เจ้าของ: Admin

ตำหนักเซวียนเต๋อ | ที่พำนักไท่โฮ่ว

[คัดลอกลิงก์]
โพสต์ 2024-8-5 21:57:53 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย WeijiaLianhua เมื่อ 2024-8-5 21:59


ยามเหลียนฮวาเบ่งบาน
วันที่สี่ ปาเยว่ เจี้ยนหยวนศกที่สิบ
ปลายยามอิ๋น (04.50น.)




     กลายเป็นกิจวัตรเสียแล้วที่เว่ยเจียเหลียนฮวาจะต้องถูกปลุกขึ้นมาตั้งแต่ดวงดารายังไปลาลับฟ้าไปไหนเพื่อมาอาบน้ำขัดผิวกายแต่งกายให้พร้อมสำหรับการเข้าถวายพระพรองค์ไท่โฮ่วตั้งแต่เช้าตรู่…ต้องเอ่ยว่ายังไม่ไก่โฮ่มากกว่า ใช้เวลาเตรียมตัวไม่นานเท่าใดนักราว ๆ เกินหนึ่งก้านธูปไปสักประมาณหนึ่งเค่อนางก็เตรียมตัวเรียบร้อยและเดินมาจนถึงตำหนักเซวียนเต๋อ

   “พระสนมเสียนอี๋เสด็จ”

   เสียงของนางกำนัลเอ่ยขึ้นเพื่อเรียนแจ้งในสตรีหนึ่งเดียวในตำหนักเซวียนเต๋อผูัมาถวายพระพรเช่นเดียวกับนางได้รู้ตัวถึงการมาของนางผู้เป็นทั้งสหายและน้องสาวทางใจ ในจังหวะที่นางกำลังจะเดินไปหาเพื่อเอ่ยสนทนาสักหน่อยก่อนที่องค์ไท่โฮ่วจะมาก็พบว่าดูเหมือนว่าจะไม่ทันเสียแล้ว

   “ถวายพระพรองค์หวงโฮ่ว ขอทรงพระเจริญพันปี พันปี พันพันปี”

   สนมทั้งสองยอบกายก่อนจะแลเห็นองค์หวงตี้ที่ก้าวเดินเข้ามาเพื่อถวายพระพรองค์ไท่โฮ่วผู้เป็นพระราชมารดาจึงยอบกายถวายพระพรเช่นเดียวกัน

  “ถวายพระพรหวงตี้ ขอทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นหมื่นปี”

   เว่ยเจียเหลียนฮวาผู้มักจะไม่รั้งรอให้ผู้อื่นไปก่อนอยู่เสมอและเจี่ยเจียที่รู้จักนานมาแสนนานย่อมทราบกันดีว่านางนั้นมิใช่คนเอ่ยปากก่อนผู้ใด การยื่นถวายขนมนี้จึงเป็นกาลของลู่เจี๋ยอวี้ที่ยื่นถวายก่อนส่วนนางเพียงนั่งฟังบทสนทนาต่าง ๆ ไปเรื่อย ๆ ด้วยความนิ่งสงบ

   เซียวจื่อไท่โฮ่วแลพอพระทัยเช่นนี้นางก็ไม่ต้องพยายามกระไรให้มากความ

   ด้วยนางที่ก่อนหน้านี้เปล่าเปลี่ยวยิ่งกว่าสิ่งใด เวียนมาถวายพระพรอยู่เพียงผู้เดียวในโถงตำหนักโอ่อ่า ไหนเลยนางจะขยันหาหัวข้อสนทนามาเชิญชวนไท่โฮ่วพูดคุยไม่หน่าย

   คิดไปก็แลเห็นปริศนาคำทาย คิดไปก็แลเห็นปรัชญาบัณฑิต ทั้งยังมีมุขตลกหน้าตาย หากไม่มีลู่ไป๋หรั่นที่อยู่กับเซียวจื่อไท่โฮ่วมานานจากการถูกกักบริเวณในตำหนักเซวียนเต๋อเห็นทีนางต้องชวนไท่โฮ่วเอนกายเอกขเนกอ่านม้วนตำราเข้าสักวัน เมื่อการถวายของของลู่เจี๋ยอวี้เสร็จสิ้นก็ถึงคราวของนางที่กระทำบ้าง เว่ยเจียเสียนอี๋ก้าวเดินออกไปพร้อมกับถาดขนมบัวหิมะพร้อมจอกชาไป๋หาวอิ๋นเจินที่นางเพิ่งจะไปเจอคลังแสงหมาด ๆ

   “ทูลองค์ไท่โฮ่ว หม่อมฉันทำขนมบัวหิมะกับชาขาวให้พระองค์ได้เริ่มต้นวันอย่างสดชื่นเพคะ”

  “ดียิ่งนักที่คราวนี้มีคนใส่ใจอ้ายเจียเพิ่มมากขึ้น ไยเจ้าไม่ปันให้หวงตี้บ้างเล่า”

   “เสด็จแม่เสวยเลยเถิด ได้แลเห็นเสด็จแม่อารมณ์ดีลูกก็พอใจแล้ว”


  ก็คือการปฏิเสธกลาย ๆ ?

   สุดท้ายก็เป็นไท่โฮ่วที่รับไปแล้วเรียกถงกู่กูไปจัดใส่ปิ่นโตปันให้องค์หวงตี้พกไปเสวยยามท้องไส้หิวกิ่วก่อนออกว่าราชการสักชิ้นสองชิ้น การถวายพระพรนี้ผ่านไปอย่างเรียบง่าย และตลอดวันที่สี่ของนางก็เช่นกัน





หากโรลเพลย์ไม่สคริปจะได้ความโปรดปรานไท่โฮ๋ว+10 / ค่าบารมี+15 คูณ 2 !!!

[NPC-01] ฮั่นอู่ตี้
+5 พูดคุยประจำวัน
+20 หัวดีโบนัสความสัมพันธ์

[NPC-02] เซียวจื่อไท่โฮ่ว
+5 พูดคุยประจำวัน
+20 หัวดีโบนัสความสัมพันธ์
+20 ความสัมพันธ์ ขนมว่างเกรดทอง + (+5) ชาอะไรก็ได้ หรือ ชาเกรดทอง (+10)

@Admin


แสดงความคิดเห็น

หัวใจของหวงตี้ถึงลิมิตแล้ว  โพสต์ 2024-8-5 22:03
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-02] เซียวจื่อไท่โฮ่ว เพิ่มขึ้น 55 โพสต์ 2024-8-5 22:03
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-01] ฮั่นอู่ตี้ เพิ่มขึ้น 25 โพสต์ 2024-8-5 22:02
โพสต์ 10737 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2024-8-5 21:57
โพสต์ 10,737 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม +5 ความโหด จาก ชุดเหวินชิงฮวาเฟิน(เสียนอี๋)  โพสต์ 2024-8-5 21:57
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ยอดคีตศิลป์
อัจฉริยะ
กระบี่
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
แหวนดาราจรัส(D)
พัดคุณชาย
พู่กันคัดอักษร
ชุดเหวินชิงฮวาเฟิน(เสียนอี๋)
หมวกไผ่ผ้าคลุม
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x16
x5
x10
x38
x1
x179
x2
x5
x2
x1
x163
x2
x2
x4
x6
x1
x1
x21
x33
x10
x2
x1
x19
x10
x4
x6
x3
x20
x2
x2
x11
x15
x134
x4
x3
x2
x277
x10
x4
x238
x6
x64
x33
x1
x50
x111
x67
x26
x164
x6
x17
x81
x16
x10
x21
โพสต์ 2024-8-8 20:28:27 | ดูโพสต์ทั้งหมด

ยามเหลียนฮวาเบ่งบาน
วันที่เจ็ด ปาเยว่ เจี้ยนหยวนศกที่สิบ
กลางยามอิ๋น (04.30 น.)




     ต่อให้เมื่อคืนนางจะกลับเสียดึกดื่นทั้งยังนึกบางสิ่งออกจนต้องนั่งจดบันทึกทบทวนเสียนานจนไม่ได้นอนพักผ่อนให้เร็วขึ้น นางที่หลับไหลไม่ถึงสองชั่วยามจำต้องลุกขึ้นตั้งแต่ต้นยามอิ๋นเพื่ออาบน้ำแต่งกายผลัดอาภรณ์ให้เรียบร้อยและเดินทางจากตำหนักเถียนเซี่ยมายังตำหนักเซวียนเต๋ออันเป็นกิจวัตรที่ไม่อาจผัดวันประกันพรุ่งได้เมื่อนางเริ่มขึ้นมาเป็นเจี๋ยอวี้ ยิ่งเป็นเสียนอี๋ยิ่งต้องไปเพราะอย่างน้อยได้สนทนากับเจี่ยเจียผู้เป็นสหายสนิทสักเล็กน้อยยามเช้า ถือว่าได้ปฏิสัมพันธ์แล้ว

   “ถวายพระระไท่โฮ่ว ขอทรงพระเจริญพันปี พันปี พันพันปี”

   “คำนับอ้ายเจียแล้วก็ลุกขึ้นเสีย อย่าได้มากพิธี” สุรเสียงของสตรีผู้มีอายุเอ่ยกับพระสนมทั้งสองที่เดินทางมาถวายพระพรแด่พระนาง “ได้ยินว่าเจ้าแอบไปจัดงานวันเกิดของอ้ายเจียงั้นรึ พระสนมเสียนอี๋”

   “แอบเตรียมอันใดเพคะ หม่อมฉันเพียงได้รับราชโองการจัดงาน ทั้งยังต้องการทำให้พระองค์ประหลาดใจด้วย ย่อมต้องกุมเก็บความลับของรายละเอียดเสียหน่อย”

   “เจ้าเอ่ยเช่นนี้แล้วอ้ายเจียจะตั้งตารอชมเชียว”

   ผู้สูงศักดิ์ทรงพระสรวลออกมาอย่างพอใจในคำตอบ นานแล้วที่ผู้จัดงานให้พระองค์เป็นหวางเย่ ไม่ก็ หวงตี้ นี่เป็นครั้งแรกที่สตรีผู้เป็นสนมของโอรสแห่งพระนางจะได้จัดตามที่สมควร

   สตรีย่อมเข้าใจสตรี เช่นนั้นแล้วไหนเลยที่พระนางจะไม่ตั้งความหวังไว้เสียสูงฉิบ

   “องค์หวงตี้เสด็จ”

   “ถวายพระพรองค์หวงตี้ ขอทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นหมื่นปี”

   สิ้นเสียงของจางกงกงเอ่ยบอกการมาถึงของโอรสสวรรค์ สตรีทั้งโถงตำหนักเถียนเซี่ยลุกขึ้นถวายพระพรโดยพลันยกเว้นองค์ไท่โฮ่ที่กวักมือให้หวงตี้มานั่งบนตั่งนั่งข้างกาย

   “ฝ่าบาทมาหาอ้ายเจียไม่หน่าย ไม่เอาเวลาไปบรรทมพักสายพระเนตรหน่อยหรือ”

  “ทูลเสด็จแม่ ลูกสบายดี หากมิได้มาเยี่ยมยามเช้าเกรงว่าพระองค์จะเหงาเอา”

  “เหงาอันใด ไหนจะลู่เจี๋ยอวี้ ไหนจะเว่ยเจียเสียนอี๋ อ้ายเจียมีคนมาหาทุกเช้าเช่นนี้ไหนเลยจะเหงา”

   การถวายพระพรยามเช้านี้ก็เป็นไปอย่างเช่นทุกที เอ่ยถามสารทุกข์สุกดิบ เหลียนฮวาเองก็เอ่ยบอกให้นางกำนัลคอยเตรียมขนมถวายยามเช้าไว้แล้วจึงเดินไปถวายขนมไหมฟ้าคู่กับชาไป๋หาวอิ๋นเจินเพื่อให้องค์ไท่โฮ่วได้เพลิดเพลินทั้งการสนทนาและขนมหวานรสเลิศ ใช้เวลาราว ๆ เกือบครึ่งชั่วยามเช่นเดิมก่อนที่ผู้คนในตำหนักนี้ทั้งหมดจะออกจากตำหนักเพื่อไปทำธุระของตนเองหลังเสร็จสิ้นการถวายพระพร ในระหว่างที่เดินออกมานี้เองเว่ยเจียเหลียนฮวาเร่งฝีเท้าก้าวไปขอเข้าเฝ้าองค์หวงตี้ทันทีที่องค์ไท่โฮ่วหายไปจากลานสายตา

   “ฝ่าบาทเพคะ หม่อมฉันต้องการปรึกษาฝ่าบาทเรื่องงานฉลองพระชนมพรรษาขององค์ไท่โฮ่ว”

   “ปรึกษา ?”

   “เพคะ หม่อมฉันหากนับดูแล้วเป็นเพียงสตรีที่อยู่ร่วมกับพระนางเพียงเดือนเดียว ไหนเลยจะรู้ใจพระนาง ในความคิดของหม่อมฉันสู้ถามผู้รู้คงจะดีกว่า ไปถามถงกู่กูก็เกรงความลับจะเปิดเผย เช่นนั้นแล้วมิสู้ถามโอรสในองค์ไท่โฮ่วดีกว่าหรือ หม่อมฉันจึงขอบังอาจขอเวลาจากฝ่าบาทสักครู่เพคะ”

   “ได้ ไปเว่ยหยาง”


   สิ้นวจีทรงอำนาจ นางก็เดินตามแผ่นหลังกว้างในอาภรณ์มังกรทองเดินไปยังตำหนักเว่ยหยางทันที





หากโรลเพลย์ไม่สคริปจะได้ความโปรดปรานไท่โฮ๋ว+10 / ค่าบารมี+15 คูณ 2 ด้วยเพคะะะะะ

[NPC-01] ฮั่นอู่ตี้
หัวใจของเธอ จงปลดล็อก !!!

