[ศาลบรรพชน]

[คัดลอกลิงก์]







宗祠

ศาลบรรพชน

{ ทิศตะวันออกของเขตราชฐานชั้นใน }










【 ศาลบรรพชน 】

เสียงตะโกน คำเรียกขาน
สมญานาม สัญลักษณ์ ทั้งหมดทั้งปวง
ตั้งอยู่ศาลสถิตรากเหง้าแห่งประวัติศาสตร์

ศาลสำคัญที่รวบรวม ' ป้ายบรรพบุรุษ ' ซึ่งกักเก็บวิญญาณบรรพบุรุษมากมายที่ล่วงลับภายใต้การดูแลของลูกหลานยอดกตัญญูที่แวะเวียนมาไหว้อยู่เป็นประจำ ในรัชสมัยก่อนหน้าศาลบรรพชนแห่งนี้จะต้อนรับเฉพาะบุคคลสำคัญเท่านั้น ทว่าในรัชสมัยปัจจุบัน เซียวจื่อไท่โฮ่วผู้เป็นมารดาของจักรพรรดิให้ความสำคัญกับสักการะบูชาบรรพบุรุษจึงได้ทำการบูรณะภายนอกให้งดงามและเงียบสงบ พร้อมกับเปิดต้อนรับคนในวังที่มีความต้องการจะเข้ามาสักการะเพิ่มมากขึ้น









แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 6586 ไบต์และได้รับ 4 EXP! [VIP]  โพสต์ 2024-7-27 17:51
โพสต์ 2024-7-27 22:50:14 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย LuBairan เมื่อ 2024-7-27 22:52




ศาลบรรพชน
วันที่ 25 เดือน 7 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 10
เวลาบ่ายโมงเป็นต้นไป

เซียวจื่อไท่โฮ่วเป็นคนจริงจัง ดูได้จากสถานที่ถัดมาที่อีกฝ่ายพานางมาเยือน

ศาลบรรพชนที่เงียบสงบตั้งอยู่บริเวณทิศตะวันออกของราชฐานชั้นในใกล้กับภูเขาปิดหลังวังตามธรรมเนียมปฏิบัติที่มีกันมาเนิ่นนาน นางหงส์วัยกลางคนภายใต้ชุดสีม่วงไล่ระดับยื่นมือมารับธูปสามดอกจากเด็กน้อยที่มีศักดิ์ถือว่าเป็นลูกสะใภ้คนหนึ่ง ทั้งยังเป็นลูกสะใภ้ที่ลูกชายกล่าวถึงต่อหน้านางเป็นคนแรก.. ความเปลี่ยนแปลงที่น่ายินดีนี้ส่งผลเป็นอย่างมาก เซียวจื่อไท่โฮ่วระบายยิ้มเบาบาง

“ เด็กน้อย เจ้าเองก็มาไหว้ด้วยกันเถิด รั่วหลัน จัดธูปให้นางสักชุด ”

ถงกูกู่ค้อมตัวรับคำสั่งก่อนจะหันไปหยิบธูปสามดอกออกมาจุดและยื่นส่งให้พระสนมอย่างสุภาพ

“ น้อยนักที่คนหนุ่มสาวจะนึกอยากมาไหว้ศาลบรรพชน.. เด็กน้อย อย่างไรเจ้าก็ก้าวเข้ามาเป็นคนของบุตรชายอ้ายเจี้ยแล้ว ครอบครัวของเขาย่อมคอยปกปักษ์รักษาตัวเจ้า ” เสียงของไท่โฮ่วเนิบช้า สองตาพระนางเปี่ยมด้วยประกายความศรัทธาเช่นหญิงสูงวัยทั่ว ๆ ไปที่ยังมีความเชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษ “ บัดนี้เชื้อสายขัตติยวงศ์ล้วนรับรู้ในการมาถึงของเรา เจ้าที่เผชิญหน้ากับเคราะห์ร้ายอยู่นั่นก็ลองตั้งจิตอธิษฐานดูสักครั้ง ”

