12
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
เจ้าของ: Watcher

[ร้านผ้าและเครื่องประดับซือโฉว]

[คัดลอกลิงก์]
โพสต์ 2025-9-24 20:59:41 | ดูโพสต์ทั้งหมด
วันที่ 24 เดือน 9 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามอู่ เวลา 11.00 - 13.00 น.
╰┈➤ พบเจอจางกงกง


แสงแดดยามเที่ยงของเมืองฉางอันทอประกายสว่างจ้า ถนนสายกว้างที่ทอดเข้าสู่ย่านการค้าคึกคักไปด้วยผู้คนสัญจรไม่ขาดสาย เสียงกลองไม้ของร้านรวงดังสอดประสานกับเสียงแม่ค้าเรียกลูกค้าและเสียงหัวเราะเจื้อยแจ้วจากเด็กเล็ก ๆ ที่วิ่งเล่นอยู่ข้างทาง ความวุ่นวายเหล่านี้กลับมิได้ทำให้เมืองดูสับสน แต่กลับเป็นภาพชีวิตชีวาและความมั่งคั่งอันเป็นเอกลักษณ์ของนครหลวง

ท่ามกลางถนนที่เรียงรายไปด้วยร้านค้าเล็กใหญ่ ทั้งสองชายหนุ่มเดินเคียงกันไปอย่างสงบ เสวี่ยซีหันมองซ้ายทีขวาที ดวงตาสีอำพันกวาดผ่านสินค้าหลากหลายที่ถูกนำมาแขวนโชว์ตามหน้าร้านด้วยความสนใจ แต่ก็ยังคงมีสีหน้าครุ่นคิด ไม่แน่ใจว่าควรเลือกสิ่งใดดี

ห่าวหมิงซึ่งก้าวเดินไปด้วยฝีเท้าที่มั่นคง กลับเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “การซื้อเสื้อผ้าเป็นความคิดที่ดี แต่จะยิ่งดีกว่านั้น หากเลือกให้เหมาะสมกับรสนิยมของคนรักท่าน”

เสวี่ยซีชะงัก หันหน้ามาทางเขา ดวงตาฉายประกายตั้งใจฟัง

ห่าวหมิงเอียงหน้ามองเส้นทางเบื้องหน้า “ในเมืองฉางอัน หากกล่าวถึงร้านผ้าและเครื่องประดับที่ดีเป็นอันดับต้น ๆ ย่อมต้องนึกถึงร้านซือโฉว ที่นั่นมีทั้งผ้าเนื้อดีจากแดนไกลและเครื่องประดับฝีมือประณีตจากช่างผู้เชี่ยวชาญ ท่านอาจจะพบสิ่งที่ถูกใจก็เป็นได้”

เพียงเอ่ยจบ เสวี่ยซีก็พยักหน้าทันที คลี่ยิ้มบางที่สะท้อนความซาบซึ้ง “เช่นนั้น ข้าจะเชื่อคำแนะนำของท่าน”

ไม่ช้านาน ทั้งสองก็มาถึงหน้าร้านซือโฉว ตัวอาคารสูงใหญ่กว่าร้านรอบข้างอย่างเห็นได้ชัด ประตูไม้ทาสีเข้มสลักลวดลายเครือเถาอย่างวิจิตร โคมผ้าไหมสีงาช้างแขวนเรียงรายเหนือศีรษะ เมื่อแสงแดดยามเที่ยงส่องลอดเข้ามายิ่งขับให้ดูหรูหรา แต่กลับแฝงไว้ด้วยความเรียบง่าย มิได้โอ่อ่าจนเกินงาม

เมื่อก้าวเข้าไปด้านใน กลิ่นอายของผ้าใหม่ผสมกับกลิ่นไม้จันทน์ที่ใช้เผาอบห้องอย่างบางเบา ละมุนละไมราวกับบรรยากาศในหอชั้นสูง แผ่นผ้าไหมจากแดนต้าหลี่และทุ่งทรายตะวันตกแขวนเรียงรายทั้งสองฝั่ง ลวดลายวิจิตรบรรจงดุจภาพวาด เครื่องประดับเงินและหยกจัดเรียงบนตู้แก้วเนื้อใสสะท้อนแสงระยิบระยับจนแทบแสบตา