[NPC-02] เซียวจื่อไท่โฮ่ว
+5 พูดคุยประจำวัน
+20 หัวดีโบนัสความสัมพันธ์
+20 ความสัมพันธ์ ขนมว่างเกรดทอง +  ชาเกรดทอง (+10)

@Admin

แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-02] เซียวจื่อไท่โฮ่ว เพิ่มขึ้น 65 โพสต์ 2024-8-8 20:32
โพสต์ 12143 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2024-8-8 20:28
โพสต์ 12,143 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม +5 ความโหด จาก ชุดเหวินชิงฮวาเฟิน(เสียนอี๋)  โพสต์ 2024-8-8 20:28
โพสต์ 12,143 ไบต์และได้รับ +4 ความชั่ว +5 ความโหด จาก มีดแล่เนื้อ  โพสต์ 2024-8-8 20:28
โพสต์ 12,143 ไบต์และได้รับ +4 คุณธรรม +3 ความชั่ว +5 ความโหด จาก หมวกไผ่ผ้าคลุม  โพสต์ 2024-8-8 20:28

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังปราณ +30 ย่อ เหตุผล
Admin + 30

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ยอดคีตศิลป์
อัจฉริยะ
กระบี่
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
แหวนดาราจรัส(D)
พัดคุณชาย
พู่กันคัดอักษร
ชุดเหวินชิงฮวาเฟิน(เสียนอี๋)
หมวกไผ่ผ้าคลุม
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x16
x5
x10
x38
x1
x179
x2
x5
x2
x1
x163
x2
x2
x4
x6
x1
x1
x21
x33
x10
x2
x1
x19
x10
x4
x6
x3
x20
x2
x2
x11
x15
x134
x4
x3
x2
x277
x10
x4
x238
x6
x64
x33
x1
x50
x111
x67
x26
x164
x6
x17
x81
x16
x10
x21
โพสต์ 2024-8-12 13:34:12 | ดูโพสต์ทั้งหมด

ยามเหลียนฮวาเบ่งบาน
วันที่สิบเอ็ด ปาเยว่ เจี้ยนหยวนศกที่สิบ
กลางยามอิ๋น (04.00 น.)




     ผ่านพ้นค่ำคืนแสนสำคัญมาเรียบร้อยแล้ว เว่ยเจียเหลียนฮวาผู้เป็นสตรีที่ได้รับความชื่นชมมากมายจากการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ นางต้องนั่งฟังผู้คนพูดหลายครั้งหลายคราเชียวจนหูจะแฉะ เรียกได้ว่าการเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองในวันพระราชสมภพขององค์ไท่โฮ่วทำเอาสตรีพลังงานต่ำเตี้ยอย่างนางถึงกับง่วงงุนแทบหัวปักเตียงทันทีที่กลับตำหนัก ถ้าไม่ติดว่าจ้าวหนิงเฟยถูลู่ถูกังให้มาถอดปิ่นคลายอาถรณ์อาบน้ำใหม่ก่อนนอน นางคงไม่พ้นนอนทั้งอาภรณ์งามที่สุดที่นางเคยแต่งกายในวังหลังนี่แหละ

   ต้องเรียกว่า เป็นตุ๊กตาอย่างแท้จริง ขนาดโดนน้ำยังจะหลับตาอยู่อย่างนั้นจนจ้าวหนิงเฟยไม่อาจปล่อยได้สักขั้นตอน

   ในเช้าตรู่เกินกว่าที่ดวงอาทิตย์จะส่องแสงทายทัก เว่ยเจียเหลียนฮวากลับตื่นขึ้นมาโดยไม่อาจหักห้ามได้ เวลาของร่างกายและความเคยชินช่างน่ากลัวเกินกว่าที่นางคิดเสียแล้ว คนตัวเล็กหยัดกายขึ้นนั่ง บิดซ้ายขวาขี้เกียจอยู่นานสองนานกว่าจะเขย่าระฆังน้อย ๆ เป็นสัญญาณบอกถึงนางกำนัลนอกห้องว่านางตื่นแล้ว

   “เจ้า เอาจดหมายไปส่งให้เสี่ยวเอ้อร์สตรีที่ยืนต้อนรับว่าฝากส่งให้คุณชายหมั่นโถวปริศนา”

   เว่ยเจียเหลียนฮวายังคงจำได้ไม่ลืมว่านางมีสัญญาสำคัญอย่างการต้องเร่งไปช่วยเหลือสตรีผู้เป็นเจ้าของตัวอักษรฮั่นย่อเส้นที่นางจดจำได้อย่างน่าประหลาดยังสถานที่ที่แตกต่างจากต้าฮั่นโดยเช่นเดิม นางจึงเร่งหยิบพู่กันเขียนจดหมายให้เรียนร้อย บ่งบอกว่านางจะไปที่บึงสุ่ยปี้ในช่วงกลางยามซื่อ (10.00 น.) ให้ไปที่บึงได้เลย ปิดผนักจดหมายด้วยการม้วนผูกเชือกให้ดี ยื่นให้นางกำนัลสักคนที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ช่วยเหลือนางมากขนาดนั้นก็ได้ก่อนจะเดินไปให้นางกำนัลช่วยเหลือล้างหน้าผัดอาภรณ์ต่อไป

  จบที่สุดท้ายนางก็จัดการตัวเองให้เสร็จสรรพมายืนตรงหน้าตำหนักเซวียนเต๋อเช่นเดิม

   “ถวายพระพรไท่โฮ่ว ขอทรงพระเจริญพันปี พันปี พันพันปี”

   “ตายแล้วเสียนอี๋ อ้ายเจียบอกแล้วอย่างไรเล่าว่าเช้านี้ไม่ต้องมาก็ได้ เจ้าไม่เหนื่อยรึ ?”

   ครั้นได้ยินเช่นนี้ดวงหน้าของสตรีผูัได้รับการยกเว้นที่กำลังก้มหน้าลงอยู่เพราะยังคงการยอบกายไว้พลันงุนงงว่านางได้ยินตอนไหนกัน แล้วภาพในงานเลี้ยงท้ายงานที่องค์ไท่โฮ่วเรียกไปพบอีกคราก่อนแยกย้ายก็ฉายชัด สงสัยนางคงเหนื่อยเกินไปจนลืมไปแม้กระทั่งสิ่งที่นางควรจะจำได้เพื่อให้ตนเองไม่ต้องมาตาตื่นแบกสังขารยอบกายเช่นนี้แท้ ๆ

  จะบอกว่าลืมก็ไม่ได้ บ้าจริง

   “ทูลไท่โฮ่ว แม้หม่อมฉันจะเหนื่อยเพียงใด ทว่าการมาถวายพระพรเพื่อพบปะพระองค์ล้วนเป็นหน้าที่ของพระสนมทุกคนเพคะ ไหนเลยจะมีสิทธิพิเศษใด ๆ ให้นอนสบายในตำหนัก อีกทั้งที่หม่อมฉันมายืนตรงนี้เป้นการแสดงถึงเจตจาที่หม่อมฉันตั้งใจมาด้วยตนเองเพคะ”

   …มีตกรางวัลสตรีเสแสร้งยอดเยี่ยมหรือไม่กัน ?

   แล้วการถวายพระพรในครานี้ก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยความต้องการให้เว่ยเจียเหลียนฮวากลับไปพักผ่อนที่จวนเสีย ซึ่งเป็นเรื่องที่นางขอบพระทัยอย่างสุดซึ้งเพราะว่ากลางยามซื่อนางต้องไปข้างนอก การใช้ข้ออ้างเอ่ยว่านางต้องการการพักผ่อน อ ย่ า ง ม า ก คงทำให้ผู้คนไม่ตามหานางไปสักพัก

   อย่างน้อยก็วันนี้ทั้งวัน…





หากโรลเพลย์ไม่สคริปจะได้ความโปรดปรานไท่โฮ๋ว+10 / ค่าบารมี+15 คูณ 2 ครับ


@Admin

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 11110 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2024-8-12 13:34
โพสต์ 11,110 ไบต์และได้รับ +4 คุณธรรม จาก พัดคุณชาย  โพสต์ 2024-8-12 13:34
โพสต์ 11,110 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม +2 ความโหด จาก บัณฑิต  โพสต์ 2024-8-12 13:34
โพสต์ 11,110 ไบต์และได้รับ +2 EXP +4 คุณธรรม จาก พู่กันขนแพะ  โพสต์ 2024-8-12 13:34
โพสต์ 11,110 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม +5 ความโหด จาก ชุดเหวินชิงฮวาเฟิน(เสียนอี๋)  โพสต์ 2024-8-12 13:34

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังปราณ +30 ย่อ เหตุผล
Admin + 30

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ยอดคีตศิลป์
อัจฉริยะ
กระบี่
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
แหวนดาราจรัส(D)
พัดคุณชาย
พู่กันคัดอักษร
ชุดเหวินชิงฮวาเฟิน(เสียนอี๋)
หมวกไผ่ผ้าคลุม
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x16
x5
x10
x38
x1
x179
x2
x5
x2
x1
x163
x2
x2
x4
x6
x1
x1
x21
x33
x10
x2
x1
x19
x10
x4
x6
x3
x20
x2
x2
x11
x15
x134
x4
x3
x2
x277
x10
x4
x238
x6
x64
x33
x1
x50
x111
x67
x26
x164
x6
x17
x81
x16
x10
x21

3

กระทู้

122

ตอบกลับ

3259

เครดิต

เริ่มมีชื่อเสียง

พลังน้ำใจ
2168
ตำลึงทอง
110
ตำลึงเงิน
441
เหรียญอู่จู
15357
STR
66+13
INT
65+0
LUK
0+5
POW
50+0
CHA
15+0
VIT
13+5
คุณธรรม
2377
ความชั่ว
1202
ความโหด
2595
โพสต์ 2024-8-13 16:43:59 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Longyue เมื่อ 2024-8-13 16:55





.ไท่โฮ่วจะลงอาญาผมไหม @Admin 


CHAPTER 18

วันที่สามเดือนแปดแห่งรัชศกเจี้ยนหยวนปีที่สิบ
วันอังคาร ช่วงใกล้ค่ำ


“ หลินกูกู่เป็นชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆ เมืองหวู่เว่ย เข้าวังในตอนที่เมืองถูกแถบทุ่งหญ้ารุกราน— ในช่วงปีนั้นนายท่านผู้เฒ่าผู้ล่วงลับช่วยเหลือเด็กกำพร้าไว้หลายคน ยุคข้าวยากอาหารขาดแคลนแม้แต่ทหารยังต้องกินโคลนและรากไม้ประทังชีวิต กลัวว่าพวกเขาจะอดตายจึงส่งเด็กกำพร้าที่ไร้ทางไปให้มารับใช้ในวัง หลินกูกู่คือหนึ่งในจำนวนนั้นเจ้าค่ะ ”

นายผู้เฒ่าผู้ล่วงลับในสกุลตวนมู่มีกันหลายคน เรื่องนี้คงจะเกิดในช่วงรอยต่อการเปลี่ยนผ่านอำนาจของเซี่ยงหนิงต้าเจียงจวินและเว่ยกวงต้าเจียงจวิน (รุ่นปู่หลงเยวี่ย) กระมัง

หลงเยวี่ยในอาภรณ์สีเย็นตาปักลวดลายประดับเพียงเล็กน้อยเรียบง่ายกำลังเดินไปที่ตำหนักเซวียนเต๋อ หญิงสาวพยักหน้า… บิดาและท่านปู่ของนางล้วนแต่เป็นวิญญูชนอย่างแท้จริง

และเป็นเพราะบรรพบุรุษถึงมีนางในยามนี้

“--ดี ดูแลนางให้ดี”

.

.

เมื่อมาถึงตำหนักเซวียนเต๋อรอยยิ้มของหลงเยวี่ยก็แลดูอบอุ่นเป็นมิตร ไท่โฮ่วเวลานี้ประทับอยู่ที่ห้องอุ่นของพระตำหนักข้างในตำหนักเซวียนเต๋อ พระพักตร์แลดูอ่อนล้าและเบื่อหน่าย ห่างจากพระองค์มีโถน้ำแข็งวางอยู่ นางกำนัลรุ่นเยาว์กำลังเก็บโถวางน้ำแข็งเพราะยามนี้ตะวันใกล้รอนแล้วอากาศจึงเริ่มเย็นขึ้น ยามกลางวันร้อนมายามดึกอากาศก็หนาวด้วยเช่นกัน

หลงเยวี่ยเอ่ยคำถวายพระพรไท่โฮ่วก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะเล็กด้านหน้าเตียง ใบหน้าแฝงรอยยิ้มอบอุ่น “มิได้มาเข้าเฝ้าพระนางหลายวันเพราะเกรงนิสัยหยาบกระด้างของหม่อมฉันจะทำให้ทรงขัดเคืองพระเนตร ทว่าหลายวันมานี้หลงเยวี่ยกลับมิอาจข่มใจกังวลถึงพระพลานามัยของพระนาง จึงได้ทำกุ้งผัดชาหลงจิ่งอาหารจากแถบบ้านเกิดของหม่อมฉันมาถวายเพคะ”

จือซินนำกุ้งผัดชาหลงจิ่งยื่นให้นางกำลังขั้นกลางในพระตำหนัก หลงเยวี่ยเอ่ยต่อ “กุ้งผัดชามีรสเข้มกินคู่กับข้าวต้มร้อนจะทำให้คล่องคอ หม่อมฉันเเคี่ยวน้ำซุปใสเพิ่มในสำรับหวังว่าพระนางจะโปรดปราน”