เป็นเรื่องที่พูดยากนัก.. ไป๋หรั่นรับธูปมาไว้ในสองมือ ส่วนสายตาก็ไล่ขึ้นมองป้ายวิญญาณที่วางเรียงรายกันอยู่มากมายด้วยสายตาสงบ นางไม่ใช่คนที่มีความเชื่ออยู่ในรากฐานของการดลบันดาลผ่านพลังงานที่ไร้ซึ่งร่างให้พึ่งพิง คนทำการค้าเกินครึ่งล้วนเป็นนักพนัน ทว่านางหาใช่คนที่จะเดิมพันกับโชคลาภ เรื่องความเชื่อด้านผีสางเช่นนี้จึงชวนให้กระอักกระอ่วนอยู่บ้าง

“ ไป๋หรั่นน้อมรับคำสอนเพคะ ” คนงามย่อกายลงอย่างเชื่องช้า ก่อนจะเดินขึ้นไปยืนขนาบข้างไท่โฮ่วตามท่าทางเชิญชวนของพระนาง

สองร่างสตรีที่ยืนเคียงกันต่างก็หลับตาลงภาวนาในสิ่งที่ต่างกันไป เซียวจื่อไท่โฮ่วศรัทธาในพลังอำนาจของดวงวิญญาณนางจึงเฝ้าภาวนาขอให้ครอบครัวแคล้วคลาดปลอดภัยจากแผนการร้ายทั้งปวงและขอให้ทายาทมีสุขภาพที่แข็งแรงไร้โรคภัยมากล้ำกลาย สุดท้ายไม่พ้นปรือตาขึ้นชำเลืองมองโฉมสะคราญข้างกายอีกเล็กน้อยพลางภาวนาว่า ‘ นางเผชิญเคราะห์ครั้งใหญ่ยิ่งหากข้ามผ่านไปได้ไม่แน่ว่าอาจได้กลายเป็นนางหงส์คอยเป็นบ้านให้อาเช่อ หากทั้งสองมีวาสนาต่อกันก็ขอให้บรรพบุรุษแซ่หลิวช่วยนำพานางรอดพ้นจากเคราะห์กรรมครั้งนี้ด้วยเถิด ’

ด้านเหม่ยเหรินแซ่ลู่ที่มีประสบการณ์ไว้บรรพบุรุษก็จริงแต่กลับเป็นบรรพบุรุษของคนแซ่ลู่ เมื่อมาอยู่ต่อหน้าป้ายวิญญาณของสายขัตติยวงศ์นอกจากแนะนำตัวแล้วก็หาได้มีเรื่องอื่นใด ‘ ผู้อาวุโสบรรพบุรุษทั้งหลายที่คอยปกปักษ์ราชวงศ์ ข้าพเจ้าแซ่ลู่ นามไป๋หรั่น เป็นเหม่ยเหรินธรรมดา ๆ ที่ฝากตัวเข้ามาอยู่ใต้พระบารมีของฝ่าบาท หาได้มีเจตนาไต่เต้าหรือตักตวง หากกระทำสิ่งใดพลาดพลั้งทั้งทางกายวาจาใจ ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ขอให้ทั้งหมดช่วยอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วย ’

หวังจื่อเป็นฝ่ายที่ออกจากภวังค์ก่อน พระพันปีหลวงแห่งรัชสมัยฮั่นอู่ตี้เอื้อมออกไปปักธูปลงในกระถางก่อนจะประสานสองมือโค้งอย่างงดงามแบบที่ยากจะเห็นได้ในปัจจุบัน และต่อมาถึงค่อยเป็นเหม่ยเหรินหยกขาวที่โน้มลงปักธูปในกระถางเช่นกัน ก่อนจะถอยกลับมาโค้งอย่างเงียบงันภายใต้สายตาภาคภูมิใจของเซียวจื่อไท่โฮ่วที่หันกลับมามองอย่างไม่ละสายตา

“ ที่แท้มีคนมาร่วมสักการะด้วยก็ดีเช่นนี้เอง.. ” พระนางกล่าวอย่างเลื่อนลอยก่อนจะยกแขนข้างหนึ่งให้ไป๋หรั่นก้าวเข้ามาประคอง นางหงส์สูงวัยหยุดนิ่งเพื่อครุ่นคิดเพียงเล็กน้อย ก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยเสียงไม่ดังและไม่เบานัก “ อ้ายเจี้ยอยากเดินดูรอบ ๆ ”

