[ร้านหงหยุนหลาย ∣ โชคลาภมาถึง]

[คัดลอกลิงก์]


鸿






โชค

ลาภ

มา

ถึง


鸿运来 l โชคลาภมาถึง
ร้านขายสารพัดนึก

"...จะผู้มั่งมีหรือยากจนล้วนแต่อยากเป็นผู้ที่มี 「โชคลาภวาสนา」 " หากแต่พอถามถึงวิธีที่จะได้ครอบครองโชคลาภกลับไม่มีผู้ใดล่วงรู้...

ร้านขายของสารพัดนึกซึ่งมีนามว่า 「鸿运来 l โชคลาภมาถึง」ตั้งอยู่ที่มุมหนึ่งของถนนสิบลี้ เป็นธุรกิจอันรุ่งเรืองของพ่อค้ารุ่นเยาว์หน้าตาเกลี้ยงเกลานามว่า โจวจิน ซึ่งถูกกล่าวขวัญว่าเป็นยอดฝีมือผู้เยี่ยมยุทธ์ผู้หนึ่งในเมืองฉางอัน มักจะผดุงคุณธรรมโดยการปราบปีศาจร้ายและนำชิ้นส่วนของพวกมันมาขายที่ร้านของตนเอง สินค้าของที่นี่จึงหลากลายและเอาแน่เอานอนไม่ได้ ถึงกับมีคนผู้หนึ่งออกปากว่า "ร้านขายสารพัดนึก แท้จริงแล้วหาใช่ลูกค้านึกคิด แต่เป็นความคำนึงของท่านผู้ขาย"

ตัวร้านเป็นห้องแถวชุดหนึ่งที่ถูกบูรณะให้ใหม่และทันสมัยด้วยไม้หวางฮวาหลี [พะยูงหอม] อันเลื่องชื่อ ด้านในเต็มไปด้วยสินค้าซื้อขายมากมาย ที่แม้จะพยายามจัดตกแต่งให้เรียบร้อยเพียงใดก็ยังมีร่องรอยและเศษซากอันไม่เป็นระเบียบเกิดขึ้นอยู่ทุกที เพราะการจัดเก็บของมากมายเช่นนี้ดูจะเปลืองเวลาหาสินค้าชิ้นใหม่เข้าร้านหนักเอาการ






[เลือกดูรายการสินค้า] 
[
LINK]



เจ้าของร้าน


โจวจิน┃ Zhou Jin ┃周金
ประวัติ NPC
สัตว์เลี้ยงคู่ใจ



เฮยจี┃ Hēi Jī┃黑鸡

สินค้าภายในร้านมีให้เลือกสรรมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ผ้าแพรไหม อาทิ ผ้าแพรไหมจันทร์หนาว ที่มักจะพบในรังของพวกปีศาจ วัตถุดิบล้ำค่าสำหรับทำอาหารที่เป็นของ "ทำมือ" ทุกชิ้น เจ้าของร้านกล้ารับประกันว่า เนื้อ หอย ปลา ปู กุ้ง เหล่านี้ เขาจับมาแล่และทำความสะอาดเองกับมือ

หากท่านลูกค้าไม่สนใจสินค้าข้างต้น ยังมีบรรดาเครื่องประดับ เครื่องราง กระดูกวิญญาณ หินเพลิงฟ้า มุกปีศาจ และของหายากอื่นๆ มากมาย ตามแต่เทศกาลและบุพเพวาสนาที่นำพาเจ้าของร้านและลูกค้ามาพบเจอ พูดกันตามตรง ร้านนี้ขายของกันตามดวง อยากได้อะไรโปรดสั่งจองไว้ล่วงหน้าจะเป็นการดี แต่มีของขายให้เมื่อไหร่นั้น...ตอบได้ยาก!






แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 16057 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2024-8-28 14:01
โพสต์ 2024-8-30 16:26:27 | ดูโพสต์ทั้งหมด






วันที่ 30 ปาเยว่ เจี้ยนหยวนศกที่ 10 
เวลา 08.00 น.



“น่าจะอยู่แถวนี้นะ…อ๊ะ!เจอแล้ว!” วันนี้ซิ่วอิงออกจากโรงเตี๊ยมที่แสนห่างไกลมาเข้าเมืองแต่เช้า หลัก ๆ ก็เพื่อมาซื้อของตามรายการที่นางต้องการ ได้ยินว่ามีร้านค้าแห่งหนึ่งในเมืองมีของที่นางต้องการซื้อจึงได้เดินตามหาจนพบเข้ากับร้านหงหยุนหลาย นางเดินเข้าไปด้านในอย่างไม่มีลังเล “ร้านหงหยุนหลายยินดีต้อนรับ ไม่ทราบว่าแม่นางต้องการซื้อสิ่งใด?” “ข้ามองหาใบชา ร้านของท่านพอจะมีใบชาขายหรือไม่?” “ตอนนี้ร้านของข้ามีชาอยู่สองชนิดขอเวลาสักครู่ ข้าจะเอามาให้ท่านเลือก” ระหว่างที่เถ้าแก่กำลังไปนำใบชาของร้านออกมาให้ดู นางก็เดินสำรวจมองรอบ ๆ ร้าน สินค้ามีมากมายจนลายตา นางแอบหยิบจับสินค้าบางอย่างดูเล็กน้อย พอนึกได้ว่าอาจมีราคาแพงจนนางไม่สามารถรับผิดชอบไหวหากซุ่มซ่ามไปทำแตกเสียหายจึงรีบนำมันวางกลับไว้ที่เดิม ดูแต่ตามืออย่าต้อง “มาแล้วแม่นาง วันนี้มีใบชาหลงจิ่งและใบชาไป๋หาวอิ๋นเจิน ไม่ทราบว่าแม่นางจะรับใบชาชนิดไหนดี?” “งั้นข้าขอทั้งสองชนิดอย่างละ 12 ก็แล้วกัน” นางถือคติหากเลือกไม่ได้ก็แค่ไม่ต้องเลือกซื้อมันทั้งสองอย่างจะเป็นไรไป นานปีมีหนจะได้เจอใบชาชั้นดีเยี่ยงนี้ จะปล่อยให้หลุดลอยไปเห็นทีคงไม่ได้ “ทั้งหมด 1440 อีแปะ” “นี่เงินของข้า” นางหยิบเงินในถุงจ่ายให้เถ้าแก่ พอเห็นจำนวนที่ร่อยหรอของมันในถุงแล้วก็เหนื่อยใจ ใช้เงินไม่บันยะบันยังแบบนี้ไม่นานคงได้ถังแตกแน่ เห็นทีห้องรีบไปรายงานตัวที่ค่ายทหารเร็ว ๆ นี้เสียแล้วก่อนจะอดตายไปเสียก่อน เสร็จธุระแล้วนางก็รับเอาใบชาทั้งหมดที่เถ้าแก่จัดการห่อให้เป็นอย่างดีเก็บลงในกระเป๋า แล้วเดินออกไปจากร้าน




ซื้อ
ใบชาหลงจิ่ง 12x60 = 720 อีแปะ
ใบชาไป๋หาวอิ๋นเจิน 12x60 = 720 อีแปะ
รวมทั้งหมด 1440 อีแปะ


@@Admin 









แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 7770 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2024-8-30 16:26
โพสต์ 7,770 ไบต์และได้รับ +2 คุณธรรม +2 ความโหด จาก ช่อเมล็ดข้าวมงคล  โพสต์ 2024-8-30 16:26
โพสต์ 7,770 ไบต์และได้รับ +2 คุณธรรม +2 ความชั่ว +2 ความโหด จาก ทวนยาว  โพสต์ 2024-8-30 16:26
โพสต์ 7,770 ไบต์และได้รับ +2 ความชั่ว +3 ความโหด จาก มีดแล่เนื้อ  โพสต์ 2024-8-30 16:26
โพสต์ 7,770 ไบต์และได้รับ +2 คุณธรรม +2 ความโหด จาก หมวกไผ่ผ้าคลุม  โพสต์ 2024-8-30 16:26
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ปราณเพลิงสีชาด
ยอดฝีมือ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
เกราะเกล็ดมังกร
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
หินสลักโบราณ
หมวกเกราะทหารใหม่
ตำรากฎทหาร
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ญ)
ง้าวปีศาจปลา
มีดแล่เนื้อ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x11
x1
x63
x44
x42
x1
x18
x28
x15
x10
x30
x20
x2
x1
x10
x76
x1
x27
x10
x5
x2
x116
x37
x90
x38
x2
x3
x40
x1
x3
x2
x7
x7
x7
x4
x5
x17
x2
x2
x16
x7
x20
x2
x114
x4
x4
โพสต์ 2024-9-8 02:42:59 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย WeijiaLianhua เมื่อ 2024-9-8 19:08


ยามเหลียนฮวาเบ่งบานชั่วราตรี
วันที่ยี่สิบหก ปาเยว่ เจี้ยนหยวนศกที่สิบ
ต้นยามซื่อ (09.00 น.)




   ด้วยความร้อนใจเนื่องจากนี่ก็ราว ๆ หกราตรีแล้วที่เขาตรงไปฉางซาน นางที่กลัวว่าจะเกิดเรื่องกับบุรุษผู้นั้นตามนิมิตจึงเร่งเอาม้วนราชโองการออกมาจากราชวังตั้งแต่หัววัน ครานี้หาใช่การหลบซ่อนไม่ นางมาด้วยรถม้าจากราชวังพร้อมนางกำนัลคอยรับใช้ อาภรณ์สีขาวลายหมึกประจำตำแหน่งในวันนี้มิได้มีหมวกไผ่ผ้าคลุมปกปิดใบหน้าอีกต่อไป นางเลือกที่จะเอามันไว้บนรถม้า

   นางได้ยินว่าเขาเปิดร้านที่ถนนสิบลี้ เป็นร้านรับจ้างสารพัดและขายซึ่งทุกสิ่งที่เขาจะหาได้ ชื่อร้านว่า ‘หงหยุนหลาย’ ในระหว่างที่รถม้าเคลื่อนตัวไป นางก็ยกม้วนตำรามาอ่านเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมเสมอ นางอ่านตำราว่าด้วยบทกลอนที่เอ่ยถึงเขาเทียนซาน และมีม้วนที่วางไว้ข้างตัวที่เป็นสารนุกรมปีศาจที่นางเคยคิดว่าเป็นเพียงเรื่องน่าขบขันนัก แต่จะเอามาศึกษาเสียตั้งแต่ตอนนี้ก็คงจะไม่สายไป ใช้เวลาราว ๆ เกือบครึ่งชั่วยามได้ก็มาถึงร้านค้าของเขาผู้นั้น

   “ท่าทางคงจะต้องเรียกใช้งานแล้วกระมัง ?”

   เว่ยเจียเหลียนฮวาตบเท้าก้าวเดินไปในร้าน มองไปรอบ ๆ ก่อนจะเลื่อนมาหยุดที่เจ้าของร้านที่เดินมาต้องรับนาง

   “นี่มัน ไป๋ฮวากู่เหนียงนี่นา”

  “ไป๋ฮวา ??? นี่เจ้า— ”

   มือเล็กยกขึ้นเพื่อรั้งไม่ให้ผู้อื่นที่ติดตามมากับนางปริปากออกมาอีกแม้แต่ครึ่งคำก่อนที่จะเผยรอยยิ้มอ่อนหวานเท่าที่นางจะประดิษฐ์ได้

   “ต้องขออภัยกงจื่อที่ไม่อาจแสดงตนออกไปในครานั้นได้ ในเมื่อโจวจินกงจื่นเป็นถึงผู้ช่วยชีวิต เช่นนั้นแล้วต้องขอแนะนำตนอย่างเป็นทางการ เปิ่นกงมีนามว่า เว่ยเจียเหลียนฮวา เป็นพระสนมเสียนอี๋ในองค์จักรพรรดิ”

  “พระสนม???”

   “แม้อาจแลเสียมารยาทนัก ทว่าที่เปิ่นกงต้องขอให้เจ้าคุกเข่าประเดี๋ยวนี้” เหลียนฮวาเอ่ยก่อนจะเอื้อมมือไปรับราชโองการมาอ่าน “โจวจิน โปรดรับราชโองการ”

   ทันใดนั้นที่นางเอ่ยถึงราชโองการ ผู้คนทั้งร้านจำต้องคุกเข่าลงเพื่อรับฟังมัน

   “บัดนี้มีลางแห่งเภทภัยก่อตัวขึ้น โจวจิน วรยุทธ์ผู้กำจัดจ้าวปีศาจปลานั้นมากด้วยคุณธรรมและความสามารถ ขอจงช่วยเหลือแผ่นดินร่วมกับขบวนวังหลวงอันขึ้นตรงต่อพระสนมเว่ยเจียเสียนอี๋”

   “ขอบพระทัยในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นพะยะค่ะ” โจวจินเอ่ยอย่างสับสนกับราชโองการนี้และรับม้วนไหมสีทองไป “แต่กระหม่อมบังอาจถามพระสนม กระหม่อมนั้นไม่อาจขัดพระราชโองการ ทว่าหากกระหม่อมไป แล้วร้านของกระหม่อม สินค้าของกระหม่อมเล่า”

   “เจ้าปิดร้านสักพักคงไม่เป็นไรนัก ส่วน…พวกของสดทั้งหลาย หรือสิ่งของที่ไม่อาจอยู่ค้างได้นานเปิ่นกงจะชดใช้ให้เจ้าเอง” นางชี้จากหน้าร้านมาจนถึงหลังร้าน “ทั้งหมดนี้ เท่าไหร่?”

