[โรงหมอเจิ้งเทียน]

[คัดลอกลิงก์]








โรงหมอเจิ้งเทียน


ไม่ไกลจากจตุรัสกลางนคร บนถนนสายหลักที่ค่อนข้างเงียบสงบ มีอาคารไม้หลังหนึ่งตั้งอยู่เรียบง่ายแต่สะดุดตา กลิ่นสมุนไพรจาง ๆ ที่ลอยออกมาจากภายในอาคารทำให้ผู้ผ่านไปมาต่างรู้ทันทีว่านี่คือโรงหมอ โรงหมอแห่งเดียวในเมืองที่ได้รับการรับรองจากจวนเจ้าเมือง แม้ภายนอกจะไม่หรูหรา ไม่มีป้ายทองหรือเสาหิน แต่แพทย์ทุกคนในเมืองล้วนรู้จักสถานที่นี้เป็นอย่างดี

ตัวอาคารถูกดัดแปลงมาจากคฤหาสน์เก่าของตระกูลผู้ดีในยุคก่อน แม้จะผ่านการซ่อมแซมมาหลายครั้ง แต่ยังคงรักษาโครงสร้างไม้ดั้งเดิมเอาไว้ บริเวณด้านหน้าของโรงหมอเป็นลานกว้างสำหรับตากสมุนไพร โดยมักใช้กระด้งไม้หรือเสื่อเรียงไว้ให้แสงแดดช่วยคงคุณภาพของตัวยา ด้านทิศใต้ของอาคารเป็นแปลงสมุนไพรขนาดย่อม ล้อมรอบด้วยรั้วไม้เตี้ย มีทางเดินหินเล็ก ๆ คั่นระหว่างต้นยาและพืชสมุนไพรหลากชนิดที่ปลูกอย่างเป็นระเบียบ สะท้อนถึงการใช้งานจริงมากกว่าการตกแต่ง

โรงหมอแห่งนี้เคยอยู่ภายใต้การดูแลของหมอเจิ้งเซียวเฉิน ผู้เป็นทั้งแพทย์และครูของผู้คนจำนวนมาก เขาเป็นผู้ก่อตั้งสถานที่แห่งนี้ และอุทิศชีวิตทั้งหมดให้กับการรักษาโรคภัย โดยไม่เคยไล่ตามลาภยศหรือเกียรติศักดิ์ใด ๆ หลังจากการจากไปของเขา โรงหมอแห่งนี้ได้ถูกโอนกรรมสิทธิ์ให้กับเจ้าของคนใหม่ ผู้ไม่เคยเอ่ยนามหรือแสดงตนอย่างเปิดเผย แต่ยังคงดำเนินกิจการภายใต้เจตนารมณ์เดิมของหมอเจิ้ง โดยมีลูกศิษย์เป็นผู้ดูแลและสืบสานวิชา

บริเวณด้านหลังโรงหมอ มีสุสานเล็ก ๆ ฝังร่างของหมอเจิ้งเซียวเฉินไว้ใต้ร่มเงาไม้ในมุมสงบ ห่างจากอาคารหลักเพียงไม่กี่ก้าว บริเวณนั้นไม่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าถึง แต่ถูกดูแลอย่างเรียบง่ายและเคารพ

แม้เวลาจะเปลี่ยนผ่าน แต่โรงหมอเจิ้งยังคงทำหน้าที่เดิม เปิดรับผู้ป่วย ผู้เหนื่อยล้า และผู้ที่ต้องการใครสักคนรับฟัง เรื่องราวของร่างกายและหัวใจยังคงถูกถ่ายทอดที่นี่อย่างเงียบงาม ราวกับผู้ก่อตั้งยังไม่เคยจากไปไหนเลย

ทุกท่านสามารถมาโรลเพลย์ทำงานพาร์ทไทม์ประจำวัน
ค่าจ้าง: 200 อีแปะ - 5 EXP (รายวัน)
ค่าขจัดดีบัพด้วยปราณรักษาของหมอ (นัดโคกับ @Suyao)
(เลือกจ่ายราคาได้)
4 ตำลึงทอง | 400 ตำลึงเงิน
(+ค่าภาษีและค่าบริการของหมอรวม 10%)

บันทึกรายรับหมอใหญ่ (20 ตำลึงเงิน)
เขียนโรลเพลย์ทุกวันที่ 1 ของเดือน)


เจิ้ง เซียวเฉิน (เสียชีวิต)
“ข้าทำส่วนหนึ่งของชีวิตขาดหายไป... จะไปตามหามันได้ที่ใดอีก”


แพทย์ผู้โด่งดังจากเจียงโจว ผู้ย้ายถิ่นฐานมายังเมืองหลวงหลังจากสูญเสียภรรยา และตั้งรกรากอยู่ในบ้านเกิดของนางที่ล่วงลับไปแล้ว แม้เขาจะเป็นแพทย์มากฝีมือ มีฝีมือการรักษาที่หาตัวจับได้ยาก แต่ก็ไม่อาจช่วยชีวิตคนรักได้ทัน ความสูญเสียครั้งนั้นกลายเป็นรอยแผลลึกในใจ

จากคนอัธยาศัยดี ช่างพูดและอ่อนโยน เขากลายเป็นคนพูดน้อย ยิ้มน้อยลง และมักจะจมอยู่ในความเงียบ แม้จะดูเฉยชาต่อผู้คน แต่เขากลับมีความอดทนอย่างยิ่งยวดในการรับฟัง มักใช้เวลาว่างนั่งเล่นกับเด็ก ๆ ที่มารอญาติรักษาตัว เหมือนต้องการปลอบโยนความรู้สึกของตนที่ยังคงผูกพันกับลูกน้อยซึ่งไม่มีโอกาสได้ลืมตาดูโลก

เจิ้งเซียวเฉินเสียชีวิตอย่างกะทันหันด้วยโรคปริศนา ก่อนเสียชีวิตเขาได้ฝากฝังคำสั่งเสียไว้อย่างชัดเจน ขอให้ลูกศิษย์สืบสานเจตนารมณ์ของเขาให้รักษาผู้คนด้วยหัวใจของ “หมอ” ไม่ใช่เพียงหน้าที่ และไม่ว่าใครจะยากดีมีจน ก็สมควรได้รับการเยียวยาอย่างเสมอภาค


หมอใหญ่ประจำโรงหมอ
ซู เหยา


แพทย์หญิงจากเมืองเฉิงตู ผู้มีชื่อเสียงด้านการปรุงยาสมุนไพรและการวินิจฉัยโรคอย่างแม่นยำ นางเคยช่วยดูแลเรือนยารักษาคนในหมู่บ้านชนบทโดยมีท่านตาซูมู่เฉิน เป็นผู้อบรมวิชาให้ตั้งแต่เยาว์วัย

หลังการเสียชีวิตของท่านตา และการล่มสลายของชุมชนจากโรคระบาดปริศนา นางตัดสินใจละทิ้งชีวิตในป่าเขาและมุ่งสู่ฉางอัน เมืองหลวงแห่งแผ่นดิน หวังเพียงสืบสานปณิธานแห่งการรักษาผู้คนให้มากกว่าที่เคย

ด้วยความสามารถอันโดดเด่นและหัวใจที่อ่อนโยน นางได้รับความเมตตาจากเจิ้ง เซียวเฉิน หมอใหญ่แห่งโรงหมอเจิ้งเทียน ผู้รับนางเข้าทำงานและถ่ายทอดวิชาเพิ่มเติมให้ด้วยตนเอง

หลังการจากไปของเจิ้งเซียวเฉิน นางได้สืบทอดหน้าที่ดูแลโรงหมอเจิ้งเทียนด้วยความเคารพในปณิธานของเขาด้วยการรักษาผู้คนแบบไม่แบ่งแยกแม้เป็นผู้ยากไร้ก็ตาม









แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 9994 ไบต์และได้รับ 4 EXP! [VIP]  โพสต์ 2024-7-28 10:22
โพสต์ 2024-7-28 10:53:37 | ดูโพสต์ทั้งหมด
โจวจินแบกร่างที่บาดเจ็บเข้ามาในโรงหมอเพื่อที่จะดูค่าทำการรักษา


"สวัสดีขอรับ ท่านหมอตัวข้านั้นบาดเจ็บภายในมาได้หลายวันแล้ว ข้ารักษาประมาณเท่าไรขอรับ" โจวจินกล่าวถามท่านหมอ


"เจ้าเหรอ นี่ เจ้าบาดเจ็บภายใน ต้องใช้ปราณ รักษา ค่ายใช้จ่ายจะแพงหน่อยนะ" ท่านหมอลูบคาง


"ประมาณนี้" หมอ ชู 3 นิ้ว


"3 ตำลึงเงิน" โจวจินกล่าวถาม


"ตำลึงทองต่างหาก!" ท่านหมอสวนขวับ


"เจ้าคิดว่าการรักษามันง่ายรึ!" ท่านหมอถึงกับของขึ้น


"เข้าใจแล้วขรั๊บ" โจวจิน กล่าวและส่งเงินไปให้


"ท่านหมอช่วยรักษาข้าที" โจวจินกล่าว


"ได้่ซิเจ้าหนุ่ม ถอดเสียแล้วนั่งหันหลังให้ข้า" ท่านหมอกล่าว


โจวจินทำตามและปล่อยให้หมอรักษา


"เจ้าหายป่วยแล้วมีอะไรอีกไหม" ท่านหมอกล่าวถาม


"ข้าขอทำงานที่นี่นะขอรับ เห็นท่านรับสมัคร Part time" โจวจินกล่าวถาม


"ได้ ไปช่วยข้าจัดสมุนไพร" ท่านหมอชี้ไปที่ห้องยา


โจวจินจำแนกสมุนไพร เก็บตามล็อคอย่างใจเย็น เขาทำไปเรื่อยๆจนท่านหมอสั่งให้พอ และจ่ายเงิน แล้วเขาก็เดินจากไป




---------------------------------
ค่าจ้าง: 200 อีแปะ - 5 EXP (รายวัน)

-4 ตำลึงทอง โอนให้แอด คืน บาดเจ็บสาหัสแอดมิน

แสดงความคิดเห็น

ดี: 5.0
ดี: 5
  โพสต์ 2024-7-28 10:57
คุณได้รับ 5 EXP โพสต์ 2024-7-28 10:56
โพสต์ 4103 ไบต์และได้รับ 1 EXP!  โพสต์ 2024-7-28 10:53
โพสต์ 4,103 ไบต์และได้รับ +2 ความชั่ว +3 ความโหด จาก มีดแล่เนื้อ  โพสต์ 2024-7-28 10:53

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1เหรียญอู่จู +200 ย่อ เหตุผล
Watcher + 200

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบี่
มือกระบี่
ช่อเมล็ดข้าวมงคล
หมวกไผ่ผ้าคลุม
เกราะทองแดง
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ช)
มีดแล่เนื้อ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x4
x4
x2
x2
x2
x6
x2
x2
x1
x4
x5
x1
x1
x16
x32
x24
x9
x1
x2
โพสต์ 2024-8-15 09:09:03 | ดูโพสต์ทั้งหมด
วันที่ 12 เดือน 08 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 10 เวลา  8.00 - 17.00 น




หลังจากที่ชายหนุ่มได้รับจดหมายที่โรงเตี๊ยม และบังเอิญเจอท่านหนาน และกล่าวขออภัยเรียบร้อย ชายหนุ่มก็รีบมายังที่โรงหมอเจิ้งเทียน


'ทำไมวันนี้โรงหมอคนเยอะจัง'ชายหนุ่มคิดในใจ มองที่โรงหมอ บรรยากาศตอนนี้ช่างเต็มไปด้วยความวุ่นวาย เเออัด มีคนร้องไห้ มีคนเสียใจและมีคนที่ท่าทางราวกับโดนสูบพลังชีวิตไปหมดตัว


"อาจิน เจ้ามาเร็วนะเนี่ย" เป็นแม่นางเว่ยกล่าวทักทายชายหนุ่ม


"ชาวบ้านมากมายโดนปีศาจปลาทำร้าย และบางคนเหมือนจะโดนสูบพลังไปเข้าอาการโคม่า ชาวบ้านนับพันคนอัดแน่นไปในโรงหมอ ตอนนี้สถานการณ์ค่อนข้างวิกฤติเลยล่ะ ข้าเลยชวนเจ้ามาที่นี่เพื่อช่วยงานท่านหมอ" แม่นางเว่ยอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าทำไมวันนี้โรงหมอเยอะเป็นพิเศษ



'นี่มันอาจจะเป็นเพราะข้า' โจวจินได้ฟังก็คิดและคิดว่ามันเป็นความผิดของเขา


'ข้าเเก้ไขอดีตไม่ได้แต่ข้าทำปัจจุบันให้ดีได้' ชายหนุ่มคิดในใจ


"ไปหาท่านหมอ และให้ความช่วยเหลือกันเถอะ" ชายหนุ่มคิด


หลังจากนั้นชายหนุ่มก็เข้าไปข้างในโรงเตี๊ยม ข้างนอกว่าวุ่นวายแล้ว ข้างในนั้น วุ่นวายยิ่งกว่า โกลาหลกว่า


คนถูกแบกขึ้นไปรักษาตัวบนชั้น 2


พื้นที่โดยรอบถูกปูไปด้วยเสื่อ ผ้าป่านที่มีคนเจ็บป่วยนอนเรียงราง


หมอฝึกหัด หมอ หมอทางการ และผู้เชี่ยวชาญ วิ่งกันให้อุดตะลุด และจ้าละวั่น


บรรยายกาศเต็มไปด้วยความวุ่นวาย


"แม่นางเว่ย เจ้าไปช่วยจัดยาและสมุนไพรด้านนู้นที" เป็นทางอาจารย์เจ้าของโรงหมอ ไว่วานแม่นางเว่ย