“ ถ้าเช่นนั้นไป๋หรั่นจะร่วมเดินเป็นเพื่อนพระองค์เองเพคะ ”

ภาพบรรยากาศแม่ผัวลูกสะใภ้ที่แสนดีฉายชัดอยู่เต็มตาของนางกำนัลหลายคน ขนาดถงรั่วหลันที่ปกติแล้วได้ชื่อว่าใกล้ชิดพระพันปีมากกว่าผู้อื่นยังได้แต่อมยิ้มและเดินตามโดยรักษาระยะห่างอยู่พอประมาณให้นายสตรีฝั่งวังในได้มีพื้นที่สนทนาอย่างเป็นส่วนตัว

“ ฝ่าบาทดูเหมือนจะเอ็นดูเจ้าอยู่บ้าง ”

ไม่รู้ว่าพระนางไปทราบสิ่งใดถึงได้กล่าวขึ้นมา นงคราญหยกหันมองใบหน้าของสตรีวัยกลางคนด้วยสายตาสงสัย “ ในวันหน้าเจ้าอาจได้รับหน้าที่ดูแลพิธีการสำคัญ .. หนึ่งในนั้นอาจเป็นพิธีสักการะบรรพชนที่จัดขึ้นทุกปีเป็นประจำ ” ประโยคนี้ของผู้ที่เคยครองวังหลังมาเกือบครึ่งชีวิตทำให้สนมหน้าใหม่นิ่งอึ้งไป

ความคิดของนางขาวโพลนไปชั่วครู่ ก่อนจะถูกดึงกลับมาเมื่อมือเย็น ๆ อีกข้างของเซียวจื่อไท่โฮ่วทาบลงบนหลังมือนาง “ ตรงนั้นจะเป็นที่ยืนของคุณนาง ถัดขึ้นมาก็เป็นของเชื้อพระวงศ์ ส่วนระเบียงที่เรายืนอยู่นี้เป็นของตำแหน่งจักรพรรดิและจักรพรรดินี ” หวังจื่อกล่าวอย่างสำราญใจ นางนึกย้อนไปถึงวันวานที่เคยยืนเคียงข้างสามี และถัดลงไปก็เป็นลูกหลานที่คอยยืนให้กำลังใจในระหว่างที่พิธีดำเนินไป

“ ของที่ต้องเตรียมเพื่อใช้ก็มีไม่มากหรอก คล้ายพิธีไหว้บรรพบุรุษทั่วไปนั่นแล.. ทว่าข้าวของที่ใช้ต้องพิถีพิถันนัก อย่างเช่น… ”

สารพัดรายการอาหารและของไหว้ รวมไปถึงขั้นตอนการเข้าพิธีมากมายถูกร้อยเรียงเล่าออกมาผ่านเสียงสงบเรียบของผู้ปกครองวังหลังโดยมีผู้ฟังเป็นสาวน้อยวัยกำดัดคนหนึ่งที่ไม่คิดแม้แต่น้อยว่าโอกาสเช่นนั้นจะเกิดขึ้นกับตัวเองจริง แต่ก็เอาเถิด.. ฟังหูไว้หู ถือเสียว่าเป็นความรู้เผื่อวันหน้าคนใกล้ตัว(เว่ยเจียเจี๋ยยวี๋)ที่ได้รับความโปรดปรานจะมีโอกาสมีหน้ามีตาทำพิธีสำคัญกับคนอื่นเขา



[NPC-02] เซียวจื่อไท่โฮ่ว + 5 ความสัมพันธ์สนทนาประจำวัน
[NPC-02] เซียวจื่อไท่โฮ่ว + 20 ความสัมพันธ์จากหัวดี






แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-02] เซียวจื่อไท่โฮ่ว เพิ่มขึ้น 25 โพสต์ 2024-7-28 00:04
โพสต์ 15361 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2024-7-27 22:50
โพสต์ 15,361 ไบต์และได้รับ +4 ความชั่ว +5 ความโหด จาก มีดแล่เนื้อ  โพสต์ 2024-7-27 22:50
โพสต์ 15,361 ไบต์และได้รับ +4 คุณธรรม +3 ความชั่ว +5 ความโหด จาก หมวกไผ่ผ้าคลุม  โพสต์ 2024-7-27 22:50
โพสต์ 15,361 ไบต์และได้รับ +10 คุณธรรม +2 ความชั่ว +5 ความโหด จาก อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ญ)  โพสต์ 2024-7-27 22:50
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ธนูไม้จันทน์
กระบอกธนู
โดดเด่นมีเอกลักษณ์
พัดคุณชาย
หมวกไผ่ผ้าคลุม
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ญ)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x1
x10
x16
x5
x1
x1
x1
x2
x2
x2
x4
x3
x2
x4
x7
x3
x4
x1
x11
x9
x3
x4
x16
x2
x5
x4
x2
x7
x6
x4
x15
x4
x1

