ชีวิตที่เกิดมามีความเพียบพร้อมกับความสามารถที่หาตัวจับยาก นั่นคือชีวิตของถังซิวหลัว เขาเกิดในสกุลแห่งภราดรมือสังหาร สกุลถัง
สกุลถังของเขานั้นเป็นหนึ่งในสกุลที่จงรักภักดีต่อราชสำนักเป็นอันดับต้นๆ และตัวของเขานั้น ด้วยความที่เกิดมาเป็นบุรุษเพศ จึงเป็นที่คาดหวังอีกคนนึงของสกุลฯว่าจะต้องเป็นหนึ่งในผู้เชิดชูวงค์ตระกูล หลังจากนั้น บุตรชายคนล่าสุดของครอบครัวจึงถูกเขี้ยวเข็ญในการฝึกฝนอย่างหนัก และไม่เคยถูกตามใจจากครอบครัวเลยแม้แต่น้อย ด้วยความที่ถูกเขี้ยวกรำมาอย่างยาวนาน ภราดรมือสังหารจึงได้ให้กำเนิดอสูรสังหารคนใหม่ของตระกูล โดยที่ซิวหลัวนั้น เป็นชื่อที่บิดาของเขานั้นขนานนามให้เมื่อสิ้นสุดการปลุกปั้น
เขาได้เข้ารับใช้ในราชสำนักครั้งแรก เมื่ออายุได้14ปี รัชสมัยพระเจ้าฮั่นเหวินฯ ในฐานะ มือสังหารที่คอยเก็บข้าหลวงผู้ฉ้อฉล ทำตนกินบนเรือนขี้บนหลังคาทำนาบนหลังคน สร้างความชอบธรรมให้แก่ราชสำนักเป็นอย่างมาก และเป็นเช่นนี้ไปอย่างต่อเนื่อง ไร้ซึ่งความรู้สึก ไร้ซึ่งอารมณ์ มีเพียงแต่ภารกิจ ศักดิ์ศรี และหน้าที่.. วันเดือนปีผ่านไป จากเด็กน้อยล่วงเข้าสู่วัยหนุ่ม ซิวหลัวยังคงรับใช้และเทิดทูนราชสำนักอย่างถวายหัว โดยที่เป็นเบื้องหลังของเหตุการณ์เลวร้ายต่างๆ และใช้โอกาสในการกำจัดเสี้ยนหนามให้พ้นทาง โดยไร้ซึ่งความปราณี เขาและสกุลถังทั้งหมด จึงได้มีตำแหน่งในราชสำนักไปด้วย โดยที่เป็นที่ปรึกษาในวัง ทั้งเป็นทั้งโล่ห์และหอกให้กับวังหลวง เพียงแต่ซิวหลัวนั้น เป็นดั่งลูกศรอาบยาพิศที่เมื่อใครก็ตามที่ราชสำนักหรือคนในวังหมายหัว ไม่เกินสามราตรี ชีวีของผู้นั้นจักถึงคราดับสลาย
ถึงแม้ว่าคนที่รับหน้าเอาความดีความชอบนั้น จะเป็นของผู้เป็นบิดาและมารดา และพี่น้องของเขา แต่เขานั้นกลับเป็นเพียงดั่งเงา ที่แสงนั้นไม่มีวันส่องถึง มีเพียงแต่ต้องทำตามหน้าที่ของผู้เป็นนาย ด้วยใจที่มืดบอด ไร้ซึ่งความเป็นมนุษย์ในหัวใจ ราวกับเครื่องจักรสังหารของราชสำนัก ขอเพียงแค่ตนนั้นแข็งแกร่งขึ้น ต่อให้เป็นปีศาจ หากราชสำนักบัญชาฯ ปีศาจนั้นจักต้องสูญสลาย ราวกับว่าตัวของเขานั้นได้ทำสัญญากับมารอสูรฯตนใดเอาไว้ฉะนั้น..