"ส่วนเจ้า เจ้าหนุ่ม เจ้ามาช่วยซินะ รบกวนเจ้าไปจัดสมุนไพร ตามรายการนี้ที เจ้าเคยมาทำงานจัดสมุนไพรครั้งนึงเจ้าน่าจะพอรู้"ท่านอาจารย์หมอที่เห็นขายหนุ่มมากับแม่นางเว่ยก็คิดว่าเขาคงมาช่วยแน่ๆจึงกล่าวสั่งงานำแ และรีบเดินไปรักษาต่อ


"ได้ขอรับ" โจวจินพยักหน้ารับคำ


"ไปทำงานกันเถอะ" แม่นางเว่ยกล่าวและเดินมาตีหลังโจวจิน และเดินไปยังห้องสมุนไพร


โจวจินรีบเดินตามไป


ชายหนุ่มเห็นตู้เก็บสมุนไพรที่เขาเห็นคราที่แล้วที่มีค่อนข้างเยอะ ตอนนี้ พร่องไปเยอะมาก ประดุจดั่งมีการใช้่งานที่เยอะ


"เจ้าหนุ่มเคยมาทำงานที่นี่ครั้งนึง ใช่ไหม เจ้าเอาใบนี่ไป"เป็นผู้เฒ่าคนนึงส่งเอกสารให้ชายหนุ่ม


ชายหนุ่มก็รับและหยิบมาดู


ปรากฎเป็นใบสั่งยา มียาแก้ปวด ยาชา และยาบำรุง


"เจ้าจัดสมุนไพรตามนี้และเอามาวางในถาดไม้นี่ หลังจากนั้นส่งมาให้ข้า ข้าจะจัดการต่อเอง อย่าให้สัดส่วนผิดนะ" เขากล่าวสันทัดโจวจิน


ชายหนุ่มพยักหน้า


โจวจินเดินไปที่ตู้เก็บสมุนไพร ดูตามเลข และปริมาณที่ตราชั่งน้อย


ไม่ว่าจะเป็น รากมังกร เม็ดเก๋ากี๋ และ ผงถ่าน สำหรับยาบำรุง


ไม่ว่าจะเป็น หญ้ามังกรหลับ พริกไท และ ผงกำยาน สำหรับยาชา


ไม่ว่าจะเป็น ดอกเข็ม สมุนไพรสีเขียวๆ มีใบแฉกที่โจวจินไม่ทราบชื่อ และ ผงกำยาน สำหรับยาแก้ปวด


โจวจินจัดเรียงตามปริมาณอย่างดี และส่งให้ท่านหมอผู้เฒ่าต่อด้วยความเร็วมากที่สุดที่เขาพอจะทำได้ ชายหนุ่มรู้ดีว่าสถานการณ์ตอนนี้เร่งด่วนแต่ถ้าเขารีบจนจัดยาผิด เขานั้นก็จะกลายเป็นยิ่งกว่าคนบาปเพราะว่าอาจจะมีคนตายเพราะเขาจัดยาเกินขนาด หรือยาเบาเกินไป


เวลาล่วงเลยผ่านไปได้ซักระยะ โจวจินจัดยาให้ท่านหมอไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร


"เจ้าหนุ่ม เที่ยงวันแล้ว เจ้าไปพักเถอะ เดี้ยวให้อีกคนมาต่อ ถ้าเจ้ายังทำงานหนักขนาดนี้เดี้ยวเจ้าจะเป็นลมไปซะก่อน" พ่อหมอผู้เฒ่ากล่าเตือนโจวจินและไล่ให้ชายหนุ่มไปพัก


"เจ้าด้วย แม่นางเว่ย เจ้าน่ะมาเช้ากว่าเจ้าหนุ่มนี่อีก พวกเจ้าไปหาอะไรทานกันเถอะ" พ่อหมอกล่าวไล่ทั้งคู่


"ไปหาข้าวทานเสร็จแล้วกลับมาช่วยงานกันต่อเถอะขอรับ แม่นางเว่ย" โจวจินกล่าวกับเเม่นางเว่ย ชายหนุ่มกล่าวและลุกเดินออกไปที่หน้าโรงหมอ


หญิงสาวพยักหน้า และเดินตามโจวจินออกมา


โจวจินเดินไปที่ร้านขายข้าว และสั่งข้าวมาทานกับแม่นางเว่ย


"ท่านว่าข้าทำผิดไหมที่ถล่มวังบาดาล" โจวจินกล่าวถามแม่นางเว่ย


"ไม่หรอก ถ้าเจ้าไม่ถล่มพวกมันทิ้ง วันใดพวกมันสะสมไพร่พลจำนวนมากได้ จนก่อสงครามกับชาวเมือง คนจะบาดเจ็บล้มตายกันมากกว่านี้อีก" แม่นางเว่ยกล่าวปลอบชายหนุ่ม


"ใช่แล้วเป็นอย่างที่แม่นางเว่ยกล่าวน่ะเเหละ ที่เจ้าถล่มวังบาดาล และจัดการจ้าวปีศาจปลา ทำให้ปีศาจปลาทั้งฝูงไม่มีคนนำนั้น อาจจะดูเหมือนอันตรายแต่ว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้คนในอนาคตมากกว่า" เป็นพี่หมานที่กล่าวออกมา


"คารวะพี่หมาน ท่านมาตอนไหนเนี่ยขอรับ" โจวจินกล่าวคารวะ


"คารวะท่านต้่าซือถู" แม่นางเว่ยคารวะ


"ข้านั่งอยู่ที่ร้านนี้ก่อนพวกเจ้า" พี่หมานกล่าว


"พวกเจ้าตามสบายเถอะ ตัวข้านั้นชื่นชมพวกเจ้าเป้นอย่างมาก ทั้งแม่นางเว่ย และเจ้าด้วยนะ โจว" พี่หมานกล่าว


"พี่หมาน แม่นางเว่ย เรามาทานขนมกับชากัน วันนี้ยังอีกยาวไกล พวกเรายังต้องทำงานต่ออีก เราต้องเติมพลังกันด้วยของหวาน" ชายหนุ่มหยิบ ขนมเฉียวกั่ว ★★★★ และ ชาจวินซานหยินเจิน ★★★★ ออกมา


หลังจากที่นั่งคุย กินขนมจิบชาไปได้ซักพัก โจวจินกับแม่นางเว่ยก็ขอตัวออกมากก่อนเพื่อกลับไปบำเพ็ญประโยชน์ที่โรงหมอต่อ


ชายหนุ่มกลับมาคราวนี้ เหมือนคนป่วยจะมากขึ้น แม่นางเว่ยนั้นกลับไปทำงานจัดสมุนไพรเหมือนเดิมแต่ชายหนุ่มได้รับมอบหมายงานให้ลำเลียงคนเจ็บ ซึ่งทำงานร่วมกับเสี่ยวเอ้อร์อีกคน


โจวจินได้ทำความเข้าใจจากเหตุการณ์นี้แล้วว่า การทำร้ายคนอื่นนั้นยากกว่าการรักษาคนอื่นมากเพียงใด


การที่เขาจะลำเลียงคนเจ็บนั้น เข้าต้องมีการควบคุมแรงที่ดีอย่างมาก ไม่เดินเร็วเกินไป ไม่ยกเเรงเกินไป แต่ก็ห้ามช้า เพราะยิ่งช้า คนเจ็บก็มีโอกาสที่อาการทรุดตัวลงได้


ช่วงแรกชายหนุ่มช่วยหิ้วเปล จากชั้น 1 ขึ้นชั้น 2 ด้วยความยากลำบาก ถึงแม้เขาจะไม่ทำให้คนบาดเจ็บเพิ่ม แต่ก็ถือว่ายังลำเลียงคนเจ็บได้ช้า


แต่ไม่นานหลังจากชายหนุ่มปรับตัวเรื่องการใช้แรงได้ ชายหนุ่มก็สามารถลำเลียงคนเจ็บได้ดี


หลังจากนั้นชายหนุ่มก็ไม่ได้มองเวลาเลย ทำงานไปเรื่อยๆ จนท่านหมอใหญ่เดินมาบอก


"วันนี้เรารักษาคนเจ็บที่มาทั้งหมดแล้ว พวกเจ้ากลับไปพักได้แล้วล่ะ" ท่านหมอใหญ่เดินมาตบไหล่โจวจิน


"ขอบคุณพวกเจ้ามากที่มาช่วยในวันนี้ ช่วงนี้คนไข้ค่อนข้างเยอะ ไม่งั้นโดยทั่วไปพวกข้าก็เอากันอยู่" พ่อหมอกล่าวขอบคุณ


โจวจินยื่นรอแม่นางเว่ยอยู่หน้าทางเข้า


"เป็นไงบ้างอาจิน วันนี้เหนื่อยไหม" แม่นางเว่ยที่เดินออกมาก็กล่าวกับเขา


"เหนื่อยขอรับ แต่นานๆทีได้ทำแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน วันนี้ข้ารู้แล้วว่าการรักษาคนนั้นยากเพียงใด การทำร้ายคนนั้น อาจจะทำได้เพียงแค่เสี้่ยววิ แต่การรักษาคนนั้น กลับทำได้อย่างยากลำบาก" ชายหนุ่มกล่าว


"ดีแล้วที่เจ้าคิดแบบนี้" แม่นางเว่ยตบไหลโจวจิน


"ดีแล้วที่ข้ามีเจ้าเป็นสหาย" แม่นางเว่ยยิ้ม


"ข้าก็เช่นกันขอรับ" โจวจินยิ้ม


หลังจากนั้น ทั้งคู่ก็แยกย้ายกัน


--------------------------------------
(โรลอิสระในการดูแลคนไข้ หากโรลเพลย์ถึง 20,000 ไบต์ได้โบนัส +80 คุณธรรม - +25 EXP แนบท้ายโรล)





[NPC-06] เว่ย จื่อฟู โรลเพลย์พูดคุยประจำวัน ได้รับความสัมพันธ์+5 แต้ม
[NPC-06] เว่ย จื่อฟู  หัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20
[NPC-06] เว่ย จื่อฟู  ผู้มีบุญ+20
[NPC-06] เว่ย จื่อฟู  ขนมเฉียวกั่ว ★★★★ และ ชาจวินซานหยินเจิน ★★★★(ชาชง) +15(ขนมว่างเกรดม่วง)+5(อาหารปรุง)+10(ชาเกรดม่วง)+5(ชงชา)



[NPC-07] ตงฟาง ซั่ว  โรลเพลย์พูดคุยประจำวัน ได้รับความสัมพันธ์+5 แต้ม
[NPC-07] ตงฟาง ซั่ว หัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20


[NPC-07] ตงฟาง ซั่ว  ผู้มีบุญ+20
[NPC-07] ตงฟาง ซั่ว  ขนมเฉียวกั่ว ★★★★ และ ชาจวินซานหยินเจิน ★★★★(ชาชง) +15(ขนมว่างเกรดม่วง)+5(อาหารปรุง)+10(ชาเกรดม่วง)+5(ชงชา)



@Admin ผู้มีบุญครับ โพสปลดหัวใจแม่นางเว่ยด้วยขอรับ

แสดงความคิดเห็น

ตงฟางซั่วถึงลิมิตสูงสุดแล้ว  โพสต์ 2024-8-15 09:48
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-07] ตงฟาง ซั่ว เพิ่มขึ้น 50 โพสต์ 2024-8-15 09:47
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-06] เว่ย จื่อฟู เพิ่มขึ้น 80 โพสต์ 2024-8-15 09:47
โพสต์ 40595 ไบต์และได้รับ 24 EXP!  โพสต์ 2024-8-15 09:09
โพสต์ 40,595 ไบต์และได้รับ +6 คุณธรรม จาก พัดคุณชาย  โพสต์ 2024-8-15 09:09
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบี่
มือกระบี่
ช่อเมล็ดข้าวมงคล
หมวกไผ่ผ้าคลุม
เกราะทองแดง
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ช)
มีดแล่เนื้อ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x4
x4
x2
x2
x2
x6
x2
x2
x1
x4
x5
x1
x1
x16
x32
x24
x9
x1
x2

1

กระทู้

39

ตอบกลับ

5166

เครดิต

เสาหลักพวกพ้อง

พลังน้ำใจ
4927
ตำลึงทอง
45
ตำลึงเงิน
477
เหรียญอู่จู
11886
STR
25+15
INT
30+0
LUK
30+20
POW
20+0
CHA
0+0
VIT
15+12
คุณธรรม
878
ความชั่ว
0
ความโหด
542
โพสต์ 2024-8-15 15:09:39 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย GongziLoongxuan เมื่อ 2024-8-15 15:10







วันที่ 14 เดือน 8 เจี้ยนหยวนศกที่ 10

เวลา 10.30



เมื่อหลงเสวียนและหลินชางเดินไปโรงหมอ ทั้งสองฝ่ายรักษาระยะห่างจากกัน เกือบสองเมตร จอมยุทธ์หลินชางเป็นฝ่ายเดินนำ ทางด้านเขาจึงตามหลัง