เสวี่ยซีเบิกตากว้างเล็กน้อย ดวงตาสีอำพันสะท้อนความประทับใจ “งดงามนัก ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เองที่ผู้คนร่ำลือกัน”

ห่าวหมิงเพียงพยักหน้า ไม่ได้กล่าวเกินจำเป็น แต่สายตาคมกริบยังคงกวาดมองรอบร้านราวกับกำลังชั่งน้ำหนักบางสิ่ง

เด็กหนุ่มเจ้าของใบหน้างดงามเดินช้า ๆ ผ่านผืนผ้าหลากสี ลูบปลายนิ้วผ่านผ้าไหมบางเบาสีฟ้าคราม ก่อนหยุดมองเครื่องประดับเงินประดับหยกที่วางเรียงอยู่บนถาด เขาเงยหน้าขึ้นหันไปถามเสียงอ่อน “ท่านคิดว่าผ้าชนิดใด เครื่องประดับแบบใด ที่จะเหมาะกับคนรักของข้า?”

คำถามนั้นตรงไปตรงมา ราวกับไม่ได้ปิดบังความใสซื่อที่มีอยู่ในตัวตน ห่าวหมิงเหลือบตามองเขา ก่อนหันกลับไปยังแถวปิ่นปักผมที่วางเรียงอย่างบรรจง ดวงตาสงบนิ่ง

เสวี่ยซีเดินตามสายตาของห่าวหมิง จนพบปิ่นปักผมชิ้นหนึ่งลายดอกเหมยทำจากเงินชุบทองอ่อน ประดับด้วยหินสีแดงเล็ก ๆ ที่เรียงเป็นเกสร ดูอ่อนหวานแต่ไม่หวือหวาเกินไป

เขาเอื้อมมือหยิบขึ้นมา หมุนเบา ๆ ใต้แสงแดดที่ลอดผ่านหน้าต่างไม้ ดวงตาสีอำพันเป็นประกาย “ชิ้นนี้หรือ… ท่านคิดว่าเหมาะสมหรือไม่?”

ห่าวหมิงมองปิ่นในมือเขา ก่อนมุมปากจะกระตุกขึ้นเล็กน้อย เป็นรอยยิ้มที่หาได้เห็นยากนัก “ปิ่นปักผมลายดอกเหมยนี้ งดงามและอ่อนหวาน เหมาะกับคนที่ท่านรักยิ่งนัก แสดงว่าท่านเข้าใจในรสนิยมของเขาเป็นอย่างดี”

คำพูดนั้นทำให้เสวี่ยซีเงียบไปครู่หนึ่ง ดวงตาฉายประกายประทับใจ ไม่ใช่เพราะได้รับคำชม แต่เพราะรู้ว่าตนเองได้เลือกสิ่งที่สะท้อนถึงหัวใจที่แท้จริงของเขา

เขากำปิ่นนั้นแนบอกเบา ๆ ก่อนหันไปยิ้มบาง “ข้าจะเลือกสิ่งนี้”

ห่าวหมิงมิได้เอ่ยคำใดต่อ เพียงพยักหน้าอย่างพอใจ แววตาสงบนิ่งกลับเปล่งประกายอุ่นบางเบา ราวกับยินดีที่เห็นอีกฝ่ายเข้าใจความหมายของสิ่งที่มอบให้แก่คนรัก

บรรยากาศยามเที่ยงภายในร้านซือโฉวเต็มไปด้วยแสงแดดอบอุ่นที่ลอดผ่านหน้าต่างและเสียงผู้คนที่พูดคุยอย่างเบา ๆ ทว่า สำหรับเสวี่ยซีแล้ว กลับเหมือนทั้งร้านเงียบสงัด เหลือเพียงเขาและห่าวหมิงที่ยืนอยู่ท่ามกลางแถวผ้าและเครื่องประดับละลานตา

