เจ้าของ: Watcher

[ตลาดตะวันออก]

[คัดลอกลิงก์]
โพสต์ 2025-10-3 18:04:58 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 1 เดือน 10 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11

ยามโหย่ว เวลา 17.00 - 18.00 น.

╰┈➤ พบเจอเว่ยชิง


แสงตะวันยามสนธยาค่อย ๆ คลายความร้อนแรง เปลี่ยนเป็นสีทองอบอุ่นที่สาดลงบนกำแพงเมืองและหลังคากระเบื้องสีแดง ตลาดตะวันออกที่ขึ้นชื่อว่าคึกคักที่สุดแห่งนครฉางอันในยามนี้คล้ายสวรรค์ของผู้คน กลิ่นเครื่องเทศ ละอองไอร้อนจากอาหาร และเสียงเจรจาต่อรองประสานกันเป็นบทเพลงของชีวิต


ผู้คนเดินกันขวักไขว่ ทั้งพ่อค้า แม่ค้า ขุนนางที่ออกมาพักผ่อน บัณฑิตในชุดยาว รวมทั้งชาวบ้านทั่วไปทุกย่างก้าวต่างเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา ร้านแผงลอยประดับด้วยโคมแดงแขวนเรียงราย เสียงเด็ก ๆ วิ่งเล่น เสียงพ่อค้าเชิญชวน และเสียงดนตรีจากนักเร่ที่ดีดพิณหรือเคาะกลอง ประสานกันกลายเป็นความวุ่นวายที่อบอุ่น


ท่ามกลางความคึกคักเสวี่ยซีเดินอยู่ท่ามกลางฝูงชนอย่างไม่โดดเด่นนัก ร่างบางของเขาสวมเพียงชุดเรียบง่ายสีชมพู เขามองร้านรวงด้วยดวงตาอำพันที่ส่องประกายสนใจเล็กน้อยต่อสิ่งละอันพันละน้อย ตั้งแต่เครื่องประดับทำมือไปจนถึงผลไม้ที่เพิ่งเก็บจากสวน


เสียงหนึ่งที่คุ้นหูดังขึ้นจากด้านหลัง “เจ้ามาเดินเล่นที่นี่ด้วยหรือ”


เสวี่ยซีหันไป เห็นจ้งชิงกำลังเดินเข้ามาเขายังคงสวมชุดเรียบเข้ม สายตานิ่งขรึมเหมือนเคย แม้ท่ามกลางผู้คนมากมายก็ยังดูไม่ละลานตา


“ท่านจ้งชิง” เสวี่ยซีเอ่ยด้วยรอยยิ้มเล็ก ๆ น้ำเสียงใสซื่อ “ข้าคิดไม่ถึงว่าจะพบกันที่นี่”


“ตลาดตะวันออกคึกคักที่สุดในนคร” จ้งชิงตอบเสียงราบเรียบ “ไม่แปลกที่จะพบเจอกันโดยบังเอิญ”


เสวี่ยซีหัวเราะเบา ๆ คล้ายยอมรับ ก่อนจะเดินเคียงข้างอีกฝ่ายโดยไม่เร่งรีบ ทั้งสองก้าวท่ามกลางความพลุกพล่าน แต่กลับรู้สึกเหมือนมีเพียงพื้นที่เล็ก ๆ รอบตัวที่สงบลง


พวกเขาแวะชมร้านขายหยก และผ่านแผงลอยขายสมุนไพร ก่อนหยุดที่หน้าร้านขายของหวาน กลิ่นหอมหวานของน้ำเชื่อมและแป้งลอยมาแตะจมูก เสวี่ยซีหันไปมองเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น “ท่าน… วันก่อนข้าพูดถึงเรื่องอยากเรียนรู้การต่อสู้บ้าง ท่านยังจำได้หรือไม่”


จ้งชิงเหลือบมองเขา แววตานิ่งสนิท “จำได้”


“ข้าคิดมากขึ้นแล้ว” เสวี่ยซีพูดเสียงอ่อน แต่เต็มไปด้วยความตั้งใจ “บางที ข้าอาจไม่ได้ต้องการเป็นนักสู้ เพียงแค่…อยากมีพื้นฐานป้องกันตัว หากมีภัยใดเข้ามา”


จ้งชิงไม่ตอบทันที เขามองการเคลื่อนไหวของผู้คนรอบข้าง เหมือนใช้สายตาพิจารณาทุกสิ่งก่อนจึงเอ่ย “หากเจ้ายืนยันเช่นนั้น อาจมีโอกาสในคราวหน้า ข้าจะลองชี้แนะให้”


เพียงประโยคเดียว เสวี่ยซีแสดงรอยยิ้มออกมาในทันที ใบหน้าขาวสว่างขึ้นราวกับแสงจันทร์ยามค่ำคืน “จริงหรือ ท่านจะสอนข้าจริง ๆ ?”


“ข้ากล่าวเพียงว่า ‘อาจจะ’” จ้งชิงตอบเสียงเรียบ “ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าจะมีความพยายามเพียงใด”


เสวี่ยซีพยักหน้าหงึก ๆ อย่างใสซื่อ “ข้าจะพยายามให้ถึงที่สุด ข้าสัญญา”


ทั้งสองเดินต่อไปเรื่อย ๆ ผ่านร้านขายโคมไฟที่เริ่มจุดแสงทีละดวง แสงโคมสีแดงทาบลงบนใบหน้าของเสวี่ยซี ทำให้แววตาสีอำพันดูอบอุ่นและอ่อนโยนยิ่งขึ้น เสียงผู้คนยังคงพลุกพล่าน แต่การสนทนาระหว่างทั้งสองกลับดำเนินไปอย่างสงบ


เมื่อเดินจนถึงมุมตลาดที่ผู้คนเบาบางลง เสวี่ยซีหยิบถุงผ้าเล็กออกมา แล้วยื่นให้จ้งชิง “ข้าซื้อขนมหลี่โต้วเกากับน้ำเต้าหู้มา ข้าอยากให้ท่าน”


จ้งชิงมองถุงผ้านั้น ก่อนเอื้อมมือรับโดยไม่เอ่ยคำใดเพิ่มเติม เพียงเก็บไว้อย่างระมัดระวังเช่นเคย


เสวี่ยซียิ้มบาง มองเขาแล้วพูดเบา ๆ “ขอบคุณที่คุยกับข้าเสมอ แม้เพียงเรื่องเล็กน้อย แต่ข้าก็รู้สึกว่ามีค่ามาก”


จ้งชิงหันมองใบหน้าอ่อนโยนตรงหน้า เขาไม่ตอบกลับ มีเพียงสายตานิ่งขรึมที่แฝงความหมายบางอย่าง ก่อนทั้งสองจะก้าวเดินต่อไปท่ามกลางแสงโคมแดงที่สว่างไสวเหนือถนนสายใหญ่ของตลาดตะวันออก



✎ +5 ความสัมพันธ์สนทนาทั่วไป [NPC-10] เว่ย ชิง

หัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20

✎ โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม


+15 ความสัมพันธ์ ขนมว่างเกรดม่วง (ขนมหลี่โต้วเกา) + (น้ำเต้าหู้) ชาเกรดม่วง (+10)

✎ อาหารปรุง ได้โบนัส +5 เพิ่ม

✎ ชงชา ได้โบนัส +5 เพิ่ม


✎ โดดเด่นมีเอกลักษณ์

มีโอกาสได้รับความเอ็นดูจาก NPC ความโปรดปรานเพิ่มขึ้น +15 ทุกครั้งที่พบเจอและทำอาหารให้อีกฝ่ายกิน



แสดงความคิดเห็น

หัวใจเว่ยชิงตันสี่ดวงแล้ว  โพสต์ 2025-10-3 19:38
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-10] เว่ย ชิง เพิ่มขึ้น 45 โพสต์ 2025-10-3 19:38
โพสต์ 23319 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-10-3 18:04
โพสต์ 23,319 ไบต์และได้รับ +4 EXP [ถูกบล็อค] ความชั่ว +4 คุณธรรม +4 ความโหด จาก ชุดวสันต์ลีลา  โพสต์ 2025-10-3 18:04
โพสต์ 23,319 ไบต์และได้รับ +10 EXP [ถูกบล็อค] ความชั่ว +9 คุณธรรม +9 ความโหด จาก คัมภีร์ดาราศาสตร์ตงฟาง  โพสต์ 2025-10-3 18:04
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ปิ่นปักผมหยกขาว
 มีดสั้นเงาจันทร์
ชุดวสันต์ลีลา
คัมภีร์ดาราศาสตร์ตงฟาง
โดดเด่นมีเอกลักษณ์
พู่กันดาราศาสตร์
แหวนหยกสลักนาม
ยาหยกบูรพา
พู่หยกสลักลายมังกร
กระบี่คู่สลักจันทรา
แหวนดาราจรัส(D)
เกราะทองแดง
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ช)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x40
x2
x7
x1
x2
x2
x1
x6
x1
x8
x2
x10
x7
x12
x26
x48
x8
x24
x24
x5
x2
x10
x1
x2
x12
x30
x21
x5
x6
x2
x1
x10
x5
x60
x90
x60
x5
x2
x120
x6
x17
x20
x2
x20
x2
x2
x2
x3
x2
x2
x3
โพสต์ 2025-10-3 20:10:45 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 1 เดือน 10 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11

ยามซวี เวลา 19.00 - 20.00 น.