  ยี่สิบเจ็ดตำลึงทอง หกตำลึงเงิน กับ ห้าร้อยอีแปะพะยะค่ะ” เขาเอ่ยตอบอย่างอึ้งและสับสนยิ่งขึ้น “อย่าบอกนะว่าพระสนมจะกระทำจริง ๆ ”

   “แล้วเปิ่นกงเป็นคนเอ่ยวาจาเพียงลมปากไร้หลักมั่นหรือ” นางล้วงถุงเงินของนางโยนไปให้คนตรงหน้าสามสิบตำลึงทอง ไม่ต้องทอน ถือว่าเป็นค่าจ้างจากเปิ่นกงอีกแรงที่ให้เจ้ามาทำงานให้เปิ่นกงด้วย เราจะเดินทางภายในวันพรุ่งนี้เช้า เตรียมตัวให้ดี ส่วนสินค้าพวกนี้เปิ่นกงจะให้บ่าวใช้ของวังขนไปเก็บเองไม่ต้องห่วง”

   แล้วนางก็เดินทางกลับวังเพื่อเตรียมตัวให้ดี





ใบชาหลงจิ่ง 50 x 60 = 3,000 อีแปะ
ใบชาไป๋หาวอิ๋นเจิน 50 x 60 = 3,000 อีแปะ
เนื้อเป็ดอูยา 20 x 50 = 1,000 อีแปะ
เนื้อกวาง 50 x 50 = 2,500 อีแปะ
เกลือ 520 x 500 = 260,000อีแปะ
เนื้อไก่ดำ 100 x 70 = 7,000 อีแปะ
รวมทั้งหมด 276,500 อีแปะ

จ่าย 30 ตำลึงทองไปแบบไม่ต้องทอนค่ะ ให้เป็นค่าจ้างมาเป็นมือเป็นเท้าตอนเจอมอน 555555555

[สามารถโรลเพลย์ค้นคว้าหาความรู้จากการฟัง หรือ อ่าน +30 EXP (วันละครั้ง)]


[NPC-13] โจวจิน
+5 พูดคุยประจำวัน
+20 หัวดีโบนัสความสัมพันธ์

@Admin

แสดงความคิดเห็น

+++ ท่านก่อเกิดความท้าทายบางอย่าง หากประสงค์จะรับความท้าทาย ส่งแชท Y (การเปิดความท้าทายนี้อาจจะทำให้สูญเสียเงิน 30 ตำลึง) +++  โพสต์ 2024-9-8 19:19
คุณได้รับ 30 EXP โพสต์ 2024-9-8 07:45
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-13] โจว จิน เพิ่มขึ้น 25 โพสต์ 2024-9-8 07:45
โพสต์ 12577 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2024-9-8 02:43
โพสต์ 12,577 ไบต์และได้รับ +2 EXP +5 คุณธรรม +4 ความโหด จาก แหวนดาราจรัส(D)  โพสต์ 2024-9-8 02:43
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ยอดคีตศิลป์
อัจฉริยะ
กระบี่
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
แหวนดาราจรัส(D)
พัดคุณชาย
พู่กันคัดอักษร
ชุดเหวินชิงฮวาเฟิน(เสียนอี๋)
หมวกไผ่ผ้าคลุม
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x16
x5
x10
x38
x1
x179
x2
x5
x2
x1
x163
x2
x2
x4
x6
x1
x1
x21
x33
x10
x2
x1
x19
x10
x4
x6
x3
x20
x2
x2
x11
x15
x134
x4
x3
x2
x377
x10
x7
x238
x6
x64
x33
x1
x50
x111
x67
x26
x164
x6
x17
x81
x16
x10
x21
โพสต์ 2024-9-18 00:41:51 | ดูโพสต์ทั้งหมด

ยามเหลียนฮวาเบ่งบานชั่วราตรี
วันที่ยี่สิบหก ปาเยว่ เจี้ยนหยวนศกที่สิบ
ต้นยามซื่อ (09.30 น.)




   ในช่วงเวลาที่นางโยนถุงตำลึงไปเพื่อจ่ายค่าสินค้าทั้งหมดที่นางซื้อนั้น จู่ ๆ ก็มีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่อมีชาวบ้านเป็นบุรุษผู้หนึ่งกระโจนมาแย่งถุงตำลึงของนางไปและวิ่งออกไปด้วยความไวที่นางตกใจไม่ทันด้วยกระมัง ด้วยความที่นางในครานี้มาพร้อมกับราชโองการจึงทำให้มีองครักษ์ของราชวังมาพร้อมสรรพ พวกเขาจึงออกตัววิ่งไปตามแล้ว เว่ยเจียเหลียนฮวาที่ตั้งสติได้จึงหันไปแจ้งโจวจิน

   “แลเหมือนเจ้าจะเป็นบุคคลมีชะตาต้องตกระกำสักคราก่อนได้ถุงตำลึงหนักดีนะ โจวจินกงจื่อ” นางเค้นหัวเราะอย่างตลกร้าย “ช่างเถิด ประเดี๋ยวทหารหลวงก็คงไปตามมาได้ อย่าได้ใจหายไป หลายตำลึงทองในนั้นย่อมเป็นของเจ้า ไปหาที่นั่งตั่งเตียงมาวางเสีย คงมีการพิจารณาความในร้านเจ้าสักหน่อยเป็นแน่”

   เว่ยเจียเหลียนฮวาเอ่ยจบ โจวจินผู้เป็นเจ้าของร้านก็เร่งไปยกแก้อี้มาให้นางนั่งกลางร้าน บัดนี้ร้านค้านี้ได้ถูกทหารหลวงที่ทิ้งกำลังไว้อารักขานางกั้นอาณาบริเวณเรียบร้อย ไม่มีผู้ใดอยู่ภายในร้าน และไม่มีผู้ใดเข้ามาได้ทั้งนั้น ใช้เวลาไม่นาน ราวหนึ่งเค่อก็แลเห็นร่างของบุรุษผู้นั้นถูกบุรุษผู้หนึ่งมัดกายดึงเข้ามาภายในร้าน ผู้ที่ถูกดึงนางพอจำเค้าลางได้ว่าเป็นโจรขโมยตำลึงทอง ทว่าอีกคนเล่า ไยมิใช่ทหารหลวงเป็นผู้พาเจ้ามา

   “ทหารหลวงวิ่งไปตั้งเยอะแยะ ไยเป็นท่านจอมยุทธ์มาจับโจรแทนเล่า ? ”

   ดวงเนตรแห่งพระสนมเสียนอี๋เลื่อนไปมองทหารหลวงที่เดินมาตามหลังติด ๆ และก้าวขึ้นมารายงานสถานการณ์ด้วยสภาพเปื้อนฝุ่นและมีรอยช้ำที่ใบหน้าบ้างให้พอเดาออกว่าเจ้าหนุ่มคนนี้คงมีวิชาไม่น้อย

   “เรียนพระสนม กระหม่อมวิ่งตามไปหมายจับโจรขโมยตำลึงทอง ทว่าด้วยความประมาทไม่นึกว่าเป็นผู้มีทักษะการต่อสู้และใช้ที่ทางเพื่อเอื้อผลประโยชน์เร้นกายในตรอก…จึงได้ท่านจอมยุทธ์ช่วยเหลือมาส่งพะยะค่ะ”

  “แลเหมือนว่าเปิ่นกงคงต้องเรียนแจ้งฝ่าบาทให้เข้มงวดกับพวกเจ้ามากขึ้นแล้วกระมัง”

   น้ำเสียงหวานที่มักจะสดใสบัดนี้เจือความเย็นเยียบไม่น้อย ทว่านางก็หาได้สนใจเหล่าทหารไม่ นางแลเห็นว่าเป็นเพียงทหารหลวงก็เท่านั้น หาใช่ทหารมากฝีมือหรือองครักษ์ส่วนพระองค์นางจึงปัดความคาดหวังใด ๆ ทิ้งไปอย่างง่ายดาย ใบหน้าที่ผินมองด้านข้างค่อย ๆ เลื่อนไปมองตัวการความวุ่นวายนี้ก่อนจะมองร่างสูงผู้สร้างผลงานในครานี้ ชั่วครู่ที่ได้ยลเห็น ชั่วขณะที่ได้สบดวงตา สัญชาตญาณของนางก็ร้องว่าบุรุษผู้นี้มีกลิ่นอายบางอย่างที่แตกต่างจากผู้อื่น

   เช่นโจวจิน เช่นนาง

   “ขอบใจท่านจอมยุทธ์นัก ลำบากท่านจอมยุทธ์ที่ต้องมาจับโจรให้เปิ่นกงแล้ว”

   “หาได้ลำบากไม่พะยะค่ะพระสนม”

   แม้ว่าต้องการถามไถ่ในสิ่งที่สัญชาตญาณของนางกู่ร้องจนอยากจะแก้ความสงสัยของตนเองเพียงใด ทว่าเรื่องนี้หาได้สามารถสนทนาสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ เช่นนั้นแล้วจึงเลื่อนสายตาจากเขามาที่โจรขโมยตำลึง ดวงตาไล่พิจารณารูปพรรณสัณฐานทีละน้อย ใบหน้าคลุกฝุ่นไปบ้างท่าทางไม่ได้หลับนอนใต้หลังคาเรือนดี ๆ อาภรณ์เปื้อนฝุ่นไม่ต่าง ทว่าร่างกายกำยำหน่วยก้านดีราวกับว่าเป็นผู้ดีตกระกำลำบากได้ไม่นานนัก

  “ไยเจ้าขโมยถุงตำลึงของเปิ่นกง”

   “เรียนพระสนม…ก–กระหม่อมมีนามว่า เยียนเฉิง ทำไปเพราะจนตรอก จากบ้านไกลจากเจียงหนานเพื่อหนีอุทกภัยมาตายเอาดาบหน้า ทรัพย์สินที่มีจมหายไปกับน้ำและโคลนตม ไร้สิ่งใดติดกาย ยามนี้กระหม่อมไม่มีสิ่งใดตกท้องได้สามวันแล้วจึงหน้ามืดตามัว ได้ยินเพียงเสียงตำลึงในถุงก็รีบคว้า เพิ่งจะรู้ตัวว่าขโมยของพระองค์ก็ตอนที่ถูกทหารหลวงไล่ตาม” ชายผู้นั้นเอ่ยออกมาด้วยความสั่นกลัว ดวงตารื้นหยาดน้ำหาได้ยากจากบุรุษทั่วไป “กระหม่อมไม่เคยทำสิ่งใดผิดเลย มีเพียงครานี้เท่านั้นที่ต้องการเพียงมีชีวิตรอด โปรดพระสนมเมตตาด้วยเถิด”

   เว่ยเจียเหลียนฮวาใช่ว่าไม่เข้าใจความลำบาก นางเห็นเหอหนานน้ำท่วมมาทุกปี ช่วงเวลานี้คงจะไหลลงไปเจียงหนานแล้วเป็นแน่ นางพิจารณาร่างกายของโจรผู้นี้ ทักษะการพูดจาที่พอมีการศึกษาบ้างจึงสร้างความน่าเชื่อถือว่าเขาหาใช่คนที่จะมาจ้องขโมยถุงตำลึงทองของผู้ใดไม่

   “โจวจินกงจื่อ เจ้าว่าหน่วยก้านโจรนี่ดีหรือไม่?”

   “นับว่าไม่เลวพะยะค่ะพระสนม”

   นางกระซิบถามจอมยุทธ์ผู้พ่วงตำแหน่งเถ้าแก่ประจำร้านค้าแห่งนี้เพื่อให้ช่วยพิจารณา เมื่อได้ความเช่นนั้นก็เกิดความคิดอ่านบางอย่างในหัว นางโบกมือให้ทหารหลวงทั้งหลายออกไป เหลือรั้งไว้เพียงนาง จ้าวหนิงเฟย โจวจิน โจร และ บุรุษที่จับโจรให้นาง

   “ช่วงเวลานี้น้ำได้ไหลบ่าสู่เจียงหนานแล้ว เช่นนั้นครอบครัวเจ้าเล่า ? ”

   “อยู่ที่กระโจมช่วยเหลือของเจ้าเมืองพะยะค่ะ ด้วยทรัพยากรจำกัด กระหม่อมจึงปลีกตัวออกมาเข้าเมืองหวังหารายได้ช่วยเหลือครอบครัว ลดการแบ่งสรรในส่วนของกระหม่อมเพื่อให้ครอบครัวสามารถใช้สิ่งของช่วยเหลือได้มากขึ้น”

  “งั้นหรือ…”

   ได้ยินเช่นนั้นริมฝีปากของนางก็แย้มขึ้นราวกับว่าพอพระทัยใจคำตอบของอีกฝ่าย บัดนี้นางมีความคิดสร้างหน่วยข่าวกรองของนางเอง หน่วยที่ขึ้นตรงต่อนางเท่านั้น เพราะสิ่งที่นางต้องการคือข้อมูล การที่อีกฝ่ายเป็นโจรนั้น แม้ว่าจะดูน่าเชื่อถือเพียงใดก็หาได้ทำให้นางเชื่อใจเต็มที่ไม่ นางจึงหมายมั่นหากทุกสิ่งเป็นเรื่องจริง การมีครอบครัวเขาเป็นแรงผลักดันให้กระทำการงานนำมาซึ่งประโยชน์ของนางและเป็นดั่งตัวประกันที่เอาไว้ทำให้เขายังคงจงรักภักดีต่อนาง ถือว่าไม่เลวนัก

   “หากเปิ่นกงบอกว่าจะให้งานแก่เจ้าเป็นเช่นไร ?”

   “จริงหรือพะยะค่ะพระสนม อะไรก็ได้ กระหม่อมจะทำเอง”

   “เยี่ยม เช่นนั้นก็ดี ช่วงนี้เปิ่นกงจะฝากงานไว้กับเจ้ากรมโยธาก่อน หากวันใดที่เปิ่นกงกลับจากการทำงานต่างเมือง เมื่อนั้นเปิ่นกงจะไปรับเจ้า”

   สิ้นวจีหวาน ก็หันไปขอกระดาษและพู่กันมาเขียนฝากฝังเยียนเฉิงไว้กับบิดาก่อน ให้เขาช่วยเหลือให้การศึกษาและฝึกฝนพอเท่าที่ได้ นางต้องการกำลังคนที่นางสามารถเอ่ยปากกว่าเป็นคนของนางอย่างแท้จริง เขียนจดหมายเสร็จแล้วก็เรียกทหารสองนายมาเพื่อยื่นจดหมายไปให้พวกเขาพาเยียนเฉิงไปที่เจ้ากรมโยธา

   “เสียมารยาทแล้ว ท่านจอมยุทธมีนามว่ากระไรหรือ”

   “เรียนพระสนม กระหม่อมแซ่ซีเหมิน มีนามว่าชิง”

   “ต้องขอบคุณอีกครั้งที่ช่วยเหลือเปิ่นกง ความดีนี้ย่อมต้องทดแทน ตำลึงที่ได้มานี้แม้ใจอยากมอบให้เจ้าบ้างทว่าถุงนี้เป็นค่าสินค้าที่เปิ่นกงจ่ายให้แก่เถ้าแก่โจว”

   “มีกระบี่ เรียนวิชาย่อมต้องทำความดี ในเมื่อกระหม่อมได้สบโอกาสแล้วจึงให้ความช่วยเหลือพะยะค่ะ”

   “พระสนม กระหม่อมขอบังอาจทูล กระหม่อมว่าเราให้จอมยุทธผู้นี้ร่วมทางกับเราดีหรือไม่ ?”