3

กระทู้

122

ตอบกลับ

3259

เครดิต

เริ่มมีชื่อเสียง

พลังน้ำใจ
2168
ตำลึงทอง
110
ตำลึงเงิน
441
เหรียญอู่จู
15357
STR
66+13
INT
65+0
LUK
0+5
POW
50+0
CHA
15+0
VIT
13+5
คุณธรรม
2377
ความชั่ว
1202
ความโหด
2595
โพสต์ 2024-9-19 12:02:35 | ดูโพสต์ทั้งหมด




CHAPTER 29.1

วันที่เก้าเดือนเก้าแห่งรัชศกเจี้ยนหยวนปีที่สิบ
วันจันทร์ ช่วงเวลา 06.00 น. - 09.45 น.
เควสต์ปลดหัวใจฮ่องเต้ : บูรพกษัตริย์

ถิ่นฐานแต่ละแห่งมีธรรมเนียมปฏิบัติแตกต่างกัน…

ศาลบรรพชนของสกุลตวนมู่กราบไหว้ปีละครั้งในวันชิงหมิง ศาลบรรพชนของสกุลเหนียนและสกุลจูลูกหลานฝ่ายหญิงมิได้รับอนุญาตให้เข้าไป แรกเริ่มนางมิค่อยเข้าใจธรรมเนียมปฏิบัติคาดเดาว่า หอบูชาบูรพกษัตริย์ คือสถานที่สำหรับเชื้อพระวงศ์ชั้นสูง ย่อมไม่คิดเฉียดกรายเข้าใกล้

ทว่าพระราชเสาวนีย์ล่าสุดประกาศว่า “ฝ่าบาททรงมีความกตัญญูอย่างมาก ดูเหมือนนี่จะใกล้ช่วงปลายปีแล้ว เพื่อให้ปีนี้ต้าฮั่นผ่านไปได้อย่างสงบสุขและผาสุก เหล่าสนมและพระชายาต่างพากันแวะเวียนมาสวดมนต์ขอพรจากเหล่าบรรพชนให้ช่วยปกปักษ์คุ้มครองต้าฮั่นสืบไป และดูแลความเรียบร้อยของศาลบรรพชน”

เพื่อแสดงความกตัญญูต่อเชื้อพระวงศ์และบูรพกษัตริย์แต่ปางหลัง สตรีสูงศักดิ์ในวังหลายผู้ล้วนเข้ามาชุมนุมอย่างชิดเชื้ออยู่ที่หอบูชาบูรพกษัตริย์แห่งนี้ หญิงสกุลตวนมู่มองเห็นสนมนางในที่พอคุ้นหน้าอยู่บ้างหลายคน พวกนางยอบกายกึ่งคำนับตามประเพณี มีเพียงผู้เดียวที่กิริยาท่าทางแตกต่างออกไป “เจ้ามาแล้วหรือ”หญิงสกุล A เอ่ยด้วยรอยยิ้มละไม ก้าวตรงมาหานาง ฟังจากคำเรียกขานนับว่าสนิทสนมกันมาก “ได้ยินว่าเจ้าเพิ่งถูกพลิกป้ายปรนนิบัติ ความจริงไม่ควรจะมา…” อวิ้นเหมยใช้พัดกลมป้องปากกระซิบอย่างห่วงใย นัยน์คล้ายชำเลืองมองไปทางด้านหนึ่ง อวิ้นเหมยเป็นธิดาขุนนางฝ่ายหวู่ขั้นสาม พบเจอกันหลายครั้ง บ้านท่านตาของนางอยู่ที่เจียงหนาน ย่าของหลงเยวี่ยและยายของอวิ้นเหมยไปมาหาสู่กันประจำจึงพลอยสนิทกันไปด้วย

