[เบาะแสจวนใต้ดิน] ต้นตอของพลังมาร
บทนำ:
จอมยุทธ์หญิงชุดขาวได้ยินข่าวลือบางอย่างคุยกับในยุทธภพว่าในหมู่บ้านโอวหยางจู่ ๆ ก็เกิดพลังมารแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วจนกลืนกินผู้คนกลายเป็นเผ่ามารไปในที่สุด เผ่าที่ไม่เคยเห็นบนโลกมานับหมื่นปีแล้วนับแต่ซ่างกู่ยุติมหันตภัยฮุ้นตุ้น เว่ยจื่อฟูที่รู้สึกว่าเรื่องพลังมารที่จู่ ๆ ก็แพร่มาจากใจกลางมีเงื่อนงำ เธอจึงติดต่อโรงเตี๊ยมเพื่อขอเปิดภารกิจสำรวจหมู่บ้าน แต่ทว่าทางเถ้าแก่โรงเตี๊ยมชิงหมิงไม่ยอมให้จอมยุทธ์ไปทำภารกิจครั้งนี้ ถ้าหาเพื่อนร่วมทีมไม่ครบ 3 คน ซึ่งเธอต้องหาอีก 2 คน
สปอยเหตุการณ์ภารกิจ
หลังการรวมทีมเฉพาะกิจ ทั้งสามได้ไปรับภารกิจจากโรงเตี๊ยมชิงหมิงเพื่อออกสำรวจหมู่บ้านสกุลโอวหยาง การเดินทางเข้าเขตที่ไอมารหนาแน่นที่สุดในเขตที่ใกล้ฉางอันเช่นนี้คือความอันตรายที่มาเต็มเปี่ยมพร้อมคร่าชีวิต ทั้งสามเข้ามาภายในก็ต้องเผชิญหน้ากับมนุษย์มารจำนวนมาก ดูเหมือนพวกเขาจะดูดซับไอมารออกมาก็ไม่หายมีแต่ต้องต่อสู้ พวกเขาคลุ้มคลั่งเกินกว่าจะเยียวยา การสำรวจหมู่บ้าน
ได้นำพวกเขาไปสู่ใจกลาง จุดที่มีโกเลมผู้พิทักษ์ในสภาพถูกไอมารสิงสู่จนคลุ้มคลั่ง
กำลังเฝ้าทางลงไปใต้ดินทางหนึ่ง ดูเหมือนที่นี่จะเป็นจวนใหญ่โตที่อยู่ใจกลางหมู่บ้านก่อนจะถูกทิ้งร้าง จวนสกุลโอวหยาง จอมยุทธ์แห่งสรรพสัตว์ พวกเขาทั้งสามอ่านป้ายหน้าจวน
แต่พวกเขาจะต้องต่อสู้กับโกเล็มคลั่งก่อนจึงจะเข้าไปภายในได้
หลังพิชิตโกเล็ม ทั้งสามได้เดินลงเข้าไป พบว่าที่นี่มีความกว้างราวพระราชวังใต้ดินฉินซีไม่มีผิด
มีแผ่นหินผุพังตามกาลเวลาที่อักษรเลือนลางจนอ่านไม่ออก ดูเหมือนเป็นสุสานสกุลโอวหยาง
และซากสัตว์ที่ตายนับไม่ถ้วน ราวกับฝังพร้อมกับเจ้าของ มีทั้งอินทรี สุนัข หมาแมว ไก่ เสือ สิงโต แรค จิ้งจอก ที่หลงเหลือโครงกระดูกพอเดารูปร่างได้
หลังจากสำรวจกว่า 200 ตารางเมตร คุณเดินขาลากจนมาเจอประตูโถงโอ่อ่า เมื่อหาทางเปิดเข้ามาจนได้ ก็พบว่าภายในมีโลงแก้วที่ดูฝุ่นเกาะพอสมควร ใยแมงมุมขึ้นทั่วโถงใหญ่ที่นี่
แต่ภายในโลงแก้วกลับมีร่างหญิงสาวที่ไม่เน่าเปื่อยราวกับโลงนี้มีวิธีถนอมร่างกาย
หญิงสาวใบหน้างดงาม ตายอย่างยิ้มแย้ม ศิลาจารึกเลือนลางจนอ่านแทบไม่ออก พอแกะได้เล็กน้อยว่า เป็นจอมยุทธ์ต้นตระกูลโอวหยาง ผู้ควบคุมสรรพสัตว์ทั้งหลาย