   เสียงกระซิบจากโจวจินยิ่งทำให้ความรู้สึกของนางชัดเจน แสดงถึงว่าเขาเองก็รู้สึกได้ถึงบางอย่างที่แตกต่างจากบุรุษผู้นี้ หิ่งห้อยที่ลอยอิ่งเวียนวนนำทางความคิดของนางให้ยินยอมการกล่าวทูลของเขา

   มีผู้มากฝีมือร่วมตามย่อมเป็นการดี อย่างน้อยก็ดีกว่าแบกทหารไปร่วมหลายสิบนาย

   “ซีเหมินกงจื่อ หากเปิ่นกงบอกว่าจะชวนเจ้าไปผจญภัย เจ้าจะยินยอมไปกับเปิ่นกงหรือไม่” นางแย้มยิ้มก่อนเอ่ยชวน “ปราบปีศาจ ช่วยผู้คน เพิ่มทักษะ ถือว่าเปิ่นกงจ้างเจ้ามาช่วยคุ้มกันก็ได้ หากเจ้าตกลง เปิ่นกงจะยินดีเป็นอย่างยิ่ง”

   ดวงตาของจอมยุทธวัยละอ่อนทอประกายด้วยความตื่นเต้นเมื่อได้ยินคำว่าผจญภัย เขาที่ต้องการหาประสบการณ์ในฐานะจอมยุทธ์ย่อมต้องตกลงข้อเสนอแนะนี้ เมื่อทุกสิ่งเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลานัดหมายให้ดี

   “เช่นนั้นแล้วไปเจอเปิ่นกงที่ชายป่านอกฉางอันต้นยามเฉินวันพรุ่งนี้ เปิ่นกงจะไปรอเจ้าที่นั่น เตรียมตัวให้ดี การเดินทางนี้ยาวนานเพียงใดไม่อาจทราบได้”

   สิ้นการนัดหมาย จอมยุทธผู้นั้นก็ออกไป เหลือเพียงนาง จ้าวหนิงเฟยและโจวจิน เว่ยเจียเหลียนฮวาหันมามองสหายของนางก่อนจะเอ่ยสิ่งที่นางคิดออกมา

   “เปิ่นกงมีความคิดต้องการทำหน่วยข่าวกรองของเปิ่นกง ในยามนี้หากมีสิ่งใดที่ล้ำค่ามากที่สุดในสายตาของเปิ่นกง ย่อมต้องเป็นข้อมูล เช่นนั้นแล้วด้วยความไว้วางใจในตัวเจ้าทั้งสอง เปิ่นกงขอถาม พวกเจ้าสนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยข่าวกรองที่เปิ่นกงจะสร้างหรือไม่ ?”

   จ้าวหนิงเฟยย่อมต้องเข้าร่วมด้วนความภักดีของนาง ทว่าโจวจินนั้นถือว่าเป็นสหาย นางเอ่ยบอกด้วยความไว้วางใจ จะตอบรับหรือไม่นางย่อมรับได้…

   “หากเจ้ายังคิดไม่ตก เปิ่นกงมีเวลารับฟังเจ้าหลายวันเหลือเกิน โจวจินกงจื่อ ไว้เจ้าพร้อมก็บอกคำตอบเปิ่นกงอีกที อย่าลืมเล่า ต้นยามเฉินหน้าชายป่านอกฉางอัน”

   และนางก็หมุนกายออกจากร้าน เพื่อกลับวัง…อย่างแท้จริง





++ ข่าวลือ วันที่ 25 เดือน 08 ++
ดูเหมือนฉางอันจะเริ่มมีผู้ประสบภัยจากเจียงหนานแห่เข้ามากันมากขึ้น ด้วยเจียงหนานเกิดอุทกภัยน้ำท่วม แม้ความช่วยเหลือจะไปถึงแล้วแต่ก็ยังมีบางส่วนเดินทางไกลเพื่อมายังนครหลวง

+15 EXP ผู้ฟังข่าวลือ

[NPC-15] โจวจิน
+20 หัวดีโบนัสความสัมพันธ์

@Admin

แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-13] โจว จิน เพิ่มขึ้น 20 โพสต์ 2024-9-18 00:47
คุณได้รับ 15 EXP โพสต์ 2024-9-18 00:46
โพสต์ 26183 ไบต์และได้รับ 16 EXP! [VIP]  โพสต์ 2024-9-18 00:41
โพสต์ 26,183 ไบต์และได้รับ +6 EXP +10 คุณธรรม +8 ความโหด จาก แหวนดาราจรัส(D)  โพสต์ 2024-9-18 00:41
โพสต์ 26,183 ไบต์และได้รับ +6 คุณธรรม จาก พัดคุณชาย  โพสต์ 2024-9-18 00:41
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ยอดคีตศิลป์
อัจฉริยะ
กระบี่
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
แหวนดาราจรัส(D)
พัดคุณชาย
พู่กันคัดอักษร
ชุดเหวินชิงฮวาเฟิน(เสียนอี๋)
หมวกไผ่ผ้าคลุม
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x16
x5
x10
x38
x1
x179
x2
x5
x2
x1
x163
x2
x2
x4
x6
x1
x1
x21
x33
x10
x2
x1
x19
x10
x4
x6
x3
x20
x2
x2
x11
x15
x134
x4
x3
x2
x377
x10
x7
x238
x6
x64
x33
x1
x50
x111
x67
x26
x164
x6
x17
x81
x16
x10
x21
โพสต์ 2024-9-18 08:34:45 | ดูโพสต์ทั้งหมด
วันที่ 26 เดือน 08 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 10 เวลา  9.00




เป็นร้านค้าที่มีของเยอะนะเนี่ยเด็กหนุ่มที่มาพร้อมกับคณะละครสัตว์ของเขาได้เดินเข้ามาที่ร้านนี้เคราะห์ดี ที่ร้านนี้นั้นสามารถนำสัตว์เข้ามาได้


เด็กหนุ่มเหลือบไปเห็นปีศาจไก่ดำอยู่แถวๆเค้าเตอร์ราวกับเป็นพนักงาน มันหันมามองเด็กหนุ่มที่มีไก่ดำเดินตามก็พยักหน้าให้กับเด็กหนุ่มราวกับว่าจะถูกใจ


"ไม่ทราบว่าลูกค้าอยากจะมาซื้ออะไรนะครับ" ชายร่างสูงกล่าวถามเด็กหนุ่ม


"ตัวข้านั้นมีนาวว่าโจวจิน ถ้าคุณลูกค้าอยากได้สินค้าอะไรเป็นพิเศษสามารถติดต่อสอบถามได้เลยนะครับ" เถ้าแก่กล่าวถาม


"ข้าน้อยซีเหมินซื่อเทียน" เด็กหนุ่มกล่าวเเนะนำตัว


"ท่านพอจะมีสิ่งที่เรียกว่าหินอัพเกรดขายไหมขอรับ" เด็กหนุ่มกล่าวถาม


"โอ้ว ถ้าเป็นวัสดุนั้นตัวข้าเคยมีนะ แต่แค่ตอนนี้มันไม่มีแล้ว" ชายหนุ่มกล่าวยิ้มๆ


"ในอนาคตอาจจะมี เจ้าต้องมาร้านข้าบ่อยๆแล้วล่ะ" ชายหนุ่มกล่าวเสริม


เด็กหนุ่มยิ้มรับ และคุยกับชายหนุ่มไปซักพัก


หลังจากนั้นก็มีเหตุการณ์ประกาศราชโองการ ให้พ่อค้าไปปราบน้ำท่วม


'น่าสนใจ ว่าไหมอาปิง' เด็กหนุ่มกล่าว


'ใช่' อาปิงตอบรับ


หลังจากนั้นเด็กหนุ่มก็เตรียมจะเดินออกจากร้านแต่ทันใดนั้นเองก็มีโจรร้ายกล้าขโมยถุงเงินของพระสนม


"เจ้าหมาไป" เด็กหนุ่มสั่งเจ้าหมาวิ่งไล่ตามและวิ่งตามโจร คนนั้นไป เด็กหนุ่มวิ่งเร็วจนเเซงทหารและพุ่งเข้าไปจับโจรที่วิ่งหนีไปซักพัก


"ปะ ปล่อยข้าไปเถอะท่านจอมยุทธ์ ข้าเเบ่งเงินให้่ท่าน ครึ่งนึงเลยก็ยังได้" โจรคนนั้นกล่าว


เด็กหนุ่มส่ายหน้าและลากโจรนั้นกลับมาที่ร้าน


หลังจากนั้นเด็กหนุ่มก็คารวะ ส่งโจรเสร็จสับ และได้รับคำชวนให้ร่วมเดินทางทำภารกิจ




--------------------
+5 ค่าความสัมพันธ์
[NPC-15] โจวจิน  สนทนาประจำวัน

+10 ค่าความสัมพันธ์
[NPC-15] โจวจิน
หัว VIP

+20 ค่าความสัมพันธ์
[NPC-15] โจวจิน
หัวดีโบนัส





แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-13] โจว จิน เพิ่มขึ้น 35 โพสต์ 2024-9-18 08:56
โพสต์ 11430 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2024-9-18 08:34
โพสต์ 11,430 ไบต์และได้รับ +2 ความโหด จาก ทักษะพรานป่า  โพสต์ 2024-9-18 08:34
โพสต์ 11,430 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม จาก มือกระบี่  โพสต์ 2024-9-18 08:34
โพสต์ 11,430 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม จาก กระบี่เยวี่ยปิง  โพสต์ 2024-9-18 08:34
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบี่
มือกระบี่
ช่อเมล็ดข้าวมงคล
หมวกไผ่ผ้าคลุม
เกราะทองแดง
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ช)
มีดแล่เนื้อ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x4
x4
x2
x2
x2
x6
x2
x2
x1
x4
x5
x1
x1
x16
x32
x24
x9
x1
x2
โพสต์ 2025-7-4 05:10:46 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย LinYa เมื่อ 2025-7-4 05:12


วันที่ 04 เดือน 6 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11

ยามซื่อ เวลา 09.00 - 11.00 น. ณ ถนนสิบลี้ ร้านหงหยุนหลาย


ยามซื่อ ฟ้าเหนือฉางอันโปร่งใสดั่งผืนผ้าขาวที่ยังไม่ผ่านหมึก พัดลมเย็นแผ่วเบาไล้ผ่านยอดไม้หลิวที่เรียงตัวริมตลาด ส่งกลิ่นหอมอ่อนของพะยูงหอมลอยคลุ้งจาง ๆ มาจากร้านค้าแห่งหนึ่ง ร้าน “หงหยุนหลาย” หรือในภาษาที่เข้าใจง่ายว่า “โชคลาภมาถึง” ตั้งอยู่หัวมุมถนนสิบลี้ หน้าร้านเป็นแผ่นไม้แกะสลักชื่อร้านอักษรจีนตัวโตด้วยลายมือหนักแน่นเสมือนฝีมือของยอดยุทธ์ผู้มีวิชาลึกซึ้ง หากแต่รอบข้างกลับตกแต่งด้วยดอกไม้แห้ง ห้อยพวงยันต์เก่าแก่ ของเซ่นพิสดารไปจนถึงโครงกระดูกปีศาจครึ่งตัวที่ตั้งตระหง่านอยู่ข้างโถความวุ่นวายที่เป็นระเบียบเช่นนี้ ทำให้ร้านแห่งนี้เป็นจุดหมายยอดฮิตของคนมากมาย


หลินหยาสาวเท้าก้าวเข้าไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย ริมฝีปากคลี่ยิ้มบาง หากในหัวกำลังคิดว่าควรหาของเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปฝากหรงเล่อหรือไม่หรือท่านหลิวอันอาจจะอยากได้ของดี ๆ หรือเปล่า? ถ้าได้ถุงสมุนไพรหอม หรือชาดอกเฟิ่งฮวาน่าจะพอช่วยได้บ้าง “ขออภัยเจ้าค่ะ ท่านพ่อค้าเถ้าแก่อยู่หรือไม่?” เสียงนางเอ่ยกับเด็กฝึกงานชั่วคราวของร้านที่ดูยุ่งหัวหมุน เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นอย่างรีบเร่ง “อยู่ขอรับ! เพิ่งกลับมาจากนอกเมืองเมื่อวานนี้ ตอนค่ำๆ เอง ตอนนี้น่าจะจัดของอยู่ด้านใน”


หลินหยาพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบร้าน ด้านในเต็มไปด้วยกลิ่นแปลกประหลาด กลิ่นไม้จันทน์ ผงกำยาน และอะไรบางอย่างที่นางไม่กล้าเดาว่าคืออะไร… ชัดเจนว่าสินค้าที่นี่ไม่ใช่แค่ของใช้ทั่วไป สายตาของนางตกอยู่ที่ขวดแก้วใสที่ภายในมีน้ำสีฟ้าสดใสเคลื่อนไหวเป็นคลื่น หรือชิ้นส่วนของปีศาจที่กินได้ “...โอ้โห” หลินหยาอุทานเบา ๆ อย่างไม่ปิดบังสีหน้า "ของในร้านนี้...มีที่ทำให้ฝันร้ายได้ครบวงจรเสียจริง" ขณะที่มือกำลังจะเอื้อมไปหยิบป้ายราคาดู เสียงฝีเท้านุ่มนวลและมั่นคงก็ดังมาจากหลังม่านไม้ไผ่ด้านใน


พัดสีทองขลิบผ้าดำแหวกม่านออกช้า ๆ ตามมาด้วยชายหนุ่มชุดผ้าไหมสีเข้ม รูปโฉมสงบเยือกเย็นเช่นวันว่างของนักปราชญ์ โจวจิน… เดินออกมาด้วยท่าทีไม่เร่งรีบ แต่พอเห็นใบหน้าของหญิงสาวผู้ยืนอยู่ท่ามกลางร้านอันวุ่นวาย แววตาของเขาก็เปลี่ยนไปในพริบตา คล้ายตกใจ? ไม่…ไม่ถึงกับตกใจ…แต่เป็นความประหลาดใจเจือความสนุกบางอย่างที่ผุดขึ้นมาแทน หลินหยากำลังอ่านป้ายเล็ก ๆ บนขวดอย่างตั้งอกตั้งใจจนไม่ทันรู้สึกตัวว่ามีใครยืนอยู่ข้างหลัง


เสียงคุ้นหูเอ่ยขึ้นช้า ๆ ด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่ม “ดูท่าครั้งนี้แม่นางมิได้ตั้งใจจะวิ่งหนีอีกแล้วกระมัง?” ทันที่ได้ยินเสียงนั้นหลินหยาก็ยืนแข็งไปชั่ววูบ มือค้างอยู่กลางอากาศ เสียงนี้...น้ำเสียงเย็นราบเจือหยอกล้อกับปลายเสียงที่ลากยาวเหมือนสายไหมคลุมยาพิษ??


หรือว่า?..


“เอ๊ะ..!!?”


“สวัสดียามสาย แม่นางผู้เคยเปลี่ยนถนนสิบลี้ให้กลายเป็นลู่ประลองความเร็ว” โจวจินยิ้ม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อวาน เขาก้าวเข้ามาใกล้พลางเอียงหน้าเล็กน้อย “ครั้งนี้จะลองนั่งจิบชาสักถ้วยก่อนหรือไม่ ก่อนจะตัดสินใจวิ่งหนีอีกครั้งดี?” เฮยจี…ไก่ดำอหังการแห่งถ้ำหมิงเถียนปิง กระโดดลงจากเคาน์เตอร์อย่างสง่างามมาข้างเจ้าของ พร้อมเสียงกระพือปีก "กุ๊ก!" ที่เหมือนจะพูดว่า หืม? จำพวกข้าได้หรือยัง?’