หลงเยวี่ยเมื่ออยู่ต่อหน้าคนผู้นี้น้ำเสียงและสีหน้าผ่อนคลายลงมาก “ข้าไม่มาก็คงถูกเล่าลือในทางชั่วร้าย มีเพียงอยู่ที่นี่จึงจะไม่มีผู้ใดตำหนิข้าได้”

“ฝ่าบาทโปรดปรานเจ้า ยังจะมีผู้ใดตำหนิเล่า” อวิ้นเหมยเอ่ยเสียงเย้า ใบหน้าของหลงเยวี่ยกลับหม่นแสง มุมปากกลับยกยิ้มชืดชา “พี่หญิงเหมยล้อเล่นแล้ว”

น้ำพระทัยฝ่าบาทยากจะหยั่ง ทว่าหลงเยวี่ยย่อมรู้ว่าสายตาที่ฝ่าบาทมองนาง หาได้มีความลึกซึ้งผูกพันไม่ หากว่าสิ่งนี้มิอาจทำให้นางท้อใจแล้วเช่นกัน สายตาของหญิงสาวพลันคมกริบขึ้นมา

“หาแต่ถ้าพวกนางคิดลองดีกับข้าจริง…ยังต้องดูว่าขวัญกล้าเพียงใด” อวิ้นเหมยรู้สึกว่าคำกล่าวนี้แฝงรังสีพิฆาตก็ขมวดคิ้ว “เอาเถิด เอาเถิด ไม่พูดถึงพวกนางแล้ว คนยังไม่มากรีบเข้าไปด้านในเถอะ”

ศาลบูชาบรรพชนเปี่ยมด้วยอำนาจที่สะกดผู้คน เบื้องหน้ามีป้ายวิญญาณของบูรพกษัตริย์แต่ปางก่อนตั้งเรียงราย ล้วนแต่ทำจากไม้เนื้อดีสลักอักษรทองคำ ลายอักษณ์หนักแน่นมั่นคง ยังมีจารึกคุณงามความดีประกาศอยู่รอบด้าน เมื่อถูกจับจ้องด้วยสายตาของอดีตฮ่องเต้ในรัชกาลก่อนๆ หลายผู้ล้วนประหวั่นพรั่นพรึง มิกล้าเสียกิริยาแม้สักนิด

ท่วงทีของหลงเยวี่ยก็ยำเกรงมากทีเดียว

อวิ้นเหมยเดินไปเตรียมธูป ขณะที่หลงเยวี่ยรู้สึกว่ากลิ่นเครื่องหอมอ่อนบางแล้ว จึงไปอีกด้านหนึ่งตรงกระถางกำยาน เกลี่ยขี้เถ้าเพื่อดำอย่างเบามือ แล้วใช้แบบเครื่องหอมลายสัตว์มงคลวางทาบลงไป ใช้ช้อนตักผงไม้หอมเทลงตามรูปมงคล แล้วใช้ไม้กดลายดอกบัวกดทับอีกครา หลงเยวี่ยพยักหน้าให้ผู้ดูแลฟืนไฟรับหน้าที่จุดกำยาน

อวิ้นเหมยเดินกลับมาพอดี นางคุกเข่าลงบนอาสนะด้านข้างหลงเยวี่ยจุดธุปอธิษฐานแล้วปักลงบนกระถางสามขาเบื้องหน้า พริ้มหลับตาลงพึมพำบทสวดมนต์พลางนับลูกประคำ หลงเยวี่ยกระทำกิริยาดุจเดียวกัน นางยกธูปประสานคำนับเบื้องหน้า นัยน์ตาทอดมองป้ายวิญญาณ ยังคงคิดว่าต่อหน้าป้ายวิญญาณเหล่านี้นางคู่ควรเข้ามารบกวนแล้วหรือ?