╰┈➤ พบเจอโจวจิน


ค่ำคืนฉางอันสว่างไสวด้วยแสงโคมไฟนับพันดวงที่ห้อยเรียงรายตลอดถนนตะวันออก เสียงกลองและขลุ่ยจากนักดนตรีข้างทางผสานกับเสียงเจรจาค้าขายของพ่อค้าแม่ค้าจนกลายเป็นบรรยากาศอึกทึกคึกคัก ตลาดตะวันออกขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ครึกครื้นที่สุดของเมืองหลวง ที่นี่มีทั้งของหายากจากแดนไกล ผ้าไหมหรูหรา เครื่องหอมชั้นเลิศ ไปจนถึงอาหารพื้นบ้านราคาย่อมเยาที่ชาวเมืองนิยม


โจวจินเดินนำเสวี่ยซีไปพลาง ยกมือโบกทักทายพ่อค้าแม่ค้าที่รู้จักหลายราย ทุกย่างก้าวของเขาเต็มไปด้วยความคล่องแคล่วเชี่ยวชาญประหนึ่งปลาในน้ำ 


"คุณชายเสวี่ยซี ท่านดูสิ นี่คือผ้าทอจากแคว้นทางใต้ เนื้อเบาบางแต่ทนทานยิ่งนัก หญิงงามทั้งหลายต่างต้องการ ข้าจำได้ว่าครั้งหนึ่งมีคนยอมจ่ายเงินเพิ่มถึงสองเท่าเพียงเพื่อแย่งผืนผ้านี้"


เสวี่ยซีหยุดยืนมองด้วยดวงตาอำพันเป็นประกาย แต่ก็เพียงพยักหน้าเบา ๆ ไม่ได้กล่าวอะไรมากนัก ใบหน้าขาวผ่องสะท้อนกับแสงโคมราวกับหยกขัดเงา


เมื่อเดินต่อไปถึงแผงขายเครื่องหอม โจวจินหยิบถุงหอมขึ้นมาดม "นี่คือกลิ่นมะลิผสมกับดอกเหมย ท่านลองสูดดูสิ หอมละมุนราวสายลมยามเช้า" เขายื่นให้เสวี่ยซี


เสวี่ยซีรับมาลองดมอย่างซื่อ ๆ ก่อนเอียงคอ "หอมจริง ๆ ข้าไม่เคยเจอกลิ่นเช่นนี้มาก่อน"


โจวจินหัวเราะเบา ๆ "นั่นเพราะท่านยังมิได้เที่ยวตลาดกับข้า หากมีข้าแล้ว ท่านจะได้เห็นของแปลกใหม่ทุกคราว"


ระหว่างที่เดินไปในฝูงชน โจวจินสังเกตเห็นเสวี่ยซีเดินอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ร่างบอบบางของเขาดูไม่ถนัดกับการเบียดเสียดคนมากมาย ผู้คนไหลเชี่ยวไปมาเหมือนสายน้ำที่พร้อมซัดใครก็ตามที่ก้าวผิดพลาดให้ล้มลง โจวจินจึงยื่นแขนออกเล็กน้อย กันฝูงชนให้ห่างจากเสวี่ยซี แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงสุภาพแต่ชัดเจน “คุณชายเสวี่ยซี ระวังหน่อยนะ ที่นี่คนเยอะ อาจจะโดนชนได้”


เสวี่ยซีชะงักเล็กน้อย ก่อนเงยหน้ามองเขาอย่างประหลาดใจเล็กน้อย ดวงตาใสสะอาดคล้ายเด็กที่เพิ่งได้รับความช่วยเหลือ เขาเพียงพยักหน้าเบา ๆ "ขอบคุณท่านพ่อค้าโจว"


โจวจินยิ้มบาง ๆ ไม่พูดอะไรต่อ เพียงแต่ก้าวเดินนำต่อไปด้วยท่าทีที่ระมัดระวังขึ้น


ทั้งคู่ก็เดินมาถึงแผงขายเครื่องประดับ แสงโคมไฟสะท้อนประกายระยิบระยับจากเครื่องประดับเงินทอง หยก และอัญมณี ทำให้ผู้ผ่านไปมาต้องหยุดมอง


โจวจินหยุดชะงัก พลันสายตาเขาหยุดอยู่ที่ปิ่นปักผมอันหนึ่ง ตัวปิ่นทำจากหยกสีเขียวอ่อนใสสว่าง แกะสลักเป็นรูปดอกเหมยบานกลางหิมะ ลวดลายละเอียดอ่อนละมุนจนแทบหาที่ติไม่ได้


เขาหยิบขึ้นมาพลิกดูด้วยความพอใจ ก่อนหันมามองเสวี่ยซี ดวงตาของเขามีประกายบางอย่างเจืออยู่ ขณะคลี่ยิ้มถามเสียงอบอุ่น “คุณชายเสวี่ยซี คิดว่าปิ่นปักผมอันนี้เหมาะกับใครกัน?”


เสวี่ยซีรับปิ่นหยกนั้นมาพิจารณาอย่างตั้งใจ มือขาวเรียวยกขึ้นหมุนช้า ๆ แสงไฟสะท้อนเล่นกับหยกใสทำให้ยิ่งงดงามขึ้นไปอีก ใบหน้าของเขาเคร่งขรึมเล็กน้อยคล้ายกำลังคิดอย่างจริงจัง ก่อนตอบออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแต่มั่นคง


“ปิ่นหยกอันนี้ดูงดงามและประณีตนัก ข้าว่ามันเหมาะกับสตรีที่สง่างามและมีรสนิยม หากผู้ใดได้สวมไว้บนมวยผม คงยิ่งเพิ่มความงดงามให้สตรีผู้นั้น”


คำตอบของเสวี่ยซีเปี่ยมด้วยความจริงใจ ไม่ได้เอ่ยเอียงไปตามใจอีกฝ่าย ใบหน้าของเขาขณะกล่าวนั้นยังมีความอ่อนโยนบริสุทธิ์แฝงอยู่ ราวกับไม่รู้จักเล่ห์เหลี่ยมใด ๆ


โจวจินหัวเราะเสียงดังลั่น “ฮ่า ๆ ท่านตอบได้ดีมาก สมเป็นคุณชายเสวี่ยซีจริง ๆ” จากนั้นเขาเอนตัวเล็กน้อย พลางกล่าวหยอกอย่างขี้เล่น “แต่ข้าว่ามันเหมาะกับท่านมากกว่านะ เผื่อเอาไว้ประดับเวลาไป...เอ่อ...ดื่มสุรากับสหาย”


เสวี่ยซีเงยหน้าขึ้นดวงตาอำพันสว่างวาววับ ใบหน้างามขึ้นสีระเรื่อเล็กน้อย ไม่รู้ว่าควรหัวเราะหรือไม่ เขาเพียงยิ้มอ่อนโยนแล้วตอบกลับด้วยเสียงใส “ท่านพ่อค้าโจว ข้าเป็นบุรุษ จะเอาปิ่นปักผมไปปักได้อย่างไรกัน”


โจวจินหัวเราะเบา ๆ “บุรุษก็มีสิทธิ์งดงามมิใช่หรือ? แต่ช่างเถิด ข้าเพียงหยอกท่านเล่นเท่านั้น”


เสวี่ยซีเม้มปาก ยกมือคืนปิ่นหยกกลับไปที่มือโจวจิน แววตาเขายังคงสดใสจริงใจไม่เปลี่ยน เพียงแต่มีร่องรอยของความเขินอายเล็กน้อยแฝงอยู่


รอบกายเต็มไปด้วยเสียงเจรจาซื้อขายไม่ขาดสาย แต่ตรงนี้กลับมีเพียงรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเบา ๆ ระหว่างคนสองคน บรรยากาศที่อบอุ่นและจริงใจ ทำให้ตลาดที่แสนวุ่นวายกลับดูสงบลงในชั่วขณะหนึ่ง


แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 20965 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-10-3 20:10
โพสต์ 20,965 ไบต์และได้รับ +4 EXP [ถูกบล็อค] ความชั่ว +4 คุณธรรม +4 ความโหด จาก ชุดวสันต์ลีลา  โพสต์ 2025-10-3 20:10
โพสต์ 20,965 ไบต์และได้รับ +10 EXP [ถูกบล็อค] ความชั่ว +9 คุณธรรม +9 ความโหด จาก คัมภีร์ดาราศาสตร์ตงฟาง  โพสต์ 2025-10-3 20:10
โพสต์ 20,965 ไบต์และได้รับ +10 EXP [ถูกบล็อค] ความชั่ว +15 คุณธรรม +15 ความโหด จาก โดดเด่นมีเอกลักษณ์  โพสต์ 2025-10-3 20:10
โพสต์ 20,965 ไบต์และได้รับ +2 EXP [ถูกบล็อค] ความชั่ว +2 คุณธรรม +2 ความโหด จาก พู่กันดาราศาสตร์  โพสต์ 2025-10-3 20:10
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ปิ่นปักผมหยกขาว
 มีดสั้นเงาจันทร์
ชุดวสันต์ลีลา
คัมภีร์ดาราศาสตร์ตงฟาง
โดดเด่นมีเอกลักษณ์
พู่กันดาราศาสตร์
แหวนหยกสลักนาม
ยาหยกบูรพา
พู่หยกสลักลายมังกร
กระบี่คู่สลักจันทรา
แหวนดาราจรัส(D)
เกราะทองแดง
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ช)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x40
x2
x7
x1
x2
x2
x1
x6
x1
x8
x2
x10
x7
x12
x26
x48
x8
x24
x24
x5
x2
x10
x1
x2
x12
x30
x21
x5
x6
x2
x1
x10
x5
x60
x90
x60
x5
x2
x120
x6
x17
x20
x2
x20
x2
x2
x2
x3
x2
x2
x3

6

กระทู้

68

ตอบกลับ

3369

เครดิต

เริ่มมีชื่อเสียง

พลังน้ำใจ
2947
ตำลึงทอง
125
ตำลึงเงิน
636
เหรียญอู่จู
11697
STR
4+2
INT
4+0
LUK
10+7
POW
3+0
CHA
9+0
VIT
5+5
คุณธรรม
365
ความชั่ว
0
ความโหด
182
โพสต์ 2025-10-3 22:49:34 | ดูโพสต์ทั้งหมด
คนโรคจิต 3 เดือน 10  ปีรัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
เวลา 17.00น.-18.00น. (พบเจอ- เว่ยชิง)


ลมเย็นปลายฤดูพัดผ่านถนนในย่านตลาดตะวันออก ผู้คนสัญจรไปมาอย่างไม่ใคร่ใส่ใจต่อชายหนุ่มสองคนที่พึ่งก้าวออกจากแผงดูดวงมุ่งหน้าไปตามถนนในเมือง หมิงชุนสุ่ยในชุดผ้าไหมสีอ่อน เดินด้วยสีหน้าสับสนปนหงุดหงิด ดวงตาคมทอดมองตรงไปข้างหน้า แต่ร่องรอยไม่พอใจยังฉายชัดอยู่

“คุณชาย… คำทำนายของหมานเฉียนผู้นั้น ข้าเห็นว่าก็สมเหตุสมผลอยู่ไม่น้อยนะขอรับ” เจียวจ้าน ผู้ติดตามวัยหนุ่ม กล่าวอย่างเกรงใจ
หมิงชุนสุ่ยหัวเราะหยันเบา ๆ

“สมเหตุสมผลหรือ? ฮึ! ข้าเสียเงินไปตั้งสามสิบตำลึงเงิน เพื่อมาฟังคำพูดกำกวมจับความไม่ได้นั่นหรือ เจียวจ้าน เจ้าก็เห็น เขาพูดเลี่ยงไปเลี่ยงมา ไม่อธิบายให้กระจ่างแม้แต่น้อย แบบนั้นเรียกว่าคำทำนายได้หรือ”

เจียวจ้านยิ้มเจื่อน ไม่กล้าเถียงผู้เป็นนาย ได้แต่เดินตามเงียบ ๆ ขณะหมิงชุนสุ่ยยังพร่ำบ่น เขาไม่ทันระวัง จึงชนเข้ากับร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มคนหนึ่งอย่างแรง ร่างผอมบางของเขาเสียหลักทันที เซล้มลงเหมือนใบไม้ต้องลม

“อะ!!”