หลินหยาได้แต่มองไก่กับชายเจ้าร้านสลับกัน ใบหน้าไม่รู้จะยิ้มหรือหนีดี นางกลืนน้ำลายเบา ๆ แล้วกระแอมไอ ทำหน้าเรียบนิ่งคล้ายไม่เคยวิ่งอะไรทั้งสิ้นในชีวิต “ข้าไม่ได้มาเพื่อจิบน้ำชาหรอกเจ้าคะ...ข้ามาซื้อของ” หลินหยาเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา พร้อมยกมือประสานเบา ๆ อย่างสุภาพแต่เด็ดขาด "ท่าน...เลิกหลอกขายน้ำชาให้ข้าได้แล้ว"


โจวจินยืนพิงเคาน์เตอร์ไม้หวางฮวาหลีอย่างสบายอารมณ์ ปลายพัดควงช้า ๆ ปัดลมระเรื่อหน้าผากขาวเกลี้ยงของเขา ดวงตาคมทอดมองหญิงสาวที่เพิ่งพูดโพล่งออกมาอย่างเด็ดเดี่ยวคำพูดนั้นเหมือนคมเข็มเล่มเล็กแทงทะลุม่านวาทะของพ่อค้ามากเล่ห์เข้าอย่างจัง โจวจินหัวเราะแผ่ว ๆ พลางโน้มตัวไปเล็กน้อย ยิ้มด้วยสายตาที่ยิ่งดูอบอุ่นยิ่งน่าสงสัย "หลอกหรือ..." เขาว่าราวกับรำพึงกับตัวเอง "น่าประหลาด...ข้าออกจะจริงใจกับชาเสียขนาดนั้น"


หลินหยาไม่ตอบ ได้แต่เหลือบตามองก่อนจะเดินเลยเขาไปทันที ราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะโยนบทสนทนาตลกร้ายอะไรมาอีกนางกวาดสายตามองของบนชั้นพลางขมวดคิ้วเบา ๆ หยุดอยู่ที่กล่องทรงลูกบาศก์ที่มีลวดลายมิติเรขาคณิตสลับซับซ้อน เหมือนจะเป็นของเล่น แต่ในอีกมุมหนึ่ง มันก็เหมือนสิ่งที่สามารถกางขยายเป็นคฤหาสน์ทั้งหลังได้ "กล่องขยายลูกบาศก์ ราคาชิ้นละ 40 ตำลึงทอง?" นางพึมพำเบา ๆ สายตาเลื่อนลงต่ำไปที่เนื้อกวางสดใหม่ สีแดงเข้ม วางบนแผ่นน้ำแข็งหินหยกซึ่งส่งความเย็นออกมาตลอดเวลา ราคาป้ายติดไว้ว่า 1 ตำลึงเงิน 491 เหรียญอู่จูต่อชิ้น


"ท่านเถ้าแก่ข้าเอาเนื้อกวาง 50 ชิ้น กับกล่องขยายลูกบาศก์ 3 กล่อง" หลินหยาหันมาแจ้งโดยตรงด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เธอคำนวณในใจไว้แล้วอย่างดี ท่าทีมั่นใจไร้รอยลังเล แต่โจวจินกลับนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะยิ้มบางและพูดอย่างนุ่มนวล “กล่องขยายลูกบาศก์นั้น...ข้าไม่ห้ามแม่นางซื้อหรอก…แต่ใช้ได้เฉพาะผู้ที่มี ‘แหวนดาราจรัส’ และ ‘กระเป๋าแห่งเจ็ดขุมทรัพย์’ เท่านั้น มิฉะนั้น ท่านจะได้เพียงกล่องสี่เหลี่ยมหนึ่งชิ้นที่กินเนื้อที่มากกว่าของจริงเสียอีก”


หลินหยาที่ได้ยินนั้นหยุดกึกดวงตาคู่นั้นหรี่ลงนิดเหมือนพินิจว่าอีกฝ่ายแกล้งพูดใส่กลหรือไม่ ก่อนที่เธอจะเอ่ยช้า ๆ แต่เฉียบขาดเหมือนปลายพู่กันฟาดลงผ้าไหม “ข้ามี” นางตอบเรียบ ๆ พลางยกชายเสื้อข้างเอวเล็กน้อยกระเป๋าใบใหญ่แต่โดนจับม้วนยัดราวกับด้านในไม่มีของภายใน..ลวดลายมังกรเลื้อยพันเมฆมงคล ด้ายทองนั้นเป็นของจริง และตราผนึกตรงมุมยังเป็นผนึกมิติแบบที่ไม่มีทางปลอมขึ้นได้ง่าย ๆ


เฮยจีที่ยืนอยู่ไม่ไกลถึงกับเบิกตากว้าง หงอนพองอย่างอึ้งตะลึงเล็กน้อย นี่เจ้าแม่นางแมวเมื่อคืน...มีกระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์จริงเรอะ!? ส่วนโจวจินเงียบ...ก่อนจะหัวเราะในลำคอเบา ๆ “เช่นนั้น...ข้าคงดูเบาแม่นางไปมากเสียแล้ว” เขาพลิกมือขึ้นมาคลุมริมฝีปากบางขณะยิ้มตาหยี “พ่อค้าเช่นข้าย่อมมิอาจปิดบังความจริงแก่ลูกค้าได้...เชิญด้านในเถิด ข้าจะให้คนเตรียมของไว้ให้” เขากล่าวพร้อมหมุนตัวอย่างนุ่มนวล ท่วงท่าราวคนที่กำลังเดินเข้าสู่การประมูลของล้ำค่า


หลินหยามองเขาอย่างพินิจอยู่ครู่ ก่อนจะก้าวตามช้า ๆ ไม่รีบเร่ง ทว่าเจ้าไก่ดำกลับเดินประกบข้างเธอพร้อมเสียง “กุ๊ก” ต่ำ ๆ ราวกับพึมพำว่า ‘รอดไปก่อนเถอะเจ้า...แต่ข้าจดจำไว้หมดแล้วนะ’ ส่วนหลินหยาน่ะหรอ..หึ หญิงสาวเพียงปรายตาไปอย่างเยือกเย็น แล้วพูดเสียงเบากับไก่ตัวนั้น… "ถ้าวันไหนข้าเห็นเจ้าตัวอ้วนในหม้อไฟตุ๋น ข้าจะยิ้มให้เจ้าสักที"


เจ้าไก่สะดุ้งเงียบทันที


โจวจินที่ได้ยินบทสนทนาจากด้านหน้า หัวเราะในลำคออย่างห้ามไม่อยู่ "ข้าชักอยากรู้ขึ้นทุกที...ว่าท่านเป็นใครกันแน่…แม่นางผู้มีทั้งกระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์ ลมหายใจกลิ่นฝน...และจิตใจอาฆาตต่อไก่ที่สุดในแผ่นดิน"


โจวจินยืนเท้าข้างโต๊ะไม้พะยูงหอมอย่างสบายอารมณ์ ขณะที่เด็กฝึกงานวิ่งวุ่นนำกล่องลูกบาศก์สามกล่องมาวางเรียงตรงหน้าอย่างประคบประหงมราวกับยื่นกล่องโอสถมังกรให้เทพเซียน และเนื้อกวางพ่อค้าหนุ่มเหลือบตามองหลินหยาเพียงเล็กน้อย...เพียงพอให้เห็นว่านางกำลังควักถุงเงินออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย หากนิ้วเรียวกลับไล่เหรียญทีละกองอย่างมั่นคง เสียงเหรียญอู่จูปะทะโต๊ะเบา ๆ ดังขึ้นเป็นระลอก เหรียญเงินปะปนกับตำลึงทองจำนวนนับรวมเกินร้อยร่วงลงราวห่าฝนย่อม ๆ พร้อมกับคำพูดของหญิงสาวที่คล้ายจะพูดกับเขาแต่ก็เหมือนบ่นกับตัวเอง


“ถ้าข้าคำนวณพลาดก็บอกด้วยแล้วกันนะเจ้าคะ..ข้าก็ไม่แน่ใจตัวเองนัก ช่วงนี้ข้ายังเด๋อ ๆ อยู่เลย เคยจ่ายเงินผิดจนติดหนี้ร้านเต้าหู้ไปเกือบ 100 ตำลึงเงินแหนะ” นางเว้นวรรคก่อนจะกัดปากเบา ๆ แล้วหัวเราะแห้ง “อืม...ข้าก็เหมือนจะฉลาดนะเจ้าคะ แต่บางที...ข้าก็โง่กว่าที่ตัวเองคิดไว้มากเลย” คำพูดนั้นฟังแล้วช่างตรงไปตรงมาอย่างเหลือเชื่อ จนพ่อค้าผู้เจนเจรจายังต้องกลั้นหัวเราะไว้ครู่หนึ่ง โจวจินนิ่งไปนิด ขณะที่มือค่อย ๆ ลดลงแตะปลายนิ้วกับริมฝีปากคล้ายจะกลบยิ้มที่เล็ดออกมาไม่ทัน


“เกือบร้อยตำลึง...กับเต้าหู้?” เขาทวนอย่างเชื่องช้า น้ำเสียงทุ้มนุ่มคล้ายกำลังอ่านวรรคทองจากหนังสืออารมณ์ขันเล่มหนึ่ง “ร้านนั้น...อันเล่อจ้วนสินะ..มีร้านเดียวในฉางอัน” เขาเอ่ยขำ ๆ ท่าทางเหมือนคนเจอเรื่องประหลาด


หลินหยาพอได้ยินก็ถอนหายใจยาวอย่างคนทำใจได้แล้ว แต่มุมปากก็ยังยกขึ้นน้อย ๆ อย่างประชดตัวเอง “ก็นะเจ้าคะ…แต่ครั้งนี้...ข้านับครบแน่ ท่านตรวจเถอะ หากข้าผิด ท่านก็บอกได้เลย ข้าไม่ถือ...ตราบใดที่ท่านไม่เอาเรื่องไปฟ้องคนอื่นหรือบอกเถ้าแก่อันเล่อ..เดี๋ยวเขามาดุข้าอีกทำไงอ่ะ”


โจวจินขยับมือรับเหรียญมาตรวจอย่างแช่มช้า สายตาไม่ได้ก้มลงจ้องตัวเลข แต่กลับมองนางแทน พร้อมหัวเราะเบา ๆ อย่างอดไม่ได้ “ข้าขอรับไว้ทั้งเงิน...และคำขอร้อง” เขาว่าพลางวางมือข้างหนึ่งลงโต๊ะแล้วยื่นมือไล่กองเหรียญอย่างรวดเร็วเฉียบขาดราวกับเล่นกล “แต่ว่า...” เขาหยุดมือกะทันหันพลางหยิบเหรียญหนึ่งขึ้นชู “...เหรียญนี้ของปลอม”


ห๊า?!! หลินหยาสะดุ้ง “หา!?”


แต่โจวจินกลับยิ้มเจ้าเล่ห์ “ล้อเล่นน่ะ”


หลินหยาชะงักค้าง ก่อนจะเบิกตาโตแล้วหลุดเสียง “ท่าน!” เกือบจะชี้หน้าด่าอีตาหมอนี้แล้วนะ "ขออภัย...เป็นนิสัยข้าเสียแล้ว เวลาคุยกับคนที่เหมือนฉลาด...แต่ก็โง่ในบางจังหวะ มันอดเย้าแหย่ไม่ได้จริง ๆ" เสียงเขาเหมือนเคยแต่มีความพอใจแฝงลึก ๆ ในรอยยิ้ม


หลินหยาเบนหน้าหนี หัวคิ้วกระตุกเล็กน้อยคล้ายกลั้นด่า ก่อนจะพึมพำเสียงเบา “ข้าเริ่มไม่แน่ใจว่าเจ้าไก่นั่น...หรือเจ้านายมันที่น่าเอาทำไก่ขอทานมากกว่ากันแน่แล้วล่ะเจ้าคะ” เจ้าเฮยจีที่ยืนอยู่ข้าง ๆ สะอึกเพราะนี้ข้าต้องโดนเอาไปทำไก่ขอทานอีกกี่รอบกัน



@Admin 


พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้) 

มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่

อื่น ๆ


ซื้อ กล่องขยายลูกบาศก์ ราคา 40 ตำลึงทอง

จำนวน 3 ชิ้่น รวม 120 ตำลึงทอง


ซื้อ เนื้อกวาง ราคา 1 ตำลึงเงิน 491 เหรียญอู่จู

จำนวน 50 ชิ้น รวม 50 ตำลึงเงิน 24550 เหรียญอู่จู


รวมโอน 120 ตำลึงทอง 50 ตำลึงเงิน 24550 เหรียญอู่จู

(โอนละ)


รางวัล: +5 ความสัมพันธ์สนทนาทั่วไป [NPC-13] โจว จิน

หัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20

โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม

โบนัส ความโปรดปราน NPC เผ่ามนุษย์ (ผู้มีบุญ) +20 แต้ม


แสดงความคิดเห็น

แคปหน้ากระเป๋าก่อนกดใช้กล่องลูกบาศก์และหลังใช้ส่งแอดมินเพื่อยืนยันสิทธิ์  โพสต์ 2025-7-4 10:14
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-13] โจว จิน เพิ่มขึ้น 55 โพสต์ 2025-7-4 10:13
โพสต์ 50900 ไบต์และได้รับ 40 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-7-4 05:10
โพสต์ 50,900 ไบต์และได้รับ +5 EXP +10 คุณธรรม +10 ความโหด จาก คนดวงแข็ง  โพสต์ 2025-7-4 05:10
โพสต์ 50,900 ไบต์และได้รับ +10 EXP +25 คุณธรรม +20 ความโหด จาก กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)  โพสต์ 2025-7-4 05:10
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ดาวนำโชค
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
พลั่ว
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x15
x20
x52
x50
x25
x182
x1
x4
x4
x44
x1
x2
x2
x10
x10
x34
x2
x1
x122
x2
x18
x14
x5
x13
x60
x16
x49
x48
x74
x1
x1
x114
x3
x6
x1
x1
x1
x3
x9
x5
x3
x2
x1
x6
x6
x10
x5
x132
x40
x20
x7
x15
x42
x4
x1
x1
โพสต์ 2025-7-5 20:18:54 | ดูโพสต์ทั้งหมด


วันที่ 05 เดือน 6 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11

ยามซื่อ เวลา 09.00 - 11.00 น. ณ ถนนสิบลี้ ร้านหงหยุนหลาย (พบ โจว จิน)


แดดอุ่นยามซื่อส่องลอดร่องหลังคาไม้ลงมาอย่างนวลตา เงาของใบไม้ไหวระริกทาบบนพื้นหินหน้าร้านหงหยุนหลาย ที่เปิดกิจการเช่นทุกวันหลังจากที่ปิดไปนาน เสียงขลุกขลักจากด้านในดังเป็นจังหวะตามธรรมเนียมร้านสารพัดนึกที่ขนข้าวของขึ้นชั้นใหม่แทบทุกยาม แผ่นไม้หน้าร้านแกะสลักอักษรคำว่า “โชคลาภมาถึง” ยังเด่นสง่าราวกับจะเย้ยหยันผู้ที่เดินเข้ามาแบบยังไม่รู้ว่าควรซื้อสิ่งใดดี