ซึ่งมันก็ดีแล้วเพราะเขาไม่ค่อยรู้เส้นทางในนครหลวงแห่งนี้นัก


ในขณะเดียวกันมีข่าวลือซุบซิบ เสียงดังพอจากกลุ่มชาวบ้านในละแวก



“เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 6 เดือน 8 มีเรื่องร่ำลือกันในฉางอันว่า เห็นฝ่าบาทกับลู่เจียยวี๋เสด็จประพาสนอกวังตามลำพังเต็มยศ”


“หรือลู่เจียยวี๋จะทรงเป็นคนโปรดของฝ่าบาทอย่างแท้จริงในตอนนี้”



“ท่านหลิวชางหยุดเดิน มีอันใดหรือ” หลงเสวียนกล่าวถามเสียงทุ้ม


“เปล่า ข้าเพียงแค่คิดอะไรนิดหน่อย”


จอมยุทธ์ผู้นั้นตอบกลับเขา “หรือจักเกี่ยวกับข่าวลือเมื่อตะกี้”


อีกฝ่ายไม่ได้ตอบคำถามหลงเสวียน กระทั่งถึงโรงหมอเจิ้งเทียน อาคารเรียบง่ายสร้างจากคฤหาสน์เก่าแก่ที่เด่นชัด ไม่ไกลจากจัตุรัสกลางนคร 


“ถึงโรงหมอแล้ว เช่นนั้นข้าขอตัว”


หมอใหญ่เจิ้งทำการรักษา ร่างที่บาดเจ็บสาหัสอันกายาที่ถูกปีศาจปลาทำร้ายจนบอบช้ำ ใช้เวลาไม่นานเกินรอ บาดแผลทุกอย่างก็ถูกสมานด้วยการใช้สมุนไพรและโปะยาทาทับบนแผล ซึ่งสมุนไพรและยาหลัก ๆ ที่รักษาเป็นฤทธิ์เย็น ช่วยลดอาการแดง แสบไหม้


“ทั้งหมด 3 ตำลึงทอง หรือเจ้าจะจ่าย 300 ตำลึงเงิน ก็ได้” 


“ก็ไม่แพง”


“ใช่ไหม ราคาประมาณนี้เมื่อเทียบกับการรักษาของข้า ยังถูกไปด้วยซ้ำ” หมอใหญ่เจิ้งค่อนข้างเห็นด้วย นาน ๆ ที จะได้ยิน คนไข้ของตนที่บอกค่ารักษาของเขาไม่แพง 


หลงเสวียนวางตำลึงทองลงบนโต๊ะพร้อมรับเทียบยาที่หมอใหญ่จัดไว้ ให้กินจนกว่าแผลจะหายดี 


ถึงราคาค่ารักษาจะไม่แพง ไม่สิ เขาเคยจับเงินเยอะ ๆ แต่พอหนีออกจากบ้านแล้วดูเงินที่เหลืออยู่ ทุกอย่างก็ดูแพงไปหมด หลงเสวียนไม่ยอมเสียหน้าเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ อยู่แล้ว จึงปริปากพูดเช่นนั้นไป



ค่าขจัดดีบัพด้วยปราณรักษาของหมอ

3 ตำลึงทอง 

(+ค่าภาษีและค่าบริการของหมอรวม 10%)



[NPC-05] หลิว ชุ่น

หัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20



15 EXP สำหรับผู้ฟังข่าวลือ









แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับ 15 EXP โพสต์ 2024-8-15 16:15
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-05] หลิว ชุ่น เพิ่มขึ้น 20 โพสต์ 2024-8-15 16:15
โพสต์ 20145 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2024-8-15 15:09
โพสต์ 20,145 ไบต์และได้รับ +3 EXP +6 ความชั่ว +8 ความโหด จาก บาดเจ็บสาหัส  โพสต์ 2024-8-15 15:09
โพสต์ 20,145 ไบต์และได้รับ +5 EXP +15 คุณธรรม +8 ความโหด จาก ลาภลอย  โพสต์ 2024-8-15 15:09
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ผู้มีบุญ
มีดแล่เนื้อ
เกราะทองแดง
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ช)
ง้าวปีศาจปลา
หมวกไผ่ผ้าคลุม
พัดคุณชาย
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x12
x16
x1
x4
x2
x4
x2
x17
x54
x5
โพสต์ 2024-8-19 13:16:45 | ดูโพสต์ทั้งหมด
วันที่ 19 เดือน 08 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 10 เวลา 9.00 น




ใช้เวลาซักพักชายหนุ่มที่กลับมาถึงเมืองก็รีบซมซานกลับไปที่หมอทันที


สภาพแวดล้อมตอนนี้ค่อนข้างดูดีขึ้นกว่าวันนั้นคนไม่ค่อยเยอะทำให้โจวจินได้คิวรักษาทันที


"ท่านหมอขอรับ ข้าขอรบกวนรักษาเต็มรูปแบบทีขอรับ ข้าเตรียมข้ารักษามาแล้ว 3+1 ตำลึงทองเป็นค่าภาษี" โจวจินยื่นค่ารักษาให้ท่านหมอ และขอรับการรักษา


ท่านหมอพยักหน้าแล้วเอามือทาบหลังชายหนุ่มแล้วทำการรักษา


"คราวหน้าก็ระวังด้วยล่ะพ่อหนุ่ม" ท่านหมอกล่าว


"เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณมากขอรับท่านหมอ" โจวจินที่หายเจ็บแล้วก็กล่าวขอบคุณก่อนที่จะเดินออกมาเเบบเฟรนชๆ
--------------------------


-4 ตำลึงทอง -บาดเจ็บสาหัส


@Admin ผู้มีบุญ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 4252 ไบต์และได้รับ 1 EXP!  โพสต์ 2024-8-19 13:16
โพสต์ 4,252 ไบต์และได้รับ +2 ความชั่ว +3 ความโหด จาก มีดแล่เนื้อ  โพสต์ 2024-8-19 13:16
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบี่
มือกระบี่
ช่อเมล็ดข้าวมงคล
หมวกไผ่ผ้าคลุม
เกราะทองแดง
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ช)
มีดแล่เนื้อ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x4
x4
x2
x2
x2
x6
x2
x2
x1
x4
x5
x1
x1
x16
x32
x24
x9
x1
x2
โพสต์ 2025-6-8 22:07:27 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย LinYa เมื่อ 2025-6-8 22:09


วันที่ แปด เดือน ห้า รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามเซิน เวลา 15.00 - 17.00 น.
ไปทำงานโรงหมอเจิ้งเทียน (พบ ฉู่ ซ่วนจื่อ 30 นาที นางมาช่วยงานหมอ)


          แสงอาทิตย์อ่อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ แรงลมหลังม่านฝนปรากฎเบา ๆ สายฝนโปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย รินรดยอดไม้ลาดไหล่หลังคาของโรงหมอจิ้งเทียน เสียงหยาดน้ำกระทบกระเบื้องหลังคาไม้ดังแผ่วเป็นจังหวะเสมือนบทขับกลอนยามเมื่อมีสายฝนเทลงมา เทลงมา น้ำเตี้ยลง น้ำไเตี้ยลง..แค่ก ไม่ใช่..ความชื้นเย็นนั้นแล่นผ่านกลิ่นสมุนไพรตากแห้งที่ห่อด้วยผ้าฝ้ายแขวนเรียงกันใต้ชายคาของบรรยากาศที่สงบนิ่งกับช่วงปลายบทของวัน วันนี้เป็นวันแรกที่หลินหยาจะก้าวเข้ามาสู่สถานที่แห่งนี้

          โรงหมอเจิ้งเทียน สถาบันการแพทย์ของฉางอันที่ได้รับการรองรับจากจวนเจ้าเมือง ลานหน้าตึกปูด้วยศิลาแผ่นกว้าง รายล้อมด้วยพุ่มไม้สมุนไพรและโอ่งเก็บน้ำฝน เธอก้าวผ่านประตูแกะไม้สลักเรียบง่ายในสภาพเปียกปอนเหมือนกับลูกแมวตกน้ำ วิ่งผ่านสายฝนชุ่มฉ่ำจนทองเท้าเปียก แต่ดวงตากลับเปล่งประกายงาม ที่นี่แตกต่างไปจากที่ที่เธอเคยไปทั้งสิ้น ด้านบนหัวมีใบตองปิดอยู่..ก็คือ..เอาใบตองมาเป็นร่มระหว่างเดินมานั้นแหละ ไม่มีเงินซื้อร่ม ความจริงมีแต่งกไง อีกอย่างมันพึ่งตกนี้หว่า ใครจะไปเตรียมตัวทันเนี้ย…ตอนนี้สภาพเหมือนแมลงสาปเลยล่ะที่เอาใบตองมาปิดร่างกายนั้นแหละ รอบหน้าที่หาซื้อร่มแล้วนะ จะได้เก็บไว้ ทำไมต้องมาตกตอนนี้ด้วยเนี้ย แย่จริง ๆ เลยล่ะ ฮืออ เปียกหมด

          “มาช่วยงานโรงหมอหรือ..” เสียงหนึ่งเอ่ยถามจากร่มของชายคาหลังคาของโรงหมอ หญิงสาวคนนั้นนั่งบนเสื่อฟางงาม เส้นผมสีดำสนิทถักเรียบ รวบไว้ด้วยปิ่นหยกขาวเงิน ชุดที่ไม่ใช่แพทย์แต่เป็นสีอ่อนเรียบง่ายสะอาดตาจนสะดุด ทุกท่าทีของนางมีบางอย่างที่สงบและมั่นคง ดวงตานิ่งลึกเสียจนเหมือนทะเลยามไม่มีลมแต่ไม่ได้อึดอัดแต่อย่างใด เป็นความสงบที่หาได้ยาก หากบุรุษที่พบเมื่อหอดูดาวคือเงียบแบบเยือกเย็นแบบเหมันต์ในฤดูหนาว นางคงเป็นความสงบที่ชวนให้ศรัทธาเสียกระมัง?

          อ๊า..ใช่เจ้าค่ะ ข้ามาช่วย เห็นคนแนะนำมาว่าที่นี่รับคนทำงาน ข้าสามารถทำอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่การเขียนเจ้าค่ะ ข้าไม่เก่งนัก” นางเอ่ยบอกแล้วระบายยิ้ม หลินหยาเอ่ยแล้วโค้งหัวให้เล็กน้อยตอบอย่างลน ๆ แบบคนที่ประหม่าแบบไม่รู้ตัวเพราะเธอไม่รู้ว่าพูดต่อหน้าใครอยู่ในตอนนี้ นางสวย แล้วก็แปลกตา ดูไม่เหมือนคนชั้นสูงแต่ก็ไม่ใช่คนธรรมดาเลยสักนิด “ข้า..เอ่อ แม่นาง..ข้าขอแนะนำตัว ข้าชื่อหลินหยา หนานหลินหยาเจ้าค่ะ ยินดีที่ได้พบท่าน” หลินหยาเอ่ย สตรีตรงหน้าดูอายุมากกว่าเธอแต่ไม่ถึงกับแก่แบบสาววัยกลางคนแต่อย่างใด นางดูเหมือนคนที่มีอายุ อาจจะสักอายุ 20 กว่า ๆ ต้น ๆ ไม่ถึง 30 หรอกจากทีดู่น่ะ ดูเด็กนะเนี้ย หนุ่ม ๆ คงจีบมากมายเลยอ่ะสิ

          “ฉู่ซ่วนจื่อ คือชื่อของข้า” นางเอ่บบอกอย่างเรียบง่าย “ท่านหมอเซียวเฉินกำลังพักผ่อนอยู่ เจ้าช่วยทำงานเรื่องทำความสะอาดด้วยนะ อย่าพยายามแตะต้องยาเพราะบางอย่างมันไม่ควรแตะ ตัวเจ้าเปียกไปหมดแล้ว เปลี่ยนชุดก่อนเถิดเดี๋ยวจะเป็นไข้หวัดเอาคงไม่ดีแน่” นางเอ่ยบอกแล้วระบายยิ้มเล็ก ๆ ด้วยความเป็นห่วงที่เกิดขึ้น แล้วช่วยหลินหยาทำงานและแนะนำการทำงานวันแรกของเด็กสาว ทั้งสองเหมือนกับคนที่ไม่ได้รู้จักกัน หลินหยาเรียกนางว่า แม่นางฉู่ ส่วนนางก็เรียกหลินหยาว่า แม่นางหลินหยา บางครั้งก้เรียกว่าแม่นางน้อยบ้างเหมือนกัน เพราะหลินหยาเหมือนเด็กที่ยังไม่โตเต็มที่ แม้จะสูงก็ตาม นางเริ่มทำงานได้แบบเรื่อย ๆ ต้องเรียนรู้อีกเยอะ แต่ทว่า..นางก็ทำงานได้ดีพอสมควร เรียนรู้เร็วตามประสาคนที่มีความคิดซับซ้อนกว่าที่คิด ที่นี่ไม่ใช่สถานที่สำหรับการเหม่อฝันหรืออย่างไรที่นี่คือสถานที่รักษา

          “เจ้าทำงานดี” เสียงของสตรีคนนั้นดังขึ้น หลินหยาเหมือนแปลกใจนิดหน่อย มันเป็นคำชมทที่เรียบง่ายและไม่มีโทนเสียงพิเศษแต่อย่างใด แต่ก็ทำให้หลินหยาชะงักได้เหมือนกัน ดวงตาของเธอเบิกกว้างนิดหน่อยแล้วค่อย ๆ ยิ้มออกมาอย่างร่าเริงและไม่ได้ฝืนเลยสักนิดเดียว “ขอบคุณเจ้าค่ะแม่นางฉู่ ข้าไม่เคยมีใครพูดแบบนี้ในโรงหมอนัก..คนส่วนใหญ่บอกว่าข้าซนเป็นลิงหรือแมวยามดีดดิ้น” นางเอ่ยบอกแบบนั้น ส่วนฉู่ซ่วนจื่อก็ยิ้มบาง ก่อนที่จะเก็บปิ่นของตัวเองใส่ถุงฟ้า รวบกล่องสมุนไพรแล้วลุกขึ้น