“คุณชาย!” เจียวจ้านอุทาน รีบจะคว้าแขน แต่ช้ากว่าอีกฝ่ายที่ถูกชน

ชายหนุ่มในชุดสีเข้ม ผู้มีดวงตาคมเข้มดั่งเหยี่ยว คว้าแขนหมิงชุนสุ่ยไว้ทัน ร่างนั้นแกร่งมั่นคง ต่างจากวงตาที่กลับดำคล้ำราวคนอดนอนมาหลายคืน

“ระวังหน่อยสิ” น้ำเสียงทุ้มเข้ม กล่าวเรียบ ๆ แต่กลับแฝงน้ำหนักจนหมิงชุนสุ่ยเงยหน้าขึ้นสบตาดวงตาของทั้งสองประสานกันครู่หนึ่ง

คู่หนึ่งดื้อรั้นเอาแต่ใจ คู่หนึ่งสงบเงียบขึงขัง

หมิงชุนสุ่ยเบือนหน้าออกทันที พลักแขนอีกฝ่ายเบา ๆ “ข้าไม่เป็นอะไร ปล่อยข้าได้แล้วจะจับไว้อีกนานรึไม่” น้ำเสียงแข็งกระด้าง แฝงความดื้อดึง ก่อนที่เขาจะพลักชายหนุ่มแปลกหน้าออกแล้วถอยไปยืนอย่างมั่นคง

เจียวจ้านเห็นก็พลันรีบก้าวเข้ามาตรวจดูความเรียบร้อย “คุณชาย ท่านเจ็บตรงไหนหรือไม่ขอรับ”

“ข้าไม่เป็นไร!” หมิงชุนสุ่ยตอบทันควัน พลางสะบัดชายแขนเสื้อปฏิเสธ

ชายแปลกหน้านิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยเสียงเรียบ“เจ้าเดินเหม่อ หากครั้งหน้าชนคนที่ไม่ไว้หน้า อาจไม่ใช่แค่เซล้มง่าย ๆ เช่นนี้”

หมิงชุนสุ่ยหันขวับไปมองคู่กรณีด้ยแววตาแข็งกร้าว“เจ้ากำลังสั่งสอนข้าหรือ? ข้าเดินของข้ามาดีๆ เจ้าต่างหากที่โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ ข้าเดินมาทางตรงเจ้าต่างหากที่มาจากหัวมุมก็ควรที่จะหยุดดูคนมิใช่หรือ”

ชายแปลกหน้ามิได้ตอบทันที แต่สายตาที่ทอดมองยังคงแน่วแน่ เย็นลึกดั่งบึงน้ำยามราตรี

เจียวจ้านมองสถานการณ์แล้วรีบโค้งศีรษะให้ชายแปลกหน้าเป็นจังหวะเดียวกับที่สายตาของเจียวจ้านพลันสังเกตเห็นป้ายบอกตำแหน่งที่ห้อยอยู่บนเอวของอีกฝ่าย“คุณชายกล่าวเช่นนี้ไม่ดีเลยนะขอรับ ต้องขอโทษแทนคุณชายของข้าด้วยเขากำลังอารมณ์ไม่ดีบางครั้งก็พูดแรงไปบ้าง หวังว่าท่านจะอภัย”

ชายหนุ่มชุดเข้มเพียงยกมือขึ้นเล็กน้อย เหมือนปัดความแล้วเอ่ย“ช่างเถิด ข้าก็ไม่ได้เป็นอะไร”

หมิงชุนสุ่ยกัดริมฝีปากแน่น สีหน้าไม่ยอมอ่อนลงง่าย ๆ แต่ไม่กล้าโต้เถียงต่อเพราะผู้คนเริ่มหันมามอง จึงสะบัดหน้าหนีไปอีกทางอย่างหัวเสีย

         “ทำไมต้องขอโทษด้วยก็ไม่รู้”หมิงชุนสุ่ยบ่นงึมงัมแต่ก็ดังพอที่จะให้คู่กรณีของตนได้ยิน

           “คุณชายทำแบบนี้ไม่น่ารักเลยขอรับ รีบขอโทษคุณชายท่านนี้เถิดขอรับ”เจียวจ้านยังคงกล่าวด้วยความใจเย็นพยายามคลี่คลายเหตุการณ์ตรงหน้าเพื่อไม่ให้สถานการณ์ยิ่งแย่มากไปกว่านี้

         "ข้าไม่ขอโทษ ข้าไม่ได้ผิดจักขอโทษทำไม"

“ต่อไม่ทางเราไม่ผิดแต่เมื่อเกิดอุบัติเหตุข้นก็ควรขอโทษนะขอรับ”

หึ”

“ข้าว่าคนติดตามของเจ้ากล่าวถูกนะ บางทีเจาควรรับฟังบ้างบางคนก็มิได้ใจเย็นหากโชคไม่ดีเจอเข้ากับคนไม่ยอม เจ้าอาจจะเป็นอันตราได้ ยิ่งเจ้า…”ชายแปลกหน้าเว้นช่วงไปเล็กน้อยพลางมองพิจารณาชายหนุ่มอายุน้อยต้องหน้า “ตัวเล็กผอมบางราวกิ่งไผ่เช่นนี้คงสู้แรงใครไม่ได้”

“นี่!! เจ้าว่าข้าเตี้ยหรือ”

“ข้ายังมิได้กล่าวว่าเจ้าแม้แต่น้อย มีแต่เจ้าที่คิดไปเองทั้งนั้น”ชายหนุ่มในชุดอาภรณ์สีเข้มเอ่ยด้วยใบหน้าที่ยังคงนิ่งเพียงแต่มุมปากกลับยงขึ้นเล็กน้อยจนแทบไม่สังเกตเห็น

“นี่!!! เจ้า เจ้าๆ เจ้ามันคนนิสัยไม่ดี”หมิงชุนสุ่ยยกมือขึ้นชี้หน้าอีกฝ่าย

“เรียกเจ้าๆ เช่นนี้ไม่สุภาพเลยคุณชายน้อย ที่บ้านมิได้สอนมารยาทให้รือว่าการเรียกและชี้หน้าผู้อื่นนั้นเป็นการเสียมารยาท”ไม่ว่าเปล่ามือหนาคว้าจับปลายนิ้วที่กำลังชี้หน้าตนอยู่ให้เบี่ยงออกไปทางอื่นโดยที่ดวงตาสเข้มยังคงจับจ้องท่าทีหัวเสียของคุณชายน้อยเบื้องหน้าไม่วางตา

เจียวจ้านที่พยายามที่จะไกล่เกลี่ยเหตุการณ์เบื้องหน้าเมื่อเห็นก็ยิ่งรู้สึกลำบากใจจนทำอะไรไม่ถูกเพราะรู้ว่าเจ้าหน้าตนนั้นกำลังอารมณ์พุ่งสูงจนแทบจะระเบิดอยู่ร่อมร่อ

“เจ้า! กล้าลามปามถึงครอบครัวข้าเลยหรือจะเกินไปแล้วนะ”

“เรียกเจ้าๆอยู่ได้ ข้ามีชื่อนะ ข้าชื่อจ้งชิง”

“ใครอยากรู้กัน!”หมิงชุนสุ่ยกล่าวกระแทกเสียงพยายามดึงนิ้วของตนออกจากมือของอีกฝ่ายแต่ก็ไม่เป็นผลไม่รู้ว่ามืออีกฝ่ายมันเป็นตรวนเหล็กหรือไงถึงได้ดึงไม่ออกเสียที “ปล่อยมือข้านะ ไม่งั้นข้าจะร้องให้คนช่วยจริงๆด้วย! เรียกทหารให้มาจับเจ้า”

“จับข้อหาอันใดเล่า ข้ายังไม่ได้ทำอะไรเจ้าสักนิดมีแต่เจ้าที่กล่าวเสียมารยาทกับข้า”

คะ..คุณชายท่านปล่อยมือคุณชายของข้าเถิดขอรับ ข้ารู้ว่าท่านก็ไม่ได้อยากให้มันวุ่นวาย”เจียวจ้านรีบพุ่งตัวเข้าไปแทรกพยายามไกล่เกลี่ย

“เห็นแก่ผู้ติดตามเจ้าขอร้องละนะ”จ้งชิงปล่อยนิ้วมืออีกฝ่ายออกตามคำขอ หากแต่ความหงุดหงิดของหมิงชุนสุ่ยนั้นพุ่งสูงจนยากจะดับ

ไอ้คนบ้าหน้าเหมือนคนติดฝิ่น โรคจิต นิสัยเสีย!”ทันทีที่มือของนเองเป็นอิสระชายหนุ่มก็พลันล้วงหยิบห่อขนมเฉียวกั่วปาใส่หน้าอีกฝ่ายอย่างแม่นยำก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินจ้ำหนีไปอีกทางทั้งอย่างนั้น

เจียวจ้านที่เห็นเหตุการณ์ยืนมองอย่างตกใจก่อนที่เขาจะรีบก้มหัวขอโทษแทนผู้เป็นนายแล้วจึงรีบหันหลังวิ่งตามหายของตนไปทันที "คุณชาย รอข้าด้วยขอรับ คุณชายยย!!!"

ด้านจ้งชิงที่ถูกห่อขนมปาใส่หน้าโดยไม่ทันได้ตั้งตัวก็ยืนนิ่งไปก่อนจะก้มมองขนมที่ร่วงตกลงมาบนมือด้วยสีหน้าฉงน “ขนมเฉียนกั่ว? หึหึหึ ช่างเป็นการโจมตีที่น่าเอ็นดูเสียจริง"จ้งชิงกล่าวกับตนเองพลางหยิบเอาขนมที่คอนข้างมีความหมายขัดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเข้าปากตนเองและมองตามแผ่นหลังของคุณชายน้อยจอมเอาแต่ใจที่ค่อยๆ หายไปในฝูงชน




ลาภลอย (ไม้) - มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่


สนทนาทั่วไป - เว่ยชิง +5 ความสัมพันธ์

หัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน +20 ความสัมพันธ์

  ขนมว่างเกรดม่วง (ขนมเฉียนกั่ว) +15 ความสัมพันธ์

อาหารปรุง ได้โบนัส +5 ความสัมพันธ์



@Watcher



แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-10] เว่ย ชิง เพิ่มขึ้น 45 โพสต์ 2025-10-4 11:58
โพสต์ 20941 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2025-10-3 22:49
โพสต์ 20,941 ไบต์และได้รับ +6 คุณธรรม จาก พัดคุณชาย  โพสต์ 2025-10-3 22:49
โพสต์ 20,941 ไบต์และได้รับ +5 EXP +15 คุณธรรม +8 ความโหด จาก ลาภลอย  โพสต์ 2025-10-3 22:49
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
หมวกถังเจียน
ผีผา
พัดคุณชาย
ลาภลอย
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x2
x2
x2
x2
x2
x1
x1
x10
x10
x30
x4
x10
x27

1

กระทู้

91

ตอบกลับ

1161

เครดิต

ผู้ใฝ่รู้

พลังน้ำใจ
888
ตำลึงทอง
39
ตำลึงเงิน
114
เหรียญอู่จู
9349
STR
0+6
INT
0+1
LUK
0+5
POW
0+0
CHA
20+5
VIT
5+7
คุณธรรม
144
ความชั่ว
697
ความโหด
1566
โพสต์ 2025-10-4 14:17:03 | ดูโพสต์ทั้งหมด
วันที่ 04 เดือน 9 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
เวลา 5.30 - 6.30 น.