หลินหยาก้าวเข้ามาด้วยอาการที่ต่างจากวันก่อน… ท่าทีไม่ใช่การซื้อของตรงจุด หากแต่เหมือนคนที่เริ่มเดินเส้นทางใหม่แล้วยังไม่รู้ว่าควรมองไปทางไหนก่อน นางสาวเท้าไปช้า ๆ ดวงตาสำรวจของบนชั้นวางที่วางกองกันอยู่จนราวกับห้องเก็บของของเทพเซียน อาวุธวิญญาณในรูปแบบต่าง ๆ วางเคียงข้างสมุนไพรและชิ้นส่วนปีศาจชนิดประหลาด มีแม้กระทั่งหินพลังปราณที่แปลกประหลาดแต่นางมีเต็มกระเป๋า หลินหยาหยุดมองสินค้าชิ้นหนึ่งเป็นพิเศษ…กำลังจะเอื้อมไปหยิบดูใกล้ ๆ แต่กลับหยุดมือกลางคัน


"ข้า...ควรเริ่มจากตรงไหนกันแน่นะ…" นางพึมพำกับตัวเองเบา ๆ สายตากวาดดูรอบร้านอย่างไม่แน่ใจ ริมฝีปากขบเข้าหากันเล็กน้อยท่าทีโดยรวมดูไม่ต่างจากแม่ค้ามือใหม่ที่ยืนอยู่ท่ามกลางทะเลแห่งสินค้านับร้อยพัน ความเครียดที่ก่อตัวไม่ทันรู้ตัวกลับเริ่มขยายในอก ส่งผลให้จู่ ๆ…


แหมะ…


เลือดสีแดงสดหยดลงบนปลายรองเท้าหนังเบา ๆ หนึ่งหยด ก่อนที่หยดที่สองและสามจะตามมาอย่างใจร้อน หลินหยาชะงัก ดวงตากะพริบสองครั้งอย่างงุนงง ก่อนจะรีบควักผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กขึ้นมาปิดจมูกราวกับฝึกมาอย่างดี เสียงสูดหายใจถี่เบาดังลอดออกมาสองแก้มแดงเรื่อขึ้นทั้งเพราะความอับอายและแรงเลือดที่พุ่งขึ้นโดยไม่ตั้งใจ “เวรเอ๊ย…ตอนนี้เรอะ…” นางสบถเบา ๆ อย่างไม่รู้ตัวก่อนจะเบนหน้าหลบซ้ายขวา


และนั่นเอง…ที่สายตาคมเฉียบจากชั้นลอยด้านในร้านซึ่งมักใช้สำหรับดูแลของล้ำค่า จับจ้องภาพนั้นพอดิบพอดีโจวจิน ผู้ยังอยู่ในชุดคลุมยาวสีหมึกเข้ม ยืนพิงราวไม้พร้อมจอกชาชุดหนึ่งในมือ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเย็นเยือกสะท้อนแสงเล็กน้อยเมื่อเห็นหญิงสาวที่เคยเฉียบแหลมทะลุทะลวงพร้อมเชือดไก่ยืนอุดจมูกอยู่กับผ้าเช็ดหน้า ราวกับแม่ค้ามือใหม่ที่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน แถมเลือดกำเดายังทำหน้าที่ทรยศเจ้าของอย่างสิ้นเชิง เขาไม่หลุดหัวเราะหากแต่เดินลงจากชั้นลอยอย่างเงียบเชียบเหมือนเงาผี หยุดยืนอยู่ข้างหลินหยาในจังหวะที่นางเงยหน้าอยู่พอดี


“แม่นาง...หากวันนี้มาเพื่อสำรวจตลาด แต่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อขนาดนี้ ข้าว่า...ท่านควรกลับไปคิดทบทวนกลยุทธ์ที่บ้านก่อนเถิด”


หลินหยาที่ได้ยินเช่นนั้นก็เงยหน้าขึ้นทันที ดวงตาสีน้ำตาลมะพร้าวอ่อนเบิกกว้างเล็กน้อย “ท่าน…?”


"เลือดกำเดา..." เขาชี้อย่างไม่แตะตัว ปลายนิ้วชี้ลอยในอากาศคล้ายจะรักษาระยะแต่สายตานั้นกลับเหมือนเจาะลึกยิ่งกว่าน้ำแข็งฤดูหนาว "เกิดจากการเร่งพิษในร่างกายใช่หรือไม่?" เขาถามเรียบ ๆ แววตาไม่แสดงความตกใจนักคล้ายรู้ว่าเลือดกำเดานี้…ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับนาง


หลินหยากลั้นใจ หันหน้าเล็กน้อยพร้อมแนบผ้าเช็ดหน้าแน่นขึ้น "ไม่ใช่เรื่องใหญ่เจ้าค่ะ...ข้าแค่...เครียดไปหน่อยนึง" นางว่าเบา ๆ แต่แววตาเริ่มฉายแววเหนื่อยล้า


โจวจินนิ่งไปนิด ก่อนจะยื่นห่อผ้าแพรผูกเล็ก ๆ ออกมาในมือข้างหนึ่ง ไม่เอ่ยอะไรเพียงวางไว้บนเคาน์เตอร์หน้าหลินหยา "ผงเย็นบรรเทาอากาศพิษใช้แล้วสูดลมหายใจลึก ๆ ห้ามเครียด ห้ามนอนดึก ห้ามวิ่งไล่ไก่" เขาหยุดนิดหนึ่ง ยิ้มมุมปาก “ข้อสุดท้าย ข้าเพิ่มเอง”


หลินหยากัดปากกลั้นหัวเราะ ทั้งอายทั้งขำทั้งอยากเตะอีกคนให้กระเด็นแต่ก็เอื้อมมือรับห่อผ้ามาอย่างรู้งาน “...ขอบคุณเจ้าค่ะ” แต่ตอนที่กำลังจะถามว่าเท่าไรอีกคนกลับพูดแทรกขึ้นมา "ไม่คิดเงิน" โจวจินกล่าวก่อนนางจะถาม แต่คำนั้นทำให้หลินหยาเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ "อะไรนะเจ้าคะ?"


"เพราะการเห็นแม่ค้ามือใหม่เลือดกำเดาไหลในร้านของข้า...เป็นของหายาก ข้าจะถือว่านี่คือกำไรทางสายตาของวันนี้" เจ้าเฮยจีที่เดินเข้ามาเงียบ ๆ กระพือปีกพองขนอย่างขัดใจ มองเจ้านายเหมือนจะบอกว่า ‘หืม? ไม่คิดเงิน? ท่านป่วยหรือเปล่า?’ โจวจินเพียงโบกพัดไปทางมันเบา ๆ อย่างไม่สนใจ “ถ้ามีอะไรที่เจ้าอยากรู้ ถามมาเถอะ วันนี้ข้าจะตอบโดยไม่คิดค่า ‘ความไม่รู้’ เป็นเงินทอง”


“…พูดแบบนี้ ท่านกำลังตั้งราคาความโง่ข้าอยู่เงียบ ๆ ใช่ไหมเจ้าคะ” หลินหยาถามพลางหรี่ตาใส่อีกคนเหมือนกับคนที่จับผิด ส่วนโจวจินกลับหัวเราะในลำคอเบา ๆ ก่อนจะตอบเบา ๆ เช่นกัน “เปล่าเลย...แต่หากแม่นางรู้ตัวเองเมื่อใดว่าข้าไม่เคยคิดราคาความโง่ท่าน...วันนั้นต่างหากที่ท่านควรเริ่มระแวง”


หลินหยาเบ้ปากทันทีแต่ครั้งนี้เธอไม่หนีเหมือนรอบที่แล้วที่อีกคนรังแต่จะขายชาแบบหน้าเลือดใส่เธอ หลินหยาเม้มปากนิดหนึ่งมองโจวจินที่ยังยืนกอดอกพิงตู้อยู่ ท่าทางคล้ายกำลังรอคำถามต่อไปอย่างไม่รีบร้อน เหมือนกับพ่อค้าที่เฝ้ารอเหยื่อเงอะงะมาขอคำปรึกษาเพื่อจะได้เรียกค่าธรรมเนียมแบบไม่รู้ตัว แต่ทว่าหญิงสาวกลับถอนหายใจเบา ๆ เสียก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบแต่แฝงแววปลง “ข้าไม่ได้คิดจะทำเป็นอาชีพหลักขนาดนั้นหรอกเจ้าค่ะ..ข้าชอบเล่นดนตรีมากกว่า" คำพูดนั้นดูไม่ใช่ข้อแก้ตัว หากแต่เป็นน้ำเสียงของคนที่พูดความจริงอย่างไม่อ้อมค้อม ไม่มีน้ำหนักของความทะเยอทะยาน ไม่มีไฟของนักค้าขาย มีเพียงความจริงใจที่ฟังแล้ว...ชัดเจน


“ที่มาทำแบบนี้ก็แค่เพราะ…ไม่มีอะไรทำเฉย ๆ น่ะเจ้าคะ” นางเบนสายตามองแผงเครื่องรางกันฝันร้ายที่อยู่ข้าง ๆ ก่อนจะหยิบขึ้นมาหมุนเล่นในมือ “แล้วก็…โดนท่านหมอบอกว่า ห้ามทำงานหนัก ห้ามเครียด...ต้องหาเวลาไปสูดอากาศนอกฉางอันอีก”


“ท่านหมอ?” โจวจินเอียงหน้าเล็กน้อย “หมอผู้นั้น…ต้องเป็นยอดฝีมือแน่ ถึงกล้าสั่งคนอย่างแม่นางให้ ‘ห้ามเครียด’ ได้” 


หลินหยาเลิกคิ้วเล็กน้อย คล้ายจะตอบกลับแต่ก็แค่ยิ้มบาง “ยอดฝีมือหรือไม่ข้าไม่รู้หรอกเจ้าค่ะ...แต่เขาก็พูดตรงดีจนข้าไม่กล้าเถียง เขาบอกว่า...ถ้ายังใช้ชีวิตแบบเดิม อีกไม่นานข้าจะตายก่อนที่พิษในกายจะได้มีโอกาสแสดงอะไรให้ครบด้วยซ้ำ” หลังจากที่โจวจินฟังพลางยกพัดขึ้นแตะคางตนเอง ดวงตาเป็นประกายจาง ๆ “…ห้ามเครียด แต่กลับมาเดินสำรวจตลาด คงเทียบได้กับการพาเสือเข้าบ้านงูพิษกระมัง” เขาพึมพำเบา ๆ ราวกับพูดกับตัวเองมากกว่าคนตรงหน้า


ตอนที่หลินหยาได้ยินนางแค่นหัวเราะนิด ๆ “ก็นั่นแหละเจ้าค่ะ…ข้าไม่เก่งการคำนวณด้วยซ้ำ แค่เห็นว่าอาชีพแม่ค้าน่าจะซื้อของเองได้ง่ายดี ก็เลยกะว่า…ซื้อของมาทำอาหารเองบ้างนิดหน่อย” นางหยุดพลางหรี่ตา “ไม่ได้จะขายอะไรให้ใครหรอกเจ้าค่ะ แค่...ทำกินเอง”


โจวจินนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะยกมือขึ้นตีพัดบนฝ่ามือเบา ๆ พลางเอ่ยเสียงราบ “แม่นางผู้มีพิษในกาย เลือดกำเดาไหลง่าย ไม่ถนัดการคำนวณ ไม่ชอบเครียด และไม่คิดจะขายอะไรให้ใคร...แต่ลงทะเบียนขอรับตราพ่อค้าและมาเดินหาซื้อ ‘กล่องขยายลูกบาศก์’ กับ ‘เนื้อกวางห้าสิบชิ้น’? ...ข้าว่าแม่นางน่าจะกำลัง ‘เครียดแบบไม่รู้ตัว’ เสียมากกว่า”


หลินหยาขมวดคิ้วน้อย ๆ “เจ้าค่ะ...แต่ของที่ข้าซื้อมันก็เก็บได้นี่นา กล่องขยายก็ใช้กับของส่วนตัว...เนื้อกวางก็จะไปทำอาหารตั้งมากเก็บใส่กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์ไว้น่าจะอยู่ได้สักพักไม่เน่าไม่บูด ข้าคิดมาแล้วนะ”


เฮยจีที่ยืนอยู่ไม่ไกลส่งเสียง “กุ๊ก” ขึ้นเบา ๆ คราวนี้เหมือนแฝงความเคารพมากขึ้นนิดหน่อย โจวจินหัวเราะเบา ๆ “ข้าขอถอนคำพูดก่อนหน้านี้…แม่นางอาจไม่ได้โง่…แต่เพียงแค่คิดต่างจากพ่อค้าเท่านั้นเอง”


หลินหยาเลิกคิ้วตอนที่อีกคนบอกแบบนั้นแล้วเอียงคอมองแบบสงสัยเพราะนางไม่เข้าใจว่ามันหมายความว่ายังไง “อ้าว แล้วมันต่างกันยังไงเจ้าคะ?”


“พ่อค้า…มองทุกสิ่งเป็นต้นทุนและกำไร..แต่แม่นาง...มองทุกอย่างเป็นของกินได้หมด” โจวจินยกมือแตะหน้าผากเบา ๆ คล้ายปวดหัวอย่างสง่างาม “ข้าเริ่มเชื่อเสียแล้วว่า…แม่นางผู้นี้อาจเป็นนักพรตที่ปลอมตัวมาใช้เงินมนุษย์”


ทันทีที่หลินหยาได้ยินแช่นนั้นก็หัวเราะร่า นางเอียงคอเล้กน้อยก่อนที่จะยิ้ม “ไม่หรอกเจ้าคะ ข้าเป็นมนุษย์เต็มขั้น...แค่มีรสนิยมแพงหน่อยเท่านั้นเอง” เจ้าเฮยจีหันควับมามอง คล้ายจะถาม ‘รสนิยมแพง…แบบอยากตุ๋นข้าทุกครั้งที่เจอกันหรือ?’ โจวจินพ่นลมหายใจเบา ๆ “เช่นนั้น…เจ้าควรจะระวังตัวให้ดี แม่นางผู้มองทุกอย่างเป็นของกิน”


“ข้าระวังอยู่แล้วเจ้าค่ะ” นางตอบพลางเหล่มองเขา “โดยเฉพาะเวลาเจอพ่อค้าที่คล้ายจะขายข้าเป็นเครื่องปรุงเสียเอง”




@Admin 


พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้) 

มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่

อื่น ๆ: -


รางวัล: +5 ความสัมพันธ์สนทนาทั่วไป [NPC-13] โจว จิน

หัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20

โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม

โบนัส ความโปรดปราน NPC เผ่ามนุษย์ (ผู้มีบุญ) +20 แต้ม


แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-13] โจว จิน เพิ่มขึ้น 50 โพสต์ 2025-7-5 21:28
โพสต์ 43585 ไบต์และได้รับ 32 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-7-5 20:18
โพสต์ 43,585 ไบต์และได้รับ +6 คุณธรรม จาก พัดคุณชาย  โพสต์ 2025-7-5 20:18
โพสต์ 43,585 ไบต์และได้รับ +10 คุณธรรม +6 ความโหด จาก ใบตราพ่อค้าสกุลลู่  โพสต์ 2025-7-5 20:18
โพสต์ 43,585 ไบต์และได้รับ +5 EXP +10 คุณธรรม +10 ความโหด จาก คนดวงแข็ง  โพสต์ 2025-7-5 20:18
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ดาวนำโชค
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
พลั่ว
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x15
x20
x52
x50
x25
x182
x1
x4
x4
x44
x1
x2
x2
x10
x10
x34
x2
x1
x122
x2
x18
x14
x5
x13
x60
x16
x49
x48
x74
x1
x1
x114
x3
x6
x1
x1
x1
x3
x9
x5
x3
x2
x1
x6
x6
x10
x5
x132
x40
x20
x7
x15
x42
x4
x1
x1
โพสต์ 2025-7-17 07:34:04 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 16 เดือน 6 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11