หวังจื้อไม่มีเหตุผลที่จะต้องทำสีหน้าเคร่งขรึมให้นางสนมรุ่นเยาว์ต้องหวาดกลัว นางพยักหน้าเบาๆ เผยรอยยิ้มเจือจาง “เจ้ามีใจกตัญญูต่อข้า (อายเจีย) ก็นับเป็นเจตนาดีที่ล้ำค่า ยังอุตส่าห์ลงแรงทำอาหารมาให้ทันมื้อเย็น— ข้าย่อมโปรดปราน สั่งให้ห้องเครื่องนำไปอุ่นเตรียมขึ้นสำรับเย็นนี้” ถงกูกู่ยอบกายรับคำแล้วสั่งคนไปรายงานห้องเครื่อง— ถัดมานางกำนัลที่รับชาขาวเข็มเงินจากหลงเยวี่ยไปต้มก็เดินเข้ามาพร้อมชุดชา

หลงเยวี่ยก้มลงยิ้มบาง

“ท่านย่าของหม่อมฉันโปรดชาขาวเข็มเงินมาก กล่าวว่าได้กลิ่นอายของฤดูใบไม้ผลิ ขับไล่ความร้อนและล้างพิษ หม่อมฉันนำใบชาใหม่ที่เพิ่งเก็บในปีนี้ติดตัวมามาก จึงแบ่งมาที่ตำหนักเซวียนเต๋อถวายแก่พระองค์…” หลงเยวี่ยรับถาดชาจากนางกำนัลส่งต่อให้ไท่โฮ่ว “พระสุคนธรสชานี้ของพระนางเทียบเครื่อง (ลองลิ้มรส) เพคะ ”

จูอิ้งหวา— (ย่าของหลงเยวี่ย)ก่อนหน้านั้นเคยอาศัยอยู่ในเมืองหลวง ฟูเหรินของท่านแม่ทัพนับเป็นผู้ที่สูงศักดิ์ผู้หนึ่ง ย่อมเคยผ่านตาเซียวจื่อไท่โฮ่วมาก่อน

“ฟูเหรินผู้เฒ่าสกุลตวนมู่…” สุรเสียงของพระนางสูงขึ้นเล็กน้อย “...หลังจากหลานสาวนอกสกุลของนางแต่งเข้าสกุลตวนมู่ก็ย้ายออกจากเมืองหลวงไม่ได้พบอีกเลย กาลเวลาผ่านไปอย่างไร้ไมตรี…เวลานี้อาศัยอยู่ที่เจียงซู (เจี้ยนเย่) กระมัง”

“เพคะ”

“ชีวิตของนางเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวมากมาย จากระเบียงเหอซีถึงเจียงซู ทิศตะวันตกจรดตะวันออกของแผ่นดินฮั่นล้วนเคยเห็นประจักษ์แก่สายตาของตนเอง แผ่นฟ้ากว้างใหญ่ ผืนน้ำกว้างไกล ช่างเป็นวาสนาที่หญิงแก่ผู้ถูกกักขังไว้ในวังหลวงอย่างข้าไม่มีโอกาสได้พบพาน” เสียงของพระนางเนิบช้าคลับคล้ายทอดถอนใจ ใบหน้าประดับรอยยิ้มบางเบา… หลงเยวี่ยเคยได้ยินมาบ้าง สมัยองค์จักรพรรดิจิงตี้เกิดกบฎทั่วแผ่นดิน ด้านนอกรบรากับปีศาจและอนารยชน ด้านในก็ต้องรับศึกกับพระญาติ…การศึกไม่ว่างเว้นจนมาสมัยขององค์หวู่ตี้ถึงสงบลงมาบ้าง คาดเดาว่าไท่โฮ่วคงจะต้องพำนักอยู่ที่เมืองหลวงมาอย่างยาวนาน จึงกล่าวอย่างระมัดระวัง “พระนางทรงเป็นมิ่งขวัญของแผ่นดิน ผู้ใดก็ล้วนคำนึงถึงความปลอดภัยของพระองค์เพคะ…”

หวังจื้อมองนางอย่างเนิ่นนาน “สีหน้าของเจ้าดูดีขึ้นมากจริงๆ” หลงเยวี่ยก้มหน้าเผยรอยยิ้มเย็น นึกถึงวันที่ไท่โฮ่วตรัสถามว่า โกรธธิดาสกุลลู่หรือ มุมปากยกยิ้มอย่างเลือนราง “เพราะคำชี้แนะจากพระนางเพคะ”

“ดี…”

พระเนตรของไท่โฮ่วแม้จะแจ่มใสชื่นมื่นแต่ก็แฝงความเศร้าซึมอย่างเลือนราง อาจเป็นเพราะการเสด็จแดนไกลขององค์หญิงผิงหยาง อาจเป็นเช่นนั้นฝ่าบาทจึงมีรับสั่งให้เหล่าสนมแวะเวียนมาพูดคุยและบรรเลงเครื่องดนตรีให้สำราญพระทัย “วันนี้หม่อมฉันนำเครื่องดนตรีมาด้วย…” เดิมทีหลงเยวี่ยไม่อยากแสดงการดนตรีให้อับอายขายหน้าผู้อื่นเพียงแต่นางก็มีย่าผู้หนึ่งที่ต้องการการเอาใจจากหลานๆ ท่านย่าของนางแย้มยิ้มอย่างดงามทุกคราที่อิ๋นซีและอิ๋นเหวินไปเยี่ยมคารวะ ตำหนักของไท่โฮ่วเงียบเหงานัก ช่างชวนให้นึกถึงใบหน้าหม่นเศร้าหน้าพระพุทธรูปของท่านย่า

“หม่อมฉันเป็นเพียงหญิงสาวบ้านนอก ไม่มีความสามารถพิเศษเพียงแต่ทำนองเพลงของสำนักดนตรีก็เคยได้ยินมาบ้าง…” จะพูดให้ถูกต้อง ทักษะการร่ายรำและดนตรีของหลงเยวี่ยหาได้ถูกสอนอย่างถูกต้องตามแบบแผน ทหารในกองทัพนิยมมีบ้านเล็กนางระบำขับร้อง เพราะความชื่นชมที่มีต่อองค์รัชทายาทในยามนั้นถึงได้เคี่ยวกร่ำบางทักษะมาบ้าง “ผีผาเพลงนี้เป็นทำนองของเจียงหนานหวังให้พระนางสำราญพระทัย”

“ลองเล่นเถิด—-”

หลงเยวี่ยรับผีผาจากจือซินลองดีดปรับเสียง นางชมชอบบทเพลงที่ห้าวหาญน้อยนักจะดีดเพลงอ่อนหวานทำนองเชื่องช้า ปลายนิ้วแตะลงบนเส้นเสียง ทำนองอันแช่มช้าเริ่มขับขาน สำเนียงดนตรีดังกังวานในพระตำหนักเสนาะใสกว่าเสียงหยกกระทบกัน

สายฝนโปรยปรายสะท้อนบนสะพานหินเล็กๆ 
ร่มกระดาษประดุจเดียวกับหยาดฝนที่รินไหล 
หันกลับไปตามทางเดิน เสียงของผิงถาน(เล่าประกอบร้อง)ดังขึ้นเบาๆ 
ในซอกเล็กๆ ใต้สายฝน อบอวลด้วยกลิ่นสุรา 
สายลมโชยระเรื่อยริมตลิ่งเล็ก 
กิ่งหลิวไหวแกว่งเอนส่าย 
ออกจากตรอกเสียงฆ้องและกลองกังวาน 
ฮวาต้าน(ดาวเด่น)ในคณะละครขับขานบทงิ้วสือฝาน 
ในเมืองเล็กบนถนนคับแคบ ผู้คนเดินจ่ายตลาด 
ซื้อผ้าลายดอกหลันตัดทำอาภรณ์ 
ใต้ต้นไม้ใหญ่ในอารามมีเสียงตะโกนขายของพ่อค้าเร่ 
ขนมกุ้ยฮวาถูกข้ากินจนเกลี้ยง
 .
 . 
เรือหวู่เผิงค่อยๆ แล่นตามเกลียวคลื่นน้ำ 
แล่นผ่านดวงหน้าโรยราตามกาลเวลามากมาย คล้ายชีวิตแปรเปลี่ยนผกผัน 
เรื่องราวไม่รู้กี่มากน้อยในเมืองเล็ก เล่าขานบอกต่ออย่างเงียบๆ 
ลำนำที่ขับขานไหลไปตามลำน้ำในเมืองเก่า


ท่วงทำนองอ่อนหวานชดช้อยประดุจสายน้ำไหล บรรยายทิวทัศน์ของบ้านเมืองนอกนครหลวงแห่งแคว้นต้าฮั่น ความอบอุ่นอ่อนหวานแผ่ซ้อนขึ้นมาอย่างบางเบา ชวนให้นึกถึงความสงบเงียบประดุจวารีไหล ไท่โฮ่วพริ้มสายตาสดับฟังใบหน้าผ่อนคลาย จนเมื่อจบเพลงก็แย้มสรวลบางๆ

“บรรเลงได้มีชีวิตชีวา”

บทเพลงของหลงเยวี่ยย่อมไม่อาจเทียบเคียงสำเนียงอันเสนาะหวานแฝงความสูงส่งของเหล่าสตรีในวังได้ ทว่ากลับมีกลิ่นอายของชีวิตในธุลีดินแดง กลายเป็นท่วงทำนองที่มีชีวิตชีวาของผู้คน

บรรเลงได้ไม่สมบูรณ์แบบ และเพราะไม่สมบูรณ์แบบจึงเปี่ยมด้วยชีวิตชีวา

ดวงเนตรของไท่โฮ่วค่อยๆ เบิกขึ้นอย่างเชื่องช้า แย้มรอยยิ้มแผ่วเบา “...คิดถึงบ้านก็บอกข้าผ่านบทเพลง เจ้าเป็นเด็กขี้อายเสียเมื่อไหร่”

“พระนางทรงพระปรีชาเพคะ วังหลวงงดงามโอ่อ่า อาภรณ์และอาหารสิ่งใดก็ล้วนแต่เป็นของที่ดีที่สุดในแผ่นดิน หม่อมฉันพำนักอยู่ในตำหนักเมิ่งเหยาเพราะพระเมตตาจึงไม่เคยขาดเหลือสิ่งใด ชีวิตพรั่งพร้อมสมบูรณ์ก็มีแต่หัวใจที่เปลี่ยวเหงา”

นางกวักมือเรียกหลงเยวี่ยมานั่งใกล้ๆ มองฝ่ามือที่แฝงไปด้วยริ้วรอยอันกระด้างของผู้ฝึกวิชาอาวุธ พลันภาพสะท้อนธิดาของตนซ้อนทับขึ้นมาอย่างเงียบงัน

หวังจื้อคล้ายทอดถอนใจ “...พระนางอันใดกัน ล้วนแต่เป็นสะใภ้ของข้า”

แม้หลงเยวี่ยจะขวัญกล้าเทียมฟ้า…ทว่าการแกล้งทำตัวสนิทสนมเอ่ยเรียกพระนางว่าเสด็จแม่ก็ช่างเหนือบ่ากว่าแรง

“เอาเถิด…นัยน์ตาของเจ้าเป็นประกายอย่างเด็กสาว เรื่องของฝ่าบาทข้าจะช่วยเจ้าสักครา— หมั่นเอาใจข้าเป็นเรื่องของความกตัญญูทว่าหน้าที่ของเจ้าคือตั้งครรภ์พระทายาท หาโอกาสเข้าเฝ้าฝ่าบาทให้มากๆ…”

“ขอบพระทัยที่ทรงชี้แนะเพคะ”

ความอิจฉาริษยาของนางล้วนเป็นเพราะชมชอบหวงตี้ เห็นแก่น้ำใสใจจริงของนางก็จะลองเลือกหลับตาข้างหนึ่ง

 
ฮวงจุ้ยดีอัพเกรดพรสวรรค์ที่นี่แหละ! 

คนกำยำ (น้ำเงิน)(+10) > 
เงื่อนไขพัฒนาคลาส: 
- Level 15 เป็นต้นไป [เช็ค] 
- สเตตัส STR 20 ขึ้นไป [เช็ค]
 
เล่นดนตรีแนวสงบสบาย ถวายไท่โฮ่ว
(ถ้าเล่นแนวห้าวๆ จะถูกทัณฑ์บนไหมฮะ— เพลงเข้าสตอรี่เบาหูแทบจะไม่ค่อยฟัง)

รางวัลงาน: +50 พลังใจ, 3 ตำลึงทอง , +25 EXP , +10 บารมี ,

และ +10 ตบะฝึกฝนจากการฝึกฝนดนตรีสม่ำเสมอ


[NPC-02] เซียวจื่อไท่โฮ่ว

+25 ความสัมพันธ์ อาหารเกรดทอง + (+5) ชาหรือสุราก็ได้ **กุ้งผักชาหลงจิ่ง&ชาขาวเข็มเงิน**  (บวกชาเกรดทองไม่ได้สัก 10 แต้มเบ๋อ)

โบนัสอาหารปรุงและชงชา +10

โรลเพลย์พูดคุยประจำวัน ได้รับความสัมพันธ์+5 แต้ม

หัวบ้า โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+10

รวม 55 EXP



แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-02] เซียวจื่อไท่โฮ่ว เพิ่มขึ้น 20 โพสต์ 2024-8-13 19:59
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-01] ฮั่นอู่ตี้ เพิ่มขึ้น 35 โพสต์ 2024-8-13 19:58
คุณได้รับ 25 EXP โพสต์ 2024-8-13 17:44
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-02] เซียวจื่อไท่โฮ่ว เพิ่มขึ้น 55 โพสต์ 2024-8-13 17:44
อย่าลืมส่งคนแข็งแรงมาแรกนะ  โพสต์ 2024-8-13 17:44

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +50 ตำลึงทอง +3 ตบะฝึกฝน +10 พลังปราณ +10 ย่อ เหตุผล
Admin + 50 + 3 + 10 + 10

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
นักสู้
บทสวดมนต์ฉบับคัดลอก
บาดเจ็บสาหัส
พู่กันคัดอักษร
ชุดเหวินเฉิน(เหม่ยเหริน)
ผีผา
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x5
x2
x19
x4
x1
x4
x8
x9
x2
x3
x5
x4
x2
x1
x2
x1
x3
x5
x2
x4
x20
x1
x7
x3
x1
x2
x6
โพสต์ 2024-8-13 22:09:55 | ดูโพสต์ทั้งหมด

ยามเหลียนฮวาเบ่งบาน
วันที่สิบสอง ปาเยว่ เจี้ยนหยวนศกที่สิบ
กลางยามอิ๋น (04.00 น.)