หญิงสาวละวางความคิดพลางหลับตาลง ‘ต้าฮั่นธำรงยืนยาวนับร้อยปีเพราะบารมีบูรพกษัตริย์คุ้มครองป้องภัย หญิงสกุลตวนมู่ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้วนพ้น เวลานี้คล้ายเคราะห์ซ้ำมาเยือน ภูตผีแดนตะวันออกกร้ำกรายมาถึงเจียงหนาน แผ่นดินทองคำใต้บารมีฝ่าพระบาท บังเกิดอาเภทร้ายแรงกลายเป็นอุทกภัยที่แผ่ขยายวงกว้าง ขอบารมีพระองค์โปรดคุ้มครองขับไล่ปีศาจจากแผ่นดินแห่งอานารยชนให้พ้นไป’

นางคำนับอีกคราก่อนปักธูปลงบนกระถาง เบื้องหน้าป้ายวิญญาณและภาพเหมือนอดีตฮ่องเต้ที่ผู้ไร้วาสนามิอาจพานพบ นางกลับได้เข้าเฝ้าพร้อมกันทีเดียวหกพระองค์ ช่างเป็นวาสนาที่หาได้ยากประหนึ่งพานพบเขากิเลนขนหางหงส์

หญิงสาวคุกเข่าลงที่อาสนะดังเดิม มือปลดลูกประคำจากอกเสื้อ ค่อยๆ สวดภาวนา

เนิ่นนานทีเดียวอวิ้นเหมยเป็นฝ่ายออกจากสมาธิก่อน นางสะกิดเรียกหลงเยวี่ย ““อีกประเดี๋ยวมีคนมากจะวุ่นวาย”

“คงจะไม่ขวัญกล้าหาเรื่องข้าที่นี่เป็นแน่” หลงเยวี่ยคิดชั่งใจ “พวกนางอยู่มาถึงหนึ่งเดือนสมควรทราบถึงความกตัญญูของฝ่าบาท”

อวิ้นเหมยอมยิ้มเข้าใจความนัยของหญิงสาว “อย่างที่เจ้าว่า…”

ความวุ่นวายดังเช่นที่หลงเยวี่ยและอวิ้นเหมยคาดเดาไม่เกิดขึ้นแต่อย่างใด อาศัยอยู่ในรั้ววังมาถึงหนึ่งเดือนย่อมตระหนักถึงความหนักเบา แม้จะกล่าววาจากระทบกระเทียบกันบ้างก็ไม่ร้ายแรง

พวกนางช่วยกันจัดแจงงานในหอบรรพชนอีกเล็กน้อย ทว่าศาลในยามนี้เต็มไปด้วยเหล่าสนมนางในที่ปฏิบัติตามพระราชเสาวนีย์ แม้มีใจก็ไร้งาน ล่วงเข้ายามซื่อ (เก้าโมงเช้า) ถงรั่วกูกู่จากตำหนักเซวียนเต๋อพร้อมด้วยนางกำนัลระดับร่างก็หยุดอยู่หน้าศาลบรรพชนอย่างนอบน้อม เอ่ยว่า “ไทเฮาซาบซึ้งในน้ำพระทัยของนายหญิงและนายหญิงน้อย มีพระราชเสาวนีย์ให้ประทานเงินขวัญถุง…โปรดรับ…”

เมื่อได้รับเงินขวัญถุงแล้ว สนมนางในจึงทยอยกลับตำหนักที่พักของตน หลงเยวี่ยและอวิ้นเหมยควงแขนกันเดินช้าๆ ออกจากอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ “มีข่าวน้ำท่วมที่เจียงหนาน ปีศาจออกอาละวาด ไม่รู้ว่าท่านตาและท่านยายจะเป็นอย่างไร มาครั้งนี้ข้าขอพรให้พวกท่านโดยเฉพาะ…” อวิ้นเหมยเอ่ยอย่างกังวล หลงเยวี่ยแหงนหน้ามองฟ้าสีคราม เอ่ยถอนใจ

“ไม่มีข่าวร้ายแจ้งมานับเป็นเรื่องดี”

“จริงของเจ้า” อวิ้นเหมยยังไม่คลายกังวล หลงเยวี่ยชวนนางพูดคุยถึงเรื่องต่างๆ อีกเล็กน้อย จนผ่านต้นไหวสูงสง่า ขันทีชราผู้หนึ่งสืบเท้าเดินอย่างนอบน้อมตรงมาทางด้านนี้ เมื่อใบหน้าอวบอูมแฝงรอยยับย่นใกล้เข้ามา หลงเยวี่ยก็พอจำได้ว่าเขาคือขันทีแซ่ไต้