ยามเฉิน เวลา 07.00 - 09.00 น. ณ ถนนสิบลี้ ร้านหงหยุนหลาย (พบ โจว จิน)


ยามเฉินแดดอ่อนเพิ่งแตะขอบฟ้าตะวันออกฉางอันยังงัวเงียไม่เต็มตื่น ถนนสิบลี้ที่มักคึกคักยามสายยังคงเงียบสงบ มีเพียงเสียงล้อเกวียนกับเสียงเปิดร้านที่ดังเป็นจังหวะห่าง ๆ ตลอดสองฟากฝั่งและในบรรดาร้านรวงเหล่านั้น “หงหยุนหลาย” ร้านสารพัดนึกชื่อก้องของโจวจินก็เป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งที่เปิดก่อนแสงอาทิตย์จะขึ้นเต็มดวง หลินหยาที่สวมเสื้อนอกบางสีหม่นของแม่ค้าสำหรับเดินทางในยามเช้าย่างเท้าเข้าสู่ถนนสิบลี้ด้วยท่าทีรีบเร่ง พวงห่อของในมือมีห่อขนมพันผ้าลายดอกไม้จิ๋วอย่างประณีต เตรียมเอาไปง้อหรงเล่อที่จวนหวยหนานหวางเพราะนางหายหน้าไปเกือบเจ็ดวันเต็ม ๆ ขืนไม่ไปวันนี้อีกหรงเล่อได้ถลึงตามากพอจะเขียนยันต์หมื่นปีแช่งส่งกลับแน่


แต่ระหว่างเดินผ่านหัวมุมถนนกลับสะดุดตากับแผ่นป้ายเขียนว่า ของใหม่จากหางโจว ลิ่วอันกวาเพี่ยนแท้ วางอยู่หน้าร้านหงหยุนหลายพร้อมชาหอมจางที่ลอยเตะจมูกมาแต่ไกล หลินหยาหยุดกึกทันที “ลิ่วอันกวาเพี่ยน?” นางพึมพำเบา ๆ ดวงตาเฉียบหวานวาววับขึ้นทันใดราวกับแมวที่ได้เห็นปลาทูตัวเขื่อง


แม้จะไม่ชอบเจ้าของร้านก็ตามทีหรือเคยคิดจะต้มไก่ข้าง ๆ เขาหลายรอบก็ตามที…แต่นี่มันชาจากเมืองหางโจว ที่นางเคยชิมครั้งเดียวตอนงานเลี้ยงบนเขาเมื่อปีกลาย กลิ่นของมันคล้ายหญ้าอ่อนหลังฝนเคลือบปลายลิ้นด้วยความขมจางก่อนเปลี่ยนเป็นหวานปลายราวกับความคิดถึงที่ไม่ได้เอ่ย “ชิ…เดี๋ยวข้าก็ซื้อหมดไปเลยดีไหม” นางบ่นเบา ๆ แต่ฝีเท้ากลับตรงเข้าร้านไม่เบี่ยงเบนแม้แต่น้อย


เสียงกริ๊งจากลูกกระพรวนบนประตูไม้ดังแผ่วเมื่อเธอเปิดเข้าไปด้านในร้านหอมกรุ่นด้วยกลิ่นชาจาง ๆ และกลิ่นกระดูกปีศาจตากแห้งที่ไม่เคยจางหายไปจากบรรยากาศเสียทีแหล่งรวมของประหลาดทั้งสิ้น หลินหยากวาดสายตาไปที่แผงชาพบว่ามีชาหลายชนิดตั้งเรียงอย่างแปลกประหลาดป้ายราคาติดไว้ตรง ๆ บ้าง คว่ำกลับด้านบ้างและบางอันเขียนด้วยลายมือหวัด ๆ ว่า “ใครกล้าต่อราคากับเจ้าของร้าน โปรดวัดใจ”


“ฮึ” หลินหยาเบ้ปากน้อย ๆ ก่อนจะยื่นมือไปหยิบห่อชาใบลิ่วอันกวาเพี่ยนขึ้นมาดู แล้วเสียงกระพือปีกหนึ่งก็ดัง “ปั่บ!”


เฮยจี เจ้าแห่งไก่ดำตัวยืนหนึ่งแห่งการขัดแข้งขัดขานางพรวดออกมาจากหลังฉากผ้าด้วยท่าทางสง่างามราวราชาหงส์ แต่มันเป็นไก่ ไก่ที่เดินลากเท้าปุ้ก ๆ มาหยุดตรงหน้าเธอ ก่อนจะก้มหน้าจิกปลายรองเท้านางเบา ๆ ราวกับทักทายอย่างเย้ยหยันว่า “อ้อ หวนคืนสู่สนามรบแล้วหรือนังแม่ค้าเถื่อน?”


หลินหยาไม่สะดุ้ง ไม่หลบ สบตาเจ้าไก่กุ๊กทันที “ข้ายังไม่ได้คิดจะจับเจ้าทำไก่ย่าง...ตอนนี้นางเน้นคำว่า ตอนนี้ แล้วก้มหน้าลงกระซิบเย็น ๆ ใกล้หน้าและใบหูขนนุ่มสีแดงของมัน “…แต่ถ้ากล้าจิกเท้าอีกรอบ ข้าจะปล่อยเจ้าไปในครัววัดแล้วบอกแม่ชีว่ามีไก่เทพมาปรากฏตัวให้โชคแล้วก็ไม่กลับมารับอีกเลย”


“กุ๊ก!?” เฮยจีผงะถอยหลังเสียงกระพือปีกฟึ่บใหญ่ ๆ เหมือนอยากพูดอะไรแต่ไม่มีบทให้จบ มันกระโดดขึ้นไปหลังโต๊ะจ่ายเงินแทนอย่างพ่ายแพ้ในเชิงยุทธ เสียงหนึ่งดังจากด้านในร้านในจังหวะนั้นพอดีทุ้มอารมณ์ดีแต่ก็เย็นและชัดเจนอย่างกับเจ้าของกำลังยืนอยู่หลังม่านผ้าลายเมฆ “เช้านี้...แม่นางจะเลือกซื้อชา หรือเลือกประหารสัตว์ปีกก่อนดีล่ะ?” โจวจินเดินออกมาพร้อมถ้วยชาร้อนในมือหนึ่งชุดคลุมสีอ่อนแหวกชายเสื้อเบา ๆ ตามลม ดวงตาเรียบนิ่งแต่เจือความขบขัน


“...ข้าว่า ท่านควรจะทำบัญชี ‘การจ่ายค่าเสียหายจากการกระตุ้นอารมณ์ลูกค้า’ ไว้ต่างหากเสียแล้วล่ะเจ้าค่ะ” หลินหยาเอ่ยโดยไม่เงยหน้าจากห่อชาเพราะไอ้ไก่นั้นมันกวนบาทาของเธอจริง ๆ 


“ข้าเรียกบัญชีนั้นว่า ‘กำไรทางอารมณ์’ ต่างหาก” เขายิ้ม “เห็นแม่นางมาเดินหน้าบูดแต่เช้า ข้าก็นึกว่าฟ้าคงมีพายุ...แต่พอเห็นมือคว้าห่อลิ่วอันกวาเพี่ยน ข้าก็รู้ทันทีว่าวันนี้...แม่นางจะใจอ่อนกับอะไรบางอย่างอีกแล้ว”


หลินหยาขยับดวงตาของนางเลิกคิ้วหันมาสบตาเขา “ใจอ่อน?”


“ชา” เขายิ้มกว้างขึ้นเล็กน้อย “ไม่ใช่ข้า”


“…พูดอย่างกับท่านเป็นของหวานขบเคี้ยวเข้าปากได้”


“อาจเป็นเช่นนั้น...ถ้าแม่นางไม่เลิกคิดจะย่างข้าหรือไก่ข้าเสียก่อน” หลินหยาหัวเราะในลำคออย่างห้ามไม่อยู่เพราะได้ยินคำนั้น “ข้าขอชาห่อเล็กก็พอข้าจะรีบไปจวนหวยหนานหวาง…มีคนรอขนมอยู่” นางว่าขณะเดินไปที่โต๊ะเตรียมจ่ายเงิน


“ข้าไม่ถามนะ ว่าคนที่รอ…คือใคร” โจวจินพูดคล้ายไม่ใส่ใจแต่ปลายเสียงกลับทิ้งไว้ให้จินตนาการได้อย่างยั่วเย้า ส่วนหลินหยาที่ได้ยินดวงตาสีน้ำตาลมะพร้าวอ่อนของนางก็หรี่ตา “ถ้าถาม...ข้าจะตอบว่า เป็นไก่ดำอีกตัว”


เฮยจีที่กำลังกินเมล็ดข้าวโพดสะดุ้ง “กุ๊กกก!” ทำไมข้าโดนอีกแล้วโดนตลอดเลยอ่ะ


“ยกเว้น...เจ้าตัวนั้นมันแค่ปากดีไม่ได้มีค่าถึงขั้นรอขนมหรอก” หลินหยาบอกต่อเพราะนางก็ไม่ได้บอกว่าปากดีนั้นหมายถึงไก่หรือว่าหมายถึงคนแถวนี้เหมือนกัน โจวจินกลั้นหัวเราะแทบไม่ทัน พยักหน้าเบา ๆ ยื่นห่อชาให้ขณะเอ่ยเสียงเรียบแต่แฝงความพึงใจหลังจากตรวจสอบเสร็จ “แม่นางกลับมาเมื่อไรก็ยินดีต้อนรับร้านข้ายังมีของกินใจอีกมาก…และบางที...ของที่กินใจยิ่งกว่าชา อาจจะรอแม่นางอยู่ก็ได้” หลินหยาแค่นเสียงในลำคอตอนเขาตอบแบบนั้นแต่รับห่อชามาอย่างรู้งาน


หลินหยาเดินถือห่อชาที่เพิ่งซื้อมาไว้ในอ้อมแขนข้างหนึ่งขณะสายตากวาดไปยังมุมหนึ่งของร้าน แล้วเธอก็ชะงักสายตาเรียวเฉียบสั่นไหววูบหนึ่งเมื่อเห็น กล่องขยายลูกบาศก์ วางเรียงอยู่บนชั้นไม้สูงอย่างสง่างาม ราวกับพวกมันรู้ว่าตัวเองแพงแค่ไหนถึงได้ยืนตระหง่านเชิดหน้าไม่แพ้รูปปั้นราชสีห์หน้าวังหลวง กล่องไม้สีดำสนิทขลิบด้วยลวดลายเรขาคณิตเรืองแสงราง ๆ ถูกวางไว้เรียงกันเป๊ะจนน่าหมั่นไส้ที่สำคัญคือ…มีอยู่ สามกล่อง และราคาถูกระบุไว้ชัดเจนด้วยลายมือเจ้าของร้านว่า


“40 ตำลึงทองต่อกล่อง ไม่มีต่อ”


ดวงตาของหลินหยากระตุกเบา ๆ ขณะหยิบถุงเงินขึ้นมานับ…เสียงเหรียญในถุงกรุ๊งกริ๊งดังประหนึ่งเพลงโศก “3 กล่อง...เท่ากับ 120 ตำลึงทอง” นางพึมพำแล้วกัดฟันแน่นก่อนจะหันมองถุงเงินตัวเองอีกครั้ง “ข้ามีอยู่...39...” เธอหยุดชะงักไปครู่หนึ่งสีหน้าเปลี่ยนเป็น ‘คนเพิ่งโดนตบหน้าด้วยความจริง’ ก่อนจะค่อย ๆ หันขวับไปมองเจ้าของร้านที่กำลังเทชาดื่มอย่างสำอางราวกับโลกนี้ไม่มีเรื่องเงินทองให้ต้องปวดหัว โจวจินรับรู้แรงจ้องทันทีแววตาเขามีประกายระยับเล็กน้อยแต่ไม่แสดงออกชัดเจน เพียงยกคิ้วอย่างสุภาพแล้ววางถ้วยชาเบา ๆ พร้อมพัดในมือที่เคาะจังหวะช้า ๆ บนฝ่ามือเหมือนรอฟังคำอะไรบางอย่างที่อีกฝ่ายกำลังจะขอ


หลินหยาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพราะไม่รู้ว่าไอ้หมอนี้มันจะกวนตีนอะไรเธออีก “ท่านพ่อค้าเจ้าคะ…” เธอเอ่ยน้ำเสียงเรียบพลางขยับยืนเท้ากับโต๊ะคิดเงินแววตามีประกายดื้อรั้นซ่อนอยู่ “ท่านรับเป็นตำลึงเงินได้หรือไม่เจ้าคะ?” โจวจินกระพริบตาช้า ๆ มองเธออย่างรู้ทันว่าเขารู้อยู่แล้วว่านางจะพูดแบบนี้ ก่อนจะตอบเสียงนิ่งแต่ชัด “ขึ้นอยู่กับว่า…จะเป็นตำลึงเงินกี่ตำลึง”


หลินหยาชี้ไปที่กล่องลูกบาศก์สามกล่อง “ข้าอยากได้กล่องนั้น 3 กล่อง กล่องละ 40 ตำลึงทอง เท่ากับ 120 ตำลึงทองข้าขอจ่ายเป็น 1200 ตำลึงเงิน ท่านชายจะรับไหม?” โจวจินนิ่งไปเพียงกะพริบตาแววตาเขาไหววูบ...ไม่ใช่เพราะราคาผิดแต่เพราะคำว่า "อยากได้" ที่เขาได้ยินจากปากนางเป็นครั้งแรกโดยที่ไม่มีการโยนประชดหรือการเล่นคำแม้แต่นิด


“แม่นางจะจ่ายเต็ม?” เขาถามสั้น ๆ


“จ่ายเต็มสิเจ้าคะ” หลินหยาเอ่ยเสียงเรียบแล้วเสริมเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงที่ชวนให้คนอยากแกล้ง “อย่าบอกนะว่า...พ่อค้ามหาโหดอย่างท่านรับแค่ตำลึงทองไม่รับตำลึงเงิน?”