          “ไม่ถึงขั้นนั้นหรอก แม่นางหลินหยาจะมาทุกวันเลยไหมจากนี้?” ฉู่ซ่วนจื่อเอ่ยถาม ส่วนหลินหยาก็พยักหน้าเล็ก ๆ เป็นการบอกว่ามันใช่แบบนั้นแหละ "ใช่เจ้าค่ะ ข้ากำลังเก็บเงินที่จะได้เช่าห้องในโรงเตี๊ยมบ้าง ตอนนี้ข้าอาศัยอยู่ที่ศาลเจ้าสัจจเทพ ข้าเกรงว่าองค์เทพจะเบื่อหน้าข้าเสียแล้ว เลยอยากเก็บเงินเยอะ ๆ เจ้าค่ะ" หลินหยาบอกแบบนั้นแล้วเธอก็ ..อืมเธอทำงานอย่างขยันท่ามกลางท้องฟ้าที่เริ่มสว่างจากการที่ฝนตกนั้นหมดไป หลังจากที่ทำงานเสร็จก็เดินไปรับเงินตามปกติ อย่างน้อยการพบกันเพียง 30 นาที ก็ทำให้ได้รู้จักสตรีงามสักคนนั้นแหละ หลังจากที่ทำงานให้เรียบร้อยแล้วแม่นางฉู่กลับก่อนหลินหยาเพราะนางน่าจะมาที่นี่นานแล้ว หากมาที่นี่ก็จะพบแม่นางฉู่ด้วยสินะ ถือว่าเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีคนหนึ่งเลยล่ะ นางดูน่าหลงใหลในแบบที่น่าเคารพ แม้ว่าหลินหยาจะไม่รู้จักสถานะที่แท้จริงของนางก็ตามที แต่หลินหยาก็รับรู้ได้ว่านางคงไม่ใช่คนธรรมดาเป็นแน่แท้ จากอาการกิริยาแล้ว.. คงไม่มีทางเป็นคนธรรมดาได้เลย แม้นางจะหันหลังไปแล้วก็เหมือนไม่ทิ้งอะไร แต่ออร่าบางอย่างออกมาอย่างชัดเจนจากแผ่นหลังที่หายไป


        หลังจากนั้นหลินหยาก็ทำงานคนเดียวให้เรียบร้อย ท่านหมอเงียบมากเลย แต่พอชินก็คงจะชินในอีกไม่นานละมั้ง ทำไมเขาชอบเงียบกันเนี้ย ฮือ หนูกลัว





พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)
มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่

รางวัล: 200 อีแปะ - 5 EXP
+5 ความสัมพันธ์สนทนาทั่วไป [NPC-17] ฉู่ ซ่วนจื่อ
หัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20
โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม


แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับ 5 EXP โพสต์ 2025-6-8 22:57
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-17] ฉู่ ซ่วนจื่อ เพิ่มขึ้น 5 โพสต์ 2025-6-8 22:57
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-17] ฉู่ ซ่วนจื่อ เพิ่มขึ้น 30 โพสต์ 2025-6-8 22:57
โพสต์ 15461 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-8 22:07
โพสต์ 15,461 ไบต์และได้รับ +3 ความชั่ว +5 ความโหด จาก ขลุ่ย  โพสต์ 2025-6-8 22:07

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1เหรียญอู่จู +200 ย่อ เหตุผล
Watcher + 200

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ชุดทิวาเมฆาล่อง
รองเท้าหยุนเวย
โล่ไม้
วาสนาเซียน
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
เกราะทองเทวะ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x16
x16
x16
x1
x49
x5
x27
x3
x10
x10
x2
x2
x3
x114
x5
x6
x6
x5
x7
x4
x6
x4
x21
x3
x159
x40
x41
x1
x5
x34
x11
x246
x1
x1
x1
x145
x5
x7
x66
x20
x6
x93
x149
x5
x209
x5
x50
x5
x85
x6
x208
x68
x75
x81
x4
x105
x5
x8
x4
x4
x14
x16
x9
x15
x69
x1
x1
x53
x55
x47
x16
x140
x10
x11
x11
x36
x9
x10
x4
x16
x60
x55
x2
x1
x104
x64
x9
x11
x215
x55
x28
x70
x78
x49
x5
x3
x128
x12
x10
x11
x5
x3
x3
x9
x5
x11
x3
x1
x6
x14
x10
x137
x109
x21
x11
x14
x48
x3
x1
x7
โพสต์ 2025-6-15 18:12:02 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ สิบห้า เดือน ห้า รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามเซิน เวลา 15.00 - 17.00 น. ไปทำงานโรงหมอเจิ้งเทียน (พบ ฉู่ ซ่วนจื่อ 30 นาที นางมาช่วยงานหมอ)


         แสงอาทิตย์ยามบ่ายอ่อนตัวลงปลายเงาของเรือนหลังคาโค้งทอดยาวบนพื้นหินเรียบ หลินหยาก้าวเข้าสู่ประตูไม้ของโรงหมอเจิ้งเทียนด้วยฝีเท้าที่คล่องแคล่วของตนเองแม้ว่าจะเพิ่งฟื้นจากอาการป่วยไม่นานก็ตาม แต่ใบหน้าของนางนั้นกลับสดใสมากราวกับไม่เคยผ่้านเหตุการณ์ความเป็นความตายมาก่อน ภายในเรือนไม้มีกลิ่นสมุนไพรอบอวลทั่วบริเวณ เสียงครกตำยาเบา ๆ ดังสม่ำเสมอและเสียงหมอก็แว่วมาเป็นระยะ ทันทีที่เดินเข้าไปด้านในหลินหยาก็พบกับท่านพมอเจิ้งเซียนเฉิน ชายหนุ่มผู้เคร่งขรึมและผ้าคาดของเขาที่มีสีหม่อน แม่นางฉู่ ซ่วนจื่อก็อยู่ด้วย นางนั่งจดตำรายาอยู่ข้างโต๊ะไม้เก่าตรงนั้น

         “สวัสดีเจ้าค่ะท่านหมอ แม่นางซ่วนจื่อ” หลินหยาเอ่ยขึ้นก่อนที่จะระบายยิ้มทักทายทั้งสองคน “ขออภัยนะเจ้าคะที่ช่วงนี้ข้าไม่ค่อยได้มาช่วยงาน ข้าไม่ค่อยว่างเท่าไรนักเจ้าค่ะ แต่จะพยายามมาบ่อย ๆ นะเจ้าคะ” หญิงสาวเอ่ยพร้อมกับรอยยิ้มอันอ่อนโยนพลางวางถุงผ้าห่อเล็ก ๆ ลงเบื้องหน้า จนแม่นางซ่วนจื่อเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มบาง ดวงตาของนางสดใสงามเต็มไปด้วยความงดงามของนางที่แฝงความฉลาด

         “ไม่เป็นไรเลยแม่นางหลินหยา ได้ข่าวว่าเจ้าพึ่งหายป่วย มาทีละน้อยจะดีกว่านะ ยิ่งเป็นคนที่ป่วยด้วยไม่ควรมา..แต่นั้นอะไรหรือ?” นางเอ่ยถาม

         หลินหยาจึงคลี่ห่อผ้าออกมาเผ่ยให้เห็นเมนูอาหารสุดเริ่ด น้ำทิพย์กวางตุ๋นยาจีนหรือเรียกว่าต้วนลู่เตี้ยนจิงเย่าฉาย “เมื่อวานนี้ข้าเล่นดนตรีน่ะเจ้าค่ะ มีคนให้มา นี้ข้าเก็บไว้กะว่าจะกินกับทุกคนเจ้าค่ะ คิดว่าแม่นางคงจะชอบ”

         หญิงสาวผู้นั้นหัวเราะเบา ๆ พร้อมกับมองของแพงตรงหน้า “ขอบคุณเจ้ามากแม่นางน้อย ข้านี่ช่างโชคดีจริง ๆ” ทั้งสองนั่งใต้เรือนที่ร่มรื่นและมีม้านั่งไม้เก่า ๆ ตัวหนั่ง หลินหยา ทั้งสองนั่งทานอาหารรสล้ำเลิศ อาหารที่ถูกเคี่ยวด้วยความพิถีพิถัน เนื้อกวางเปื่อยนุ่มแทบละลายในปากกับเอ็นกวางใสที่เคี้ยวง่าย ให้สัมผัสเต็มปากโดยไม่เลี่ยน รากบัวกรุบกรอบและดอกไม้จีนตุ๋นจนได้ที่ ช่วยเสริมรสชาติให้มีทั้งเนื้อและผักอย่างสมดุล น้ำซุปถูกเคี่ยวจนงวดจนได้รสหวานมันละมุนกลมกล่อม กลิ่นเครื่องเทศที่แผ่ซ่านไม่แรงจนเกินไปแต่พอให้รู้สึกถึงความพิถีพิถันในทุกขั้นตอน กลิ่นหอมที่ลอยฟุ้งจากถ้วยดินเผาแทบสะกดลมหายใจ

         อาหารจานนี้ไม่เพียงแต่มีชื่อเสียงในเรื่องรสชาติ หน้าตา หรือกลิ่นหอม หากแต่ยังมีคุณประโยชน์มากมาย บำรุงไขข้อ เอ็น กระดูก ผิวพรรณ และกำลังวังชาของผู้ที่ได้ลิ้มลอง จึงเป็นที่นิยมโดยเฉพาะในกลุ่มบุรุษผู้ใส่ใจสุขภาพ ทว่าแม้จะเป็นที่นิยมก็ใช่ว่าจะพบเจอได้ง่ายนัก

         หลังจากนั้นที่รับประทานอาหารด้วยกันในบรรยากาศอบอุ่นละมุนิล่นเครื่องยาจีนแท้ัที่ลอยกรุ่นโรงหมอแม่นางฉู่ ซ่วนจื่อก็ยื่นมือมาเช็ดมุมปากตัวเองเบา ๆ ด้วยผ้าเช็ดปากผืนเล็กแล้วหันมามองหลินหยาด้วยรอยยิ้มบางแฝงความเกรงใจ “ข้าววันนี้อร่อยนัก จนแทบไม่อยากไปไหนเลยจ๊ะ” นางพูดเบา ๆ พลางเอามือเรียบหยิบถุงผ้าของตนเองขึ้น “แต่ข้ามีธุระต่อไปที่ต้องจัดการ รบกวนแม่นางหลินหยาอยู่เวรแทนในช่วงที่เหลือด้วยนะ รบกวนแม่นางแล้ว”

         “ไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะแม่นางซ่วนจื่อ ท่านไปเถิดข้าจะจัดการให้เรียบร้อยเองเจ้าค่ะ” หลินหยาเอ่ยตอบเช่นนั้นอย่างยินดีเพราะรูว่านี้คืองานของเธอและยินดีที่จะทำให้พี่สาวคนนี้อยู่ตลอด เพราะนางรู้ว่าอีกฝ่ายมีสิ่งที่ต้องทำมากนัก

         “งั้นไว้เจอกันใหม่นะ” แม่นางซ่วนจื่อยิ้มตาหยีสีหน้าเหมือนจะยังอาลัยต่อรสชาติอาหารแล้วก็ขอตัวออกจากเรือนโรงหมอไปอย่างเงียบ ๆ ทิ้งไว้เพียงกลิ่นหอมที่ยังลอยอยู่ในอากาศ หลินหยาที่เห็นเช่นนั้นก็ถอนหายใจเล็กน้อยแล้วลุกขึ้นเก็บถ้วยชามด้วยควงามเคยชิน แม้จะบอกว่าเป็นเวนแทนแต่ก็นะ เหมือนว่าวันนี้เธอต้องดูแลการจัดเรียงแล้วล่ะ หลินหยาทำทุกอย่างด้วยความคล่องแคล่วของคนที่ชินกับงาน ดูจะไม่มีอะไรที่เธอเกี่ยงหรือละเลย ยามที่ต้องหั่นรากโสมแข็ง ๆ หรือตวงน้ำยาใส่ขวดเล็กสำหรับแจกจ่าย เธอก็ทำด้วยแววตาจริงจัง ริมฝีปากที่เคยขี้เล่นในยามปกตินั้นกลับขมุบขมิบเงียบงัน มีเพียงเสียงไม้กระทบไม้ของอุปกรณ์ที่ใช้อยู่กับเสียงนกที่ร้องลอดหน้าต่างให้ได้ยินเป็นระยะ


         หลินหยาช่วยทำงานที่โรงท่านหมออย่างเงียบ ๆ ท่านหมอมีดูอาการแพ้ให้เธอด้วยเป็นบางครั้ง แล้วก็เหมือนเขาจะบอกว่าหมอที่รักษาให้เป็นหมอที่เก่งมากเลย เพราะว่าไม่ใช่คนทุกคนที่จะรักษาการแพ้อาหารรุนแรงได้แบบนั้นเพราะปกติไม่ค่อยเจอคนแบบนี้เท่าไรนัก ยิ่งอาการแพ้แปลก ๆ บางทีก็มีเหมือนกันแต่น้อยเสียเหลือเกิน คนส่วนใหญ่ไม่มีชีวิตโตขึ้นถึงขนาดนี้หรอกเพราะจะโดนบังคับให้กินเพื่อที่จะให้การแพ้อาหารให้ชนะมันก็มีบ้างที่เหล่าผู้คนจะทำเช่นนั้น เมื่อหลินหยารู้เธอก็แปลกใจนิดหน่อย คิดว่าท่านหมอที่พวกท่านชายอันเล่อเชิญมาต้องมีค่ารักษาแพงแน่ ๆ เลยล่ะ...เอาไว้เจอรอบหน้าค่อยถามหาค่ารักษาดีกว่าไหมเนี้ย? เกรงใจจังเลย?