   “ถวายพระพรไท่โฮ่ว ขอทรงพระเจริญพันปี พันปี พันพันปี”

   เสียงของสตรีผู้มียศสูงกว่าเจี๋ยอวี้ทั้งหลายเอ่ยดังขึ้นในตำหนักเซวียนเต๋อช่วงกลางยามอิ๋นหนึ่งในนั้นย่อมต้องมีเสียงของสตรีผู้ที่บัดนี้ดำรงตำแหน่งพระสนมเอกขององค์หวงตี้อย่างเว่ยเจียเสียนอี๋อยู่ในนั้น พวกนางผลัดการเอ่ยสนทนา ถามไท่สารทุกข์สุขดิบประจำวันเช่นอย่างที่เคยทำ พ่วงมาด้วยบางสิ่งที่เหลียนฮวารู้สึกเบื่อหน่ายพร้อมกับคิดถึงการร่ายรำของเจี่ยเจียของนางยิ่งนักจึงเอ่ยเสนอบางสิ่งที่นางนึกซุกซนขึ้นมาได้

   “ทูลไท่โฮ่ว หม่อมฉันแลเห็นว่าการมาถวายพระพรพระองค์กันสองคนเช่นนี้ทุกเช้าคงจะจำเจจนทำพระองค์เบื่อหน่าย เช่นนั้นแล้วหากพระองค์ทรงอนุญาตหม่อมฉันขอบรรเลงเพลงสักเพลง ให้ลู่เจาอี๋ร่ายรำสักหน่อย ถวายความสำราญแด่พระองค์คงดีมิใช่น้อย”

   ดวงตาหงส์คมกริบหันมองขวับมาทันใด เหลียนฮวาตัวดีแสร้งสางเรือนผมยาวของตนเล่นแสดงท่าทีว่านางมิได้เจตนาร้ายกระไร แม้ว่าจริง ๆ แล้วนางก็แค่อยากหยอกเอินคนกันเองเล่นราวห้าส่วน แต่อีกห้าส่วนที่ว่าอยากแลเห็นนางร่ายรำคือเรื่องจริง มือเรียวหยิบขลุ่ยที่พกติดกายเสมอขึ้นมาเตรียมเป่า พอได้รับสัญญาณของความพร้อมแกมหน่ายใจในความซุกซนของนางก็เริ่มบรรเลงบทเพลงสดใสเคล้าคลอกับการร่ายรำ

   “หวงตี้เสด็จ”

  “ถวายพระพรหวงตี้ ขอทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นหมื่นปี”

   การถวายพระพรในเช้านี้ก็เต็มไปด้วยบทเพลงและความสำราญตามประสาสตรี ไม่นานเมื่อแลเห็นหวงตี้เข้ามาเช่นเดิมในทุกทุกเช้าก็ต่างหยุดการบรรเลงและร่ายรำเพื่อยอบกายถวายความเคารพแด่โอรสสวรรค์

   “ฝ่าบาทมาเร็วเข้า มานั่งข้างอ้ายเจีย ลู่เจาอี๋ร่ายรำงดงามนัก” องค์ไท่โฮ่วเอ่ยชื่นชมออกหน้า “เอ้า เมื่อครู่นี้ยังไม่จบบทบรรเลงเลย พวกเจ้าก็ต่อให้จบเถิด”

   “เพคะ”

   สตรีผู้เป็นพระสนมเอกทั้งสองยอบกายตอบรับตามระเบียบ ลู่ไป๋หรั่นเตรียมกายตั้งท่าเริ่มร่ายรำ เว่ยเจียเหลียนฮวาที่ถือขลุ่ยอยู่ก็ยกเครื่องเป่าเลาเก่งยกขึ้นเตียมจรดริมฝีปากพรูลมหายใจบรรเลงบทเพลงงดงาม ชั่วขณะนั้นดวงตากลมเลื่อนขึ้นพิศมองร่างสูงในอาภรณ์มังกรทองสูงส่งบนตั่งทรงอำนาจ แลเห็นพระเนตรคมเลื่อนสายตาจากพระราชชนนีของพระองค์ผ่านไปจรดทิ้งไว้ที่เจ้าของโฉมงามดุจหยกแกะสลักลายเถาฮวาผลิแย้ม ฉันนั้นในดวงใจน้อย ๆ พลันบีบรัดโดยไม่อาจหักห้าม ตะกอนความทรงจำที่นางเชื่อมั่นว่าคงมีน้ำหนักภายในใจไม่มากก็น้อยตีขึ้นฉายชัดจนต้องตั้งสติให้มั่นทันใดที่สตรีผู้เป็นเจี่ยเจียเอ่ยทัก

  “เหม่ยเหมย”

   “ไม่มีกระไรเจี่ยเจีย ข้าเพียงทวนว่าตนเองเป่าไปถึงท่อนแล้ว”

   หนังยิ้มเนื้อไม่ยิ้ม ใบหน้าของสตรีผู้มีความงามดั่งเหลียนฮวาดอกน้อยบนบึงกว้างเป็นเพียงไม้ดอกประดับภาพฉายจันทร์สะท้อนผิวน้ำแย้มยิ้มขึ้นมาโดยหวังไม่ให้ผู้ใดทายทักนางได้อีก เว่ยเจียเหลียนฮวาสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วจรดริมฝีปากกับขลุ่ยลายใบหลิวพรูลมหายใจบรรเลงท่วงทำนองสดใสอีกครา ทำเพียงจดจ้องการแสดงที่นางเฝ้ามองมาตลอดไม่ว่าจะที่สถานศึกษาหรือหน้าพระพักต์ผู้ใดก็ตาม

   หากนี่คือจวนสักจวนคงเป็นดั่งฉินเช่อสอดประสาน หากเป็นพฤกษางามเขาคือกิ่งทองนางคือใบหยก หากเป็นนวนิยายม้วนประโลมโลกคนเป็นบทประพันธ์กลั่นกรองร้อยเรียงภาพฝันของสตรีแรกแย้ม

   บุรุษสูงศักดิ์จดจ้องสตรีงามผู้เป็นภรรยาร่ายรำกอบกุมดวงใจ ย่อมซึ้งกินใจมิใช่น้อย

   ลมโชยมาย่อมพัดไป จันทราฉายแสงย่อมดับลง ความโปรดปราานเหล่านี้แม้เป็นโอรสสวรรค์ก็ตาม มนุษย์ย่อมเป็นมนุษย์วันยังค่ำ เว่ยเจียเหลียนฮวาที่พิศมองภาพตรงหน้าที่งดงามเกินบรรยายพร้อมบรรเลงขลุ่ยเลาน้อยค่อย ๆ ลากท่วงทำนองสุดท้ายจนจบบทเพลงยอดนิยมของสตรีทั่วต้าฮั่น มือเรียวกอบกุมขลุ่ยไว้ในอ้อมอก ลุกขึ้นยอบกายทำความเคารพแด่ผู้ฟังกิตติมศักดิ์ทั้งสองพระองค์

   “ลู่เจาอี๋ร่ายรำได้งดงามนัก เว่ยเจียเสียนอี๋ก็บรรเลงได้สดชื่นยิ่ง ทำเอาอ้ายเจียอยากจะออกไปเดินเล่นอุทยานมันตอนนี้เลยเล่า”

   “ขอบพระทัยเพคะไท่โฮ่ว ทว่าหากพระองค์เสด็จไปประพาสผ่อนคลายในอุทยานยามนี้หม่อมฉันเกรงว่าน้ำค้างจะตกกระทบต้องลมโชยเอา”

   “อ้ายเจียไม่ได้ป่วยไข้ง่าย ๆ เสียหน่อย เจ้าก็ห่วงเกินไปนัก”

   “เสียนอี๋พูดถูก เสด็จแม่ต้องรักษาสุขภาพให้ดี”

   “ลูกเช่อนี่ก็กระไร มารดาหาได้อ่อนแอถึงเพียงนั้น” องค์ไท่โฮ่วตีแขนหนาของบุตรชายเบา ๆ ด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะเอ่ยปากเพียงพอแล้วกับการถวายพระพรวันนี้ “เอ้า ๆ เช่นนั้นอ้ายเจียจะได้ไปทำอย่างอื่นแทนแล้ว ไม่อยู่ให้เอ็ดจนเบื่อหน่ายหรอก เว่ยเจียเสียนอี๋ เจ้าก็มากับอ้ายเจียเสียสิ ไปขอพรเป็นเพื่อนกับอ้ายเจีย”

   “เพคะไท่โฮ่ว”


   เว่ยเจียเหลียนฮวารับคำก่อนจะเดินไปประคองสตรีผู้เป็นดั่งพระอัยยิกาแห่งต้าฮั่นลงจากตั่งนั่งองอาจเพื่อติดตามพระนางไปยังศาลสัจเทพอี๋เหอที่พระนางไปสักการะอยู่บ่อยครั้ง ทิ้งหนึ่งบุรุษผู้เป็นสามีไร้พิธีคำนับฟ้าดิน ทิ้งหนึ่งสตรีผู้เป็นดั่งพี่น้องสัญญาใจ ทิ้งไว้ให้พวกเขาทั้งคู่อยู่ตรงนั้นไม่หันกลับไปเมียงมองแม้สักครา ดวงหน้ากลมเล็กกระทำเพียงเงยใบหน้าขึ้นพิศมองดวงดาราพร่างพรายประดับราตรีกาล แลเห็นหมู่ดาวราชสีห์ที่นางไม่ได้ตั้งใจจะจดจ้องมองหาทว่ากลับเข้ามาในสายตาอย่างไม่อาจหักห้ามได้

   เมื่อครั้งหนึ่งได้มีความทรงจำอยู่ในนั้น ย่อมสะดุดตาชวนพิศให้คิดถึงภาพจำ

   ครานี้เว่ยเจียเหลียนฮวาแย้มยิ้มออกมาอีกครั้ง ด้วยความรู้สึกมากมายเกินบรรยายกับใบหน้าของคนผู้หนึ่งและเรียวนิ้วที่ชี้วาดราชสีห์เหนือฟากฟ้าก่อนจะก้าวเท้าขึ้นรถม้าติดตามองค์ไท่โฮ่วไปกราบไหว้สัจเทพอี๋เหอ 





หากโรลเพลย์ไม่สคริปจะได้ความโปรดปรานไท่โฮ๋ว+10 / ค่าบารมี+15 คูณ 2 ครับ

รางวัลงาน: +50 พลังใจ, 3 ตำลึงทอง , +25 EXP , +10 บารมี , 
และ +10 ตบะฝึกฝนจากการฝึกฝนดนตรีสม่ำเสมอ
ความโปรดปรานจากหวงตี้ +35 แต้ม

[NPC-01] ฮั่นอู่ตี้
+5 พูดคุยประจำวัน
+20 หัวดีโบนัสความสัมพันธ์

[NPC-02] เซียวจื่อไท่โฮ่ว
+5 พูดคุยประจำวัน
+20 หัวดีโบนัสความสัมพันธ์



@Admin

แสดงความคิดเห็น

หัวใจตัน  โพสต์ 2024-8-13 22:18
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-02] เซียวจื่อไท่โฮ่ว เพิ่มขึ้น 55 โพสต์ 2024-8-13 22:16
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-01] ฮั่นอู่ตี้ เพิ่มขึ้น 60 โพสต์ 2024-8-13 22:14
คุณได้รับ 25 EXP โพสต์ 2024-8-13 22:14
โพสต์ 18747 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2024-8-13 22:09

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +50 ตำลึงทอง +3 ตบะฝึกฝน +10 พลังปราณ +40 ย่อ เหตุผล
Admin + 50 + 3 + 10 + 40

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ยอดคีตศิลป์
อัจฉริยะ
กระบี่
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
แหวนดาราจรัส(D)
พัดคุณชาย
พู่กันคัดอักษร
ชุดเหวินชิงฮวาเฟิน(เสียนอี๋)
หมวกไผ่ผ้าคลุม
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x16
x5
x10
x38
x1
x179
x2
x5
x2
x1
x163
x2
x2
x4
x6
x1
x1
x21
x33
x10
x2
x1
x19
x10
x4
x6
x3
x20
x2
x2
x11
x15
x134
x4
x3
x2
x277
x10
x4
x238
x6
x64
x33
x1
x50
x111
x67
x26
x164
x6
x17
x81
x16
x10
x21
โพสต์ 2024-8-16 13:10:19 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย LuBairan เมื่อ 2024-8-16 14:10




ถวายพระพรยามเช้า
วันที่ 08 เดือน 08 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 10
เวลาสี่นาฬิกาเป็นต้นไป


เวลาผ่านมาอีกเล็กน้อยหลังเกี้ยวมังกรเคลื่อนตัวออกไป หลังจากที่ลู่เจาอี๋หันกลับเข้าไปด้านในเรือน นางก็เร่งสวมเสื้อผ้าอาภรณ์พร้อมกับแต่งกายให้งดงามเพื่อที่จะได้ไปถวายพระพรไท่โฮ่วในยามเช้าตามกำหนดการที่เหมาะควร เดิมทีตำแหน่งพระสนมระดับฉือผินการจะขอเบิกเกี้ยวประจำตัวมาใช้ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ด้วยระยะห่างของตำหนักตงเฉินและเซวียนเต๋อที่คำนวนดูแล้วยังพอเดินไปได้ด้วยสองขา ฉะนั้นแล้วนางจึงไม่เคยขอเบิกเกี้ยวพระสนมมาใช้แต่อย่างใด

ยกเว้นว่าจะมีเหตุสุดวิสัยอย่างเช่นวันนี้

“ เหตุใดเกี้ยวฝ่าบาทถึง.. ”

“ ลู่เจาอี๋ ฝ่าบาทมีรับสั่งให้รอรับพระสนมขึ้นเกี้ยวไปถวายพระพรองค์ไท่โฮ่วด้วยกันพ่ะย่ะค่ะ ”

มังกรผู้นั้นคิดอยากกระพือข่าวลือหรืออย่างไร ครั้งนี้แม้แต่หลี่ผู่เยว่ยังถึงกับต้องขมวดคิ้ว ความสัมพันธ์ของทั้งสองไม่เลว แต่ดูเอาจากเมื่อคืนที่ไม่มีเสียงครวญคร่ำหรือร่องรอยของสัมพันธ์เริงสวาทเท่ากับว่าทั้งสองก็หาใช่คู่รักลึกซึ้งอะไรอย่างที่ผู้คนคาดคิด ทว่าการที่ฝ่าบาทแสดงความเป็นห่วงเป็นใยเช่นนี้เกรงว่า..