โจวจินหัวเราะในลำคอพัดในมือหยุดเคลื่อนไหวดวงตาของเขาเป็นประกายบางอย่างที่ยากจะจับต้องได้ไม่ใช่ประกายโลภไม่ใช่เยาะเย้ยแต่เป็นประกายของนักเจรจาที่รู้ว่าอีกฝ่าย…เริ่มเล่นเกมของเขาแล้ว “ข้ารับ...หากเป็นเงินของแม่นาง”


“เอ้าท์…แล้วถ้าเป็นเงินข้ามันทำไม...มีกลิ่นสาบหนูเพราะข้าไปหยิบมันมาจากศพพวกปีศาจหนูล่ะ?” หลินหยาแกล้งถามติดตลก แต่พอได้ยินโจวจินหลับตานิดหนึ่งราวกับกลั้นยิ้ม “กลิ่นเงิน...ย่อมแรงกว่ากลิ่นสาบหนูเสมอ” เขาตอบพลางยื่นมือออกไปเป็นเชิงตกลง “1200 ตำลึงเงิน กล่องลูกบาศก์ 3 กล่อง ข้าไม่รับคืน ข้าไม่รับอารมณ์และไม่รับคำขู่จะเอาไก่ข้าไปต้มภายหลัง”


หลินหยาหรี่ตามองเจ้าของร้านพร้อมหยิบถุงเงินยื่นให้แบบ กระแทกด้วยรอยยิ้ม อย่างเย็น ๆ “ข้าสัญญาว่าจะไม่ต้มไก่เจ้าวันนี้” เจ้าเฮยจีที่แอบฟังอยู่ด้านหลังถึงกับสะดุ้งยืดตัวพองขนเหมือนจะเปล่งเสียง “วันนี้!? แล้วพรุ่งนี้ล่ะ เจ้านี้มัน!!”


โจวจินรับถุงเงินมาอย่างสง่างามก่อนจะเอ่ยเบา ๆ คล้ายกระซิบ “ข้าจะจดจำวันนี้ไว้...วันที่แม่นาง ‘อยากได้บางสิ่ง’ จริง ๆ” หลินหยายืดอกอย่างไม่ยี่หระ “ของ...ข้าเลือกเองคิดเองใช้เองมันก็ต้องมีทั้งที่อยากได้แล้วก็ไม่อยากได้ปะล่ะ? ต้องทำให้คนมาป้ายยาว่าต้องซื้ออย่างโน้นอย่างนี้หรือเจ้าคะ?”

 

“ข้าไม่ได้จะป้ายราคาให้ใครหรอกแม่นาง...แค่บางครั้ง ของที่เราคิดว่า ‘เลือกเอง’...อาจจะมีคนแอบเอาไปวางไว้ให้เลือกโดยที่เราไม่รู้ตัวก็ได้นะ” หลินหยาหันขวับดวงตาเปล่งประกายวาบตอนที่ได้ยินอะไรแบบนี้ “ท่านตั้งใจวางไว้?” นางเสียงเข้ม “เปล่าเลย” โจวจินยกสองมือพลางยิ้มร้าย “ข้าก็แค่ตั้งของไว้บนชั้นอย่างเรียบร้อยเท่านั้นเอง...แม่นางเดินมาหาเองทั้งนั้น” เฮยจีเบะปากด้วยสายตา “บอกแล้ว...หมอนี่มันไม่เคยขายของธรรมดา”


หลินหยาไม่ได้ตอบอะไรนางเพียงหยิบกล่องลูกบาศก์ขึ้นมาใส่กระเป๋าอย่างทะนุถนอม ราวกับนี่คือสิ่งที่เธอควบคุมได้เพียงเล็กน้อยในโลกที่พลิกผันเกินคาด


ยามเฉินใกล้สิ้นลำแสงทองสาดเอื่อยผ่านซี่ไม้ฉลุลวดลายเมฆมงคลตรงหลังร้านหงหยุนหลาย กลิ่นใบชาลิ่วอันกวาเพี่ยนยังอวลในอากาศร่วมกับเสียง “กุ๊ก...” เบา ๆ ของเจ้าไก่ดำจอมจุ้นที่ค่อย ๆ ลากเท้าไปหลบอยู่ใต้โต๊ะราวกับไม่อยากยุ่งกับมนุษย์สติไม่ดีในร้านตอนนี้ หลินหยายังยืนอยู่ตรงชั้นวางใกล้โต๊ะไม้คิดเงินกล่องลูกบาศก์สามกล่องถูกจัดเก็บเรียบร้อยในกระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์ที่คาดบ่าอย่างคล่องแคล่ว ใบหน้าขาวสะอาดนั้นดูดีกว่าครั้งก่อนชัดเจนสีเลือดฝาดกลับมาสู่พวงแก้ม ลมหายใจไม่แผ่วสั้น ความมั่นคงในกิริยาท่วงท่าก็ปรากฏเด่นชัดขึ้นหากเป็นใครมองเพียงผิวเผิน...คงคิดว่านางดีขึ้นแล้วจริง ๆ แต่โจวจิน…ไม่ใช่ “ใคร” ที่ว่านั้น


ขายืนอยู่หลังโต๊ะฝั่งตรงข้ามหันหลังล้างจอกชาด้วยท่าทางสบาย ๆ ไม่ได้เร่งเร้า ไม่ได้จ้องมองตรง ๆ หากแต่สายตากลับจับทุกรายละเอียดของหลินหยาอย่างแม่นยำดวงตาที่ร่าเริงอยู่เสมอในแบบของนาง วันนี้ดูคล้ายเหม่อลอยเพียงเสี้ยววินาทีหลายต่อหลายครั้งรอยยิ้มบาง ๆ ที่นางปั้นไว้ก็ยกขึ้นไม่เท่ากันข้างหนึ่งและที่สำคัญ…แววตาคู่นั้นเหมือนของคนที่เพิ่งเดินผ่านนรกมาแล้วกำลังแสร้งทำเป็นว่า “ไม่มีอะไรเกิดขึ้น”


“แม่นางดู...สบายดีขึ้นกว่าคราวก่อนมากทีเดียว” เสียงเขาทุ้มต่ำเรียบเย็นอย่างสุภาพแต่ไม่ขาดไหวพริบ “ข้าคิดอยู่เหมือนกันว่าแม่นางคงไปพักผ่อนหายใจตามคำสั่งท่านหมอจริงจังเสียจนข้าต้องขึ้นราคาสินค้ารอเผื่อแม่นางหายดีจะได้กลับมาใช้เงินในร้านข้า”


หลินหยาชะงักเพียงเล็กน้อยยกยิ้มบางคล้ายตอบรับคำล้อของอีกฝ่ายตามปกติเมื่อได้ยิน “ก็...พักจริง ๆ เจ้าค่ะ พักเต็มที่เลย...พักจนเหมือนตายไปเลยก็ว่าได้” คำพูดนั้นหลุดออกมาเบา ๆ ราวกับลืมคิดแต่เอาตรง ๆ มันก็เป็นเรื่องจริงจนโจวจินเงียบชั่วอึดใจมือที่ถือจอกชาหยุดนิ่งชั่วครู่ ก่อนจะวางมันลงเบา ๆ บนผ้าขาวสะอาดดวงตาเรียบเฉียบเหลือบมองเธออีกครั้งคราวนี้...ตรง ๆ เขาไม่ถามเพราะพ่อค้าที่ดี ย่อมรู้ว่า ‘เวลาที่เหมาะสมในการถาม’ ต่างหากที่สำคัญ


“หากเป็นเช่นนั้น...” เขาเอ่ยพลางเปิดลิ้นชักใต้โต๊ะหยิบห่อยาสมุนไพรเล็ก ๆ ออกมาห่อด้วยกระดาษข้าวเหนียวลายดอกบ๊วยแล้ววางลงเบา ๆ ตรงหน้า “ชงกับน้ำร้อนก่อนนอน หายใจจะโล่งขึ้น และฝัน...จะไม่หนักเกินไป”


หลินหยาหรี่ตามองเขาเงียบ ๆ อยู่อึดใจหนึ่งก่อนจะพูดเสียงเบา “มองออกถึงเพียงนั้นเลยหรือเจ้าคะ?” โจวจินไม่ตอบตรง ๆ เพียงยกพัดขึ้นแตะปลายคางของตัวเอง


“ข้ามองสายตาลูกค้าทุกคนเก่ง...โดยเฉพาะพวกที่พยายามหลอกตัวเองเก่งกว่าข้า” หลินหยาสะอึกตอนได้ยินนาไงม่ได้ตั้งใจสักหน่อยแล้วเงียบไปเล็กน้อยก่อนจะหยิบห่อยาสมุนไพรขึ้นมาใส่กระเป๋า “ข้าจะถือว่านี่เป็นของแถมที่ข้าไม่ได้ขอนะเจ้าคะ…”


“และข้าจะถือว่าไม่ได้ยิน” เขาว่าพลางหันไปเก็บของหลังร้าน “แต่หากฝันมันยัง ‘ตามมา’ อีก” น้ำเสียงเขาเบาและจริงจังขึ้นเล็กน้อยในขณะที่ไม่ได้มองเธอ “ก็กลับมาเอาอีกห่อ...ข้าไม่คิดเงิน เพราะของพวกนี้…ข้าเตรียมไว้เผื่อลูกค้าที่ร่าเริงผิดปกติเท่านั้น” หลินหยานิ่งไป…ก่อนจะหลุดหัวเราะเบา ๆ อย่างกลั้นไม่อยู่จริง ๆ “ท่านควรเปลี่ยนจากร้านขายของสารพัดนึกเป็นร้านขายของสะกิดใจแทนแล้วละเจ้าค่ะ”


โจวจินยิ้มบาง ๆ ไม่ปฏิเสธแต่ก็ไม่ได้ยอมรับด้วยเช่นกันเพียงพูดเบา ๆ ว่า “บางที...ของที่มีค่าในร้านข้า ไม่ได้ตั้งราคาด้วยเหรียญตำลึงทองเสมอไป”




@Admin 



พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้) 

มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่

อื่น ๆ


ซื้อ ใบชาลิ่วอันกวาเพี่ยน ราคา 1 ตำลึงเงิน 584 เหรียญอู่จู

จำนวน 29 ชิ้น รวม 29 ตำลึงเงิน 16936 


ซื้อ กล่องขยายลูกบาศก์ ราคา 40 ตำลึงทอง

จำนวน 3 ชิ้น รวม 120 ตำลึงทอง หรือ 1200 ตำลึงเงิน


รวมโอน 1229 ตำลึงเงิน 16936 เหรียญอู่จู


รางวัล: +5 ความสัมพันธ์สนทนาทั่วไป [NPC-13] โจว จิน

หัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20

โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม

โบนัส ความโปรดปราน NPC เผ่ามนุษย์ (ผู้มีบุญ) +20 แต้ม


แสดงความคิดเห็น

โจวจินหัวใจตันสองดวงแล้ว  โพสต์ 2025-7-17 10:15
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-13] โจว จิน เพิ่มขึ้น 40 โพสต์ 2025-7-17 10:15
โพสต์ 68920 ไบต์และได้รับ 48 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-7-17 07:34
โพสต์ 68,920 ไบต์และได้รับ +40 EXP +35 คุณธรรม +15 ความชั่ว +35 ความโหด จาก ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา  โพสต์ 2025-7-17 07:34
โพสต์ 68,920 ไบต์และได้รับ +10 ความโหด จาก พลั่ว  โพสต์ 2025-7-17 07:34
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ดาวนำโชค
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
พลั่ว
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x15
x20
x52
x50
x25
x182
x1
x4
x4
x44
x1
x2
x2
x10
x10
x34
x2
x1
x122
x2
x18
x14
x5
x13
x60
x16
x49
x48
x74
x1
x1
x114
x3
x6
x1
x1
x1
x3
x9
x5
x3
x2
x1
x6
x6
x10
x5
x132
x40
x20
x7
x15
x42
x4
x1
x1
โพสต์ 3 วันที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย LinYa เมื่อ 2025-7-26 05:51


วันที่ 24 เดือน 6 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11

ยามซื่อ เวลา 09.00 - 11.00 น. ณ ถนนสิบลี้ ร้านหงหยุนหลาย (พบ โจว จิน)


ภายในร้านหงหยุนหลาย ลิ่นหอมของใบชากำจายแผ่วบางท่ามกลางแสงแดดอ่อนที่ส่องลอดผ่านม่านไม้ไผ่ เสียงกระดิ่งเล็กหน้าร้านดังขึ้นขณะบานประตูถูกผลักเปิดเบา ๆ ก่อนร่างคุ้นตาของหลินหยาจะก้าวเข้ามาในร้านอย่างมั่นใจ แขนหนึ่งอุ้มเจ้า “เซียนเฉ่า” เจ้าหมาน้อยตัวดำขนมันปลาบซึ่งกำลังแลบลิ้นหอบเบา ๆ อย่างสงบเสงี่ยม “ข้าพาเจ้ามาด้วย อย่าให้ซนนะเซียนเฉ่า” หญิงสาวหันไปกระซิบกับเซียนเฉ่าเสียงนุ่ม ทำเอาหูพับ ๆ ของเจ้าหมาน้อยขยับไปมาอย่างเข้าใจดี แถมยังทำหน้าใสซื่อไร้พิษสงอย่างน่าเอ็นดู เรียกว่า ‘ไฮโซแต่เงียบ’ อย่างแท้จริง


เบื้องหน้าของนาง โจวจินที่กำลังจัดเรียงหีบห่อใบชาอย่างตั้งใจอยู่หลังเคาน์เตอร์ชำเลืองมาทางประตู ริมฝีปากโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มทันทีที่เห็นคนคุ้นเคย “แม่นางหลินหยา โผล่มาทั้งที นึกว่าลืมร้านข้าแล้วเสียอีก”


“หึ ข้าจะลืมได้ไง ยังไงก็ต้องแวะมาดูของดีราคาสูงเป็นระยะอยู่แล้วนี่นา” หลินหยายักคิ้วขำ กลอกตาเล็กน้อยก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นถาดเนื้อไก่ดำที่ถูกหั่นเตรียมไว้ในตู้กระจกใสตรงมุมขวา “โอ๊ะ นั่นไก่ดำเหรอ?”