         "ขอบคุณเจ้าค่ะท่านหมอ คงค่ารักษาแพงมากเลย เดี๋ยวข้าจะลองถามคนนั้นดูนะเจ้าคะ ข้าเกรงใจจริง ๆ ตอนที่ท่านบอกข้าเช่นนั้น" เธอเอ่ยถามพลางพ่นลมหายใจ แต่ตอนนั้นท่านชายเคยตัดบทเรื่องค่ารักษานี้? เหมือนจะตัดแบบพูดตัดไปเลยด้วยซ้ำ..ควรพูดไหมวะเนี้ย



@Admin


พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)
มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่


รางวัล: 200 อีแปะ - 5 EXP
+5 ความสัมพันธ์สนทนาทั่วไป [NPC-17] ฉู่ ซ่วนจื่อ
หัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20
โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม
โบนัส ความโปรดปราน NPC เผ่ามนุษย์ (ผู้มีบุญ) +20 แต้ม
มอบ น้ำทิพย์กวางตุ๋นยาจีน อาหารเกรดแดง ความสัมพันธ์ +30 (ส่งแล้ว)



แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับ 5 EXP โพสต์ 2025-6-15 20:41
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-17] ฉู่ ซ่วนจื่อ เพิ่มขึ้น 85 โพสต์ 2025-6-15 20:40
โพสต์ 15501 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-15 18:12
โพสต์ 15,501 ไบต์และได้รับ +3 EXP +10 คุณธรรม +6 ความโหด จาก ผู้มีบุญ  โพสต์ 2025-6-15 18:12
โพสต์ 15,501 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม จาก ทักษะนักดนตรีข้างถนน  โพสต์ 2025-6-15 18:12

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1เหรียญอู่จู +200 ย่อ เหตุผล
Watcher + 200

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ชุดทิวาเมฆาล่อง
รองเท้าหยุนเวย
โล่ไม้
วาสนาเซียน
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
เกราะทองเทวะ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x16
x16
x16
x1
x49
x5
x27
x3
x10
x10
x2
x2
x3
x114
x5
x6
x6
x5
x7
x4
x6
x4
x21
x3
x159
x40
x41
x1
x5
x34
x11
x246
x1
x1
x1
x145
x5
x7
x66
x20
x6
x93
x149
x5
x209
x5
x50
x5
x85
x6
x208
x68
x75
x81
x4
x105
x5
x8
x4
x4
x14
x16
x9
x15
x69
x1
x1
x53
x55
x47
x16
x140
x10
x11
x11
x36
x9
x10
x4
x16
x60
x55
x2
x1
x104
x64
x9
x11
x215
x55
x28
x70
x78
x49
x5
x3
x128
x12
x10
x11
x5
x3
x3
x9
x5
x11
x3
x1
x6
x14
x10
x137
x109
x21
x11
x14
x48
x3
x1
x7
โพสต์ 2025-6-28 15:45:37 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 27 อู่เยว่ รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11

ยามซื่อ ( 10.30 น.)



เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังสะท้อนบนพื้นหินขรุขระของตรอกสายเล็กที่ทอดตัวคดเคี้ยวตามแนวกำแพงเมืองฉางอัน สายลมยามสายเอื่อยเฉื่อยพัดกลิ่นสมุนไพรจาง ๆ มาตามทาง ปลายทางเบื้องหน้าเป็นอาคารทรงโบราณเรียบง่าย ดูเก่าแก่แต่แข็งแรง บ่งบอกถึงการดูแลรักษาอย่างพิถีพิถัน


ซูเหยายืนหยุดอยู่หน้าประตูไม้บานใหญ่ สีของไม้ซีดจากกาลเวลาแต่ยังคงกลิ่นอบอุ่นของเรือนเก่า กลิ่นยาจากด้านในโชยมาปะทะจมูก เป็นกลิ่นของตังกุยและเปลือกอบเชยแห้ง ที่ลานหน้าบ้านมีตะแกรงไม้เรียงรายตากสมุนไพรไว้หลากชนิดดูคุ้นตา


ทางด้านทิศใต้เป็นสวนสมุนไพรเล็ก ๆ ที่มีแปลงปลูกเรียงเป็นระเบียบ นางก้มมองพื้นครู่หนึ่ง สูดหายใจเข้าลึกแล้วจึงเคาะประตูเบา ๆ


เสียงเอี๊ยดเบา ๆ ดังขึ้นเมื่อประตูเปิดออกเผยให้เห็นภายในซึ่งเรียบง่ายแต่สะอาดสะอ้าน โต๊ะตำยาและชั้นวางสมุนไพรเรียงราย มีชายหนุ่มผู้หนึ่งนั่งตรวจตำราตำรับยาอยู่ด้านใน ชุดของเขาเป็นผ้าเนื้อดีแต่ไม่หรูหรา ชัดเจนว่าเป็นหมอที่ใช้ชีวิตอยู่กับตำราและกลิ่นยา


ซูเหยาก้าวเข้าไปอย่างนอบน้อม ก่อนจะประนมมือเบื้องหน้าเล็กน้อยแล้วเอ่ยเสียงนุ่มนวล


“ขออภัยที่มารบกวนเจ้าค่ะ…ที่นี่ใช่โรงหมอเจิ้งเทียนหรือไม่?”


ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้น สีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็พยักหน้าตอบ ซูเหยาจึงโค้งคำนับเบา ๆ แล้วกล่าวแนะนำตัว


“ข้ามีนามว่าซูเหยา เป็นหมอจากหมู่บ้านเล็ก ๆ แถบเฉิงตู…เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ที่ฉางอันไม่นาน ได้ยินว่าที่นี่เป็นโรงหมอแห่งเดียวในย่านนี่ ข้าเลยอยากมาสอบถามว่า…ท่านมีตำแหน่งว่างหรือไม่เจ้าคะ ข้ามีความรู้เรื่องสมุนไพรและเคยรักษาผู้คนมาหลายปี แม้ข้าจะยังไม่มีชื่อเสียง…แต่ข้าจริงใจ และยินดีจะเรียนรู้ทุกสิ่งเจ้าค่ะ”


เจิ้งเซียวเฉินมองหญิงสาวเบื้องหน้าเล็กน้อยแววตานิ่งเฉียบแต่ไม่ได้แฝงความหยามหมิ่น หากแต่เป็นความชั่งใจของคนที่ไม่อาจไว้วางใจใครได้ง่าย ๆ


“ข้าเข้าใจเจตนาของแม่นางดี” เขากล่าวช้า ๆ พลางวางตำราที่ถืออยู่ลงบนโต๊ะ “แต่จู่ ๆ จะให้ใครต่อใครที่เดินเข้ามา กลายเป็นหมอประจำโรงหมอของข้าก็ดูจะเป็นการกระทำที่มักง่ายเกินไปหน่อย”


เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินไปยังตู้ไม้ด้านข้าง หยิบห่อยาสมุนไพรจำนวนหนึ่งออกมา แล้วจัดวางบนโต๊ะไม้เตี้ยที่อยู่กลางห้อง ก่อนจะหยิบเอาชิ้นรากไม้และใบแห้งจำนวนหนึ่งออกมาโยนเบา ๆ ลงในถาด


“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน” เขาเอ่ยขณะจัดตำราเก็บเข้าที่ “ข้าจะไม่ปฏิเสธแม่นาง แต่ก่อนอื่นข้าขอทดสอบเสียหน่อยว่าแม่นางพอมีวิชาแพทย์จริงหรือไม่”


เขาโบกมือเบา ๆ ไปทางสมุนไพรในถาด 


“จงจำแนกสมุนไพรเหล่านี้ให้ถูกต้อง ทั้งชื่อ สรรพคุณ และข้อควรระวังในการใช้ แล้วข้าจะตัดสินใจอีกที”


ซูเหยานิ่งฟัง ดวงตาคู่นั้นไม่แสดงความลังเลเลยแม้แต่น้อย นางเดินเข้าไปใกล้ ก่อนจะค่อย ๆ หยิบสมุนไพรขึ้นมาพิจารณาทีละชิ้นอย่างใจเย็น


“ไป๋จู๋ บำรุงม้าม เสริมพลังชี่ แต่ห้ามใช้กับผู้ที่มีภาวะร้อนในมาก”


เสร็จแล้วก็หยิบสมุนไพรอีกชิ้นขึ้นมาดู


“หวงเหลียน ขมจัด ใช้ดับพิษ ถอนร้อน เหมาะกับคนที่มีภาวะร้อนจากตับ แต่ไม่ควรใช้มากเพราะอาจก่อให้เกิดภาวะเย็นเกิน…ตั่งกุย บำรุงเลือด บำรุงประจำเดือน แต่หากคนไข้มีภาวะเลือดไหลไม่หยุด ควรเลี่ยง”


แล้วก็มาถึงอันสุดท้าย



“เฉินผี เสริมการย่อย ปรับสมดุลธาตุ ใช้ร่วมกับไป๋จู๋ได้ดี แต่หากผู้ป่วยมีอาการแห้งร้อนควรลดปริมาณเจ้าค่ะ”


น้ำเสียงนางเรียบสงบ ทว่าแฝงความมั่นใจ ดวงตาที่ทอดมองสมุนไพรเหล่านั้นไม่ใช่เพียงสายตาของผู้จดจำจากตำรา แต่เป็นสายตาของผู้ที่เคยใช้มันรักษาผู้คนจริง ๆ


เจิ้งเซียวเฉินยืนนิ่งอยู่ด้านข้าง สังเกตท่าทางและวิธีการของนางอย่างเงียบงัน ในใจอดยอมรับไม่ได้ว่าหญิงสาวตรงหน้าแม้ดูอ่อนเยาว์ แต่มีสัมผัสของหมอผู้ผ่านสนามจริงมาแล้ว ทั้งความละเอียด ความมั่นใจ และจิตใจที่นิ่งไม่หวั่นไหว ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่สามารถแสร้งทำได้ ไม่นานนักเขาก็พยักหน้าอย่างช้า ๆ


“เด็กคนนี้…หากปั้นดี ๆ อาจกลายเป็นหมอผู้มีชื่อเสียงได้จริง ๆ” เขาพูดเสียงเบาเหมือนพูดกับตัวเอง แต่ก็หันมาทางซูเหยาในที่สุด


“แม่นางซู แม้เจ้าจะแสดงความรู้ได้ดี แต่ศาสตร์แห่งการแพทย์มิใช่สิ่งที่ใช้เพียงปากตอบได้ หากแต่ต้องพิสูจน์ด้วยมือจริงและคนจริง”


เขาเดินไปยังชั้นไม้ข้างผนัง หยิบม้วนบันทึกการรักษาออกมาม้วนหนึ่ง แล้วหยุดสายตาที่รายชื่อคนไข้คนหนึ่ง ก่อนกล่าวต่อ


“วันนี้มีชายชราในตรอก มาหาด้วยอาการแน่นหน้าอก หายใจติดขัดในยามเช้า เหนื่อยล้าโดยมิทราบสาเหตุ ข้าคิดจะให้แม่นางลองดูคนผู้นั้นเป็นคนแรก อาการไม่หนักนัก หากเจ้ารักษาผิด ข้ายังพอแก้ได้ทัน”


ซูเหยาโค้งศีรษะ สีหน้าเรียบสงบ


“ข้ายินดีเจ้าค่ะ”


เมื่อไปถึงห้องตรวจด้านหลัง มีชายชราผู้นั่งอยู่บนตั่งไม้ สีหน้าอ่อนเพลีย แววตาหม่นหมอง ซูเหยาเข้าไปประนมมือคารวะ 


“ท่านผู้อาวุโส ข้าขอตรวจอาการของท่านแทนคุณหมอเจิ้งในวันนี้ หากมีสิ่งใดไม่สบายใจ โปรดแจ้งข้าด้วยเจ้าค่ะ”


ชายชราพยักหน้าเบา ๆ จากนั้นซูเหยาจึงโน้มกายลงเล็กน้อย ใช้ปลายนิ้วไล้ชายแขนเสื้อขึ้นอย่างนุ่มนวล ก่อนขยับเข้าใกล้ชายชราซึ่งนั่งอยู่บนตั่งไม้ ใบหน้าของเขาซีดเซียว ดวงตาหม่นหมองราวกับฝ้าหมอกในฤดูหนาว สายตานางจับจ้องไปยังใบหน้าที่ผ่านกาลเวลามาเนิ่นนาน ค่อย ๆ สังเกตอย่างเงียบงัน 


สีผิวใต้ดวงตาของเขาแลคล้ำเล็กน้อย ใบหน้าแลดูซีดเซียวปราศจากเลือดฝาด ริมฝีปากแห้งเล็กน้อย เมื่อขอให้ชายชราแลบลิ้นออกมา ซูเหยาสังเกตเห็นปลายลิ้นแดงระเรื่อ ขณะที่กลางลิ้นมีฝ้าขาวบางเคลือบอยู่ นั่นเป็นสัญญาณที่ชัดเจน พลังของม้ามที่อ่อนแอลงจนแปรรูปของเหลวไม่เป็นปกติ ทำให้ความชื้นเย็นตกค้างอยู่ภายใน นางเงียบสนิทขณะคิดวิเคราะห์ พลางสูดลมหายใจเข้าช้า ๆ


ขณะชายชราตอบคำถาม น้ำเสียงของเขาเบาและแผ่วลงในตอนท้ายของทุกประโยค หายใจสั้นคล้ายไม่มีเรี่ยวแรง ไม่มีเสียงครืดคราดในอกเหมือนคนมีเสมหะข้น แต่กลิ่นลมหายใจกลับมีรสขมบางเบา กลิ่นที่บอกว่าระบบย่อยอาหารกำลังติดขัด และหยางในร่างกายกำลังอ่อนแรงลง


ซูเหยาเอ่ยเสียงนุ่ม


“ท่านผู้อาวุโส นอกจากแน่นหน้าอกแล้ว ท่านยังรู้สึกแน่นท้องหลังมื้ออาหารหรือไม่?”