การเลือกปิ่นปักผมเพียงชิ้นเดียว กลับทำให้หัวใจของเขามั่นคงขึ้นกว่าเดิม ว่าเขาสามารถมอบสิ่งที่คนรักต้องการได้ด้วยความเข้าใจ ไม่ใช่เพียงความหวือหวาภายนอก

และในสายตาของห่าวหมิง สิ่งที่เห็นคือความตั้งใจจริงของเสวี่ยซี — ชายหนุ่มผู้ใสซื่อที่แม้จะยังมีความไม่ประสีประสาอยู่บ้าง แต่กลับเต็มไปด้วยความรักและความพยายามที่งดงามยิ่งนัก

เมื่อออกจากร้านซือโฉว ประตูไม้สลักลวดลายเบื้องหลังปิดลงอย่างเงียบงัน แสงแดดบ่ายคล้อยสาดกระทบพื้นหินเรียบของถนนการค้า ฉางอันยังคงเต็มไปด้วยผู้คนเดินขวักไขว่ เสียงล้อเกวียนบดไปบนทางหินคลอเคล้ากับเสียงแม่ค้าตะโกนขายขนมร้อน ๆ กับชาเย็นที่มีคนรุมล้อม บรรยากาศคึกคักแต่ก็อบอุ่นเป็นเอกลักษณ์ของเมืองใหญ่

เสวี่ยซีเดินเคียงข้างห่าวหมิง ดวงตาสีอำพันยังคงทอดมองปิ่นปักผมในกล่องเล็ก ๆ ที่ร้านซือโฉวห่อให้ด้วยผ้าไหมสีอ่อน เขากอดกล่องนั้นแนบอกอย่างทะนุถนอมราวกับเป็นของล้ำค่าที่สุดในชีวิต ความอ่อนหวานบนใบหน้ายังคงไม่หายไป

ห่าวหมิงปรายตามองแล้วเอ่ยเสียงราบเรียบ แต่แฝงความอบอุ่นบางเบา “เจ้าดูทะนุถนอมมันยิ่งนัก”

เสวี่ยซีเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ยิ้มละไม “ก็เพราะมันเป็นสิ่งที่ข้าเลือกมาเพื่อเขา ข้าหวังว่า เมื่อเขาได้รับเขาจะยิ้มอย่างมีความสุข”

ห่าวหมิงเดินไปข้างหน้าไม่เร่งรีบ แสงแดดยามบ่ายทอดผ่านแนวเสาไม้และเงาต้นไม้สองข้างทาง ส่องลงบนใบหน้าคมเข้มของเขา เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสุขุม “เจ้ารู้หรือไม่ ว่าดอกเหมยมีความหมายเช่นไร?”

เสวี่ยซีชะงัก ดวงตาสีอำพันกะพริบเล็กน้อย “ข้าไม่แน่ใจนัก รู้เพียงว่ามันบานงามท่ามกลางฤดูหนาวเท่านั้น”

ห่าวหมิงพยักหน้าเบา ๆ “ถูกแล้ว ดอกเหมยบานในยามหิมะปกคลุม เป็นสัญลักษณ์ของความอดทนและความเข้มแข็งท่ามกลางความลำบาก อีกทั้งยังหมายถึงความหวังที่ไม่เคยดับสูญ” เขาหันสายตามองเสวี่ยซี สีหน้านิ่งแต่แฝงความอบอุ่นลึกซึ้ง “เจ้าลองคิดดูสิ หากเจ้ามอบปิ่นปักผมลายดอกเหมยนี้ให้กับคนรัก ย่อมหมายความว่า เจ้าปรารถนาให้เขามีความสุขและความเข้มแข็ง ไม่ว่าต้องพบเจอกับสิ่งใดในชีวิตก็ตาม”

คำพูดนั้นทำให้เสวี่ยซีหยุดฝีเท้าลงกลางทาง หันมามองห่าวหมิง ดวงตาเป็นประกายวาบด้วยความซาบซึ้ง เขาเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวเสียงสั่นแต่หนักแน่น “ขอบคุณที่ชี้แนะ”