“เนื้อไก่ดำพันธุ์ชิงโจว ขุนด้วยข้าวสาลีหมัก มีแค่ 1 ตำลึงเงิน 475 เหรียญอู่จูเท่านั้น เหลือไม่กี่ตัวแล้ว” โจวจินเอ่ยพร้อมดีดนิ้วเรียกเฮยจีที่เดินเชิด ๆ อยู่หลังร้านมาดูเงียบ ๆ เจ้าตัวดีพอเห็นไก่ดำถูกกล่าวถึงก็ทำหน้าไม่พอใจในทันที ประหนึ่งจะตะโกนว่า “ข้ายังอยู่ทั้งตัว ทำไมพวกเจ้ากินกันล่ะ!?” หลินหยาขำในลำคอ พลางมองเฮยจีแล้วพยักหน้าเบา ๆ “ไม่ต้องห่วงนะเฮยจี ไม่ได้จะซื้อไปให้เซียนเฉ่ากินเจ้าหรอก” เฮยจีเชิดหน้าแอ่นอกอย่างภาคภูมิใจ ราวกับราชาผู้รอดพ้นจากการถูกทำซุปเฉียดฉิว


“แล้วนี่...มีเมือกปลาด้วยใช่ไหม?” หลินหยาเอ่ยถามต่อเมื่อสายตาเหลือบเห็นขวดแก้วใบย่อมที่มีของเหลวใสข้นขลุกอยู่ภายใน


“ของดีจากตงไห่ เพิ่งได้มาเมื่อวานนี้ ขวดละ 248 เหรียญอู่จู ข้าเก็บไว้ให้ลูกค้าประจำ” โจวจินยิ้มบาง เสียงของเขานุ่มราวกับกำลังเสนอขุมทรัพย์บางอย่าง แม้จะรู้ดีว่าทุกอย่างมีต้นทุนต่ำแต่อัพราคาขายจนทำให้คนฟังลังเลนิด ๆ


แต่หลินหยากลับพยักหน้าโดยไม่ต่อรอง “เอา 50 ชิ้น”


โจวจินไม่พูดอะไร เพียงพึมพำเบา ๆ ว่า “นี่สินะ พลังของการรู้จักเวลาขายของ”


“แล้วนั่น...ใบชาลิ้วอันกวาเพี่ยน?” หลินหยาเอียงคอถาม เมื่อเห็นกล่องชาบรรจุถุงผ้าไหมวางเรียงอยู่บนชั้นไม้มะฮอกกานี “ชาล็อตเดียวจากภูเขาในเมืองหางโจว มณฑนลิ่วอัน เก็บในคืนพระจันทร์เต็มดวง...ว่ากันว่าเหมาะกับคนที่คิดมาก” โจวจินพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังผิดปกติ ทว่าแววตากลับเปล่งแสงเจ้าเล่ห์ราวกับรู้ว่าคำว่า ‘คิดมาก’ จะโดนใจใครบางคนเข้าเต็มเปา หลินหยาแค่นหัวเราะเบา ๆ แล้วส่ายหน้า “ข้าก็เอานั่นด้วย”


เธอหยิบกล่องชาขึ้นมาอย่างระวังไม่ให้เซียนเฉ่าขยับตัวมากไป จากนั้นก็ยื่นเงินให้ตามจำนวนโดยไม่ต่อสักคำ แววตาแอบเหนื่อยใจนิด ๆ กับราคาที่โดนขูด แต่ก็ยอมอยู่ดีเพราะของมันดีจริง โจวจินรับเงินแล้วเลื่อนห่อของให้ด้วยมือเรียวจัดวางอย่างเรียบร้อย เฮยจีเดินวนไปมาเหมือนกำลังตรวจสอบว่าของที่ลูกค้ารับไปมีความ "ควรค่า" ต่อการถือออกจากร้านหรือไม่


“แม่นางจะทำอาหารอะไรล่ะคราวนี้? หรือว่าจะเป็นของว่างให้คนพิเศษ?” เขาถามขึ้นพร้อมเลิกคิ้วอย่างรู้ทัน


“อาหารแมว” หลินหยาตอบหน้าตาย แล้วเดินตัวปลิวออกจากร้านพร้อมหมาน้อย ทิ้งโจวจินให้ยืนขำกับคำตอบนั้นอยู่ตรงเคาน์เตอร์พร้อมเจ้าไก่เฮยจีที่พ่นลมฟึด ๆ แบบไก่ไม่สบอารมณ์ที่สุดในฉางอัน




@Admin 

พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้) 

มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่

อื่น ๆ

ซื้อ เนื้อไก่ดำ ราคา 1 ตำลึงเงิน 475 เหรียญอู่จู

จำนวน 52 ชิ้น รวม 52 ตำลึงเงิน 24700 เหรียญอู่จู


ซื้อ เมือกปลา ราคา 248 เหรียญอู่จู

จำนวน 50 ชิ้น รวม 12400 เหรียญอู่จู


ซื้อ ใบชาลิ่วอันกวาเพี่ยน ราคา 1 ตำลึงเงิน 584 เหรียญอู่จู

จำนวน 29 ชิ้น รวม 29 ตำลึงเงิน 16936 เหรียญอู่จู


รวมโอน 81 ตำลึงเงิน 54036 เหรียญอู่จู หรือ 216 ตำลึงเงิน 36 เหรียญอู่จู


รางวัล: +5 ความสัมพันธ์สนทนาทั่วไป [NPC-13] โจว จิน
หัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20
โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม
โบนัส ความโปรดปราน NPC เผ่ามนุษย์ (ผู้มีบุญ) +20 แต้ม

99 EXP [LV Max] แจ้งเลื่อนระดับ +2 Point


←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ดาวนำโชค
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
พลั่ว
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x15
x20
x52
x50
x25
x182
x1
x4
x4
x44
x1
x2
x2
x10
x10
x34
x2
x1
x122
x2
x18
x14
x5
x13
x60
x16
x49
x48
x74
x1
x1
x114
x3
x6
x1
x1
x1
x3
x9
x5
x3
x2
x1
x6
x6
x10
x5
x132
x40
x20
x7
x15
x42
x4
x1
x1
โพสต์ เมื่อวาน 19:05 | ดูโพสต์ทั้งหมด


วันที่ 28 เดือน 6 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11

ยามเซิน เวลา 15.00 - 16.00 น. ณ ถนนสิบลี้ ฝั่งตะวันออก ร้านหงหยุนหลาย (พบ โจวจิน)


แดดยามเซินสาดทาบเงาทอดยาวบนถนนสิบลี้ ฝั่งตะวันออกเริ่มซบเซาเมื่อร้านรวงหลายแห่งใกล้จะปิดกิจการในวันนั้น ภายในร้านหงหยุนหลาย กลิ่นชาอุ่นและสมุนไพรหอมยังคงคลุ้งอยู่ เสียงเคาะพัดเบา ๆ ของโจวจินดังแผ่วขณะเขากำลังเช็คบัญชีท้ายวัน ประตูไม้ไผ่เลื่อนแผ่วลงพร้อมเสียงกระดิ่งดัง “กริ๊ง” โจวจินเหลือบตามองไปทันที ดวงตาคมเห็นหลินหยาก้าวเข้ามา แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้ง ใบหน้างามนั้นซีดเซียว ริมฝีปากเกือบไร้สี แววตาสดใสที่เคยมีดูหม่นราวแสงจันทร์ถูกหมอกบดบัง แถมท่าทางยังฝืนยืนตรงราวกับไม่อยากให้ใครเห็นความอ่อนแรงในตัวเอง


“แม่นางหลินหยา...” โจวจินเอ่ยเรียกเสียงต่ำ น้ำเสียงแฝงแววห่วงใยแต่ก็ซ่อนภายใต้รอยยิ้มปกติ “เจ้ามาในสภาพนี้ ข้าต้องถามหรือไม่ว่าไปเล่นที่ไหนมาอีก?”


หลินหยายกยิ้มจาง ๆ ดวงตากึ่งปิดกึ่งเปิด “ข้า...ก็แค่ผ่านศึกเล็กน้อย ขอบใจที่ห่วงนะท่านพ่อค้า...หึ” เธอแสร้งหัวเราะ แต่แค่ยกมือปัดผมก็เหมือนหมดแรง เธอพยายามเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์ ทักทายเขาด้วยน้ำเสียงบางเบา “ร้านท่าน...ยังหอมเหมือนเดิม” เจ้าไก่เฮยจีที่นั่งเกาะอยู่บนชั้นวางข้างหลังถึงกับเชิดคอแล้วส่งเสียง “ก๊า!” เสียงดังเหมือนกำลังบ่น “เจ้ามาในสภาพนี้แล้วกล้าพูดเล่นอีกหรือ!” จากนั้นมันก็กระพือปีกสองสามครั้งแล้วเดินเข้ามาใกล้หลินหยาแบบสำรวจ


โจวจินหรี่ตามอง ก่อนจะเดินออกมาจากหลังเคาน์เตอร์โดยไม่รอให้เธอพูดต่อ เขายื่นมือมาจับแขนหลินหยาเบา ๆ ท่าทีไม่วางเฉยเหมือนทุกครั้ง โจวจินกระชับมือบนแขนเธอเล็กน้อย น้ำเสียงต่ำลงราวกับกำลังข่มอารมณ์บางอย่าง “หึ...เจ้าชอบหาเรื่องเสี่ยงตายจริง ๆ นะ”


หลินหยาฝืนยิ้มอีกครั้ง “ข้า...ก็ต้องทำในสิ่งที่ควรทำ” เธอมองขึ้นสบตาเขาเล็กน้อย “แต่ข้าอยากทักทายท่านกับเจ้าไก่ก่อน...ก่อนจะกลับไปพัก” เฮยจีเดินมาหยุดตรงหน้าเธอ ยืดอกทำท่าขึงขัง แต่ดวงตากลับจ้องด้วยแวววาวเหมือนเป็นห่วง พอมันส่งเสียง “ค่อก” เบา ๆ ก็หันหน้าไปทางโจวจิน เหมือนจะบอกว่า “ช่วยทำอะไรสักอย่างเถอะ!”


โจวจินถอนหายใจ พลางลากเธอไปนั่งที่เก้าอี้ไม้ตรงมุมร้าน เขาหันหลังไปหยิบขวดสมุนไพรกับน้ำอุ่นมาวางลงตรงหน้า “ดื่มนี่ซะ มันจะช่วยทุเลาอาการพิษลงไปสักระยะ” เขากล่าวขณะก้มลงมองหลินหยาใกล้ ๆ แววตาที่ซ่อนอยู่หลังรอยยิ้มแผ่วในครานี้กลับเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดและสนใจ หลินหยารับถ้วยสมุนไพรขึ้นจิบช้า ๆ กลิ่นขมแทรกหวานซึมเข้าในลำคอ ความอ่อนแรงคล้ายจะลดลงเล็กน้อย นางมองเขาแล้วยิ้มบาง “ท่านทำตัวเหมือนห่วงข้าเกินไปแล้วนะ”


“ก็แค่ไม่อยากเห็นลูกค้าประจำตาย” โจวจินตอบทันควันด้วยน้ำเสียงเจือเย้า แต่ในดวงตากลับซ่อนความจริงที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง หลินหยาเพียงหัวเราะเบา ๆ แล้วเอนตัวพิงพนักชั่วครู่ สูดกลิ่นชาในร้านที่เธอคุ้นเคย บรรยากาศอบอุ่นแปลก ๆ นี้ทำให้หัวใจเธอสงบลง แม้ร่างกายจะยังบอบช้ำอยู่ก็ตาม


โจวจินยืนกอดอกพิงเคาน์เตอร์ มองหญิงสาวที่ยังซีดแต่กลับทำหน้ายิ้มบางราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลินหยาวางถ้วยสมุนไพรลงเบา ๆ ก่อนเงยหน้ามองเขาแล้วเอ่ยเสียงอ่อน "วันนี้ข้ามาซื้อของ...อยากได้กล่องขยายลูกบาศก์อีกหน่อย มีเหลืออยู่สามกล่องใช่ไหม?" โจวจินเลิกคิ้ว ดวงตาคมฉายแววกังวลแฝงความขบขันเล็ก ๆ 


"เจ้ามาในสภาพแทบจะล้มทั้งยืน...เพื่อซื้อกล่องขยายงั้นรึ?" เขาพ่นลมหายใจ ก่อนหมุนตัวไปหยิบกล่องลูกบาศก์สามกล่องที่วางเรียงอยู่บนชั้นไม้ด้านหลัง “ของพวกนี้ข้าเก็บไว้ให้คนที่พร้อมใช้งาน...แต่เจ้า” เขาหันกลับมา วางมันลงบนโต๊ะเสียงเบา “ดูไม่พร้อมสักนิด”


“ไม่พร้อมแต่จำเป็น” หลินหยาตอบทันควัน ดวงตาหวานฉายแววแน่วแน่ เธอหยิบถุงเงินออกมาจากสาบเสื้อ เสียงเหรียญทองกระทบกันดังชัดเจน ก่อนจะนับวางตรงหน้าเขาอย่างไม่ลังเล “กล่องละ 40 ตำลึงทอง สามกล่องก็ 120 ตำลึงทอง จ่ายครบ”


โจวจินรับเงินเงียบ ๆ ความรู้สึกในใจเหมือนถูกเธอตัดหน้าไม่ให้ห้าม เขาส่ายหน้าแล้วหัวเราะในลำคอ “ข้าไม่รู้จะว่าเจ้าบ้าหรือใจแข็งดี...เอาไปเถอะ” เขาดันกล่องทั้งสามเข้าหาหลินหยา หญิงสาวยิ้มบาง หยิบกล่องเก็บเข้ากระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์อย่างเรียบร้อยก่อนลุกขึ้น “ขอบคุณนะท่านโจวจิน...สำหรับยาสมุนไพรด้วย”


“เจ้าจะพักที่ไหน?” เขาถามเรียบ ๆ


“บ้านเจ้าค่ะ” เธอตอบสั้น ๆ แต่ดวงตากลับสั่นไหวเล็กน้อยเพราะบ้านไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในหัวของเธอตอนนี้ โจวจินเพียงพยักหน้าช้า ๆ ไม่พูดอะไรต่อ สายตาเฝ้ามองแผ่นหลังเล็ก ๆ ที่เดินไปยังประตูร้าน พร้อมเสียงเจ้าไก่เฮยจีที่ทำท่าเหมือนจะขยับตามแต่ก็หยุดเพราะคำสั่งเจ้านาย ก่อนก้าวออกจากร้าน หลินหยาหันมานิดหนึ่ง “ข้าจะไปพักผ่อน...ไม่ต้องเป็นห่วง”


ข้าจะห่วงหรือไม่ ข้าก็เป็นพ่อค้า” โจวจินพูดยิ้มมุมปากแต่ในดวงตากลับบอกชัดว่าเขาห่วงจริง หญิงสาวหัวเราะเบา ๆ “ก็แล้วแต่จะพูดเถอะ” แล้วจึงก้าวออกไป ทิ้งกลิ่นหอมของสมุนไพรเจือจางไว้ในอากาศ โจวจินยืนมองเงาของนางลับไปพร้อมกับแสงบ่าย ก่อนจะเอ่ยกับเฮยจีเสียงเบา “ผู้หญิงคนนี้...ข้ายังอ่านไม่ขาดเลย” เจ้าไก่แค่เชิดหน้าราวกับจะตอบว่า “ข้าก็เหมือนกัน”




@Admin 


พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้) 

มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่

อื่น ๆ: 


ซื้อ กล่องขยายลูกบาศก์ ราคา 40 ตำลึงทอง

จำนวน 3 ชิ้น รวม 120 ตำลึงทอง

รวมโอน 120 ตำลึงทอง


รางวัล: +5 ความสัมพันธ์สนทนาทั่วไป [NPC-13] โจว จิน

หัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20

โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม

โบนัส ความโปรดปราน NPC เผ่ามนุษย์ (ผู้มีบุญ) +20 แต้ม


←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ดาวนำโชค
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
พลั่ว
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x15
x20
x52
x50
x25
x182
x1
x4
x4
x44
x1
x2
x2
x10
x10
x34
x2
x1
x122
x2
x18
x14
x5
x13
x60
x16
x49
x48
x74
x1
x1
x114
x3
x6
x1
x1
x1
x3
x9
x5
x3
x2
x1
x6
x6
x10
x5
x132
x40
x20
x7
x15
x42
x4
x1
x1
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้