“ เกี้ยวมังกรโอ่อ่าทรงทำให้พระองค์เปล่าเปลียวหรือเพคะ ”

วาจาแรกที่นางกล่าวขระก้าวขึ้นเกี้ยวดูถือดีอย่างเห็นได้ชัด หลิวเช่อที่ในมือมีตำรายุทธ์กางอยู่พลันเค้นเสียงรับในลำคอขึ้นมาทันควัน

“ แค่เพียงมีเรื่องกำชับเจ้า ”

คนที่ไม่ค่อยจะยุ่งเกี่ยวกับฝ่ายในอย่างเขาเหตุใดจึงได้แสดงตัวว่าพิศวาสนางนัก นงคราญหยกทิ้งกายนั่งตรงข้ามสวามีพร้อมด้วยรอยยิ้มที่ยังพรมอยู่บนหน้า “ ความประสงค์ของฝ่าบาท หม่อมฉันยินดีปฏิบัติ ” เพราะเชื่อว่าคนอย่างเขาคงไม่ขอสิ่งผิดปกติเกินความสามารถ นางจึงได้กล่าวออกไปอย่างนั้น และคำตอบที่เปล่งออกมาก็เป็นไปดังคาด

ไม่แปลกมาก แต่ก็น่าประหลาดใจ

“ เจิ้นอยากทานอาหารที่ทำจากเนื้อกวาง ฝากเจ้าจัดการด้วย ”

และเขาก็พูดเพียงเท่านั้นตลอดการเดินทางจริง ๆ



“ ฝ่าบาทและลู่เจาอี๋เสด็จแล้ว !!! ”

เสียงแรกในการประกาศผู้มาถึงของวันนี้มาจากเสียงของจางกงกงที่สร้างระลอกความแตกตื่นให้ทั้งคนงานรวมไปถึงผู้มียศมีอย่างภายในตำหนักเซวียนเต๋อ เซียวจื่อไท่โฮ่วยกมือขึ้นป้องริมฝีปากระหว่างกระแอมเล็กน้อยในขณะที่สายตาพบเห็นสองเงาร่างเดินผ่านโถงทางเดินยาว

หนึ่งคือโอรสสวรรค์ผู้เกรียงไกรของนาง สองคือลูกสะใภ้ที่น่าภาคภูมิใจ

“ ถวายพระพรเสด็จแม่ ” ชายผู้มีฐานะค้ำฟ้าดินเป็นฝ่ายกล่าวทักอย่างสุภาพพร้อมปรายตามองไปทางคนด้านหลังที่เปล่งเสียงเล็ก ๆ ออกมาเป็นคำว่าถวายพระพรไท่โฮ่วก่อนจะยอบกายลงอย่างงดงาม

“ ประหลาดนัก เหตุใดอ้ายเจียจึงรู้สึกว่า.. คนที่ได้เดินเคียงเขาเพื่อมาพบอ้ายเจียมักเป็นเจ้าอยู่ตลอด ”

“ ไท่โฮ่วทรงตรัสเกินไปแล้วเพคะ ”

ไม่เกินไปเลยสักนิด ทุกกระแสความคิดของคนรอบตัวยกเว้นฝ่าบาทและลู่เจาอี๋ล้วนตรงกันโดยไม่ทราบสาเหตุ พระสนมเอกปล่อยให้สองแม่ลูกได้โต้ตอบสนทนากันอย่างต่อเนื่อง ส่วนนางก็นั่งรับฟังถ้อยคำเหล่านั้นพลางรอพบน้องสาวร่วมตำแหน่งฉือผินไปพลาง ๆ จนได้ยินว่ามีผู้กล่าวถึงจึงเงยหน้าขึ้น “ จากลู่เหม่ยเหรินขึ้นเป็นเจี๋ยยวี่ก่อนจะมาถึงเจาอี๋.. ที่ผ่านมาเจ้าเจอเรื่องลำบากมาไม่น้อยแต่ดูแล้วคงทำได้ไม่เลว เจ้าลูกชายคนนี้ถึงได้โปรดนัก ” คำพูดเชิงนี้ย่อมออกมาจากปากของเซียวจื่อไท่โฮ่วไม่ผิดแน่ ไป๋หรั่นที่ได้ยินอย่างนั้นมากสุดก็แค่ระบายยิ้มรับบาง ๆ พร้อมตอบกลับด้วยท่าทางถ่อมตน

“ หม่อมฉันยังต้องเรียนรู้อีกมาก ”

ลู่เจาอี๋เก็บสายตาลงอย่างเคยสร้างความเอ็นดูให้กับนางหงส์วัยกลางคนเป็นอย่างมากจนนึกขึ้นได้ว่าไหน ๆ ก็เลื่อนขั้นแล้ว นางสมควรได้รับสิ่งที่ควรจะได้ “ ไหน ๆ ก็มาถึงนี่แล้ว ตามธรรมเนียมเดิมสนมขั้นฉือผินล้วนรับเบี้ยหวัดจากอ้ายเจีย ถงกู่กู ไปนำเบี้ยหวัดของลู่เจาอี๋มา ”

หลังจากนั้นไม่นาน ถงกู่กูก็กลับมาพร้อมเบี้ยหวัดรายเดือนในแบบสองประเภทให้เลือกไม่ว่าจะแปดตำลึงทองหรือหมื่นอีแปะ ด้วยจำนวนที่เยอะไม่น้อยนั้น.. ลู่ไป๋หรั่นลอบกลืนน้ำลายเงียบ ๆ ก่อนจะพยักหน้าเป็นสัญญาณให้หลี่ผู่เยว่ผู้เป็นนางกำนัลคนสนิทไปรับเบี้ยหวัดเป็นแบบอีแปะมาจากถงกู่กูก่อนจะนั่งเงียบฟังบทสนทนาแม่ลูกจนกระทั่งได้ยินการประกาศว่าเว่ยเจียเสียนอี๋เสด็จถึงได้ลุกขึ้นยอบกายลงทักทายตามมารยาทพลางไล่สายตาสำรวจคนที่มีผู้ตั้งใจยุแยงให้เราสองแตกคอกันอย่างช้า ๆ



“ วันนี้ไม่อยู่สนทนากับอ้ายเจียหรือ ”

เมื่อถึงเวลาแยกย้าย ฝ่าบาทก็ทรงเสด็จกลับไปว่าราชการนานแล้ว เว่ยเจียเสียนอี๋เองก็พึ่งจากไปได้ไม่นาน นางที่ตั้งใจจะตามไปกลายเป็นว่าถูกรั้งไว้ด้วยคำพูดหนึ่งของสตรีสูงศักดิ์ .. น่าเสียดายนักที่ครั้งนี้นางทำได้เพียงแค่หันกลับไปตอบพร้อมรอยยิ้มเสียงเบา “ หม่อมฉันมีเรื่องที่ฝ่าบาทกำชับไว้ให้ไปจัดการ ไว้หนหน้าเมื่อพร้อมกว่านี้ หม่อมฉันจะมาอยู่เป็นเพื่อนพระองค์แน่นอนเพคะ ”



[NPC-01] ฮั่นอู่ตี้
+20 ความสัมพันธ์โบนัสหัวดี
+5 ความสัมพันธ์สนทนาประจำวัน

[NPC-02] เซียวจื่อไท่โฮ่ว
+20 ความสัมพันธ์โบนัสหัวดี
+5 ความสัมพันธ์สนทนาประจำวัน

ทำกิจกรรมสันทนาการกับหวงตี้ +15 บารมี

รับเบี้ยหวัดระดับ ฉือผิน - 10,000 อีแปะ






แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-02] เซียวจื่อไท่โฮ่ว เพิ่มขึ้น 15 โพสต์ 2024-8-16 13:41
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-02] เซียวจื่อไท่โฮ่ว เพิ่มขึ้น 25 โพสต์ 2024-8-16 13:39
ความสัมพันธ์กับฝ่าบาททรงถึงลิมิตแล้ว  โพสต์ 2024-8-16 13:38
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-01] ฮั่นอู่ตี้ เพิ่มขึ้น 15 โพสต์ 2024-8-16 13:38
โพสต์ 15312 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2024-8-16 13:10

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1เหรียญอู่จู +10000 พลังปราณ +45 ย่อ เหตุผล
Admin + 10000 + 45

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ธนูไม้จันทน์
กระบอกธนู
โดดเด่นมีเอกลักษณ์
พัดคุณชาย
หมวกไผ่ผ้าคลุม
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ญ)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x1
x10
x16
x5
x1
x1
x1
x2
x2
x2
x4
x3
x2
x4
x7
x3
x4
x1
x11
x9
x3
x4
x16
x2
x5
x4
x2
x7
x6
x4
x15
x4
x1
โพสต์ 2024-8-21 14:55:03 | ดูโพสต์ทั้งหมด



กล่อมเกลาภาพลักษณ์
วันที่ 13 เดือน 08 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 10


ถัดมาได้สามวันหลังจากงานพระราชสมภพของเซียวจื่อไท่โฮ่วก็ดูเหมือนว่าหลายอย่างจะเริ่มกลับมาเข้าที่เข้าทางเหมือนอย่างเคยแล้ว เช้าวันนี้ไป๋หรั่นลืมตาตื่นแต่รุ่งสางเหมือนเคยเพื่อลุกขึ้นเตรียมตัวไปถวายพระพรยามเช้า วันนี้นางสวมอาภรณ์จื่อซีอี๋นั่วตัวเก่ง ส่วนเส้นผมก็ถูกรวบไว้เป็นมวยสูงเรียบง่าย แต่วิธีรวบกลับแปลกใหม่นัก คือการแทรกผ้าผูกผมหลากสีมัดผูกยึดกับเกศาไว้ทีละช่อจากนั้นจึงค่อยรวบขึ้นทำให้เมื่อขยับก็สามารถสังเกตได้ถึงสีสันของแถบผ้าที่แซมออกมา แล้วค่อยประดับด้วยปิ่นทองชุดเมฆาที่ส่งให้ตัวคนดูสูงส่งสบายตา

“ พระสนมลู่เจาอี๋เสด็จ !! ”

เสียงขานร้องบอกให้คนด้านในได้ทราบว่าผู้ที่มาถึงนั้นคือใคร สาวงามในชุดสีชาดครามก้าวเท้าเดินเข้ามาภายในตำหนักเซวียนเต๋อตั้งแต่ในยามที่มันไร้ซึ่งผู้คน คาดว่าฝ่าบาทและเซียวจื่อไท่โฮ่วคงสนทนากันไปพักหนึ่งแล้ว ฝั่งสนมที่มีแค่นางและเว่ยเจียเสียนอี๋ ตามหลักต้องมารอจวบจนพระนางเสด็จมาถึงค่อยคุกเข่าลงถวายพระพรไท่โฮ่วเพียงผู้เดียวในรัชสมัยนี้ “ ถวายพระพรองค์ไท่โฮ่ว ขอทรงพระเจริญพันปี พันปี พันพันปี ”

“ อ้ายเจียมิทันได้ยินว่าพวกเจ้ามาถึงแล้ว น่าเสียดายนัก ฝ่าบาทพึ่งเสด็จออกไปเมื่อครู่ ” นางหงส์วัยกลางคนทอดถอนใจต่อหน้าสองลูกสะใภ้อนาคตไกลของตนเอง ก่อนจะสะบัดมือไปมาเป็นการบอกให้คลายท่วงท่ามากมารยาทเหล่านั้นลงเสีย

อย่างไรเมื่อวานทั้งหมดก็พึ่งได้พบหน้ากัน วันนี้ปล่อยให้สาว ๆ ได้พักเสียบ้างก็ดี

หลังจากนั้นก็ผ่านมาได้ราว ๆ หนึ่งชั่วยามแล้ว กิจวัตรการสนทนาของหญิงสูงศักดิ์ทั้งสามยังดำเนินไปตามเคยจวบจนถึงเวลาแยกย้าย เว่ยเจียเสียนอี๋ปลีกตัวออกไปก่อน ผิดกับลู่เจาอี๋ที่ยังนั่งจิบชาขาวบนที่นั่งตัวเดิมก่อนจะเงยหน้าขึ้นแจ้งความต้องการอย่างหนึ่งกับไท่โฮ่ว

