุลลู่
แสงแดดแห่งยามเฉินทอผ่านผืนนภาที่ยังมีกลิ่นอายหมอกจาง ลมยามเช้าพัดเอากลิ่นหอมของซาลาเปานึ่งจากร้านข้างทางมาแตะปลายจมูก หลินหยายืนอยู่หน้าประตูไม้ขนาดใหญ่ของสมาคมการค้าสกุลลู่ "ลู่ซื่อซังฮุ่ย" ที่แม้ไม่สูงสง่าดั่งหอคอยสาขาลั่วหยาง แต่ก็มีความกว้างขวางและมั่นคงอย่างน่าประหลาด บานประตูนั้นถูกแกะสลักด้วยลวดลายมังกรเรียกทรัพย์เลื้อยประดับไปตามกรอบทองจาง ๆ ที่แสดงถึงการรักษาภาพลักษณ์ของสถานที่ให้ดูไม่โอ้อวดแต่ก็ไม่ธรรมดา
หญิงสาวสวมเสื้อคลุมผ้าฝ้ายบางลายสีอ่อนเรียบง่าย ท่าทีดูเรียบร้อยแต่อึ้ง ๆ นิด ๆ เพราะไม่ค่อยคุ้นชินกับสถานที่เป็นทางการเช่นนี้เท่าไร “เอาว่ะ...” หลินหยาเอ่ยเบา ๆ เหมือนจะปลุกขวัญตัวเอง “ตายก็ยังไม่ตาย ค้าขายยังไม่ลอง แล้วจะไปรู้ได้ยังไงว่าชะตาข้าเป็นแม่ค้าหรือยาจก” สิ้นคำก็ยกมือผลักประตูบานใหญ่นั้นอย่างไม่รีรอ
กลิ่นไม้หอมแตะจมูกในทันที แสงแดดลอดช่องระแนงไม้กระทบลงบนพื้นเรือนอย่างเป็นระเบียบ ชั้นล่างเต็มไปด้วยพ่อค้าจากหลายหัวเมือง ทั้งที่มาในชุดหรูหราและทั้งที่แต่งตัวแบบบ้าน ๆ ต่างล้อมวงคุยกันเรื่องราคาเครื่องเทศ เงินลงทุน ราคากระดาษ หรือแม้แต่ราคาชาดำจากแดนใต้ เสียงหัวเราะ ผงกระดาษ และกลิ่นหมึกจีนผสมกันจนเกิดเป็นบรรยากาศเฉพาะของพวกหัวการค้า หลินหยากวาดตามองไปรอบ ๆ อย่างตั้งใจ แต่ท่ามกลางเสียงอื้ออึง เธอกลับสะดุดตาเข้ากับโต๊ะทำงานด้านข้างที่มีชายหนุ่มหน้าตาอ่อนวัยกว่าที่คิด ใบหน้ายิ้มแย้ม ผมมัดไว้หลวม ๆ อย่างไม่ประณีตนัก มือหนึ่งถือพู่กัน อีกมือคีบซาลาเปาครึ่งลูกไว้พลางตอบคำถามพ่อค้าอาวุโสอย่างสุภาพ
“เขานั่นแหละมั้ง...ผู้ดูแลแน่ ๆ” หลินหยาพึมพำ ดวงตาเธอสบกับดวงตาของชายหนุ่มผู้นั้นพอดี แล้วอีกฝ่ายก็...ยิ้มให้กว้าง ๆ
"อ้าวแม่นางน้อยท่าทางจะไม่ใช่แม่ค้าคนเก่า แต่เข้ามาในนี้ก็แปลว่าตั้งใจจะเป็นล่ะสิ?" เขาทักทันที น้ำเสียงเป็นมิตรอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคนบริหารสมาคม หลินหยาถลึงตานิด ๆ แบบแปลกใจว่าเขารู้ได้อย่างไร?... “เอ่อ..เจ้าค่ะ ข้าชื่อหลินหยา …แล้วท่านรู้ได้ยังไงว่าข้าไม่ใช่แม่ค้าคนเก่า?หรือเจ้าคะ?”