แสงแรกของวันค่อยๆ เลื่อนผ่านเส้นขอบฟ้าเหนือหลังคาแหลมของตลาดตะวันออกในนครฉางอาน เม็ดแสงสีส้มอ่อนผสมผสานกับไอหมอกบาง ๆ ที่ยังคลุมตัวตลาดไว้เหมือนผ้าห่มบางๆ ของธรรมชาติ กลิ่นความชื้นของดินเหนียวและกลิ่นอบอวลของเครื่องเทศที่แม่ค้าตั้งเตาเผายังไม่แรงเท่าความหนาวเหน็บยามเช้า แต่ก็ทำให้ตลาดค่อยๆ มีชีวิตขึ้นทีละน้อย


ริมซอกมุมเกวียนเก่าไม้ผุ ผ้าขี้ริ้วของจี เทียนเต้าโปรยลงบนพื้นดินกรวดทรายหยาบที่เย็นเฉียบ เขายังคงนั่งอยู่ในท่าขัดสมาธิ ดวงตาแดงเรื่อแม้เพิ่งตื่น แต่แววตานั้นยังเต็มไปด้วยความตื่นตัวแม้ร่างกายจะผอมแห้งและเสื้อผ้าผุพังโอบกอดร่างไว้แบบไม่มิดชิดพอที่จะปกป้องความหนาว


บรรยากาศรอบตัวเริ่มมีเสียงฝีเท้าค่อย ๆ ดังใกล้เข้ามา เสียงนุ่มนวลไม่เร่งรีบ เหมือนคนที่เดินด้วยความมั่นคงแต่ใจสงบ ท่ามกลางเสียงเจรจาและรอยยิ้มจากแม่ค้า พ่อค้าในตลาดที่เริ่มเปิดร้านและจัดเตรียมของขาย จื่อหลิงภิกษุหนุ่มในจีวรเก่าคร่ำคร่าก้าวผ่านฝูงชน พร้อมบาตรใบเล็กที่สั่นไหวตามจังหวะก้าวของท่าน


ดวงตาของจื่อหลิงมองเห็นชายแก่ที่นั่งอยู่ใกล้ซากเกวียน ไฟในดวงตาเจ้าของเครารุงรังนั้นมีความผิดแผกจากผู้คนรอบข้าง ดวงตาที่เหมือนสะท้อนความเหนื่อยล้า แต่ยังซุกซ่อนความอบอุ่นบางอย่างไว้เบื้องหลังความเหงาอย่างลึกซึ้ง


จี เทียนเต้าค่อย ๆ ลุกขึ้นพิงซากเกวียน ปัดฝุ่นผงและเศษขนมไหมฟ้าสีนวลที่หล่นอยู่ข้างกาย ก่อนจะย่อตัวลงใกล้กับจื่อหลิง ภายในมือมีห่อขนมไหมฟ้าสีฟ้าสดใสที่เขาซื้อจากแม่ค้าข้างตลาดในราคาถูกแสนถูก แต่สำหรับเขา นี่คือสมบัติชิ้นเล็กที่มีคุณค่ามากกว่าสิ่งใด


“ไต้ซือ” จี เทียนเต้าพูดด้วยเสียงแหบพร่า รอยยิ้มเกือบแห้งผากเผยออกมา “เจ้ารับเอาขนมไหมฟ้านี้ไปด้วยเถิด ข้าเห็นมันน่าจะถูกใจเจ้ามากกว่าก้อนหินที่ข้ามักจะเก็บไว้”



จื่อหลิงหยุดก้าว หันมามองชายแก่ในชุดผ้ารุงรัง มือขาวบางที่ถือบาตรค่อยๆ ยื่นออกมา เขามองขนมไหมฟ้าพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ที่ทำให้ใบหน้าดูอ่อนโยนขึ้น “ขอบใจ เจ้าไม่จำเป็นต้องให้สิ่งใดแก่ข้าเลย แต่ข้ารับไว้ด้วยใจ”



จี เทียนเต้าหัวเราะเบา ๆ อย่างเงียบงัน “บางทีของเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ ก็เป็นเสมือนแสงสว่างในยามที่ความมืดดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด ข้าคิดว่า เจ้าเองก็คงต้องการแสงสว่างเช่นกัน”



จื่อหลิงหยิบขนมไหมฟ้าขึ้นมาดู พลางจ้องลึกลงในดวงตาของจี เทียนเต้า “เจ้าก็เหมือนกัน เจ้าเหนื่อยล้าและเจ็บปวดจากโลกนี้มากมาย แต่เจ้ายังยืนหยัดอยู่ ข้าเห็นในตัวเจ้าความกล้าหาญที่ไม่ใช่ใครก็มีได้”



“ข้าอาจไม่ใช่คนดี ไม่มีพลัง ไม่มีวิชาต่อสู้ แต่ข้าก็มีความตั้งใจจะอยู่ตรงนี้ รอคอยวันที่ความเจ็บปวดจะลดลง” จี เทียนเต้าพูดเสียงแผ่ว “และข้าอยากจะอยู่เคียงข้างเจ้า เพื่อช่วยแบ่งเบาความกังวลนั้น”



สายลมอ่อน ๆ พัดผ่าน ทำให้ใบไม้และเศษผงเล็ก ๆ ลอยละล่องระหว่างทั้งสองคนในเช้าที่เงียบสงบนี้ จื่อหลิงพยักหน้าเงียบ ๆ เหมือนยืนยันความรู้สึกในใจ “ข้าไม่เคยพูดเรื่องนี้กับใคร แต่นับจากนี้ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าเดินคนเดียวอีกต่อไป”



ใต้แสงอาทิตย์อ่อน ๆ ที่เริ่มทอดยาวผ่านตลาดแห่งนี้ ชายทั้งสองเงียบสนิท แต่ในความเงียบนั้นมีเสียงของหัวใจที่ใกล้กัน และความหวังเล็ก ๆ ที่ก่อตัวขึ้นท่ามกลางความมืดมิดของชีวิต

_____________________________________________________________________________________________________________________
[NPC-21]  ไต้ซือจื่อหลิง
พูดคุยประจำวัน : ความสัมพันธ์ +5
หัวมาร โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+15
+20 ความสัมพันธ์ ขนมว่างเกรดทอง (ขนมไหมฟ้า)

อาหารปรุง ได้โบนัส +5 เพิ่ม




แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-21] ไต้ซือจื่อหลิง เพิ่มขึ้น 45 โพสต์ 2025-10-4 14:24
โพสต์ 10179 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2025-10-4 14:17
โพสต์ 10,179 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +2 ความโหด จาก กระบี่คู่สลักจันทรา  โพสต์ 2025-10-4 14:17
โพสต์ 10,179 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +4 ความชั่ว +5 ความโหด จาก เกราะทองแดง  โพสต์ 2025-10-4 14:17
โพสต์ 10,179 ไบต์และได้รับ +4 EXP [ถูกบล็อค] คุณธรรม +4 ความโหด จาก เครื่องรางไหมถักแห่งมิตรภาพ  โพสต์ 2025-10-4 14:17
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบี่คู่สลักจันทรา
เกราะทองแดง
เครื่องรางไหมถักแห่งมิตรภาพ
มีดแล่เนื้อ
หมวกไผ่ผ้าคลุมดำ
พู่กันคัดอักษร
น่ารัก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x1
x1
x1
โพสต์ 2025-10-5 13:06:36 | ดูโพสต์ทั้งหมด
วันที่ 3 จิ่วเยว่ รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามเหม่า (เวลา 06.00 - 06.30 น.)

แสงอรุณรำไรทาบทาท้องฟ้ายามเช้าตรู่ของนครหลวงฉางอัน สาดส่องผ่านบานหน้าต่างที่ทำจากกระดาษเหนียวบางเบาของเรือนเล็ก ๆ ที่เงียบสงบ ซูเหยาลุกจากแท่นไม้ที่ปูด้วยฟูกผ้าฝ้ายยัดนุ่นอย่างแผ่วเบา นางสวมทับด้วยเสื้อคลุมผ้าฝ้ายสีหม่นทับชุดชั้นในสีขาวที่สะอาดสะอ้าน เส้นผมยาวสลวยสีดำขลับถูกรวบขึ้นอย่างง่าย ๆ ด้วยปิ่นไม้แกะสลักรูปใบไผ่เพียงอันเดียว ซึ่งเป็นลักษณะที่บ่งบอกถึงความมัธยัสถและการไม่ประดับประดาอย่างสตรีชนชั้นสูงทั่วไป

ในครัวเล็ก ๆ ที่มีกลิ่นอายของสมุนไพรเจือจางอยู่เสมอ ซูเหยาเริ่มเตรียมภัตตาหารสำหรับใส่บาตรในเช้าวันนี้อย่างพิถีพิถัน มือเรียวของนางบรรจงตักน้ำบริสุทธิ์จากบ่อที่หลังบ้านมาต้มในกาเหล็กบนเตาไฟที่ก่อด้วยถ่านไม้ไผ่ที่ให้ความร้อนสม่ำเสมอ กลิ่นหอมกรุ่นของน้ำชาลอยฟุ้งขึ้นมาทันทีที่ แต่สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือข้าวอบหอมหมื่นลี้ที่ถูกอบในหม้อดินเผาเคลือบอย่างพิถีพิถันตั้งแต่เมื่อคืน ข้าวเมล็ดสวยงามสีขาวนวลถูกคลุกเคล้ากับดอกกุ้ยฮวาสีทองอ่อน ๆ ที่ถูกเก็บเกี่ยวในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและนำมาตากแห้งอย่างดี เมื่อซูเหยาเปิดฝาหม้อไอน้ำสีขาวขุ่นที่อบอวลด้วยกลิ่นหอมหวานละมุนละไมของดอกกุ้ยฮวาและกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของข้าวสุกก็ลอยขึ้นมาแตะจมูกทันที 