ชายชราพยักหน้า


“ใช่ ข้ามักรู้สึกแน่นเหมือนของไม่ย่อย กินได้น้อยลง”


“แล้วกลางคืน ท่านหลับสนิทดีหรือไม่เจ้าคะ?”


“ไม่สนิทสักเท่าไร มักตื่นตอนยามสาม แล้วอีกนานเลยกว่าจะหลับไปหลับต่อได้…”


ซูเหยาคลี่ผ้าวางลงบนข้อมือของชายชรา ก่อนวางปลายนิ้วเบา ๆ กดลงอย่างมีจังหวะจากการฝึกฝนจนเข้าใจการไหลเวียนใต้ผิวหนัง ชีพจรตรงกลางข้อมือซ้าย สั้นและเบา บอกถึงพลังของม้ามที่อ่อนล้าจนไม่สามารถยกชี่ขึ้นสู่ทรวงอกได้ ฝั่งขวากลาง ชีพจรเคลื่อนไปช้าชัดนักเป็นสัญญาณของภาวะหยางพร่องในกระเพาะและม้าม หลังรวบรวมข้อมูลครบถ้วน ซูเหยาเงยหน้าขึ้น ดวงตาสงบนิ่งเมื่อสบสายตาหมอเจิ้ง


“อาการของท่านผู้อาวุโส มิใช่โรคจากภายนอก หากแต่เกิดจากการที่ม้ามและกระเพาะเย็นลงจากการพร่องของพลังหยาง ทำให้การย่อยและเคลื่อนไหวของอาหารชะงัก นำไปสู่การสะสมของความชื้นเย็นและเสมหะบางเบาในทรวงอก เป็นเหตุให้แน่น อ่อนเพลีย และหายใจติดขัดยามเช้า...กล่าวให้ชัด คือ ภาวะหยางพร่องในม้ามและกระเพาะร่วมกับเสมหะเย็นตกค้างเจ้าค่ะ”


เจิ้งเซียวเฉินยืนนิ่ง สีหน้าแม้เงียบขรึมแต่แววตาฉายประกายพึงพอใจ เมื่อได้ยินการวินิจฉัยของซูเหยาแล้วจึงพยักหน้าเบา ๆ


“แม่นางซูวินิจฉัยได้แม่นยำดี เช่นนั้นข้าขอถามต่อ หากเจ้าเป็นผู้รักษาเจ้าจะเลือกแนวทางใด?”


“หลักการรักษาคือ อุ่นหยาง เสริมม้าม ขจัดเสมหะเย็น กระตุ้นการย่อย เจ้าค่ะ…ในตำรับของหมอเก่ามักใช้ยาขับความเย็นของม้ามร่วมกับสมุนไพรอุ่น เช่น ขิงแห้ง เปลือกส้มแก่ และไป๋จู๋ เพื่อฟื้นกำลังย่อยอาหาร ข้าอยากเริ่มด้วยการให้ยาชุดอ่อนประคองก่อน เป็นตำรับที่เรียบง่ายแต่ได้ผล ช่วยฟื้นหยางของม้าม กระตุ้นพลังชี่ไม่ให้ตกต่ำ”


นางหันไปยังโต๊ะยาแล้วกล่าว


“ตำรับนี้ ข้าขอใช้สมุนไพรดังนี้เจ้าค่ะ”


นางเอ่ยชื่อทีละชนิดชัดถ้อยชัดคำ พลางหยิบสมุนไพรขึ้นมาชี้ให้เห็น


“ไป๋จู๋ เพื่อ บำรุงม้าม เสริมการย่อย ลดความชื้น…เฉินผี เพื่อปรับการไหลเวียนของชี่ ขจัดเสมหะ…ฝูจื่อ เพื่ออุ่นหยาง มุ่งเสริมพลังหยางที่พร่อง…กานเจียง เพื่ออุ่นภายใน ไล่ความเย็นจากม้ามและกระเพาะ…ตังกุย เพื่อบำรุงเลือด ประคองพลังโดยไม่ทำให้หยางแห้งเกิน…ฝูหลิง เพื่อช่วยระบายความชื้น เสริมม้าม…จื้อกันเฉ่า เพื่อปรับรสและประสานสรรพคุณสมุนไพรทั้งหมด”


นางเว้นจังหวะเล็กน้อยก่อนกล่าวต่อ


“ข้าจะต้มเป็นยาชุดอ่อน ๆ ให้ดื่มเช้า-เย็น ตำรับนี้แม้ดูเรียบง่าย แต่เหมาะสำหรับผู้สูงวัยที่หยางอ่อนและมีเสมหะบาง หากอาการดีขึ้น ข้าค่อยปรับตำรับให้มุ่งฟื้นรากหยางต่อไปเจ้าค่ะ”


เจิ้งเซียวเฉินนิ่งไปอึดใจหนึ่ง ก่อนพยักหน้าช้า ๆ


“เช่นนั้น ลงมือเลย”


ซูเหยาค้อมศีรษะรับคำแล้วเริ่มลงมือจัดยาเองกับมือ ขณะหยิบสมุนไพรแต่ละชนิด นางคลี่ผ้ากว้างออก ปูลงบนโต๊ะตำยา แล้วคัดเลือกแต่ละชิ้นอย่างพิถีพิถัน ใช้สายตาและปลายนิ้วตรวจดูคุณภาพกลิ่นและเนื้อสมุนไพรอย่างละเอียด


นางบดฝูจื่ออย่างเบามือ แช่ในน้ำขิงก่อนต้มเพื่อลดพิษตามตำราดั้งเดิม เฉินผีถูเล็กน้อยเพื่อให้กลิ่นหอมแรงขึ้น ขิงแห้งก็หั่นซอยให้ชิ้นบาง เพื่อปลดปล่อยฤทธิ์อุ่นได้ทั่วถึงในน้ำต้มยา นางค่อย ๆ วางสมุนไพรทั้งหมดลงในหม้อดินเคลือบ แล้วเติมน้ำสะอาดลงอย่างพอเหมาะ จุดไฟถ่านเผาอ่อน ๆ ให้ความร้อนสม่ำเสมอ แล้วเฝ้าดูควันบางที่ลอยขึ้นช้า ๆ จากปากหม้อ


กลิ่นหอมอบอุ่นของสมุนไพรลอยอ้อยอิ่งไปทั่วห้อง กลิ่นขิงแห้งผสมกับกลิ่นเปลือกส้มจาง ๆ และความขมหวานของตั่งกุย เสมือนบรรเทาทั้งร่างกายและจิตใจ เมื่อยาต้มได้ที่ ซูเหยาตักใส่ถ้วย ทดสอบอุณหภูมิให้เหมาะ แล้วน้อมถ้วยนั้นส่งให้ชายชรา


“ดื่มยานี้เช้าและเย็น ติดต่อกันสามวัน หากอาการแน่นหน้าอกบรรเทา ข้าจะปรับตำรับให้เหมาะสมต่อไปเจ้าค่ะ”


ชายชรารับถ้วยยาด้วยมือสั่นเล็กน้อย ดื่มช้า ๆ สีหน้าเริ่มผ่อนคลาย


เจิ้งเซียวเฉินยืนพิจารณาซูเหยาอยู่ครู่หนึ่ง ขณะหญิงสาวยังจัดเก็บเครื่องยาและล้างหม้อยาต้มอย่างระมัดระวัง ทุกกิริยาเต็มไปด้วยความระมัดระวัง สมกับเป็นผู้ที่คุ้นมือกับงานรักษามานาน เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่แฝงความชื่นชมไว้ลึก ๆ


“ฝีมือไม่เลว เจ้าวินิจฉัยได้แม่นยำ ลงมือรักษาอย่างมีหลักการ สมกับที่กล่าวว่าเคยผ่านงานรักษามา เป็นคนที่หาได้ยากยิ่งในสมัยนี้ ข้าตัดสินใจแล้ว…จะให้เจ้าทดลองงานเป็นหมอผู้ช่วยข้าอยู่ที่นี่ก็แล้วกัน คอยรักษาผู้ป่วยอาการไม่ร้ายแรง ค่าจ้างสองร้อยอู่จู่ต่อวัน”


จากนั้นเขาก็เดินไปหยิบถุงผ้าสีเทาขนาดเล็กจากหลังตู้ หยิบเหรียญทองแดงจากในถุงนับจำนวนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินกลับมายื่นให้ซูเหยา


“นี่คือค่าแรงของวันนี้ สองร้อยอู่จู ข้าให้ในฐานะเจ้ารักษาคนไข้ได้ผล”


ซูเหยาเบิกตาเล็กน้อย รับถุงเหรียญมาด้วยความเคารพ พลางโค้งคำนับ


“ขอบพระคุณมากเจ้าค่ะ”


เจิ้งเซียวเฉินมองนางพลางถามต่อ


“เจ้าพักอยู่แถวไหน? ให้คนของข้าเอาเกวียนไปส่งหรือไม่?”


คำถามนั้นทำให้ซูเหยานิ่งไปเล็กน้อย ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงนอบน้อมแต่ตรงไปตรงมา


“ข้าเพิ่งมาถึงฉางอันเมื่อเช้า ยังมิมีที่พักเป็นหลักแหล่ง ตอนนี้ตั้งใจว่าจะไปขออาศัยนอนที่วัดหรือศาลเจ้าแถวนี้ก่อนเจ้าค่ะ โรงเตี๊ยมดูจะเกินกำลังข้าในยามนี้”


คำตอบนั้นทำให้คิ้วของหมอเจิ้งขมวดเข้าหากันอย่างไม่รู้ตัว ก่อนที่เขาจะถอนหายใจเบา ๆ แล้วกล่าวราวตัดสินใจบางอย่างได้แล้ว


“ไหน ๆ เจ้าก็จะมาทำงานที่นี่อยู่แล้ว จะไปลำบากนอกเรือนไยเล่า?”


เขาผายมือไปทางหลังโรงหมอ


“ที่นี่มีห้องเล็ก ๆ ด้านหลังโรงหมอ เดิมข้าใช้เป็นที่เก็บตำราและสมุนไพรที่ไม่ค่อยได้ใช้ ตอนนี้ว่างอยู่ แม้จะไม่สะดวกสบายนัก แต่ก็พอนอนได้ หากเจ้าไม่รังเกียจก็มาพักที่นี่เสียเลย จะได้สะดวกทั้งเรื่องงานและการกินอยู่ ”


ซูเหยาชะงักเล็กน้อย ดวงตาแสดงความแปลกใจแต่แล้วก็โค้งศีรษะลงลึกอย่างซาบซึ้ง


“ข้าขอบพระคุณท่านหมอเจิ้งยิ่งนักเจ้าค่ะ ข้าไม่รังเกียจเลยสักนิด ขอเพียงมีที่ให้ข้าได้ซุกหัวนอน ไม่ต้องเร่ร่อนในยามค่ำคืน เท่านี้ก็เป็นพระคุณใหญ่หลวงแล้ว”


เจิ้งเซียวเฉินพยักหน้าเบา ๆ แล้วเรียกลูกมืออีกคนให้ไปเปิดเรือนด้านหลัง และช่วยขนฟูก หมอน และผ้าห่มที่ยังใช้ได้มาให้ซูเหยา


จากนั้นเขาจึงหันกลับมาหาซูเหยาอีกครั้ง สีหน้ากลับมาเป็นปกติ


“ตั้งแต่วันนี้ เจ้าก็ถือเป็นเด็กฝึกของโรงหมอเจิ้งเทียน งานที่นี่ไม่ได้มีเพียงวินิจฉัยกับปรุงยา บางวันก็ต้องออกไปส่งยาหรือดูอาการถึงบ้านผู้ป่วย บางทีก็ต้องล้างตะแกรงสมุนไพร ขัดโต๊ะตำยา ไม่มีงานไหนที่เจ้าจะเลือกทำหรือไม่ทำได้ เข้าใจหรือไม่?”