“ ไท่โฮ่วเพคะ ก่อนหน้านี้หม่อมฉันมีโอกาสได้อ่านรับสั่งที่พระนางให้ขันทีนำไปติดไว้ที่ป้ายประกาศ ส่วนที่ทรงตรัสให้เหล่าสนมเข้ารับการเรียนรู้กับถงกู่กู มิทราบว่ายามนี้หากหม่อมฉันสนใจ จะยังมีโอกาสได้รับการชี้แนะอยู่หรือไม่เพคะ? ”

คำขอนี้ทำให้หวังจื่อประหลาดใจอย่างมาก “ อย่างเจ้าคงมิจำเป็นต้องเรียนแล้วกระมัง ” เพราะนางทำทุกอย่างได้ดีโดยไม่ขาดตกบกพร่องเลยสักนิด แม้ว่าช่วงแรกที่ถูกกักบริเวณไว้ในเรือนฉางชุนจะยังดูทำอะไรได้ไม่มาก แต่ปัจจุบันลู่เจาอี๋ก็ซึมซับเอาความรู้และวิธีการปฏิบัติตัวของสตรีฝ่ายในไปจนแทบหมดสิ้น ไม่นึกเลยว่าจะยังมีใจใฝ่เรียนรู้เพิ่มเติมอีก

“ หม่อมฉันทราบแค่เพียงหลักการโดยผิวเผิน หากได้รับการอบรมสอนสั่งที่ถูกต้อง อาจสามารถทำตามกฏระเบียบนั้นให้ดียิ่งขึ้นได้เพคะ ” ถ้อยคำของไป๋หรั่นมีน้ำหนักชวนให้คนคล้อยตามอยู่ไม่น้อย ถึงนางจะสามารถทำตัวครูพักลักจำได้ก็จริง แต่หากไม่ได้รับการแนะนำซึ่ง ๆ หน้า ไหนเลยจะสามารถพัฒนาได้? โชคดีที่ช่วงก่อนหน้านี้หลี่กู่กูคอยแบ่งปันความรู้ให้ พื้นฐานตอนนี้จึงนับว่ารู้ครบถ้วน หากสามารถฝึกในขั้่นสูงผ่านมือของผู้มีประสบการณ์ในวังตลอดหลายสิบปีได้ก็คงจะเป็นการดี

“ … ”

“ เข้าใจแล้ว เห็นแก่ความมุ่งมั่นของเจ้า อ้ายเจียจะช่วยส่งเสริม ” เซียวจื่อไท่โฮ่วพยักหน้าช้า ๆ ก่อนจะหันหน้าไปทางหนี่ว์กวนระดับสูงที่เคียงข้างนางมานาน “ รั่วหลัน.. เจ้าไปให้ความรู้นางสักหน่อยเถิด ประเดี๋ยวอ้ายเจียพักสายตาสักครู่ แล้วเจ้าค่อยกลับมาพาอ้ายเจียไปกราบไหว้ศาลบรรพชน ”

“ เพคะไท่โฮ่ว ” ถงกู่กูย่อกายลงรับคำสั่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาทางพระสนมเอกของหวงตี้องค์ปัจจุบันด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มแสนสุภาพ “ ที่นี่มิเหมาะสำหรับการฝึกซ้อม เชิญลู่เจาอี๋เสด็จไปยังเรือนพักของบ่าวก่อนเถิดเพคะ ตามหน้าที่แล้วบ่าวต้องพาพระนางไปพักก่อน แล้วอีกสักครู่บ่าวจะตามไป ”

มันก็รู้สึกแปลกอยู่บ้างจริง ๆ ที่เห็นคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับมารดากำลังกล่าวราชาศัพท์อย่างสุภาพโดยแฝงไว้ซึ่งความนอบน้อมต่อนางที่มียศสูงกว่า ไป๋หรั่นสลัดความฟุ้งซ่านออกไปจากหัวก่อนจะพยักหน้าพร้อมเหยียดยิ้มออกช้า ๆ “ ถงกู่กูไม่จำเป็นต้องร้อนใจ เปิ่นกงรอได้ และยินดีรอด้วยเช่นกัน ”

ความอดทนของไป๋หรั่นมีทัดเทียมฟ้า แน่นอนว่าหนี่ว์กวนระดับสูงคงไม่พลาดท่าทำให้พระสนมเอกที่ทั้งฝ่าบาทและไท่โฮ่วแสดงแววว่าโปรดปรานต้องขุ่นเคือง (ถึงแม้ว่าต่อให้รอนานนางก็คงไม่เคืองนั่นแล) ถงรั่วหลันเดินเข้ามาภายในเรือนพักของตนเองเพื่อที่จะได้พบกับโฉมงามหยาดฟ้าผู้หนึ่งนั่งจิบชาขาวหอมหมื่นลี้อยู่อย่างสงบ

“ คาดว่าด้านชาคงมิมีความจำเป็นต้องฝึกฝนเพิ่มเติมมากนัก ลู่เจาอี๋เชี่ยวชาญทั้งพิธีชาฉบับเต็มรวมไปถึงฉบับย่ออยู่ก่อนแล้ว ” ถงกู่กูลอบประเมินภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนไปของสนมเอกยศเจาอี๋ตรงหน้า ก่อนจะหลุบสายตาลง “ บ่าวคาดว่าพระสนมคงอยากเรียนรู้เรื่องธรรมเนียมปฏิบัติของสตรีภายในวังมากขึ้น.. ถ้าเช่นนั้นก็เชิญด้านนี้เถิดเพคะ ”

ก็คง.. ต้องใช้เวลาสักพักอย่างที่คาด



ถวายพระพรไท่โฮ่วตามเวลาได้รับรางวัลถวายพระพร x2
เปิดภารกิจชงชาต้อนรับเหมันต์ครั้งแรก






แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 14684 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2024-8-21 14:55
โพสต์ 14,684 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม +5 ความโหด จาก ชุดจื่อซีอี๋นั่ว(เจาอี๋)  โพสต์ 2024-8-21 14:55
โพสต์ 14,684 ไบต์และได้รับ +4 คุณธรรม จาก พัดคุณชาย  โพสต์ 2024-8-21 14:55
โพสต์ 14,684 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม +4 ความโหด จาก พิมพ์นิยม  โพสต์ 2024-8-21 14:55
โพสต์ 14,684 ไบต์และได้รับ +4 ความชั่ว +5 ความโหด จาก มีดแล่เนื้อ  โพสต์ 2024-8-21 14:55

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังปราณ +30 ย่อ เหตุผล
Admin + 30

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ธนูไม้จันทน์
กระบอกธนู
โดดเด่นมีเอกลักษณ์
พัดคุณชาย
หมวกไผ่ผ้าคลุม
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ญ)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x1
x10
x16
x5
x1
x1
x1
x2
x2
x2
x4
x3
x2
x4
x7
x3
x4
x1
x11
x9
x3
x4
x16
x2
x5
x4
x2
x7
x6
x4
x15
x4
x1
โพสต์ 2024-8-28 23:56:46 | ดูโพสต์ทั้งหมด



คำเชิญปริศนา
วันที่ 18 เดือน 08 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 10
เวลาแปดนาฬิกาเป็นต้นไป


“ เขาบอกเจ้าเช่นนั้น แล้วเจ้าก็เชื่อเขา ? ”

เซียวจื่อไท่โฮ่วที่นั่งฟังเหตุผลที่ทำให้ลูกสะใภ้สาวมาถึงหน้าตำหนักเซวียนเต๋อก่อนเวลาอยู่หลายเค่อหลุดหัวเราะออกมาทันทีที่สาวงามพริ้มเพราตรงหน้ากล่าวจบ ถ้าจะโทษก็คงต้องโทษลูกเช่อแล้วที่ใช้คำลวงมาหลอกให้สนมของตัวเองเข้านอนเร็วขึ้น แต่ที่นึกไม่ถึงคือเขาพูดเสียจนนางเชื่อหมดใจ ทั้งยังเป็นฝ่ายให้เจาอี๋ร่วมเกี้ยวมากับตัวเองโดยไม่บอกความจริงแม้แต่น้อย

“ เจ้าลูกชายคนนี้ไม่รู้จักวิธีดูแลสตรีจริง ๆ .. เจาอี๋คงต้องลำบากแล้ว หากมีหลานก็อย่าปล่อยให้เขาสอนมากนัก ” คนเฒ่าคนแก่เอ่ยเย้าด้วยความขบขันไหนเลยจะนึกถึงสภาพจิตใจผู้ฟังที่ถึงกับยิ้มแข็งค้างอย่างผิดธรรมชาติไปครู่หนึ่ง

“ จะเป็นอย่างนั้นได้อย่างไรเพคะ ทายาทโอรสสวรรค์ ฝ่าบาทย่อมมีสิทธิ์สอนสั่ง ” แม้แต่นางกำนัลรุ่นใหญ่ที่ประจำอยู่ในตำหนักเซวียนเต๋อยังลอบอมยิ้มให้กับการถอยหลังหนึ่งก้าวของลู่เจาอี๋ในครั้งนี้ ไป๋หรั่นที่หลังจากถวายพระพรแล้วก็มักอยู่ร่วมสนทนากับไท่โฮ่วพร้อมเสี่ยวเหลียนฮวากำลังเอื้อมมือไปรินชาให้น้องสาวอย่างใส่ใจก่อนจะหันกลับไปกราบทูลต่อไท่โฮ่ว

“ อย่างไรก็เป็นครั้งนี้หม่อมฉันมิตรวจสอบให้ถี่ถ้วน ทำให้ทุกท่านต้องลำบากแล้ว ”

“ ช่างเถิด มาฟังข่าวหน่อยดีกว่า อยู่ ๆ ก็มีคนวิ่งมาบอกแต่เช้าว่ามีเรื่องจะรายงาน ” หวังจื่อปัดมืออย่างไม่ถือสา ก่อนจะหันไปทางถงกู่กูที่แจ้งว่ามีขันทีนำข่าวสารจากทางซูโจวและเจียงหนานมารายงาน

“ เพคะไท่โฮ่ว .. ให้ขันทีน้อยผู้นั้นเข้ามาได้ ”

“ ถวายพระพรองค์ไท่โฮ่ว ขอทรงพระเจริญพันปี พันปี พันพันปี ”

“ ถงกู่กูบอกแก่อ้ายเจียว่าเจ้านั้นมีเรื่องมารายงาน ” หวังจื่อโบกพัดชิงหลิวในมือช้า ๆ แม้ว่าริมฝีปากจะเหยียดเป็นรอยยิ้มแต่สองคิ้วกลับเลิกขึ้นอย่างพิจารณา ไม่ใช่ทุกครั้งที่จะมีขันทีนอกนำข่าวสารมารายงาน ช่วงนี้เองข่าวของนอกเหลียงโจวก็ไม่แน่นอน การมาถึงครั้งนี้จึงได้รับการจับตามองเป็นพิเศษ

“ ข่าวแรกเกี่ยวกับผิงหยางกงจู่พ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยจึงเร่งนำมากราบทูล ”

พระนามขององค์หญิงที่เสด็จออกไปช่วยบรรเทาอุทกภัยครั้งใหญ่สร้างความแตกตื่นให้กับผู้คนในตำหนักเซวียนเต๋อได้เป็นอย่างดี “ เสี่ยวกงจู่ของอ้ายเจียเป็นอย่างไรบ้าง ” ด้วยความเป็นแม่ที่เลี้ยงเด็กสาวมาตั้งแต่อ้อนแต่ออด ต่อให้ปัจจุบันนางจะเติบโตไปเป็นวีรสตรีที่น่านับถือแล้วก็ตาม แต่การเรียกขานด้วยความรักใคร่ว่าเสี่ยวกงจู่ (องค์หญิงน้อย) ก็ยังมีให้เห็นเสมอ

“ ดินฟ้าอากาศแปรปรวนในเขตซูโจวแท้จริงแล้วเป็นฝีมือของปีศาจอาทิตย์อุทัยพ่ะย่ะค่ะ โชคดีที่ผิงหยางกงจู่เสด็จไปถึงได้ทันท่วงที ตอนนี้จึงได้ช่วยเหลือชาวซูโจว และกำลังปกป้องเมืองอย่างห้าวหาญ ” สำหรับชาวประชานี้คือข่าวที่น่าโล่งใจอย่างสุดซึ้ง แต่สำหรับคนในครอบครัวการได้ยินว่าคนร่วมสายเลือดกำลังเผชิญอยู่กับภัยอันตราย หากไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำอย่างไรก็คงร้อนรนใจอยู่บ้าง

ดังที่คาด เซียวจื่อไท่โฮ่วมีสีหน้าเคร่งเครียดอยู่บ้างจริง ๆ .. ไป๋หรั่นลอบชำเลืองตามองพระสนมร่วมยศจิ่วผินเล็กน้อยจนเห็นว่าอีกฝ่ายเองก็มองมาที่นางเช่นกัน คงเป็นเพราะรู้จักกันดีเกินไป หรือไม่ก็โชคชะตาส่งให้ผู้ที่รู้เท่าทันมาในรูปแบบของสหาย

“ เช่นนั้น ข่าวต่อไปที่เจ้านำมารายงานเล่า.. ”

ลู่เจาอี๋ท้วงขึ้นอย่างเนิบช้าในฐานะที่นางมียศเป็นสนมลำดับที่หนึ่งในขั้นเอก ฝั่งขันทีน้อยที่ได้ยินอย่างนั้นถึงจะหน้าเสียไปบ้างแต่ก็ยังรวบรวมความกล้าเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา “ ข่าวนี้เป็นเรื่องตึงเครียด เกรงว่าจะไม่เหมาะแก่การรายงานยามเช้า … ”