ไม่ไกลจากโลงแก้ว มีทวนผุที่ตั้งตระหง่าน แต่ก็สัมผัสได้ถึงไอพลังบางอย่างที่แรงกล้า ทวนเล่มนี้แม้จะอยู่ในสภาพทวนผุ แต่ก็เปี่ยมด้วยความรู้สึกมีพลังบางอย่างอย่างน่าแปลกประหลาด
ดูเหมือนตอนนี้คุณจะเริ่มรู้แล้วว่าหมอกไอมารที่ปกคลุมมาจากต้นตอร่างสตรีในโลงแก้ว ดูเหมือนบางอย่างที่ใช้ถนอมร่างกายนางคือของต้องห้ามของเผ่ามารในอดีต และมีรอยแตก นั่นอาจเป็นสาเหตุที่ไอมารรั่วไหล บางทีถ้ากำจัดโลงแก้วและร่างนี้ที่โดนไอมารสิงสู่แล้วอาจจะทำให้หมู๋บ้านนี้กลายเป็นแค่หมู่บ้านร้างธรรมดาได้
ในขณะคุณกำลังพูดคุยก็มีหมอกมารก่อตัวขึ้น
กลุ่มมนุษย์มาร 5 คน 15 กลุ่มพุ่งโจมตีพวกคุณ และ NPC จะรับมือไปอีก คนละ 5 กลุ่ม
คุณรับมือประลองแค่ 5 กลุ่ม ในขณะคุณสู้กับพวกกลุ่มมนุษย์มารจนเหนื่อยล้า โลงแก้วก็สั่นไหว ก่อนฝาโลงพุ่งปลิวซนเพดาน ไอมารที่เข้มข้นค่อย ๆ ออกมาจากวัตถุต้องห้ามนั้นและร่างกายหญิงสาว
(เผชิญหน้ากับแหล่งตอไอมาร - วิญญาณอาฆาตจอมยุทธ์โอวหยาง Level 50)
คุณจะได้ปลดความทรงจำโลกปัจจุบัน 1 เหตุการณ์ ก่อนจะพาคุณดำดิ่งไปยังโลกอีกใบหลายหมื่นปีก่อน ความทรงจำที่คุณร่วมท่องยุทธภพกับจอมยุทธ์หญิงโอวหยาง
แต่เกิดเรื่องบางอย่างที่คุณหลอกลวงจอมยุทธ์โอวหยางไปติดกับดักเพื่อหวังจะตีสนิทกับ
องค์ชายเป่ยหนาน
บันทึกตอนจบ หมู่บ้านจะกลายเป็นหมู่บ้านร้างตามปกติ (จบ)

[ขอเปิดภารกิจ]
1) (เฉพาะคนเปิด) โรลเพลย์เพื่อขอเปิด ณ โรงเตี๊ยมชางลั่วถิง
2) คุณได้ยินข่าวลือเรื่องจอมยุทธ์ชุดขาวกำลังหาสมาชิกทีม
เพื่อเปิดภารกิจสำรวจหมู่บ้านสกุลโอวหยาง
3) หลังจากรับทราบรายละเอียด เดินทางไปสนทนากับ NPC จอมยุทธ์ชุดขาวที่ชั้นสอง
4) เริ่มสร้างบันทึกท่องยุทธจักรได้เลย โดยมี NPC ร่วมเดินทาง เว่ยจื่อฟู

[รายนามผู้เดินทาง]
(1) หัวหน้าทีม: NPC เว่ยจื่อฟู
สมาชิกทีม:
(2) คุณ
(3) ผู้เล่นอื่นหรือ จะเชิญ NPC ประกอบมาสักคน
[ศัตรูที่ต้องเผชิญหน้าหลัก]
- มนุษย์มารตลอดเส้นทาง
- วิญญาณอาฆาต จอมยุทธ์หญิงโอวหยาง Level 50
[โหมดภารกิจ]
- Normal Mode -

[รางวัลภารกิจระดับ Normal]
รางวัลได้ทั้ง 3 คน
+100 พลังใจ , +600 ตำลึงเงิน + 1 Level up และ +50 ค่าคุณธรรม และ +40 ตบะฝึกฝน