เมื่อทุกอย่างพร้อม ซูเหยาก็จัดแจงใส่ถาดไม้และหิ้วตะกร้าหวายสานอย่างระมัดระวัง นางเดินออกจากประตูโรงหมอที่ปิดล็อกอย่างแน่นหนา มุ่งหน้าไปยังตลาดตะวันออกซึ่งเป็นย่านการค้าที่มีความคึกคักตั้งแต่เช้าตรู่ แสงแดดยามเช้ายังคงอ่อนโยนพอที่จะไม่ทำให้รู้สึกร้อน ทว่าเพียงพอที่จะทำให้เห็นกลุ่มฝุ่นละอองที่ลอยฟุ้งอยู่ในอากาศได้อย่างชัดเจน นางเงยหน้าขึ้นมองกลุ่มเมฆที่ลอยสูงอยู่เบื้องบน ซึ่งเป็นทัศนียภาพเดียวที่ดูเหมือนจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามความวุ่นวายของโลกมนุษย์

ไม่นานนักเงาร่างสีจีวรสีเทาเข้มก็ปรากฏขึ้นจากทางทิศใต้ ไต้ซือจื่อหลิงกำลังเดินบิณฑบาตมาอย่างช้า ๆ มือถือบาตรขนาดใหญ่ที่ถูกขัดจนขึ้นเงา ซูเหยารีบเดินเข้าไปหาไต้ซืออย่างนอบน้อมที่สุด นางคุกเข่าลงเล็กน้อยและน้อมคำนับอย่างเคารพพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนและนุ่มนวล

"นิมนต์เจ้าค่ะ"

ไต้ซือจื่อหลิงหยุดเดิน และเมื่อท่านมองเห็นซูเหยา ดวงตาที่ฉายแววแห่งปัญญาก็ทอประกายแห่งความยินดี 

"โยมซู ไม่ได้พบกันเสียนาน อาตมาได้ยินข่าวเล่าลือจากเหล่าพ่อค้าวานิชในตลาดว่า ตอนนี้โยมได้กลายเป็นหมอใหญ่ของโรงหมอเจิ้งเทียนแล้ว”

เมื่อได้ยินคำกล่าวชมเชยของไต้ซือ รอยยิ้มที่เคยปรากฏบนใบหน้าของซูเหยาก็เลือนหายไปทันที ใบหน้าของนางค่อย ๆ แสดงออกถึงความเศร้าสร้อยเล็กน้อย ดวงตาของนางก้มลงมองพื้นดินที่เต็มไปด้วยฝุ่นผง เหมือนกำลังจ้องมองความยุ่งเหยิงในจิตใจของตนเองที่ยากจะแก้ไข นางถอนหายใจออกมาอย่างเงียบเชียบ ราวกับว่าความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กลับกลายเป็นภาระอันหนักอึ้งบนบ่าของนางและแลกมาด้วยชีวิตของท่านหมอเจิ้ง

ไต้ซือจื่อหลิงเป็นผู้มีสติปัญญาและสังเกตการณ์ได้อย่างลึกซึ้ง ท่านมองเห็นความหนักอึ้งในจิตใจของสตรีผู้นี้ทันที ท่านยิ้มอย่างอ่อนโยนอีกครั้ง และกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เน้นหนักไปทีละคำ เพื่อให้ซูเหยาได้ตรึกตรองตาม 

"โยมซู ความทุกข์นั้นเกิดขึ้นจากความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่เที่ยงแท้ แม้โยมจะได้ช่วยชีวิตผู้คนมากมาย ได้รับการยกย่องสรรเสริญ แต่วิชาแพทย์นั้นก็มิอาจรั้งความตายไว้ได้เสมอไป ความสำเร็จก็มาพร้อมกับความคาดหวัง และความล้มเหลวก็มาพร้อมกับความโศกเศร้า สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นกระแสของโลกธรรมที่หมุนเวียนไปมาไม่หยุดหย่อน…การแสวงหาความสงบที่แท้จริงมิใช่อยู่ที่การช่วยเหลือผู้คนภายนอกอย่างเดียว แต่ต้องหาจากภายใน อาตมาเห็นว่าจิตใจของโยมนั้นมีคลื่นลมแรงนัก ควรหาเวลาที่จะหยุดพักและทำความสงบ โยมลองนั่งสมาธิบำเพ็ญเพียรดูเถิด เพื่อให้จิตใจได้พักจากความวุ่นวายภายนอก และได้มองเห็นความจริงของสรรพสิ่งอย่างแจ่มแจ้ง"

ไต้ซือจื่อหลิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความหวังก็ปรากฏบนใบหน้าท่าน 

"อาตมามีสถานที่หนึ่งที่อยากแนะนำให้โยมลองไปฝึกบำเพ็ญดู นั่นคือลานกระบี่เหินมรรคา ที่เขาหัวซาน ที่นั่นเป็นสถานที่ที่เงียบสงบยิ่งนัก มีอากาศบริสุทธิ์ มีทิวทัศน์ของป่าสนโบราณและทะเลหมอกอันงดงาม และมีพลังธรรมชาติที่เหมาะแก่การฝึกฝนจิตใจเป็นอย่างยิ่ง โยมจะค้นพบความสงบที่โยมกำลังตามหา"

ซูเหยาเงยหน้าขึ้นมาทันที ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความซาบซึ้งและแสงแห่งความหวังที่ริบหรี่ 

"ขอบพระคุณท่านไต้ซือสำหรับคำแนะนำอันประเสริฐนี้เจ้าค่ะ ข้าน้อยจะลองปฏิบัติตามคำแนะนำของท่านอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ" นางกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แน่วแน่ขึ้นเล็กน้อย

นางรีบวางอาหารที่เตรียมมาอย่างประณีตลงในบาตรของไต้ซือ ไต้ซือจื่อหลิงรับบาตรด้วยความเคารพ แล้วกล่าวให้พรด้วยเสียงที่ก้องกังวานและเปี่ยมด้วยอำนาจทางธรรม 

"ขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และบุญกุศลที่โยมได้สั่งสมมา จงคุ้มครองให้โยมมีสติ มีปัญญา และค้นพบความสงบที่แท้จริงแห่งตน ขอให้การเดินทางสู่เขาหัวซานของโยมเป็นไปโดยสวัสดิภาพเถิด"

กล่าวจบแล้ว ไต้ซือจื่อหลิงก็ก้าวเดินต่อไปอย่างช้า ๆ และสง่างามตามเส้นทางบิณฑบาตของท่าน ร่างกายของท่านดูเหมือนจะกลืนหายไปในความคึกคักของตลาดตะวันออก ทิ้งไว้เพียงกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกกุ้ยฮวาจากข้าวอบในบาตร และคำแนะนำที่ล้ำค่าที่ดังก้องอยู่ในใจของซูเหยา



ศาสตร์การบำเพ็ญ
สนทนากับ NPC สายบำเพ็ญเรื่องการบำเพ็ญ: ได้รับ +5 โบนัส และ +15 คุณธรรม


[NPC-21] มอบ ข้าวอบหอมหมื่นลี้ และ ชาลิ่วอันกวาเพี่ยน ให้ ไต้ซือจื่อหลิง
+25 ความสัมพันธ์ อาหารเกรดทอง + ชา/สุราเกรดทอง (+15)
อาหารประเภทที่กำกับไว้ในคำอธิบายว่า อาหารปรุง ได้โบนัส +5 
โรลเพลย์พูดคุยประจำวัน ได้รับความสัมพันธ์+5 แต้ม
หัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20
โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม

@Watcher   

แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับ +15 คุณธรรม โพสต์ 2025-10-6 13:18
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-21] ไต้ซือจื่อหลิง เพิ่มขึ้น 80 โพสต์ 2025-10-6 13:18
โพสต์ 21817 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-10-5 13:06
โพสต์ 21,817 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] ความชั่ว +10 ความโหด จาก หมวกถังเจียน  โพสต์ 2025-10-5 13:06
โพสต์ 21,817 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] ความชั่ว +10 คุณธรรม จาก ศาสตร์การบำเพ็ญ  โพสต์ 2025-10-5 13:06

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตบะฝึกฝน +5 ย่อ เหตุผล
Watcher + 5

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ชุดทิวาเมฆาล่อง
หมอพเนจร
หมวกถังเจียน
ศาสตร์การบำเพ็ญ
ตำราสมุนไพรหายาก
แหวนดาราจรัส(D)
จี้หยกรูปปลา
มีดแล่เนื้อ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x8
x3
x6
x4
x1
x8
x13
x50
x60
x60
x1
x2
x2
x10
x6
x58
x34
x12
x18
x1
x14
x1
x100
x2
x2
x442
x1
x32
x2
x2
x1
x20
x20
x20
x20
x10
x10
x6
x23
x24
x20
x4
x2
x30
x15
x5
x9
x10
x4

1

กระทู้

91

ตอบกลับ

1161

เครดิต

ผู้ใฝ่รู้

พลังน้ำใจ
888
ตำลึงทอง
39
ตำลึงเงิน
114
เหรียญอู่จู
9349
STR
0+6
INT
0+1
LUK
0+5
POW
0+0
CHA
20+5
VIT
5+7
คุณธรรม
144
ความชั่ว
697
ความโหด
1566
โพสต์ 2025-10-5 17:29:33 | ดูโพสต์ทั้งหมด
วันที่ 05 เดือน 9 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
เวลา 5.30 - 6.30 น.


แสงจันทร์เจือจางกลายเป็นเงาสีเงินจาง ๆ บนพื้นหินเย็นเฉียบของลานหลังโรงเตี๊ยม จี เทียนเต้าล้างหน้าอย่างช้า ๆ น้ำจากโอ่งเก่าหยดลงพื้นเป็นจังหวะ กลิ่นดินชื้นในยามเช้าตรู่ ผสมกับกลิ่นสบู่สมุนไพรเก่าที่เขาแบ่งใช้มานานหลายเดือน เขาเช็ดหน้าด้วยเศษผ้าบาง หวีผมข้างหูทั้งที่ไม่มีใครต้องมอง และใช้มือลูบเคราอย่างลังเล จะโกนดีหรือไม่โกนดี เขาเลือกจะเก็บเคราไว้ ท่ามกลางความไม่แน่ใจ บางทีเครารุงรังนี่แหละ เป็นสิ่งที่ทำให้เขาดูต่างจากชายคนอื่น หรือต่างจากภิกษุรูปนั้น


เขาเปิดห่อผ้าออก ขนมไหมฟ้า ที่เขาอดมื้ออดค่ำเพื่อแลกมาจากพ่อค้าคนหนึ่งเมื่อวาน มันเป็นขนมสีขาวอมฟ้า ทอเป็นเส้นละเอียดดุจสายไหมแสงจันทร์ หอมหวานแบบที่ติดอยู่ในปลายลิ้นแม้ยังไม่ได้ลิ้มลอง เขาไม่เคยกินของแบบนี้ แต่เขาเตรียมมันไว้ไม่ใช่ให้ตัวเอง