ซิวหลัวได้รับทักษะนอกเหนือจากที่ตนนั้นได้รับจากสกุลของตนเอง ยังได้รับทักษะต่างๆมากมายทั้งจากราชสำนัก.. และจากจอมยุทธทั้งหลายที่เขาช่วงชิงวรยุทธมา โดยทักษะที่เขานั้นโปรดปรานที่สุด นั่นคือทักษะการสังหารโดยใช้"หุ่นเชิด"เป็นอาวุธ ตัวเขานั้นมีหุ่นเชิดที่ทำจากไม้เนื้อแข็ง โลหะ และกระดูกของมนุษย์ โดยที่ถูกสร้างขึ้นสองตัว และสองตัวนี้นี่เองที่เป็นตัวช่วยให้การทำภารกิจของเขานั้นง่ายขึ้น จนสามารถไต่ระดับขึ้นไปได้อย่างง่ายดาย ภายใต้เงาทมิฬของราชสำนัก..
จนกระทั่ง.. วันที่อำนาจในราชสำนักถูกเปลี่ยน และสกุลถังฯ กลายเป็นภัยแห่งราชสกุลฯฮั่น
หลายปีผ่านไป ซิวหลัวสร้างความดีความชอบให้แก่สกุลถังฯอย่างมากมาย จนกระทั่งองค์กษัตริย์ฯที่เขาเทิดทูนดั่งเทพเจ้า ถึงคราวที่พระองค์จะทรงเปลี่ยนพระราชกรณียกิจและองค์รัชทายาทรุ่นต่อมาได้รับช่วงต่อในบางส่วน เหล่าอำมาตย์ข้างกายฝ่าบาทฮั่นจิ่งนำโดย"เหลียนหวาง"ขององค์จักรพรรดิที่ปัจจุบันคือผู้ครองบัลลังค์ได้วางแผนสมคบคิดกับปีศาจ แปรเปลี่ยนศาสตราคุ้มครองราชบัลลังก์ให้กลายเป็นภัยร้ายแห่งแผ่นดิน.. คอยปั่นหัวของกษัตริย์ฯองค์ปัจจุบันให้ล้างบางสกุลถังทั้งหมด โดยเฉพาะผู้นำตระกูล
ราตรีนั้นเป็นราตรีที่ ซิวหลัวจะจดจำไม่ลืมไปตลอดชีวิต เมื่อสกุลถังฯถูกราชสำนักจับตายกลายเป็นอาญาแผ่นดิน คนในสกุลต่างถูกสังหารล้างบางทั้งตระกูล..
อันความไว้ใจของชายหนุ่มที่สั่นคลอนและพังทลาย เมื่อสิ่งที่เขาเห็นนั้นคือ ศีรษะของผู้เป็นคนในครอบครัวของเขาถูกบั่นและเสียบประจานที่ด้านหน้าซากปรักหักพังของตระกูล ที่ครั้งนึง เคยยิ่งใหญ่ บัดนี้กลับกลายเป็นภัยฯ ที่เกิดจากน้ำมือของอำมาตย์สามานย์ที่ฉ้อฉลคิดคดร่วมมือกับปีศาจหมายปั่นหัวองค์จักรพรรดิ ความแค้นที่สุมใจจนกลายเป็นจิตสังหารอันรุนแรง เพียงตัวเขาหนึ่งและแขนเพียงข้างเดียว ได้ออกไล่ล่าสังหารเหล่าอำมาตย์กังฉินที่ป้ายสีสกุลถังฯว่าคิดคดเป็นกบฏต่อราชสกุลฮั่นฯ แม้ว่าตัวของเขานั้นจะมีศักดิ์ศรีและหน้าที่ที่สูงศักดิ์ หากแต่ตัวเขานั้น หาได้มีที่นั่งในท้องพระโรง จึงจำต้องเก็บงำเรื่องนี้เอาไว้ บ่มเพาะความพยาบาทที่เหล่าขุนนางเหล่านั้นทำกับครอบครัวของตน..