ซูเหยาโน้มศีรษะลงอย่างสงบนิ่ง


“ข้าเข้าใจเจ้าค่ะ และข้ายินดีจะทำทุกอย่างเท่าที่ข้าจะทำได้”


เจิ้งเซียวเฉินมองแววตาของนางอีกครั้ง ก่อนพยักหน้าเบา ๆ


“ดี…เช่นนั้นก็พักเสียแต่วันนี้ พรุ่งนี้เช้า เริ่มงานใหม่พร้อมข้า”


ซูเหยาโค้งคำนับอีกครั้ง แล้วจึงเดินตามลูกมือหมอเจิ้งไปยังห้องด้านหลัง ท่ามกลางสายลมยามเย็นที่พัดกลิ่นสมุนไพรจาง ๆ ลอยคลุ้งอยู่เต็มโรงหมอ ในใจของนางแม้จะมีความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง และยังไม่รู้ว่าชีวิตข้างหน้าจะเป็นเช่นไร แต่ในยามนี้ความอบอุ่นบางเบาก็เริ่มแทรกซึมเข้ามาแล้วและมันเริ่มต้น ณ โรงหมอเล็ก ๆ แห่งนี้เอง



โรลเพลย์ทำงานพาร์ทไทม์ประจำวัน

ค่าจ้าง: 200 อู่จู - 5 EXP (รายวัน)


ทุกการโรลเพลย์รักษาชาวบ้านในอาการเล็ก ๆ 

อย่าง ไข้หวัด , โรคกระเพาะ , หมดสติจมน้ำ และโรคเล็กอื่น ๆ ได้รับ EXP +10


แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับ 15 EXP โพสต์ 2025-6-28 17:34
โพสต์ 41207 ไบต์และได้รับ 32 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-28 15:45
โพสต์ 41,207 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] ความชั่ว +10 ความโหด จาก มีดแล่เนื้อ  โพสต์ 2025-6-28 15:45
โพสต์ 41,207 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] ความชั่ว +10 คุณธรรม +5 ความโหด จาก อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ญ)  โพสต์ 2025-6-28 15:45
โพสต์ 41,207 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] ความชั่ว +8 คุณธรรม +10 ความโหด จาก หมวกไผ่ผ้าคลุม  โพสต์ 2025-6-28 15:45

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1เหรียญอู่จู +200 ย่อ เหตุผล
Watcher + 200

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ชุดทิวาเมฆาล่อง
หมอพเนจร
หมวกถังเจียน
ศาสตร์การบำเพ็ญ
ตำราสมุนไพรหายาก
แหวนดาราจรัส(D)
จี้หยกรูปปลา
มีดแล่เนื้อ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x73
x200
x1
x1
x1
x6
x46
x4
x21
x16
x1
x27
x53
x50
x210
x180
x1
x2
x2
x10
x36
x66
x54
x30
x1
x20
x3
x100
x2
x2
x452
x1
x34
x2
x2
x1
x30
x50
x50
x20
x10
x10
x6
x23
x44
x20
x4
x2
x30
x15
x6
x9
x10
x4
โพสต์ 2025-6-28 22:01:46 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 28 เดือน 5 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11

ยามซื่อ เวลา 09.00 - 11.00 น. ณ ถนนสิบลี้ โรงหมอเจิ้งเทียน


เสียงฝีเท้าหนักแน่นของมือปราบที่อุ้มร่างหลินหยาพร้อมกับผืนผ้าคลุมสีจาง ๆ พัดเบา ๆ ด้วยแรงลมยามสาวของยามซื่อตอนนี้ แสงอาทิตย์ส่องผ่านกลุ่มเมฆที่เริ่มเบาบางของเมืองหลวงฉางอันในวันเช้าตอนนี้ยังคงคึกคักเหมือนเดิม แต่ไม่มีผู้ใดรู้เลยว่าสตรีที่นอนนิ่งอยู่ตรงนั้นพึ่งออกจากคุกกลวงในยามนี้ไม่ใช่ใครอื่น..แต่เป็นหลินหยา สตรีที่ลากจงฉางชื่อลงมาโบยเคียงข้างตน และทำให้พระปิตุลาในองค์จักรพรรดิยอมรับโทษแทนกึ่งหนึ่ง


สายตาของผู้คนที่เริ่มลอบมองจากริมถนน พ่อค้าแม่ขายที่ค้อมหลังอย่างไม่รู้ตัวเมื่อเห็นตรากรมราชทัณฑ์และเสื้อคลุมเลือดเปื้อนของนักโทษผู้นั้น ลมหายใจขาดช่วงเป็นระยะ ๆ ของหลินหยาไม่ได้เกิดจากแค่ความเจ็บจากการโบย แต่พิษในร่างก็ยังคงเล่นงานนางอย่างต่อเนื่องทั้งรอยแผลอีกมากมายที่หลังก็ลำบากยิ่งนัก 


โรงหมอเจิ้งเทียนอยู่ห่างออกไปไม่กี่ช่วงถนนจากสถานที่ไต่สวน รอบบริเวณยังคงมีคนมารักษาเป็นผู้ป่วยทั่วไป แต่ทันทีที่มือปราบตะโกนเรียกออกมาที่หน้าประตูโรงหมอ “คนเจ็บสาหัสจากกรมราชทัณฑ์” ประตูไม้สนก็เปิดออกอย่างรวดเร็ว เมื่อร่างบอบช้ำของหลินหยาถูกวางนอนคว่ำลงบนเตียงผืนใหญ่ภายในห้องพักคนไข้ชั้นในสุดกลิ่นหอมของสมุนไพรบรรเทาความตึงเครียดในกาศก็โดนแขวน ร่างของนางนอนแน่นิ่ง แต่ดวงตายังไม่หลับเต็มที่ดูเหมือนนางจะพยายามประคองสติของตนเองไว้ ทว่าชีพจรกลับอ่อนและเบาลงทุกขณะ


เสียงฝีเท้าของหมอและลูกมือวิ่งเข้ามารับตัวพร้อมผ้าขาวและอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น หมอหนุ่มมองเพียงแวบเดียวก็บอกได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญ “แผ่นหลังฉีก เส้นเลือดฝอยแตกหลายจุด…นี่โดนโบยมา?” เขาขมวดคิ้วขณะตรวจอาการ “หืม…นี่มัน…” เขาเบือนหน้ามองรอยเส้นเขียวจาง ๆ ที่ลากผ่านข้อแขนขวาของหลินหยา แล้วตวัดสายตา..


“ร่างนางมีพิษ..??”


มือของหมอหนุ่มขยับอย่างรวดเร็ว เขาเอ่ยสั่งให้เร่งต้มน้ำยาแล้วเตรียมทำแผลระบายเลือดจากพิษให้ลูกมือสาวรุ่นเยาว์เข้ามาช่วยเหลือและประคอง ส่วนหลินหยาไม่ได้พูดอะไรสักคำตั้งแต่ถูกวางลงบนเตียงของโรงหมอ ดวงตาของนางเหม่อมองเพดานเหนือหัวของตนเองเหมือนเหม่อลอย แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยภาพซ้อนประเดประดังกันเข้ามาแบบไม่ขาดสายทั้งเสียงไม้โบย ทั้งเสียงของคุณชายอันเล่อ..ไม่สิ…อ๋องหลิวอัน..


หมอหนุ่มไม่พูดอะไร เขาทำงานของตนเองด้วยความเงียบขรึมแต่เต็มไปด้วยความตั้งใจ แต่ในใจกลับครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา รอยพิษเช่นนี้มิใช่จะเกิดจากอะไรได้ง่าย ๆ มันต้องมีบางสิ่งที่แฝงร่างกายของสตรีคนนี้..บางสิ่งที่แม้แต่หมออย่างเขาก็ไม่กล้าเอ่ยออกมาเหมือนกัน


เขาขยับเข้ามาคุกเข่าข้างเตียง มือข้างหนึ่งจับชีพจร มืออีกข้างทาบลงกลางหน้าผากของนางอย่างเบามือ จากนั้นปราณสีฟ้าขุ่นก็แผ่ซ่านเข้าสู่ร่างของหญิงสาวอย่างแผ่วเบาเหมือนลมหายใจ แต่เพียงชั่วครู่ท่านหมอกลับต้องชักมือกลับทันควัน ใบหน้าที่เคยสงบนิ่งกลับเครียดจัดทันทีเมื่อสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่ไม่ควรอยู่ในร่างคนทั่วไปโดยเฉพาะสตรีอ่อนแอ


“ไม่จริง..” หมอหนุ่มขยับมืออีกครั้งปลายนิ้วกดจุดฝังเข็มลงกับแผ่นหลังที่เต็มไปด้วยบาดแผลจากไม้โบย แม้พยายามปล่อยปราณรักษาเข้าไปอีกครา แต่พลังนั้นกลับสะดุด เหมือนถูกโต้กลับด้วยบางสิ่งแปลกประหลาดคล้ายอสรพิษบิดตัวอยู่ในเงามืดของร่างกาย “ปราณ..อสรพิษ?..” เขาเงยหน้าทันที ดวงตาที่เคยอ่อนโยนกลับแข็งกร้าวขึ้นในชั่ววินาที นี่มัน...ไม่ใช่แค่พิษสมุนไพร ไม่ใช่พิษจากอาหาร หรือเครื่องดื่ม—แต่เป็นปราณที่แฝงอยู่ในพิษระดับสูงสุด…กระแสพิษมังกรแห่งปราณอสรพิษ


"เจ้าทนแบบนี้…มากี่วันกัน?"


เส้นเลือดสีเขียวขาง ๆ นั้นลามจากแขนขึ้นมาถึงไหล่แล้ว ปราณอสรพิษซึมผ่านบาดแผลเข้าสู่ร่างกายจะไหลเวียนไปตามเส้นเลือดทำให้พลังชีวิตลดลงเรื่อย ๆ สติพร่ามัว ความเจ็บปวดร่างกายจะเร่งอารมณ์เครียด… ถ้าไม่ใช่หมอเทวดาก็ต้องเป็นผู้ใช้ปราณอสรพิษเสียเองถึงจะถอนมันออกได้


ท่านหมอเจิ้ง เซียนเฉินที่เพิ่งถอนปราณออกจากร่างหลินหยาได้ไม่นาน ก็ยืนเงียบอยู่ชั่วอึดใจ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่มักเปี่ยมไปด้วยแววมั่นใจในฝีมือ กลับขุ่นมัวเต็มไปด้วยความกังวล เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นคนวางพิษในร่างนางตั้งใจหรือไม่ หรือแม้แต่นางเองจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม จากที่สังเกตสติสัมปชัญญะและปฏิกิริยาในขณะถอดเสื้อที่เปรอะเลือดออกเมื่อครู่ หล่อนยังมีความสงสัยในแววตา และไม่มีท่าทีตื่นตระหนกกับอาการของตนเลยแม้แต่น้อย


"แม่นางผู้นี้…ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองโดนพิษ" เขาพึมพำเบา ๆ กับตนเอง ก่อนที่จะหันไปหยิบขวดน้ำสมุนไพรและผ้าสะอาดจากถาดยา มือที่เคยมั่นคงกลับสั่นเล็กน้อยเมื่อเอื้อมไปแตะขอบผ้าห่มเพื่อพลิกตัวหล่อนให้นอนคว่ำ เมื่อแผ่นหลังที่ถูกโบยจนเลือดอาบปรากฏอยู่ตรงหน้า ความเงียบภายในห้องก็เหมือนจะหยุดนิ่ง ท่านหมอมองแผ่นหลังนั้นอย่างละเอียด สะเก็ดเลือดเริ่มจับตัวแต่ผิวหนังบางส่วนยังฉีกขาดและอักเสบ หากปล่อยทิ้งไว้ไม่เกินสามวันต้องติดเชื้อแน่นอน


เขาสูดลมหายใจลึกแล้วเริ่มจัดการกับรอยแผลนั้นให้เรียบร้อยก่อนและเมื่อทำเสร็จแล้วก็ทำได้เพียงประคองอาการและเริ่มประเมินว่านางจะมีชีวิตอยู่ได้จนถึงเท่าไรกว่าที่นางนั้นจะเริ่มอาการทรุดหนักไปมากกว่านี้..แต่จากที่ดูหากไม่ทำงานหนักมากหรือเครียดมากพิษก็ไม่ได้ลุกลามเร็วถึงขนาดนั้น แต่มันก็ค่อย ๆ กัดกินร่างกายไปเรื่อย ๆ แบบไม่หยุดเหมือนกัน



@Admin 


พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้) 

มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่

อื่น ๆ: ต้องจ่ายตังมะ ถ้าจ่ายแจ้งเตือนด้วยนะ 5555

รางวัล: -


แสดงความคิดเห็น

ไม่ จางทังจ่ายให้  โพสต์ 2025-6-28 22:18
โพสต์ 25698 ไบต์และได้รับ 16 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-28 22:01
โพสต์ 25,698 ไบต์และได้รับ +5 EXP +10 คุณธรรม +10 ความโหด จาก คนดวงแข็ง  โพสต์ 2025-6-28 22:01
โพสต์ 25,698 ไบต์และได้รับ +10 EXP +25 คุณธรรม +20 ความโหด จาก กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)  โพสต์ 2025-6-28 22:01
โพสต์ 25,698 ไบต์และได้รับ +10 คุณธรรม จาก ทักษะนักดนตรีข้างถนน  โพสต์ 2025-6-28 22:01
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ชุดทิวาเมฆาล่อง
รองเท้าหยุนเวย
โล่ไม้
วาสนาเซียน
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
เกราะทองเทวะ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x16
x16
x16
x1
x49
x5
x27
x3
x10
x10
x2
x2
x3
x114
x5
x6
x6
x5
x7
x4
x6
x4
x21
x3
x159
x40
x41
x1
x5
x34
x11
x246
x1
x1
x1
x145
x5
x7
x66
x20
x6
x93
x149
x5
x209
x5
x50
x5
x85
x6
x208
x68
x75
x81
x4
x105
x5
x8
x4
x4
x14
x16
x9
x15
x69
x1
x1
x53
x55
x47
x16
x140
x10
x11
x11
x36
x9
x10
x4
x16
x60
x55
x2
x1
x104
x64
x9
x11
x215
x55
x28
x70
x78
x49
x5
x3
x128
x12
x10
x11
x5
x3
x3
x9
x5
x11
x3
x1
x6
x14
x10
x137
x109
x21
x11
x14
x48
x3
x1
x7
โพสต์ 2025-6-29 02:32:28 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย SuYao เมื่อ 2025-6-29 02:34

วันที่ 28 อู่เยว่ รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามซื่อ (เวลา 09.00 - 11.00 น.)