เสียงรองเท้าฟางเบา ๆ ก้าวย่ำบนพื้นกรวด จี เทียนเต้าเงยหน้าขึ้นพอดีกับที่ร่างในจีวรเก่าแก่สีเทาก้าวผ่านม่านแสงอรุณมาอย่างเงียบงัน


ไต้ซือจื่อหลิง ยืนอยู่ตรงหน้า ดั่งภาพฝันของคืนเมื่อวานที่ยังไม่จาง ดวงตาของภิกษุยังคงสงบนิ่งเหมือนทุกวัน แต่มันมีบางอย่างแฝงอยู่ลึกกว่านั้น บางอย่างที่เหมือนจะ รอคอย ไม่แพ้เขา


“อรุณสวัสดิ์ ท่านจื่อหลิง” เสียงของจี เทียนเต้าออกแหบเล็กน้อย เขายื่นห่อผ้าให้ ข้างในคือขนมไหมฟ้าที่เพิ่งตากลิ่นหญ้าอ่อนยามเช้า



“วันนี้ข้าทำความสะอาดมือก่อนจับมันนะ” เขาหัวเราะแห้งเบา ๆ “จะได้ไม่ทำให้รสหวานกลายเป็นเค็มเกลือ”



จื่อหลิงไม่ได้พูดอะไรทันที เขามองขนมในห่ออย่างพิจารณา ก่อนเหลือบตามองใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยับของชายผู้มอบให้ นิ้วเรียวของภิกษุเอื้อมไปแตะขอบห่ออย่างเบา


จี เทียนเต้ารู้สึกถึงปลายนิ้วนั้น ไม่ได้สัมผัสกันจริง แต่เหมือนปลายนิ้วนั้น แตะอยู่ที่ใจเขา


จื่อหลิงเอ่ยเบา ๆ “เจ้าอุตส่าห์เก็บของเช่นนี้ไว้ถวาย ทั้งที่ตัวเองก็ยังหิวอยู่”





จี เทียนเต้ายักไหล่ พูดเสียงเบาแต่ทิ่มแทง “ก็เพราะข้าหิว ข้าถึงรู้ว่าของบางอย่าง ควรให้คนที่ มีค่าพอจะอิ่มมัน มากกว่าข้า”



แววตาของจื่อหลิงสะท้อนแสงแดดเช้า หรือบางทีเป็นประกายอย่างอื่นที่จี เทียนเต้าไม่กล้ามองตรง ๆ เขายกมือรับขนมไหมฟ้ามาแนบอก ก้มศีรษะให้เล็กน้อย ก่อนพูดคำที่ไม่ได้มีในตำราธรรม แต่สะเทือนใจคนที่เฝ้ารอมากกว่าคำอวยพรใด ๆ


“ขอบใจ มากกว่าที่เจ้าคิด”



จี เทียนเต้ามองมือที่ว่างเปล่าของตัวเอง มือที่เคยสั่น มือที่เคยขอ มือที่ไม่เคยมีอะไรจะให้ วันนี้ มันเคยถืออะไรบางอย่างที่อ่อนโยนที่สุดในชีวิต ไม่ใช่ขนม แต่เป็นโอกาส โอกาสที่จะอยู่ในสายตาของใครสักคน ที่มองเขาด้วยความเข้าใจ


_____________________________________________________________________________________________________________________

[NPC-21]  ไต้ซือจื่อหลิง
พูดคุยประจำวัน : ความสัมพันธ์ +5
หัวมาร โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+15
+20 ความสัมพันธ์ ขนมว่างเกรดทอง (ขนมไหมฟ้า)
อาหารปรุง ได้โบนัส +5 เพิ่ม

แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-21] ไต้ซือจื่อหลิง เพิ่มขึ้น 45 โพสต์ 2025-10-5 19:30
โพสต์ 8563 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2025-10-5 17:29
โพสต์ 8,563 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +2 ความโหด จาก กระบี่คู่สลักจันทรา  โพสต์ 2025-10-5 17:29
โพสต์ 8,563 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +2 ความชั่ว +2 ความโหด จาก เกราะทองแดง  โพสต์ 2025-10-5 17:29
โพสต์ 8,563 ไบต์และได้รับ +2 EXP [ถูกบล็อค] คุณธรรม +2 ความโหด จาก เครื่องรางไหมถักแห่งมิตรภาพ  โพสต์ 2025-10-5 17:29
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบี่คู่สลักจันทรา
เกราะทองแดง
เครื่องรางไหมถักแห่งมิตรภาพ
มีดแล่เนื้อ
หมวกไผ่ผ้าคลุมดำ
พู่กันคัดอักษร
น่ารัก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x1
x1
x1

1

กระทู้

91

ตอบกลับ

1161

เครดิต

ผู้ใฝ่รู้

พลังน้ำใจ
888
ตำลึงทอง
39
ตำลึงเงิน
114
เหรียญอู่จู
9349
STR
0+6
INT
0+1
LUK
0+5
POW
0+0
CHA
20+5
VIT
5+7
คุณธรรม
144
ความชั่ว
697
ความโหด
1566
โพสต์ 2025-10-6 05:44:33 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 06 เดือน 9 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11

เวลา 5.30 - 6.30 น.


ฟ้ายังไม่ทันสว่างเต็มที่ แต่จี เทียนเต้า ตื่นแล้ว เขานั่งพับเพียบอยู่หน้ากองไม้เล็กๆ ที่ยังคงอบอุ่นจากไฟเมื่อคืน มือกร้านหยาบกำลังลูบขอบกล่องไม้ไผ่กล่องเล็ก ที่เขาทำเองเมื่อคืนด้วยความตั้งใจที่สุดในรอบปี ในกล่องนั้น ขนมบัวหิมะสองชิ้น เขาได้มาจากแม่ค้าชาวซอกเดียนผู้แก่ชราเมื่อวาน เธอให้ราคาถูกกว่าปกติ เพราะเห็นเขาจ้องมันนานเกินไปโดยไม่กล้าซื้อ ขนมกลมแป้งบาง ด้านในสอดไส้ถั่วหวานละเอียดที่หอมกลิ่นกุหลาบ แป้งบางจนแทบเห็นสีเงินของไส้ในทะลุออกมา ดุจหิมะที่ห่อเปลวอาทิตย์อ่อน เขาเคยได้ยินว่าขนมชนิดนี้นิยมใช้ถวายเทพ แต่วันนี้ เขาเตรียมไว้ถวายภิกษุรูปหนึ่ง ซึ่งมี สายตา ที่เขาไม่อาจลืม



ตลาดตะวันออกค่อยๆ คึกคัก พ่อค้าเริ่มเรียงผ้าไหม พ่อค้าชาวฮั่นสาลี่ตะโกนขายชา เครื่องหอมถูกจุดขึ้นในร้านประจำริมซุ้มโค้งสีแดง กลิ่นหญ้าค้างคืนคลุกคละกับกลิ่นอบเชย น้ำมันหอม และฝุ่นทรายของเช้าแรกแห่งฤดูเหมันต์



จี เทียนเต้าอยู่ตรงจุดนัดหมาย ไม่ใช่ที่นัดไว้ด้วยคำพูด แต่เป็นที่ที่เขารู้ว่าภิกษุรูปนั้นจะผ่านเสมอ เขากะระยะเวลาได้แม่นแล้ว จากประสบการณ์ที่เฝ้ามองมาหลายเดือน



เงาร่างของจีวรเก่าแก่ ปรากฏเป็นภาพแรกท่ามกลางแสงแดดอ่อนที่สาดลงระหว่างซุ้มผ้าสีเงิน ไต้ซือจื่อหลิงมาแล้ว เดินตรง สงบ ดวงตาสะอาดดังน้ำบ่อกลางป่า ไม่มีอารมณ์ใดให้ยึด



แต่จี เทียนเต้ารู้ว่า ความว่างเปล่านั่นไม่ใช่ความว่างเปล่ามันคือ พื้นที่ ที่เขาอยากจะเข้าไปยืน



ภิกษุหยุดยืนตรงหน้าเขา ไม่เร่ง ไม่ชะงัก จี เทียนเต้าลุกขึ้น ชูห่อผ้าผืนเล็กสองมือ ยื่นไปข้างหน้า ราวกับกลัวของที่อยู่ในนั้นจะเสียสมดุลหากวางเฉยๆ เสียงเขาเบา  อ่อนโยนกว่าทุกวัน ไม่ใช่การประชด ไม่ใช่การเล่นคำ เป็นเพียงน้ำเสียงของคนที่ อยากให้ใครสักคนรู้ว่าเขาเฝ้ารอ



“วันนี้มีบัวหิมะ ละเอียด หอม หวานพอดี ไม่ติดมือ ไม่ติดใจ แต่ถ้าจะติดใจก็แล้วแต่ท่าน”จื่อหลิงไม่ได้ยิ้ม แต่เขามองตา จี เทียนเต้ารู้ทันที วันนี้ภิกษุรับรู้มากกว่าที่พูด



“อาตมา รับไว้ด้วยเมตตา”เสียงของจื่อหลิงยังนุ่มเหมือนเคย แต่ในถ้อยคำนั้น มีความอบอุ่นบางอย่างที่ไม่ใช่แค่เมตตาทางวาจา เขายื่นบาตรออก รับห่อผ้าไว้เบา ๆ ดุจสัมผัสสิ่งเปราะบาง



จี เทียนเต้ามองปลายนิ้วที่แผ่วแตะผ้าห่อ ดั่งยอมให้อารมณ์บางอย่างไหลย้อนกลับมาในอก



“ข้า ตั้งใจเลือกมัน” เสียงเขาแผ่วลง “ไม่ใช่เพราะมันอร่อยที่สุด แต่เพราะข้าอยากให้ท่านลิ้มรสสิ่งที่ ไม่มีใครให้ข้า มาตลอดชีวิต”



จื่อหลิงเงียบครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า แล้วกล่าวเบาๆ ราวกับกลั่นกรองมาแล้วจากใจ



“ขนมนี้จะอยู่ในบาตรเพียงชั่วคราว แต่อาตมาจะจดจำ ความตั้งใจของเจ้า ไว้ในใจยาวนานกว่า”



เสียงฝีเท้าของจื่อหลิงค่อยๆ ห่างออกไป เหลือเพียงจี เทียนเต้าที่มองตามแผ่นหลังนั้น เหมือนมองไปยังเส้นขอบฟ้า เขายกมือแตะอกตนเอง รู้สึกถึงบางอย่างที่ยังไม่เคยลิ้มรส มันไม่หวานแต่มันอิ่ม



_____________________________________________________________________________________________________________________


[NPC-21]  ไต้ซือจื่อหลิง

พูดคุยประจำวัน : ความสัมพันธ์ +5

หัวมาร โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+15

+20 ความสัมพันธ์ ขนมว่างเกรดทอง (ขนมบัวหิมะ)

อาหารปรุง ได้โบนัส +5 เพิ่ม


แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-21] ไต้ซือจื่อหลิง เพิ่มขึ้น 45 โพสต์ 2025-10-6 13:28
โพสต์ 11432 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2025-10-6 05:44
โพสต์ 11,432 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +2 ความโหด จาก กระบี่คู่สลักจันทรา  โพสต์ 2025-10-6 05:44
โพสต์ 11,432 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +4 ความชั่ว +5 ความโหด จาก เกราะทองแดง  โพสต์ 2025-10-6 05:44
โพสต์ 11,432 ไบต์และได้รับ +4 EXP [ถูกบล็อค] คุณธรรม +4 ความโหด จาก เครื่องรางไหมถักแห่งมิตรภาพ  โพสต์ 2025-10-6 05:44
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบี่คู่สลักจันทรา
เกราะทองแดง
เครื่องรางไหมถักแห่งมิตรภาพ
มีดแล่เนื้อ
หมวกไผ่ผ้าคลุมดำ
พู่กันคัดอักษร
น่ารัก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x1
x1
x1
โพสต์ 2025-10-7 23:01:57 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 4 เดือน 10 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11

ยามโหย่ว เวลา 17.00 - 18.00 น.