ผู้คนเดินสวนผ่านทั้งสองไปเรื่อย ๆ เสียงเจรจาซื้อขายและเสียงหัวเราะดังเป็นฉากหลัง

เสวี่ยซีก้มลงมองกล่องในมืออีกครั้ง น้ำเสียงอ่อนหวานแต่จริงจัง “ข้าจะมอบมันให้เขาด้วยมือของข้าเอง และจะไม่เพียงแค่มอบของ แต่จะมอบหัวใจที่ข้าเก็บรักษาไว้ทั้งหมดให้กับเขา ข้าอยากให้เขายิ้มได้ ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยสิ่งใดข้าก็ยินดี”

ห่าวหมิงมองภาพนั้นเงียบ ๆ ก่อนมุมปากจะยกขึ้นเพียงเล็กน้อย เป็นรอยยิ้มที่ผู้อื่นอาจไม่ทันสังเกต แต่เต็มไปด้วยการยอมรับและความพอใจ เขาเอ่ยช้า ๆ “เจ้ามีหัวใจที่บริสุทธิ์ แม้จะไร้เดียงสาอยู่บ้าง แต่ก็เพราะความใสซื่อเช่นนี้ จึงทำให้เจ้ามีค่ามากกว่าใคร”



แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 22068 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-9-24 20:59
โพสต์ 22,068 ไบต์และได้รับ +9 EXP +9 คุณธรรม +9 ความโหด จาก แหวนหยกสลักนาม   โพสต์ 2025-9-24 20:59
โพสต์ 22,068 ไบต์และได้รับ +5 EXP +15 คุณธรรม +8 ความโหด จาก พิมพ์นิยม  โพสต์ 2025-9-24 20:59
โพสต์ 22,068 ไบต์และได้รับ +6 EXP +6 คุณธรรม จาก ยาหยกบูรพา  โพสต์ 2025-9-24 20:59
โพสต์ 22,068 ไบต์และได้รับ +6 EXP +6 คุณธรรม +6 ความโหด จาก พู่หยกสลักลายมังกร  โพสต์ 2025-9-24 20:59
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ปิ่นปักผมหยกขาว
 มีดสั้นเงาจันทร์
ชุดวสันต์ลีลา
คัมภีร์ดาราศาสตร์ตงฟาง
โดดเด่นมีเอกลักษณ์
พู่กันดาราศาสตร์
แหวนหยกสลักนาม
ยาหยกบูรพา
พู่หยกสลักลายมังกร
กระบี่คู่สลักจันทรา
แหวนดาราจรัส(D)
เกราะทองแดง
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ช)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x40
x2
x7
x1
x2
x2
x1
x6
x1
x8
x2
x10
x7
x12
x26
x48
x8
x24
x24
x5
x2
x10
x1
x2
x12
x30
x21
x5
x6
x2
x1
x10
x5
x60
x90
x60
x5
x2
x120
x6
x17
x20
x2
x20
x2
x2
x2
x3
x2
x2
x3
โพสต์ 2025-10-3 10:10:28 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 1 เดือน 10 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11

ยามโฉ่ว เวลา 01.00 - 02.00 น.

╰┈➤ พบเจอจางเชียน


ยามค่ำคืนในนครฉางอันยิ่งดึกยิ่งคล้ายถูกปกคลุมด้วยม่านหมอกบาง ๆ แสงตะเกียงสลัวจากร้านรวงยังคงส่องลอดออกมาท่ามกลางความเงียบสงัด ช่วงยามโฉ่วที่ผู้คนส่วนใหญ่พักผ่อนแล้ว 


แต่ร้านผ้าและเครื่องประดับซือโฉว กลับยังคงเปิดอยู่ เสียงกระดิ่งลมที่แขวนอยู่หน้าร้านดังเบา ๆ ตามแรงลมราตรี