+3 หัวใจเริ่มต้น กับ เว่ยจื่อฟู (ไม่ต้องผ่านอีเว้นท์หัวใจสองดวง)
เลือกว่าใครจะเป็นคนรับ
(1 คน เลือกได้ 1 อย่าง)
ทวนผุ (สามารถอัปเกรดได้ถึงแดงในอนาคต) (ปัจจุบัน ขั้นสีเงิน)
ทวน "จันทร์คล้อยฟ้า" อาวุธประจำตัวของจอมยุทธ์หญิงผู้เป็นต้นตระกูลโอวหยาง เล่าขานกันว่า ทวนเล่มนี้เคยเปล่งประกายใต้แสงจันทร์และสาดแสงวูบวาบในยามราตรี เคียงบ่าเคียงไหล่กับจอมยุทธ์หญิงผู้เกรียงไกร ฝ่าฟันสงครามนับครั้งไม่ถ้วน ไม่เว้นแม้กระทั่งการต่อสู้กับเหล่าเผ่ามารผู้เหี้ยมโหด โลหิตที่เปื้อนปลายทวนล้วนเป็นเครื่องยืนยันถึงความองอาจในยุทธภพ ด้ามทวนสลักลายอักษรโบราณ บ่งบอกถึงจิตวิญญาณของผู้ถือครอง ปลายทวนเย็นเฉียบดั่งแสงจันทร์ที่ไร้ปรานี มีเสียงร่ำลือว่ามันสามารถสะท้อนแรงใจของผู้ใช้ได้ แม้เงียบงันก็ยังน่าเกรงขาม ภายหลังเมื่อจอมยุทธ์หญิงสิ้นลม ทวนเล่มนี้กลับกลายเป็นสิ่งไร้เจ้าใจ มันโศกเศร้า เงียบงันและมืดมน ปลายทวนที่เคยเฉียบคมค่อย ๆ หม่นหมอง ด้ามจับที่เคยแน่นหนาเริ่มผุพัง ทวน "จันทร์คล้อยฟ้า" จึงถูกเก็บรักษาไว้ในสุสานใต้ดินตระกูลโอวหยางใกล้ศพของเจ้าของ ราวกับเป็นสักขีพยานของอดีตกาลอันรุ่งโรจน์... และความเศร้าที่มิอาจลืมเลือน
กำไลหยก "พันธสัญญาโอวหยาง" (คุณภาพม่วง) Level 40
องล้ำค่าควรเมือง หนึ่งในสมบัติตระกูลโอวหยาง กำไลหยกชิ้นนี้ถูกเจียระไนอย่างประณีตจากหยกสีเขียวมรกตที่หายากที่สุดในยุทธภพ แวววาวล้ำลึกราวกับซ่อนกลิ่นไอของคำมั่นสัญญาอันยิ่งใหญ่ มีลายแกะสลักอ่อนช้อยเป็นรูปดอกเหมยบานกลางหิมะ สะท้อนถึงความรักอันแข็งแกร่งท่ามกลางความยากลำบาก เล่ากันว่าเมื่อหมื่นปีก่อน องค์ชายเป่ยหนาน ผู้เปี่ยมด้วยปัญญาและเมตตา ได้พระราชทานกำไลหยกวงนี้ให้แก่หญิงอันเป็นที่รัก — จอมยุทธ์ผู้เลื่องชื่อแห่งสกุลโอวหยาง ในยามที่ทั้งสองต้องพรากจากกันท่ามกลางคลื่นลมแห่งสงคราม กำไลหยกวงนี้จึงมิใช่เพียงของประดับ แต่คือเครื่องหมายแห่งรักแท้ และคำมั่นที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย แม้กาลเวลาจะผ่านพ้นไปนับพันปี กำไลหยก "พันธสัญญาโอวหยาง" ยังคงเปล่งประกายบางเบาในยามต้องแสงจันทร์ ว่ากันว่า หากผู้ใดสวมใส่ด้วยหัวใจที่มั่นคงในรักบริสุทธิ์ หยกจะอบอุ่นขึ้นเล็กน้อย ดั่งได้ยินเสียงของหัวใจอีกดวงที่ยังคงรอคอยอยู่ ณ ที่ใดสักแห่ง