╰┈➤ พบเจอเว่ยชิง


ตลาดตะวันออกแห่งฉางอัน ยามเย็นที่แสงอาทิตย์เริ่มเอนคล้อยเหนือยอดหลังคากระเบื้องสีหม่น ผู้คนขวักไขว่เต็มถนนหินปู เสียงเร่ขายของตะโกนแข่งกับเสียงระฆังยามโพล้เพล้ดังมาจากหอสูงไกล ๆ กลิ่นอบอุ่นของเกี๊ยวทอดผสมกับกลิ่นดอกเหมยจากร้านขายชาหอมลอยคลุ้งในอากาศอย่างน่ารื่นรมย์


เสวี่ยซีสวมชุดผ้าไหมสีอ่อน เขาเดินชมร้านรวงด้วยแววตาใสซื่อ เขาแอบหัวเราะคนเดียวเบา ๆ เมื่อระลึกถึงภาพเมื่อคืนก่อน ตอนที่จ้งชิงถูกเขาวาดรูปกระต่ายบนหน้าผาก แล้วโดนแก้คืนด้วยหนวดแมว จนสองคนหัวเราะกลิ้งในสวนเงียบ ๆ หลังโรงเตี๊ยมชางลั่งถิง 


“ดูท่าทางจะอารมณ์ดีจังนะ เสวี่ยซี” เสียงคุ้นหูดังขึ้นจากด้านหลัง


เมื่อหันไปก็เห็นร่างสูงในชุดผ้าฝ้ายสีน้ำเงินเข้มเดินตรงมาท่ามกลางฝูงชน จ้งชิงถือพัดไม้ไผ่ในมือ ดวงตาเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มอ่อน ๆ


“จ้งชิง!” เสวี่ยซีรีบเดินเข้าไปหา “ข้าไม่คิดว่าจะเจอเจ้าที่นี่อีก”


“ที่จริงข้าก็ไม่ได้ตั้งใจมาซื้อของหรอก” จ้งชิงตอบเรียบ “แค่เดินผ่านมา เห็นเจ้าก็เลย... ถือว่าฟ้าดลใจให้เจอกันอีก”


เสวี่ยซีหัวเราะเบา ๆ “ข้าว่าฟ้าคงอยากให้ข้าฝึกเพิ่มแน่เลย”


จ้งชิงหัวเราะในลำคอ “ก็ไม่แน่ แต่วันนี้ไม่ใช่เวลาฝึก ข้าแค่คิดว่าเจ้าคงควรได้พักบ้าง”


ทั้งคู่จึงเดินไปตามถนนสายหลักของตลาดตะวันออก ร้านขายเครื่องประดับแก้ววางเรียงรายอยู่ข้างทาง เด็ก ๆ วิ่งเล่นถือขนมปังอบในมือ เสียงดนตรีจากขลุ่ยไม้ดังจากร้านน้ำชาที่มุมถนน บรรยากาศอบอุ่นจนเสวี่ยซีรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบผ่อนคลายลง


“ข้าเพิ่งเข้าใจว่า” เสวี่ยซีพูดพลางมองฝูงชน “เมื่อวานก่อนตอนฝึกกับท่าน มันไม่ใช่เรื่องแค่ลมปราณหรือการเคลื่อนไหว แต่เหมือนเป็นเรื่องของ ‘สมาธิ’ และ ‘ใจ’ ด้วย”


จ้งชิงพยักหน้า “เจ้าคิดถูกแล้ว คนที่ฝึกยุทธ์โดยไม่เข้าใจใจตัวเอง ต่อให้ฝึกจนแข็งแกร่งก็เปล่าประโยชน์”


“แล้วเจ้าล่ะ” เสวี่ยซีถามด้วยความอยากรู้


คำถามนั้นทำให้จ้งชิงเงียบไปครู่หนึ่ง เขาแหงนมองท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้มแดง “ข้า... ยังเรียนรู้อยู่เหมือนกัน”


เสวี่ยซีฟังแล้วนิ่งไป ดวงตาอำพันสะท้อนแสงเย็นของยามตะวันตกดิน เขาเข้าใจความหมายของคำพูดนั้นดี โดยเฉพาะกับความลับที่เขาเก็บไว้ในใจ ‘เรื่องของเถียนเฟิง’ ที่ไม่มีใครรู้ ไม่มีแม้แต่จ้งชิง


หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เดินเล่นไปเรื่อย ๆ คุยเรื่องเล็กน้อย  ตั้งแต่การฝึกทรงตัวที่เสวี่ยซีล้มไปสามครั้งเมื่อคืนก่อน จนถึงเรื่องขนมแปลก ๆ ที่เสวี่ยซีเคยกินตอนเด็ก จ้งชิงฟังอย่างตั้งใจ ไม่เคยแทรกไม่เคยหัวเราะเยาะ มีเพียงรอยยิ้มบางที่ปรากฏเป็นระยะ


เสวี่ยซีหยุดมองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันมาหาอีกฝ่ายพร้อมถุงผ้าเล็กในมือ “นี่...” เขายื่นให้พร้อมรอยยิ้ม “ขนมหลี่โต้วเกา ทำจากถั่วแดงกับน้ำตาลปี๊บ ข้าเพิ่งซื้อมาจากร้านที่ปลายถนน”


จ้งชิงรับถุงผ้ามาด้วยสีหน้านิ่งแต่แววตาอบอุ่น “เจ้าซื้อมาให้ข้า?”


“ก็ถือว่าเป็นของตอบแทน ที่เจ้าช่วยสอนเมื่อวาน...” เสวี่ยซีพูดพลางหลุบตา “ถึงข้าจะยังฝึกไม่เก่งเท่าที่หวังไว้ แต่ข้าจะพยายาม”


“ไม่ต้องรีบหรอก” จ้งชิงพูดเสียงนุ่ม “การฝึกจริง ๆ ไม่ใช่เรื่องของเวลา แต่เป็นเรื่องของความต่อเนื่อง”


เสวี่ยซีพยักหน้าเงียบ ๆ ทั้งคู่ยืนเคียงกันอยู่ริมคลอง เสียงพ่อค้าเริ่มเก็บร้าน เสียงเด็กหัวเราะจางหายไปในลมเย็นของยามสนธยา


เมื่อเวลาล่วงเข้าค่ำ “คราวหน้า... เจ้าบอกว่าจะสอนข้าเรื่องพื้นฐานต่อสู้เพิ่มเติมใช่ไหม?”


“ใช่” จ้งชิงตอบ “แต่คราวหน้า เจ้าต้องเตรียมใจให้พร้อมกว่านี้ ข้าอาจไม่ใจดีเหมือนวันแรกแล้วนะ”


เสวี่ยซีหัวเราะเบา ๆ “ข้าจะพยายามไม่ร้องโอดครวญให้ฟังอีก”





✎ +5 ความสัมพันธ์สนทนาทั่วไป [NPC-10] เว่ย ชิง

หัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20

✎ โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม


✎ +15 ความสัมพันธ์ ขนมว่างเกรดม่วง (ขนมหลี่โต้วเกา)

✎ อาหารปรุง ได้โบนัส +5 เพิ่ม


✎ โดดเด่นมีเอกลักษณ์

มีโอกาสได้รับความเอ็นดูจาก NPC ความโปรดปรานเพิ่มขึ้น +15 ทุกครั้งที่พบเจอและทำอาหารให้อีกฝ่ายกิน




แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-10] เว่ย ชิง เพิ่มขึ้น 70 โพสต์ 2025-10-8 12:48
โพสต์ 25,308 ไบต์และได้รับ +6 EXP [ถูกบล็อค] ความชั่ว +6 คุณธรรม +6 ความโหด จาก พู่หยกสลักลายมังกร  โพสต์ 2025-10-7 23:01
โพสต์ 25,308 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] ความชั่ว +15 คุณธรรม +10 ความโหด จาก กระบี่คู่สลักจันทรา  โพสต์ 2025-10-7 23:01
โพสต์ 25,308 ไบต์และได้รับ +6 EXP [ถูกบล็อค] ความชั่ว +10 คุณธรรม +8 ความโหด จาก แหวนดาราจรัส(D)  โพสต์ 2025-10-7 23:01
โพสต์ 25,308 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] ความชั่ว +15 คุณธรรม +15 ความโหด จาก เกราะทองแดง  โพสต์ 2025-10-7 23:01
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ปิ่นปักผมหยกขาว
 มีดสั้นเงาจันทร์
ชุดวสันต์ลีลา
คัมภีร์ดาราศาสตร์ตงฟาง
โดดเด่นมีเอกลักษณ์
พู่กันดาราศาสตร์
แหวนหยกสลักนาม
ยาหยกบูรพา
พู่หยกสลักลายมังกร
กระบี่คู่สลักจันทรา
แหวนดาราจรัส(D)
เกราะทองแดง
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ช)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x40
x2
x7
x1
x2
x2
x1
x6
x1
x8
x2
x10
x7
x12
x26
x48
x8
x24
x24
x5
x2
x10
x1
x2
x12
x30
x21
x5
x6
x2
x1
x10
x5
x60
x90
x60
x5
x2
x120
x6
x17
x20
x2
x20
x2
x2
x2
x3
x2
x2
x3

2

กระทู้

21

ตอบกลับ

692

เครดิต

คนสร้างตัว

พลังน้ำใจ
617
ตำลึงทอง
1
ตำลึงเงิน
164
เหรียญอู่จู
7977
STR
0+2
INT
0+0
LUK
0+2
POW
0+0
CHA
15+5
VIT
0+0
คุณธรรม
90
ความชั่ว
0
ความโหด
62
โพสต์ 2025-10-9 23:12:29 | ดูโพสต์ทั้งหมด
“แสงอาทิตย์ยามบ่ายเหมือนผ้าแพรบางที่ปกคลุมฉางอานไว้ทั้งนคร
กลิ่นเต้าหู้หอมอ่อนลอยเคล้ากับฝุ่นทราย และหัวใจที่เพิ่งได้พัก”