เสวี่ยซีที่เดินเล่นอย่างไร้จุดหมาย สายตาไปสะดุดเข้ากับเงาร่างสูงที่คุ้นเคย เหลียนเจี้ยกำลังยืนอยู่หน้าร้าน ดวงตาคมกริบของเขาจับจ้องไปยังผ้าไหมผืนหนึ่งที่แขวนอยู่ตรงชั้นวางด้านใน แสงตะเกียงสะท้อนกับผืนผ้าให้สีสันนุ่มนวลราวกับกลีบดอกไม้ยามอรุณ


“เหลียนเจี้ย?” เสวี่ยซีเอ่ยเสียงเบา ราวกับกลัวจะรบกวนสมาธิ


เหลียนเจี้ยหันมาช้า ๆ แววตาเคร่งขรึมของเขายังไม่คลาย “ช่างบังเอิญยิ่งนัก ข้ากำลังจนปัญญาอยู่พอดี” เขาโบกมือเรียกให้อีกฝ่ายเข้ามาใกล้ แล้วชี้ไปที่ผ้าไหมผืนงามนั้น “เจ้าพอจะมีความคิดเห็นเกี่ยวกับลวดลายบนผ้าผืนนี้หรือไม่”


เสวี่ยซีมองอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก ผ้าไหมนั้นเป็นลายดอกโบตั๋นสีแดงสด สลับกับเส้นไหมทองที่ทอประณีต แต่เมื่อเพ่งดี ๆ ลวดลายที่วาดทับกลีบดอกบางจุดกลับเหมือนร่องรอยที่ถูกวางไว้ไม่ใช่เพียงเพื่อความงดงาม 


“ก็…มันงดงามดีนี่นา” เขาเอียงคอ พูดออกไปพลางทำเสียงแสร้งเฉยเมย แต่ดวงตากลับเปล่งประกายด้วยความอยากรู้อยากเห็น


เหลียนเจี้ยหัวเราะเบา ๆ “งดงามอย่างเดียวหรือ เจ้าลองมองตรงกลีบที่สามด้านซ้ายสิ…ไม่รู้สึกหรือว่ามันเหมือนเส้นทางบางอย่าง”


เสวี่ยซีขมวดคิ้ว จ้องมองอยู่นาน “ก็จริง มันเหมือนเส้นทางเลี้ยววน…เอ๊ะ! หรือว่ามันเป็นลายแทง!?”


เหลียนเจี้ยยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “เจ้าพูดตรงใจข้าเลย ข้าได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบผ้าไหมนี้เพราะลวดลายดูผิดธรรมชาติ ราวกับมีการสอดแทรกรหัสบางอย่างอยู่”


เสวี่ยซีรีบถามอย่างตื่นเต้น “ทำไมต้องให้ข้าดูด้วยเล่า ข้าก็แค่…”


“ก็เพราะเจ้ามองโลกในแบบที่คนอื่นไม่คาดคิด” เหลียนเจี้ยตัดบทอย่างตรงไปตรงมา “บางทีสิ่งที่ข้ามองข้าม เจ้าอาจเห็นได้ด้วยความใสซื่อของเจ้าเอง”


เสวี่ยซีหน้าแดงเล็กน้อยเมื่อถูกชมเช่นนั้น “พูดอย่างกับข้าเป็นเด็กที่มองอะไรไม่ซับซ้อน” เขาย่นจมูก “แต่ก็ดี ข้าจะลองช่วยเจ้าดู”


เหลียนเจี้ยยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ “นั่นแหละที่ข้าต้องการ”


ทั้งสองยืนใกล้กัน มองผ้าไหมผืนเดียวกัน แต่ทว่ามุมมองแตกต่าง เสวี่ยซีเอียงศีรษะไปมา พลางใช้นิ้วชี้ตามเส้นไหมสีทอง “ดูสิ! ถ้าเชื่อมต่อเส้นพวกนี้เข้าด้วยกัน มันกลายเป็นรูปคล้ายสะพาน”


“สะพาน?” เหลียนเจี้ยเลิกคิ้ว “น่าสนใจทีเดียว”