แต่ถึงกระนั้นสวรรค์ก็ยังสิ้นความเมตตา องค์รัชทยาทได้ล่วงรู้แผนการของเหล่าอำมาตย์ผู้ฉ้อฉลร่วมมือสมคบกับปีศาจ อันความโทมนัสขององค์รัทยาทผู้วัยเยาว์ ก็ไม่อาจเอาชีวิตและศักดิ์ศรีของสกุลที่เคยยิ่งใหญ่ ให้กลับมารุ่งโรจน์ได้อีกครั้ง องค์รัชทายาท ได้พยายามกอบโกยเศษซากความรุ่งโรจน์ที่เหลือเพียงหนึ่งของสกุลถังที่ตอนนี้เหลือเพียงเถ้าถ่าน และเกียรติยศที่มอดไหม้ โดยที่ยังคงช่วยชีวิตของซิวหลัวที่ตอนนี้ กลายเป็นสกุลถังเพียงหนึ่งเดียวให้รอดพ้นจากการกวาดล้างในครั้งนี้ ซึ่งนั่นเป็นคำสั่งเสียเพียงหนึ่งเดียวที่ซิวหลัวนั้นไม่อาจรู้ได้
ในท้ายรัชสมัยของพระเจ้าฮั่นจิ่ง องค์รัชทายาทได้พบกับซิวหลัวอีกครั้ง ก่อนที่จะได้เปิดเผยเรื่องราวทุกอย่าง ในขณะที่คมมีดจ่ออยู่ที่ปลายพระศอของพระองค์ฯ รัชทายาทว่าที่จักรพรรดิองค์ต่อไปได้ให้ข้อเสนอกับซิวหลัวในการช่วยเหลือและกอบกู้ศักดิ์ศรีของสกุลถังที่ล่วงลับ โดยพระราชทานตำแหน่งลับให้กับซิวหลัว โดยสนองงานขององค์รัชทายาทในขณะที่พระองค์ยังคงตำแหน่งของรัชทยาทเอาไว้อยู่ ในฐานะอาวุธลับของพระองค์ โดยที่จะไม่มีผู้ใดรู้ เพียงแค่มีผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าซิวหลัวแห่ฃสกุลถังคนสุดท้ายได้มอดไหม้ไปแล้ว
ซิวหลัว เลือกที่จะใช้ชีวิตเยี่ยงสามัญชนคนธรรมดาเพื่ออำพรางตัวตน โดยที่ในท้ายที่สุดนั้น สิ่งที่เขาขอรับพระราชทานจากองค์รัชทายาทเพียง เคหสถานหนึ่งหลังกับที่ดินผืนเก่าทั้งหมดที่สกุลถังเคยครอบครอง ในฐานะหลักฐาน ของการมีอยู่ของตระกูล ที่ครั้งนึง เคยรุ่งโรจน์ แต่มาบัดนี้ก็ร่วงโรย ตามกฎแห่งกรรมที่ตนและครอบครัวได้เคยกระทำมา และระหว่างนี้ซิวหลัวเองก็ได้ใช้ช่วงเวลาที่มีอยู่ตามหาผู้มี"ปราณดาราสวรรค์"เพื่อฟื้นฟูสกุลถัง ตามที่คำพยากรณ์ที่ตัวเขานั้นได้เคยพบพานในจารึกบรรพชนฯสกุลถัง
และอีกมุมนึง ตัวเขาเองก็ใช้ชีวิตในฐานะชาวยุทธ์ทั่วไปที่รับงานไปพร้อมๆกับฝึกฝนตนเองที่กลับมาใช้ชีวิตได้อีกครั้งในฐานะชาวยุทธ์ที่เพิ่งท่องยุทธภพได้ไม่นาน คอยฝึกฝนตัวเองให้แข็งแกร่งยิ่งๆขึ้นไป เพราะตอนนี้ตัวของซิวหลัว ที่ใครๆต่างก็รู้จักเขาในนาม"ถังหลง" สกุลถังโดยนามที่นำสกุลของตระกูลที่เคยยิ่งใหญ่มาใช้เพื่อชื่อเสียง เป็นชาวยุทธฝึกหัดเพียงเท่านั้น..
บัดนี้ ตัวเขานั้น กลายเป็นคฤหบดีท่านนึง ในเมืองเมืองนึง ในมลฑลปาสู่ คอยเล่นตุ็กตาหุ่นเชิดให้เด็กๆแถวนั้นดูเล่น และสร้างความสุขให้กับผู้คนในเมืองนั้น จนถึงตอนนี้...