เสียงลมอุ่นพัดผ่านตรอกเล็กที่ทอดยาวจากหน้าร้านเต้าหู้ ม่านไม้ไผ่ที่ประดับอยู่เหนือประตูพลิ้วไหวราวกับกล่าวลาแก่ชายหนุ่มผู้เพิ่งเดินออกมา เขาก้าวเท้าอย่างเชื่องช้า มือหนึ่งถือไหเต้าหู้ดินเผาที่อบอวลด้วยกลิ่นถั่ว อีกมือถือแตงกวาหรรษาสีเขียวสดซึ่งดูโดดเด่นราวหยกน้ำผึ้งในยามบ่าย
ฉีชิงหลง เงยหน้ามองท้องฟ้าที่มีสีฟ้าผสมทองจากแสงอาทิตย์ยามสามโมงครึ่ง ดวงตาสีอำพันอมเขียวของเขาสะท้อนเงาโคมไฟที่เริ่มถูกแขวนไว้ริมถนนอย่างเกียจคร้าน แสงแดดกระทบเส้นผมสีเงินของเขาให้เปล่งประกายราวแพรไหม ผ้าคลุมสีอ่อนสะบัดเบา ๆ ตามลม จังหวะการก้าวเดินของเขาช้าเสียจนคนขายของริมทางยังเผลอมองตาม
กลิ่นถั่วเหลืองต้มยังติดอยู่ที่มือของเขา — อบอุ่นและสะอาดในแบบที่ไม่คิดว่าจะได้จากเต้าหู้ธรรมดา
เขายกไหขึ้นดื่มช้า ๆ รสละมุนขมปลายลิ้นแต่ชวนติดใจ ทำให้เผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
“น่าแปลกดีนะ…” เสียงทุ้มของเขาเอ่ยเบา ๆ ขณะเดินผ่านร้านขายผ้าไหม “ข้าดื่มน้ำเต้าหู้มาไม่น้อยในชีวิต แต่กลับไม่มีสักหยดที่ทำให้รู้สึกเหมือน…ถูกปลอบใจได้ถึงเพียงนี้”
ภาพชายขายเต้าหู้ผู้พูดน้อยแต่คมคายแวบเข้ามาในหัว หลิวอัน—บุรุษที่ดวงตาเย็นเฉียบราวแม่น้ำกลางฤดูหนาวแต่กลับมีมืออุ่นยามจับหม้อต้มเต้าหู้ ชิงหลงหัวเราะแผ่วในลำคออย่างขบขัน “พูดแค่ไม่กี่คำก็ทำข้าจำได้เสียอย่างนั้น…คนอะไร”
เขาส่ายหน้าเบา ๆ รอยยิ้มเจือความเหนื่อยใจค่อยผุดขึ้น “แต่ก็ดีแล้วล่ะ อย่างน้อยวันนี้ข้ายังมีคนให้คิดถึงระหว่างที่เงินในย่ามเหลือไม่ถึงกำมือ”

ตลาดตะวันออกของฉางอานยามบ่ายเป็นภาพที่สวยงามจนเหมือนความฝัน
แสงแดดทาบพื้นหินเป็นสีทองอ่อน ผู้คนหลากชนชาติเดินปะปนกันไปมา
หญิงชาวฮั่นในเสื้อผ้าแพรสีหม่นกำลังต่อราคาผ้าไหมกับพ่อค้าซอกเดียนาผิวเข้มที่พูดภาษาผสมแปลกหู, เด็กชายจากแดนซื่อหมอหลงสวมกำไลทองแดงร้องขายลูกกวาดหอม, กลิ่นเครื่องเทศจากแดนไกลลอยผสมกับกลิ่นชาอ่อนจากโรงน้ำชาที่อยู่ไม่ไกล เสียงหัวเราะและเสียงระฆังทองของเกวียนประดับสินค้าดังสลับกันเป็นจังหวะ
ตลาดแห่งนี้คือหัวใจของนคร  ศูนย์กลางแห่งวัฒนธรรม พ่อค้าจากตะวันตกตะวันออก ต่างแลกเปลี่ยนทั้งของมีค่าและรอยยิ้ม
ชิงหลงก้าวผ่านร้านขายเครื่องแก้วจากเปอร์เซีย เห็นแสงสะท้อนหลากสีในผลึกใส เขาหยุดเพ่งดูอยู่ครู่หนึ่ง รอยยิ้มบางกลับมาแต้มมุมปากอีกครั้ง “งดงาม...แต่เปราะบางเหลือเกิน” เขาพึมพำราวพูดกับแก้วตรงหน้า “คล้ายหัวใจคนในตลาดนี้ ใสจนมองทะลุ แต่ไม่มีใครอยากให้แตกร้าว”

เสียงนักดนตรีริมถนนเริ่มบรรเลงพิณเหอเถา เสียงสายพิณสะท้อนคลอไปกับเสียงขลุ่ยของเด็กหนุ่มต่างถิ่นที่เป่าคลออยู่ข้าง ๆ ผู้คนชะลอฝีเท้า บ้างโยนเหรียญเงินลงในกล่องไม้ บ้างเพียงฟังแล้วยิ้ม ชิงหลงหยุดยืนฟังอยู่ครู่หนึ่ง สายตาเหม่อมองผู้คนที่ไม่รู้จักกันแต่ยิ้มให้กันได้อย่างง่ายดาย
เขายกขลุ่ยไม้ที่พกติดตัวขึ้นแตะริมฝีปาก ลองเป่าเบา ๆ เสียงนั้นไม่ดังมาก แต่แทรกผ่านเสียงตลาดมาได้อย่างแปลกประหลาด เสียงขลุ่ยของเขาแตกต่างจากเด็กหนุ่มคนนั้น มันมีแววของความเหงาปนอยู่ในความอ่อนโยน
เด็กหนุ่มนักดนตรีหันมามองก่อนยกมือคารวะอย่างนอบน้อม ชิงหลงเพียงยิ้มตอบ แล้ววางเหรียญสองเหรียญสุดท้ายลงในกล่องไม้ “เสียงเจ้าดีแล้วล่ะ แต่ยังขาดรสของชีวิต”
เขาว่าพลางยกไหเต้าหู้ขึ้นดื่มอีกครั้ง กลิ่นหอมอ่อนทำให้หัวใจที่พร่าเลือนรู้สึกมีชีวิตขึ้นมาเล็กน้อย

เมื่อแดดเริ่มอ่อนแรง แสงทองเปลี่ยนเป็นสีส้มอ่อนคล้ายกำมะหยี่คลุมทั่วตลาดตะวันออก เสียงพ่อค้าปิดร้านดังระงม กลิ่นไม้จันทน์จากศาลเจ้าหัวถนนลอยมาพร้อมสายลม
ชิงหลงเดินไปจนสุดตลาด เหลือบมองเงาตัวเองที่ทอดยาวบนพื้นหิน เขาหยุดเท้า พลางหัวเราะเบา ๆ “คนผมขาวในตลาดทองแดง ดูอย่างไรก็โดดเด่นเกินไปหน่อย…”
สายตาของหญิงสาวจากร้านผ้าใกล้เคียงมองมาอย่างสนใจ แต่เขากลับเพียงยิ้มให้แล้วก้าวเดินต่อ เหมือนจะบอกว่า “ข้าชินแล้วกับสายตาแบบนั้น”

ลมเย็นยามเย็นเริ่มพัดพาเอากลิ่นควันไฟและกลิ่นอาหารจากร้านริมถนนเข้ามา เสียงขายของแผ่วลง เหลือเพียงเสียงขลุ่ยและเสียงหัวเราะของเด็กๆ ที่วิ่งเล่นอยู่ไกล ๆ
ชิงหลงหยุดมองถนนสายยาวที่ทอดไปยังย่านทางใต้ ดวงตาสีทองอมเขียวสะท้อนเงาแสงสุดท้ายของวัน ก่อนจะค่อย ๆ คลี่ยิ้ม
“บางที...ข้าควรกลับไปที่นั่นอีกสักครั้ง”
ภาพหอว่านหงเหรินลอยขึ้นมาในหัว หอที่อบอวลด้วยแสงโคมแดง กลิ่นกำยาน และเสียงหัวเราะของหญิงสาว เสียงขลุ่ยเมื่อคืนยังคงดังก้องอยู่ในความทรงจำของเขา เสียงนั้น...ที่ทำให้เขารู้สึกมีตัวตนอีกครั้ง
“หากยังมีที่ให้ข้าได้เป่าขลุ่ย แลกกับข้าวสักมื้อ...” เขาพึมพำยิ้มอ่อน “ก็คงดีไม่น้อย”

ดวงอาทิตย์ลับขอบกำแพงเมือง ฉางอานเปลี่ยนจากสีทองเป็นสีชาด ลมพัดแรงขึ้นจนผมสีเงินของเขาไหวคล้ายคลื่นเงินในแสงสุดท้าย ชิงหลงโยนแตงกวาหรรษาในมือขึ้นแล้วรับไว้พลางหัวเราะกับตัวเอง “แตงกวากับเต้าหู้...ข้าวเย็นของคุณชายฉีในวันนี้ คงหรูหราที่สุดแล้วกระมัง”
เสียงหัวเราะของเขาเบาเสียจนกลืนไปกับเสียงลม แต่รอยยิ้มนั้นกลับอ่อนโยนอย่างประหลาด
เขาหยุดเท้ามองแสงโคมดวงแรกที่เริ่มถูกจุดขึ้นริมถนน ดวงตาเป็นประกายราวมีแผนบางอย่างผุดขึ้นในใจ
“ได้เวลาเสียที...” เขาว่าพลางหันหลังกลับมองตลาดเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนเดินมุ่งหน้าไปยังถนนสายใต้ที่นำไปสู่หอว่านหงเหริน
“ยามแดดลับฟ้า คนผู้ถือไหเต้าหู้เดินเข้าสู่เงาโคม
เสียงหัวใจของเขา...เริ่มบรรเลงอีกครั้งโดยไร้พิณใด”

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 14,317 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม +4 ความโหด จาก น่ารัก  โพสต์ 2025-10-9 23:12
โพสต์ 14,317 ไบต์และได้รับ +4 คุณธรรม จาก พัดคุณชาย  โพสต์ 2025-10-9 23:12
โพสต์ 14,317 ไบต์และได้รับ +3 ความชั่ว +5 ความโหด จาก ขลุ่ย  โพสต์ 2025-10-9 23:12
โพสต์ 14317 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2025-10-9 23:12
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ขลุ่ย
พัดคุณชาย
น่ารัก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x10
x1
x1
x1
x60
x34
x1
x30
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้