“ก็...” ฉินเถียนยักไหล่ยิ้ม ๆ “คนค้าขายที่คลุกตลาดจริง ๆ ไม่ค่อยพูดปลุกใจตัวเองก่อนเดินเข้าประตูขนาดนั้นหรอกนะขอรับ” หญิงสาวถึงกับหน้าร้อนขึ้นนิด ๆ แล้วรีบกระแอมไอปิดความเขิน “เอ่อ..เอาเถอะเจ้าค่ะ ข้ามาเพื่อลงทะเบียนยื่นขอป้ายพ่อค้าแม่ค้า...อยากลองขายของดูบ้างเจ้าค่ะ เล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ได้จะมาเป็นเศรษฐีเมืองลั่วหยางอะไรทั้งนั้น”
“ฮะ ฮะ ฮะ! ดีมาก ๆ!” ชายหนุ่มวางซาลาเปาลงแล้วเช็ดมือลวก ๆ กับแขนเสื้ออย่างไม่ถือเนื้อถือตัว แล้วเดินนำเธอไปยังโต๊ะข้างหน้าต่าง “เชิญทางนี้ ข้าน้อย ฉินเถียนผู้ดูแลสาขานี้ ยินดีต้อนรับว่าที่แม่ค้าหน้าใหม่แห่งฉางอัน” หลินหยามองตามหลังเขาแล้วถอนหายใจเบา ๆ ก่อนที่จะเดินตามอีกคนไป เสียงฝีเท้าของฉินเถียนเดินนำไปยังโต๊ะไม้เต็งริมหน้าต่าง ด้านข้างวางแฟ้มบันทึกบัญชีและตราผนึกโลหะประจำสมาคมสกุลลู่ หลินหยาตามมานั่งตรงข้าม สีหน้ากึ่งตื่นเต้นกึ่งสงสัย ชายหนุ่มหน้าตายิ้มง่ายยกพัดขึ้นโบกเบา ๆ ไล่ความร้อนขณะเปิดแฟ้มเอกสาร แล้วเอ่ยเสียงสบาย แต่ถ้อยคำกลับจริงจังอย่างคาดไม่ถึง
"แม่นางหลินหยา ก่อนจะรับจดหมายตราและสมัครเข้ารับตราพ่อค้า...ข้ามีบางอย่างต้องแจ้งให้เจ้าทราบชัดเจนเสียก่อน" เขาวางแฟ้มลงแล้วเท้าคางมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาที่ไม่ใช่เพียงพ่อค้ายิ้มแย้มอีกต่อไป หากแต่เป็นผู้ดูแลสมาคมที่ทำหน้าที่อย่างไม่ลำเอียง "หนึ่งการจะเป็นพ่อค้าแม่ค้าในเครือสกุลลู่ มิใช่แค่มีเงินหรือมีของจะขายก็เข้ามาได้ตามอำเภอใจ หากแต่ผู้สมัครจะต้องมีคุณสมบัติบางประการ เช่น ความรู้ การคำนวณ ไหวพริบ การเจรจา และดวง….เอ่อ ความเป็นสิริมงคลน่ะ" เขาหัวเราะเล็กน้อยพลางเคาะนิ้วเรียงข้อบนโต๊ะ "พูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ คนที่จะเป็นพ่อค้าแม่ค้าสมาคมสกุลลู่ ต้องมี มันสมอง โชคในทางเงินทอง และ เสน่ห์ในการค้าขาย อยู่ในตัวให้เพียงพอ"
"สอง แม่นางต้องไม่ควรมีงานประจำอยู่แล้ว" เขาเอ่ยแบบขำ ๆ ส่วนหลินหยาก็ทำหน้าเซ็งแต่ไม่ใช่เซ็งอะไรหรอก นางไม่มีงานประจำ ตอนนี้ไม่ได้ทำงานเลยอ่ะดิ “ข้าไม่มีงานประจำหรอกค่ะ มีแต่ภาระทางร่างกายที่ต้องกินต้องใช้ทุกวัน”
ฉินเถียนยิ้มอีกครั้ง “นั่นก็ดี...เพราะตราพ่อค้านี้ไม่ใช่เพียงใบอนุญาตให้ค้าขายธรรมดา แต่เปรียบได้กับการประกาศต่อสมาคม ว่าต่อแต่นี้ไปเจ้าคือผู้ประกอบการเต็มตัว เป็นพ่อค้ารายย่อยที่อยู่ภายใต้เครือข่ายของขบวนคหบดีลู่แห่งลั่วหยาง”
“สาม หากได้รับตรานี้แล้วแม่นางจะสามารถซื้อสินค้าโดยตรงจากขบวนค้าของตระกูลลู่แล้วนำไปกระจายขายต่อให้ลูกค้าเรียกว่าถ้ากล้าพูด กล้าขาย ไม่เจ๊งง่าย ๆ แน่นอน แต่ในทางกลับกัน…เจ้าก็จะมีหน้าที่เป็นตัวแทนความน่าเชื่อถือของสมาคม” หลังจากที่เขาเอ่ยจบหลินหยาก็พยักหน้า เธอให้เขาตรวจสอบแล้วเริ่มสมัครให้เรียบร้อย..ท่าทางแล้วเธอจะผ่านทุกอย่างแหละนะ ต้องขอบคุณที่เป็นคนว่างงานจัด ๆ ….
หลังจากผ่านไปไม่นานชายหนุ่มก็กลับมาแล้วหยิบตราให้ "จากวันนี้ไปแม่นางคือเด็กของขบวนพ่อค้าสกุลลู่แห่งลั่วหยางแล้วแต่ถ้าทำเจ๊ง ข้าจะเป็นคนแรกที่หัวเราะเยาะแม่นางเอง...และเป็นคนแรกที่ช่วยดึงเจ้าขึ้นจากหนี้ด้วยล่ะ” เขาท่าทางเหมือนคนที่สนุกสนานกับการพูดคุยหลินหยาได้ยินงั้นก็ส่ายหัวขำ ๆ เอาว่ะ..ก็ดีกว่าไม่มีอะไรทำ..เธอไม่ได้หวังรวยหรอกนะ ถึงจะอยากรวยก็เถอะ แต่ได้ซื้อของมาขายเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ต้องเกาะอ๋องหลิวอันกินข้าวเช้าเที่ยงเย็นก็ดีเหมือนกัน

@Admin
พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)
มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่
อื่น ๆ: มาสมัครเป็นพนักงานเซเว่นของ CP ลู่จ้า
ผ่านเงื่อนไข :
1. Level 20 ขึ้นไป มีค่าสเตตัสหลักไม่รวมของสวมใส่ เกิน 30 INT - 30 LUK - 30 CHA
2. ไม่มีงานประจำ
รางวัล: ป้ายยยยยย