พ่อหนุ่มน้อย เจ้ารายงานในเรื่องที่ไม่สมควรออกมาตั้งแต่แรกแล้ว

ไป๋หรั่นได้แต่ส่ายศีรษะน้อย ๆ พร้อมยกจอกชาขึ้นจิบ เปลี่ยนมือให้เป็นหน้าที่ของเว่ยเจียเสียนอี๋ผู้ทรงปัญญาได้ตะล่อมขันทีน้อยเสียจนยอมคายข่าวอีกฉบับออกมาด้วยความยินยอม “ ข่าวนี้เกี่ยวกับหมู่บ้านชาวประมงกลางทะเลตงไห่ หมู่บ้านวาฬในแถบเจียงหนานพ่ะย่ะค่ะ มีรายงานส่งมาว่าได้มีหินปริศนาตกจากฟ้าตามช่วงเวลาต่าง ๆ ที่ค่อนข้างจะเป็นระเบียบแบบแผนในหมู่บ้าน ”

แม้แต่วัตถุปริศนาก็ยังปรากฏขึ้นได้ ซูโจวเองก็อยู่ในเขตน่านน้ำของเจียงหนาน.. ดูท่าเขตชาวลำน้ำจะกำลังเผชิญเคราะห์หนักครั้งใหญ่เข้าแล้ว นงคราญหยกชำเลืองตามองผู้รายงานข่าวคราวเล็กน้อย พลางหมุนจอกชาในมือเป็นอากัปกิริยาที่นางใช้ระหว่างคิดเรื่องสำคัญอยู่บ่อยครั้ง

“ แต่สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่หินปริศนาตกจากฟ้าพ่ะย่ะค่ะ แต่เป็นมนุษย์หน้าตาน่าเกลียดน่ากลัว ผิวหนังผุพองเต็มไปด้วยรอยไฟเผาที่พุ่งออกมาเข่นฆ่าชาวบ้านและทหารเสียชีวิตไปหลายคน กว่าจะระงับเหตุได้ก็ทำให้ฝ่ายเราเสียกำลังคนไปมาก ไม่รู้ว่าสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์นั้นจะโผล่มาอีกหรือเปล่า.. ”

อย่างที่พ่อหนุ่มน้อยบอกไม่มีผิด ไม่ใช่เรื่องที่จะนำมารายงานในยามเช้าเลยจริง ๆ

ไป๋หรั่นวาดรอยยิ้มอ่อนใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ด้านเหลียนฮวาที่อยู่ข้างกันก็ถอนหายใจน้อย ๆ ในความไม่เหมาะสมของเวลา แต่แล้วอย่างไร เรื่องไม่ดีก็พูดออกมาแล้วถึงครึ่งขา การจะรายงานให้จบแล้วม้วนตลบแก้สถานการณ์ในครั้งเดียวยังนับว่ามีประโยชน์อยู่มาก

“ เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้.. ผิงหยางเองก็ยังอยู่ที่ซูโจว หากว่าความเสียหายของหมู่บ้านบนหลังวาฬนั้นลุกลามไปถึงซูโจวเล่า? ” พระพันปีหลวงคล้ายจะสภาพจิตใจไม่คงที่ ร้อนไปถึงทุกชีวิตภายในโถงรับรองที่รีบคุกเข่าลงประสานเสียงกล่าวว่าขอพระนางทรงรักษาพระวรกายด้วยอย่างพร้อมเพรียง

“ ยามนี้บ้านเมืองมีเภทภัย หม่อมฉันเชื่อว่าฝ่าบาทจักต้องหาวิธีส่งความช่วยเหลือไปให้ถึงมือประชาชนอย่างแน่นอนเพคะ ” ผู้เกริ่นขึ้นก่อนยังคงเป็นนงคราญหยกแซ่ลู่ที่รับหน้าเปิดงานในทุกครั้ง โดยที่ครั้งนี้นางมีเว่ยเจียเหลียนฮวาคอยตามสมทบอย่างแม่นยำทำให้จุดประสงค์ของการทำเช่นนี้ดูมีประโยชน์และใช้งานได้จริงมากยิ่งขึ้น

สิ่งที่เสียนอี๋กล่าวเพื่อสนับสนุนต่อจากนางย่อมไม่พ้นใช้เรื่องศาสนามาทำให้พระนางได้สบายใจยิ่งขึ้นว่านอกจากความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีของฝ่าบาทแล้ว นางยังมองว่าการที่เซียวจื่อไท่โฮ่วคอยไปสักการะบูชาศาลสัจจเทพอี๋เหอและศาลบรรพชนอยู่เป็นประจำก็ล้วนแต่มีประโยชน์ทั้งสิ้น

“ แน่นอน ลูกเช่อย่อมมีวิธีการรับมือ.. ” เซียวจื่อไท่โฮ่วอายุเท่านี้แล้วมีหรือจะไม่เข้าใจความต้องการของเหล่าเด็กสาวรุ่นราวคราวลูกเหล่านี้ หวังจื่อระบายยิ้มบาง ๆ ก่อนจะหลับตาลงทำใจให้สงบพัดพับได้ชิ้นนั้นโบกไปมาอยู่ในมือของนางหงส์ชราที่ยังคงไว้ซึ่งความงดงามตามฉบับสตรีสูงศักดิ์ในวัง “ อ้ายเจียอยากพักสักหน่อย พวกเจ้าแยกย้ายกันกลับตำหนักตัวเองไปเถอะ ”

“ ขอพระองค์ทรงรักษาพระวรกายด้วยเพคะ พวกหม่อมฉันขอทูลลา ”

สองกายบางยอบลงอำลาอย่างอ่อนหวาน พักหลังมานี้ทั้งไป๋หรั่นและเหลียนฮวาล้วนแตกฉานในศาสตร์การปฏิบัติที่อ่อนช้อยสูงส่งเช่นสตรีในวัง สมแล้วที่พวกนางเป็นถึงผู้ที่ได้ดำรงตำแหน่งจิ่วผิน ทั้งสองเดินเคียงข้างกันออกมาจากโถงรับรองของตำหนักเซวียนเต๋อ ทว่าก่อนที่จะแยกย้ายกันไปคนละทางตามเส้นถนนกลับตำหนัก ฝั่งลู่เจาอี๋หรือก็คือตัวนางที่อาวุโสกว่ากลับเกริ่นเบา ๆ ว่า “ พูดได้ดี ”

เว่ยเจียเสียนอี๋ที่เกือบจะก้าวออกไปอีกทางแล้วหันกลับมาเล็กน้อยด้วยสีหน้าและสายตาเหนื่อยหน่าย

‘ แล้วพี่สาวส่งอะไรมาเล่า ’

เสียนอี๋ดอกบัวผู้นั้นจากไปแล้ว ทว่ารอยยิ้มขบขันบนใบหน้าของเจาอี๋หยกขาวยังไม่เลือนหาย นางส่ายศีรษะไปมาเล็กน้อย ก่อนที่จะหมุนกายเดินไปอีกทางหมายจะกลับตำหนักของตนเอง แต่ที่อยู่ตรงหน้ากลับเป็นขันที.. ไม่สิ คนกลุ่มหนึ่ง

“ พระสนม ฝ่าบาทส่งพวกกระหม่อมให้มารับท่านพ่ะย่ะค่ะ ” ชายชุดดำคนหนึ่งกล่าวอย่างกระชับหนักแน่น ดูเผิน ๆ คล้ายวิธีการรายงานของเหล่าทหารมากกว่าขุนนางหรือขันทีโดยทั่วไป ทว่าในกลุ่มคนที่ดูลึกลับนี้ยังมีขันทีหน้ายิ้มผู้หนึ่งที่ก้าวออกมากล่าวอย่างสุภาพ

“ พวกเขามิรู้วิธีสื่อสารต่อนายหญิงของฝ่ายในนัก ขอพระสนมโปรดอย่าถือสา ”

ดูมีพิธีรีตองขึ้นมาก.. แต่ก็ไม่น่าวางใจอยู่ดี ไป๋หรั่นหรี่ตาลงเล็กน้อยก่อนจะคืนสีหน้ากลับมาเป็นความสงบนิ่งที่เจือไว้ซึ่งความอ่อนโยนเหมือนอย่างเคยในพริบตาต่อมา “ ขวางทางเปิ่นกงหน้าตำหนักเซวียนเต๋อเช่นนี้ หรือว่าลืมไปแล้วว่าตำหนักนี้คือที่ใด? ”

“ กระหม่อมไหนเลยจะกล้าลืม ”

“ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพระสนมจดจำได้ก็ยิ่งดีพ่ะย่ะค่ะ ”

คราวนี้ไป๋หรั่นเริ่มที่จะคิ้วกระตุกแล้วจริง ๆ นงคราญหยกขมวดคิ้วเล็กน้อย ยังดีที่อีกฝ่ายปรือตาขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ พร้อมค้อมกายด้วยความนอบน้อม “ กระหม่อมเพียงต้องการให้พระสนมทราบว่าเบื้องหน้าตำหนักเซวียนเต๋อนี้ กระหม่อมกล้ายืนยันว่าได้รับคำสั่งมาจากฝ่าบาทเพื่อเรียนเชิญพระสนมให้ไปยังสถานที่หนึ่ง ” อันที่จริงในสายตาของนางหรือแม้แต่คนอื่น ๆ ท่าทางของพ่อหนุ่มขันทียิ้มเจ้าเล่ห์จนตาปิดผู้นี้ก็ไม่ได้แย่ เสียก็แต่ดูฉลาดจนน่ากลัวก็เท่านั้นเอง

“ ฝ่าบาทมีรับสั่งฝากมาหนึ่งประโยคสั้น ๆ ที่กล่าวเพียงว่า พระองค์ได้บอกแก่ท่านแล้วพ่ะย่ะค่ะ ”

ก็จริงของเขา..ฮั่นอู่ตี้บอกให้นางรู้ไว้ก่อนแล้วในตอนเช้า ถึงจะไม่ได้อธิบายอะไรมากมายแต่ก็บอกไว้จริง ๆ ว่าให้ตามคนที่เขาส่งมาหา เวลาเช้าตรู่ที่เป็นส่วนตัวแบบนั้นไม่น่ามีใครหาญกล้ามาแอบฟังจนสวมรอยได้ หรือต่อให้ได้ บางทีนี่ก็คงเป็นหนึ่งเดิมพันสุ่มเสี่ยงที่โชคดีก็รอดพร้อมสาวไส้ผู้บงการความวุ่นวายในวัง หรือหากโชคร้ายก็แค่ตาย หรือไม่ก็กลายเป็นเชลยจำเป็น

“ พระสนม.. ” หลี่ผู่เยว่ชำเลืองตามองนายหญิงของตนด้วยความเป็นห่วง

“ ในเมื่อมาเรียนเชิญอย่างถูกต้องก็นำทางเถิด ”



ถวายพระพรไท่โฮ่วตามเวลา รางวัล x2






แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-02] เซียวจื่อไท่โฮ่ว เพิ่มขึ้น 15 โพสต์ 2024-8-29 00:06
โพสต์ 27776 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2024-8-28 23:56
โพสต์ 27,776 ไบต์และได้รับ +8 EXP +10 คุณธรรม +10 ความโหด จาก ชุดจื่อซีอี๋นั่ว(เจาอี๋)  โพสต์ 2024-8-28 23:56
โพสต์ 27,776 ไบต์และได้รับ +6 คุณธรรม จาก พัดคุณชาย  โพสต์ 2024-8-28 23:56
โพสต์ 27,776 ไบต์และได้รับ +5 EXP +15 คุณธรรม +8 ความโหด จาก พิมพ์นิยม  โพสต์ 2024-8-28 23:56

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังปราณ +30 ย่อ เหตุผล
Admin + 30

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ธนูไม้จันทน์
กระบอกธนู
โดดเด่นมีเอกลักษณ์
พัดคุณชาย
หมวกไผ่ผ้าคลุม
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ญ)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x1
x10
x16
x5
x1
x1
x1
x2
x2
x2
x4
x3
x2
x4
x7
x3
x4
x1
x11
x9
x3
x4
x16
x2
x5
x4
x2
x7
x6
x4
x15
x4
x1

3

กระทู้

122

ตอบกลับ

3259

เครดิต

เริ่มมีชื่อเสียง

พลังน้ำใจ
2168
ตำลึงทอง
110
ตำลึงเงิน
441
เหรียญอู่จู
15357
STR
66+13
INT
65+0
LUK
0+5
POW
50+0
CHA
15+0
VIT
13+5
คุณธรรม
2377
ความชั่ว
1202
ความโหด
2595
โพสต์ 2024-8-30 15:56:26 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Longyue เมื่อ 2024-8-30 16:31





 @Admin 


CHAPTER 24.1

วันที่สิบเจ็ดเดือนแปดแห่งรัชศกเจี้ยนหยวนปีที่สิบ
วันเสาร์ ช่วงเวลาหลังการถวายพระพร


การได้รับความสนพระทัยเพียงเล็กน้อยจากฝ่าบาทเปรียบดั่งสายฝนอันชุ่มฉ่ำที่สาดเทลงบนผืนดินแห้งแล้ง หากว่าพืชพรรณไม่ทันได้งอกงามเมฆฝนก็พัดพาไปไกลแล้ว วังหลังเต็มไปด้วยสาวงามพ้นจากนางก็มีบุปผชาติอื่นๆ เฝ้ารอให้ฝ่าบาทได้เรียกหา…ในดินแดนแห่งนี้ข้างกายขององค์ราชันมิอาจเป็นของนางเพียงผู้เดียว


หลังการเข้าปรนนิบัติตามธรรมเนียมแล้วก็ควรจะมาคารวะไท่โฮ่ว หลังการคารวะเช้าของเหล่าพระสนมขั้นเอกเสร็จสิ้นหลงเยวี่ยก็รอเวลาอีกเล็กน้อย และมาเข้าเฝ้าไท่โฮ่วในช่วงสาย—


“มาแล้วหรือ” ราวกับว่าพระองค์ทราบอยู่แล้วว่านางจะต้องมา “ระยะนี้ไม่ได้พูดคุยกับเจ้าเสียหลายวัน…เป็นอย่างไรบ้าง”