“อืม แต่ถ้ามองกลับหัว กลายเป็นเหมือนรูปดวงจันทร์เสี้ยว ข้าก็ไม่แน่ใจว่าจริง ๆ แล้วมันหมายถึงอะไรกันแน่”


เหลียนเจี้ยหัวเราะเบา ๆ “เจ้าช่างคิดพลิกแพลงจริง ๆ”


“ก็ข้าอยากช่วยนี่นา” เสวี่ยซีโพล่งออกไป แล้วรีบหันหนีเพราะกลัวอีกฝ่ายล้อ


เหลียนเจี้ยไม่พลาดโอกาส “ช่วย…หรือแค่หาเรื่องจะใกล้ข้า?”


เสวี่ยซีหันมามองเขาตาคว่ำ “ข้าแค่ไม่อยากเห็นเจ้าเคร่งเครียดเท่านั้นเอง”


บรรยากาศพลันคลายลง กลายเป็นเสียงหัวเราะเบา ๆ สลับกับความเงียบสงบยามค่ำ แต่ความจริงจังก็ยังไม่หายไป เส้นไหมสีทองบนผ้าเหมือนจะซ่อนความลับที่ไม่มีใครไขได้ง่าย ๆ


หลังจากเถียงหยอกกันพอสมควร เหลียนเจี้ยเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ที่นี่…ไม่เหมาะจะพูดเรื่องนี้ต่อ หากจะคิดหาความหมาย ควรไปในที่ที่สงบกว่านี้”


“แล้วท่านอยากไปที่ใดเล่า” เสวี่ยซีถาม


เหลียนเจี้ยตอบอย่างไม่ลังเล “โรงชาเมฆาซ่อนจันทร์ ที่นั่นเงียบและเหมาะแก่การถกปัญหา”


เสวี่ยซีพยักหน้า “ก็ดีเหมือนกัน ข้าจะได้สั่งขนมกับน้ำชาไปพลาง ๆ”


“เจ้านี่สิ คิดถึงของกินก่อนเสมอ” เหลียนเจี้ยหัวเราะเบา ๆ แล้วเดินนำออกไป

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 22093 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-10-3 10:10
โพสต์ 22,093 ไบต์และได้รับ +10 EXP [ถูกบล็อค] ความชั่ว +9 คุณธรรม +9 ความโหด จาก คัมภีร์ดาราศาสตร์ตงฟาง  โพสต์ 2025-10-3 10:10
โพสต์ 22,093 ไบต์และได้รับ +10 EXP [ถูกบล็อค] ความชั่ว +15 คุณธรรม +15 ความโหด จาก โดดเด่นมีเอกลักษณ์  โพสต์ 2025-10-3 10:10
โพสต์ 22,093 ไบต์และได้รับ +2 EXP [ถูกบล็อค] ความชั่ว +2 คุณธรรม +2 ความโหด จาก พู่กันดาราศาสตร์  โพสต์ 2025-10-3 10:10
โพสต์ 22,093 ไบต์และได้รับ +9 EXP [ถูกบล็อค] ความชั่ว +9 คุณธรรม +9 ความโหด จาก แหวนหยกสลักนาม   โพสต์ 2025-10-3 10:10
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ปิ่นปักผมหยกขาว
 มีดสั้นเงาจันทร์
ชุดวสันต์ลีลา
คัมภีร์ดาราศาสตร์ตงฟาง
โดดเด่นมีเอกลักษณ์
พู่กันดาราศาสตร์
แหวนหยกสลักนาม
ยาหยกบูรพา
พู่หยกสลักลายมังกร
กระบี่คู่สลักจันทรา
แหวนดาราจรัส(D)
เกราะทองแดง
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ช)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x40
x2
x7
x1
x2
x2
x1
x6
x1
x8
x2
x10
x7
x12
x26
x48
x8
x24
x24
x5
x2
x10
x1
x2
x12
x30
x21
x5
x6
x2
x1
x10
x5
x60
x90
x60
x5
x2
x120
x6
x17
x20
x2
x20
x2
x2
x2
x3
x2
x2
x3
12
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้