“ถวายบังคมตวนมู่เหม่ยเหริน” ไต้กงกงโค้งคารวะ นัยน์ตาชำเลืองมองอวิ้นเหมยสักครู่ “ถวายบังคมAเหม่ยเหริน”

หลงเยวี่ยจดจำได้ว่าขันทีผู้นี้คือคนของฝ่าบาทก็ปฏิบัติต่อเขาอย่างเกรงใจ ซ้ำยังนับถือคนผู้นี้…อวิ้นเหมยไม่โดดเด่น เขายังสามารถเรียกขานนางได้ถูกต้อง ความใส่ใจนี้มิอาจดูเบาได้จริงๆ มิจำเป็นต้องวางท่า หลงเยวี่ยปรายมือ น้ำเสียงหวานละไมแม้นมีแววฉอเลาะอ่อนหวาน กลับถือตัวยิ่ง “ลำบากไต้กงกงแล้ว อย่าได้มากพิธี…เจ้ามาที่นี่มีเรื่องใดหรือ?”

“เมื่อสักครู่กระหม่อมไปที่ตำหนักเมิ่งเหยาไม่พบนายหญิงน้อย ได้ยินนางกำนัลเอ่ยว่าท่านมาบูชาบูรพกษัตริย์จึงเร่งติดตามมา— ตวนมู่เหม่ยเหริน ฝ่าบาทมีรับสั่งเรียกหาท่าน ขอเชิญนายหญิงน้อยทางด้านนี้” ไต้กงกงผายมือเชื้อเชิญ หลงเยวี่ยมีความสัมพันธ์อันดีกับอวิ้นเหมยใส่ใจความรู้สึกของนางมาก ทว่าแม้อวิ้นเหมยแม้จะกระจ่างแจ้งในถ้อยคำของไต้กงกงที่เจตนากีดกันนางออกไปกลับยังมีนัยน์ตาที่สงบนิ่งนัก

ในดินแดนแห่งนี้ผู้ที่ไร้รักอาจกล่าวได้ว่า พบความปรานีอย่างที่สุด

อวิ้นเหมยยิ้มพริ้มเพรามิเห็นฟันตามธรรมเนียม “สวดมนต์วิงวอนบูรพกษัตริย์หลายชั่วยาม ข้ารู้สึกวิงเวียนกลิ่นธูป…คงจะกลับตำหนักไปพักผ่อนแล้ว ไม่รบกวนน้องหญิงไปส่ง”

หลงเยวี่ยพยักหน้า “พี่หญิงรักษาตัวด้วย” แล้วจึงตามไต้กงกงไป

ปรนนิบัติบรรพชนต้าฮั่น
- รางวัลงาน: +50 พลังใจ, 4 ตำลึงทอง , +20 EXP , +20 บารมี , และ +10 ตบะฝึกฝน
ความโปรดปรานจากไท่โฮ่ว +35 แต้ม
ความโปรดปรานจากหวงตี้ +20 แต้ม
@@Admin


แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-01] ฮั่นอู่ตี้ เพิ่มขึ้น 20 โพสต์ 2024-9-19 12:10
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-02] เซียวจื่อไท่โฮ่ว เพิ่มขึ้น 35 โพสต์ 2024-9-19 12:10
คุณได้รับ 20 EXP โพสต์ 2024-9-19 12:10
โพสต์ 23477 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2024-9-19 12:02
โพสต์ 23,477 ไบต์และได้รับ +8 EXP [ถูกบล็อค] ความชั่ว +10 คุณธรรม +15 ความโหด จาก นักสู้  โพสต์ 2024-9-19 12:02

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +50 ตำลึงทอง +4 ตบะฝึกฝน +10 พลังปราณ +20 ย่อ เหตุผล
Admin + 50 + 4 + 10 + 20

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
นักสู้
บทสวดมนต์ฉบับคัดลอก
บาดเจ็บสาหัส
พู่กันคัดอักษร
ชุดเหวินเฉิน(เหม่ยเหริน)
ผีผา
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x5
x2
x19
x4
x1
x4
x8
x9
x2
x3
x5
x4
x2
x1
x2
x1
x3
x5
x2
x4
x20
x1
x7
x3
x1
x2
x6
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้