แสงตะวันยามสายสาดผ่านผ้าม่านบางเบาที่ปลิวไหวอยู่หน้าชานเรือน กลิ่นหอมอ่อนของกำยานจากถุงหอมที่คล้องอยู่กับย่ามผ้าคลุ้งไปตามลมเย็นยามเช้า ซูเหยาเดินทางกลับจากการใส่บาตรที่ตลาดตะวันออกด้วยจิตใจอิ่มเอม แม้รอยยิ้มจะระเรื่ออยู่ที่มุมปาก แต่ดวงตางามกลับฉายแววแน่วแน่ นางยกชายแขนเสื้อขึ้นลูบเหงื่อเบา ๆ พลางทอดสายตามองเรือนรักษาที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า


วันนี้คือวันแรกที่นางจะได้เริ่มปฏิบัติหน้าที่ในฐานะหมอของโรงหมอเจิ้งเทียน แม้จะยังเป็นเพียงผู้ทดลองงานก็ตาม แต่จิตวิญญาณของหมอก็ลุกโชนอยู่เต็มอก


เมื่อย่างเท้าเข้าสู่เรือนรักษา เสียงร้องเบา ๆ ของคนไข้กับเสียงฝีเท้าของผู้ช่วยดังระคนอยู่ทั่วบริเวณ กลิ่นยาสมุนไพรตลบอบอวลจนสัมผัสได้ในลมหายใจ มิทันให้นางก้าวพ้นชานประตูดี เสียงเร่งร้อนของบุรุษผู้หนึ่งก็ดังขึ้น


“อาเหยา เจ้ากลับมาแล้วหรือ”


เป็นหมอเจิ้งนั่นเอง ผู้ซึ่งก้าวออกจากห้องตรวจด้วยใบหน้าเคร่งเครียดและเม็ดเหงื่อซึมอยู่บนหน้าผาก


“ข้ามีเรื่องต้องจัดการ ผู้ป่วยจากกรมราชทัณฑ์เพิ่งถูกส่งตัวมาไม่นานนี้ ข้าต้องไปดูอาการของนางก่อน”


เขาหันมามองนาง พลางกล่าวเสียงหนักแน่น


“ตรงมุมสุดของเรือน มีชายผู้หนึ่งจากโรงทอผ้า อาการปวดท้องเรื้อรัง น่าจะเป็นโรคกระเพาะ ข้าขอมอบหน้าที่นี้ให้เจ้า ถือเป็นภารกิจแรกของเจ้าในฐานะหมอของโรงหมอแห่งนี้”


กล่าวจบ หมอเจิ้งก็หันกายกลับเข้าห้องไปโดยไม่เอื้อนเอ่ยสิ่งใดอีก ซูเหยาค้อมศีรษะรับคำอย่างสงบนิ่ง นางมิได้กล่าวอันใด เพียงยกย่ามผ้าขึ้นพาดไหล่แล้วก้าวเท้าเบา ๆ ไปยังมุมที่ว่าด้วยท่วงท่าชวนมอง


ที่เตียงท้ายสุด ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งนอนขดตัวอยู่บนที่นอน ใบหน้าซีดเซียว มือกุมท้องแน่นจนเส้นเอ็นปูดโปน เมื่อเห็นนางย่างกรายเข้ามา ใบหน้าเขาก็แสดงความหวังขึ้นเล็กน้อย


“ท่านหมอ...ช่วยข้าด้วย...ข้าปวดท้องเหลือเกิน...ยามกินของเผ็ดหรือของเปรี้ยว เหมือนมีเพลิงเผาอยู่ในอุทร…”


ซูเหยาคุกเข่าลงข้างเตียงด้วยท่วงท่าละมุนละม่อม ดวงตาคมเรียวยังคงเปี่ยมด้วยความแน่วแน่ แม้น้ำเสียงของคนไข้จะสั่นเครือเพียงใด นางกลับไม่หวั่นไหว


“ท่านลุง ข้าขอตรวจดูลิ้น จับชีพจร แล้วจะวินิจฉัยโรคให้แน่ชัดนะเจ้าคะ”


เสียงของนางราบเรียบ หากหนักแน่นในคราวเดียวกัน นางหยิบผ้าสะอาดจากย่ามมาเช็ดมือ ก่อนเอื้อมมือจับชีพจรที่ข้อมือข้างซ้าย และขวาของชายตรงหน้า มือเรียวของนางแตะเบา ๆ ลงที่ตำแหน่ง ชุ่น กวน ฉื่อ


“ชีพจรของท่านบ่งว่าร่างกายมีไฟภายใน และม้ามทำงานอ่อนแอ ตับก็ทำงานมากเกินไป จนรบกวนหน้าที่ของม้าม”


นางขอให้คนไข้แลบลิ้นดู ลิ้นมีฝ้าขาวบาง แดงช่วงปลายและขอบ


“ท่านมีกระเพาะร้อน ม้ามพร่อง ข้าคาดว่าพลังตับกดม้าม ก่อให้เกิดความร้อนในกระเพาะจนแสบร้อนหลังทานอาหาร โดยเฉพาะเมื่อทานของเผ็ดหรือเปรี้ยว”


ชายตรงหน้าครางเบา ๆ พลางพยักหน้า ซูเหยาหยิบพู่กันบรรจงเขียนจดตำรับยา ประกอบด้วย ไป๋เสา กันเฉ่า ขิง พุทราจีน กุ้ยจือ อี๋ถาง


“ยานี้จะช่วยให้กระเพาะอบอุ่น ม้ามมีกำลัง อาการปวดแสบจะค่อย ๆ ลดลง และระบบย่อยจะฟื้นเจ้าค่ะ”


ซูเหยาหันไปสั่งให้ผู้ช่วยของท่านหมอเจิ้งเตรียมตำรับยานี้ตามอัตราส่วนที่นางจดไว้ พร้อมเขียนวิธีต้มยา ใส่น้ำสามส่วน เคี่ยวให้เหลือหนึ่งส่วน ดื่มอุ่น ๆ หลังอาหาร เช้าเย็น ขณะรอยานางก็ใช้นิ้วกดเบา ๆ ที่เส้นลมปราณ จงหว่าน จู๋ซานหลี่ และเน่ยกวน


“ข้าจะไม่ปักเข็ม แต่จะใช้การกดจุดร่วมกับยาสมุนไพร เพื่อให้พลังชี่ไหลเวียนดีขึ้นนะเจ้าคะ”


ชายผู้นั้นแม้ยังเจ็บอยู่ แต่เมื่อถูกกดจุดพลางสูดลมหายใจลึก สีหน้าก็เริ่มคลายลงเล็กน้อย เมื่อยาถูกนำมาเสิร์ฟในถ้วยเคลือบหยาบ ๆ ซูเหยาก็ค่อย ๆ ประคองส่งให้คนไข้ดื่ม กลิ่นหอมละมุนจากขิงและกันเฉ่าคลุ้งอยู่ในอากาศ กลบรสขื่นของโรคและความร้อนในอกไปสิ้น


“ร่างกายก็เหมือนต้นไม้เจ้าค่ะ หากรากไม่ดูดซึมดี ใบย่อมเฉา…ท่านจงค่อย ๆ ฟื้นกำลัง อย่าท้อถอย โรคนี้รักษาได้ หากใจท่านไม่ย่อท้อ”


“ขอบคุณท่านหมอมากขอรับ”


ซูเหยาเพิ่งวางถ้วยยาลงบนโต๊ะเล็กหน้าที่นอนของชายคนนั้น หมอเจิ้งก็เดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่ยังคงความเคร่งเครียด


“อาเหยา งานของเจ้ายังราบรื่นดีหรือไม่?” หมอเจิ้งถาม พลางสบตานางอย่างเป็นห่วง


ซูเหยาค้อมศีรษะเล็กน้อย


“ผู้ป่วยท่านนั้นอาการดีขึ้นแล้วเจ้าค่ะ ด้วยตำรับยาที่ข้าใช้และการกดจุดช่วยเสริมพลังชี่”


หมอเจิ้งถอนหายใจหนัก ๆ ก่อนจะเล่าเรื่องผู้ป่วยรายหนึ่งที่นอนอยู่ในห้องชั้นในสุด


“คนไข้ของข้า นางคือหญิงสาวจากกรมราชทัณฑ์ ถูกโบยจนได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง แต่สิ่งที่น่ากังวลกว่าคือร่างกายของนางมีพิษชนิดหนึ่ง ที่เกิดจาก ปราณอสรพิษ”


ซูเหยาได้ยินคำนี้ก็เผลอขมวดคิ้ว


“ปราณอสรพิษหรือเจ้าคะ? ข้าคิดว่าข้าเคยอ่านเจอในตำราบางม้วน เห็นว่ารักษายาก ข้าเองก็ไม่รู้วิธีรักษาเช่นกัน”


หมอเจิ้งพยักหน้า


“ใช่ เป็นพิษที่พบเห็นได้ยากมาก หมอธรรมดาไม่สามารถรักษาได้ ต้องเป็นผู้ที่มีวิชาแพทย์สูงส่งและประสบการณ์มากเท่านั้นจึงจะรักษาได้ ส่วนข้าเองก็ทำได้เพียงดูแลรักษาแบบประคับประคองคงไม่สามารถทำให้หายขาดได้”


ซูเหยาชะเง้อคอไปมองหญิงสาวในชุดขาวเปื้อนเลือดที่นอนคว่ำหน้าบนเตียง ผ้าปูที่นอนเปื้อนเลือดแดงสดตามรอยบาดแผลที่ปรากฏบนผิวหนังของนาง ดูน่าเวทนา


“ข้าเห็นใจนางเหลือเกินเจ้าค่ะ” ซูเหยากล่าวเสียงนุ่ม “ข้าอยากเรียนรู้เพิ่มเติมเรื่องปราณอสรพิษ เพื่อให้ข้าเองสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยเช่นนี้ได้ในวันข้างหน้า”


หมอเจิ้งมองนางยิ้มบาง ๆ


“นางเป็นกรณีที่ยากและท้าทายมาก อาเหยา หากเจ้ามีความตั้งใจจริงก็สามารถหาทางศึกษาได้ แต่ต้องใช้เวลาฝึกฝนและความอดทนอย่างมาก”


ซูเหยาพยักหน้าอย่างมุ่งมั่น


“ข้าจะไม่ย่อท้อเจ้าค่ะ จะตั้งใจเรียนรู้และฝึกฝน เพื่อช่วยเหลือทุกชีวิตที่ผ่านมือข้า”


หมอเจิ้งวางมือบนไหล่นางเบา ๆ


“ดีมาก ข้าเชื่อว่าเจ้าจะเป็นหมอที่ดีในวันข้างหน้า”


ใต้แสงตะวันในยามสาย ซูเหยายืนมองหญิงสาวในชุดขาวอย่างสงสาร และใจหนึ่งก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะก้าวไปสู่เส้นทางแห่งการเยียวยาอย่างแท้จริง หวังว่าสักวันอาจจะช่วยนางผู้นี้ได้






โรลเพลย์ทำงานพาร์ทไทม์ประจำวัน
ค่าจ้าง: 200 อู่จู - 5 EXP (รายวัน)
พรสวรรค์: หมอฝึกหัด (ไม้)
ทุกการโรลเพลย์รักษาชาวบ้านในอาการเล็ก ๆ
อย่าง ไข้หวัด , โรคกระเพาะ , หมดสติจมน้ำ และโรคเล็กอื่น ๆ ได้รับ EXP +10




แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับ 10 EXP โพสต์ 2025-6-29 16:26
คุณได้รับ 5 EXP โพสต์ 2025-6-29 16:26
โพสต์ 19615 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-29 02:32
โพสต์ 19,615 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] ความชั่ว +5 ความโหด จาก มีดแล่เนื้อ  โพสต์ 2025-6-29 02:32
โพสต์ 19,615 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] ความชั่ว +10 คุณธรรม +5 ความโหด จาก อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ญ)  โพสต์ 2025-6-29 02:32

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1เหรียญอู่จู +200 ย่อ เหตุผล
Watcher + 200

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ชุดทิวาเมฆาล่อง
หมอพเนจร
หมวกถังเจียน
ศาสตร์การบำเพ็ญ
ตำราสมุนไพรหายาก
แหวนดาราจรัส(D)
จี้หยกรูปปลา
มีดแล่เนื้อ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x73
x200
x1
x1
x1
x6
x46
x4
x21
x16
x1
x27
x53
x50
x210
x180
x1
x2
x2
x10
x36
x66
x54
x30
x1
x20
x3
x100
x2
x2
x452
x1
x34
x2
x2
x1
x30
x50
x50
x20
x10
x10
x6
x23
x44
x20
x4
x2
x30
x15
x6
x9
x10
x4
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้