หลงเยวี่ยใบหน้าร้อนผ่าว หลายวันมานี้เพราะครุ่นคิดแต่ปรนนิบัติหวงตี้จึงมาเยือนตำหนักเซวียนเต๋อน้อยลง  เพียงแต่แม้จะได้รับโอกาสปรนนิบัติหวงตี้กลับมิได้รับความโปรดปรานเท่าใดนัก ใบหน้าจึงหม่นหมองลงเล็กน้อย


“ดียิ่งเพคะ…” หลงเยวี่ยเอ่ย หวนนึกถึงถ้อยรับสั่ง ‘โยน’ ในครานั้นก็รู้สึกพรั่นพรึงลึกๆ ทว่าในความขมฝาดกลับซ่อนกลิ่นหอมหวานอันละมุนแฝงมาด้วย “ได้มีโอกาสรับพระเมตตาจากฝ่าบาทให้ดูแลปรนนิบัติ” …แล้วรอดกลับมาอยู่ต่อหน้าพระองค์ “นับเป็นวาสนาของหม่อมฉัน”


หวังจื่อถอนหายใจ “เรื่องของหนุ่มสาวจะต้องใช้เวลา เร่งรีบนักไม่เป็นการดี”


“บทคัดลอกบทสวดมนต์ของเจ้าทำข้าซึ้งใจนัก…วันนี้ข้าได้พระคัมภีร์ชุดใหม่มา หากเจ้ามีเวลาก็อยู่เป็นเพื่อนข้าช่วยคัดพระคัมภีร์เถิด”


หลงเยวี่ยไม่ต้องไปถวายการปรนนิบัติในยามเย็นแล้ว เวลาว่างจึงมีมากมายประดุจเม็ดทรายบนมรุตตลัง (ทะเลทราย) หัวใจอันเงียบเหงาของนางยินดีอย่างยิ่งที่จะปรนนิบัติพระองค์ นางน้อมรับรับสั่งแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะเล็กสำหรับคัดอักษรที่ถูกจัดไว้ใกล้ๆ กับพระนาง


กูกู่ในพระตำหนักเตรียมกระดาษไว้แล้ว ด้านหนึ่งมีหนังสือพระคัมภีร์ที่เขียนลงบนผ้าไหมเก่าแก่ เพียงแต่ผ้าชุดนี้ได้รับการทนุบำรุงอย่างตี ผึงแดดตามเวลา แม้จะฉุนไปบ้างสภาพก็คล้ายว่าเป็นของใหม่


หลงเยวี่ยพลิกคัมภีร์โบราณ เห็นอักษรที่ในอดีตจะถูกทำเป็นสัญลักษณ์บนกระดองเต่า นางมาจากสกุลที่นับถือเต๋าอีกทังยังเก่าแก่จนเวลานี้ป้ายจวนและตราประทับก็ล้วนถูกสลักด้วยอักษรจ้วนอันโบราณคร่ำครึ จึงคุ้นเคยเป็นอย่างดี


      “เป็นพระคัมภีร์อักษรเพคะ” 


“ลองอ่านให้ข้าฟัง”


นางพลิกอักษรแรก “ บนแรกเอ่ยถึงตัวอักษร [เฉียน] เฉียนคือตำแหน่งฟ้า อันหมายถึง ลิขิตฟ้า, เหนือฟ้าใต้ฟ้า สื่อถึงสำนวนโบราณ เหนือฟ้ายังมีฟ้า อักษรเฉียนจัดอยู่ในตัวอี่ อันหมายถึงการงอกเงย นำมาผนวกรวมกับอักษรก้าน อันหมายถึง แรกอรุณ จึงกลายเป็นสื่อสัญลักษณ์ของสรรพสิ่งที่ก่อเกิดด้วยลิขิตฟ้า องค์จักรพรรดิแต่โบราณการให้ความหมายในสี่ตัวอักษร คือ ตัว หยวนซึ่งหมายถึงต้นกำเนิด เฮิงอันหมายถึงการเคลื่อนไปอย่างราบรื่น ลี่ที่หมายความถึงผลพวงแห่งความทุ่มเท และเจินแห่งความซื่อตรงเที่ยงธรรม ครบครันจึงเรียกว่า เฉียน…”


“อืม–”


พระนางพยักหน้า ปรายมือสั่งให้หลงเยวี่ยคัดอักษร ตัวอักษรที่นางใช้ในการคัดมิใช่อักษรจ้วนที่อ่านยากและมองดูแล้วสับสนวุ่นวาย ในการคัดอักษรมักจะนิยมตัวอักษรที่ดูเป็นระเบียบและอ่านง่าย เมื่อคัดวรรคแรกของคัมภีร์ ซึ่งว่าด้วยเรื่อง “เฉียน” ลงบนกระดาษอย่างประณีตแล้วก็ส่งให้ไท่โฮ่วติชม


[ 潛龍勿用 ]


“เฉียนหลงอู้โหยว:มังกรงำประกาย คำนี้เขียนออกมาได้ดี ลายมือของเจ้างดงามยิ่งนัก… เสียดายที่เฉียบคมเกินไป ประหนึ่งวาดดาบไม่ผิด”


ริ้วแดงวาดผ่านดวงหน้าของหญิงสาวอย่างเลือนราง หลงเยวี่ยเรียนอักษรจากการวาดกระบี่ เนื่องจากมีสำนักวิชาหนึ่งคิดผสานเหวินกับหวู่เข้าด้วยกัน จึงใช้อักษรเป็นกระบวนท่ากระบี่ การตวัดมือเฉียบขาดดุดันจึงจะสามารถเอาชีวิตอื่นได้ หลงเยวี่ยเคยร่ำเรียนมาด้วยความเคยชินยามเขียนจึงมิถนัดตวัดหางอย่างอ่อนช้อย


“เจ้าเข้าใจความหมายของมันหรือไม่”


หลงเยวี่ยก้มหน้าเล็กน้อย “หม่อมฉันโง่เขลา ไม่เข้าใจเพคะ”


ไท่โฮ่วผงกศีรษะเบาๆ “เฉียนหลงอู้โหยว : มังกรงำประกาย เฉียนตัวนี้อักษร ซ่อน ประกอบกับ น้ำ คือ ‘อำพรางความแข็งแกร่งในความอ่อนช้อย’ หมายถึง รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน แม้ในขณะที่สภาพแวดล้อมรู้เห็นเป็นใจก็อย่างประมาทตน เรียกว่า ไม่อวดดี”


“เพคะ” หลงเยวี่ยจับพู่กันจรดกระดาษ ใบหน้ามีรอยยิ้มประดับ นัยน์ตาอ่อนหวานช้อนมองด้วยประกายชื่นชม “ถ้อยคำของพระนางลึกซึ้งกินใจ หม่อมฉันจะบันทึกเก็บไว้จะได้ไม่ลืมเพคะ”


การคัดอักษรกินเวลาค่อนข้างนาน เมื่อคัดแล้วหลงเยวี่ยก็ส่งให้ไท่โฮ่วดูทีละแผ่น เห็นพระนางถือกระดาษไกลจากตัวคลับคล้ายมองเห็นไม่กระจ่างก็ค่อยๆ เพิ่มขนาดตัวเขียนให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเกรงว่าพระนางจะอ่านไม่สบายตา


ผ่านไปเนิ่นนานหวังจื่อก็เริ่มมองเห็นความเปลี่ยนแปลง จึงผินหน้ามาเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เจ้าช่างรู้จักเอาใจข้าจริงๆ”


เวลาช่างผ่านไประยะหนึ่งก็ทรงผินหน้าจากคัมภีร์อักษร หลงเยวี่ยสายตาไวจึงหยุดมือที่กำลังคัดพระคัมภีร์อยู่เช่นกัน “เวลาผ่านมาถึงขนาดนี้แล้ว ใกล้จะถึงเวลานอนกลางวันของข้า เจ้าก็ไปพักผ่อนเถิด”


“ไท่โฮ่วทรงรังเกียจว่าหม่อมฉันเสียงดัง รบกวนพระทัยจึงไล่ให้กลับเสียแล้ว” นางเอ่ยเสียงกระเง้ากระงอดเย้าแหย่ กลับทำให้พระนางแย้มสรวล หลิวเช่ออาจไม่โปรดหญิงสาวเช่นนี้เท่าใด แต่กลับทำให้หวังจื่อรู้สึกมีชีวิตชีวานัก 


“เหลวไหลจริงๆ” พระองค์แสร้งตำหนิ “เฝ้าหญิงแก่อย่างข้านอนรังแต่จะทำให้เด็กสาวอย่างเจ้าเบื่อหน่าย หากไม่อยากกลับไปก็ไปเรียนวิชามารยาทและการเรือนกับรั่วหลันก็แล้วกัน” เอ่ยแล้วก็หันไปทางถงกูกู่ “เข้มงวดกับนางหน่อย…ท่าทางของนางกระโดกกระเดก ไม่ทันไรก็ปากคอเราะร้ายใส่ข้าแล้ว หากวันนี้นางเดินอย่างหญิงสาวชาววังในโบราณกาลอันรุ่งเรืองไม่ได้ อย่าให้นางเถลไถลออกจากตำหนักเซวียนเต๋อไปให้ขายหน้าใครเชียว”


“หม่อมฉันอยากอยู่รับใช้ไท่โฮ่ว พระองค์ตรัสเช่นนี้ หม่อมฉันไม่กล้าตั้งใจเรียนแล้วเพคะ”


“ดูเอาเชียว…ปากนางหวานเหมือนเจ้าไม่มีผิด!”

—--


ไม่รบกวนเวลาหลับนอนของไท่โฮ่วแล้ว หลงเยวี่ยย้ายจากพระตำหนักเซวียนเต๋อมาที่เรือนหลังหนึ่งในพระตำหนักซึ่งถูกจัดเป็นที่พักสำหรับนางกำนัลรับใช้คนสนิท ถงรั่วหลันเป็นนางกำนัลที่มีหน้ามีตา แต่รู้จักใคร่ครวญและเด็ดขาด หลายปีมานี้จึงสามารถรั้งอยู่ข้างกายไท่โฮ่วได้อย่างไม่สั่นคลอน


“ไท่โฮ่วกล่าวเช่นนั้นแต่ความจริงเอ็นดูท่านมาก” ถงรั่วหลันเอ่ย “ท่วงท่าของนายหญิงน้อย ความจริงก็งดงามราวกับดอกเบญจมาศ…วิธีเดินอย่างหญิงสาวในสมัยโบราณอันรุ่งเรืองหากได้ลองแล้วจะยิ่งทำให้ท่านดูสุขุมและเปี่ยมมารยาท การเดินที่เหมาะกับท่านคือ ‘หงส์นวยนาด’ เน้นที่การเดินเอียงส่ายเฉกเช่นต้นหลิว มองแล้วเปี่ยมด้วยความสง่าผ่าเผย…ลองดูหม่อมฉันนะเพคะ…”


ถงรั่วกูกู่เดินเป็นแบบอย่าง วิธีการเดินที่ประหนึ่งย่างเท้าในบ้านตัวเองเหมาะสมกับนางอย่างยิ่งยวด มองเผินๆ ให้ความรู้สึกราวกับ ยอดหญิงสะคราญโฉมฉาย ไม่ซ่อนเร้นสิริโฉม แลดูเฉิดฉันอย่างยิ่ง


ทว่าอาจจะด้วยอายุอานามหรือความสุขุมอันเป็นลักษณะเฉพาะของถงรั่วหลัน ทำให้วิธีการเดินนี้ไม่เหมาะกับนางเสียทีเดียว แม้จะดูเป็นระเบียบตามแบบแผนอย่างครบครัน แต่ริ้วหน้าของนางก็ส่ออาการประดัดประเดิดอยู่บ้าง


“นายหญิงน้อย เชิญลอง”


หลงเยวี่ยย่างเดินแล้ว เหมาะกับวิธีการเดินเช่นนี้จริงๆ ไท่โฮ่วมีสายตาเฉียบแหลมยิ่งนัก วิธีการเดินอันโอ้อวดเช่นนี้ยากจะหาผู้กล้าเดินแล้วเข้ากันอย่างละมุนละไม จึงมิใคร่มีสนมนางในคนใดชื่นชอบ ถงรั่วหลันยิ้มบาง ยามเมื่อหลงเยวี่ยเดินผิดท่านางก็ใช้ไม้บรรทัดเคาะเบาๆ ให้สมกับคำกำชับว่า ‘เข้มงวดกับนางหน่อย’

“เพคะ…สะโพกยื่นมากไม่งาม มือของนายหญิงน้อยควรอยู่ระดับเดิมให้มั่น แม้จะแกว่งไกวอย่างเป็นธรรมชาติ ก็จะต้องระมัดระวังไม่ให้เกินงาม การย่างเดินเช่นนี้จะต้องแฝงด้วยสติรู้ต้น จึงจะตรงตามแบบแผน”


ฝึกได้ไม่นานหลงเยวี่ยก็เดินได้อย่างชำนาญ อาจเพราะวิธีเดินดั่งเดิมต่างจากท่าหงส์นวยนาดไม่มากด้วยกระมัง


“ดียิ่งเพคะ…” ถงรั่วหลันมองที่ตำหนักเซวียนเต๋อ “ใกล้ถึงเวลาตื่นบรรทมของพระนางแล้ว เชิญนายหญิงน้อยเพคะ”


—--

“งดงามจริงๆ” 


หวังจื่อเอ่ยชม วิธีการเดินเช่นนี้งดงามตามแบบอย่างโบราณ รูปโฉมของหลงเยวี่ยไม่จัดว่างดงามเฉิดฉัน แต่ความกล้าที่จะก้าวเดินอย่างไม่อ่อนนุ่มละมุนละไมกลับทำให้เมื่อย่างเดินเช่นนี้แล้วงดงามอย่างไร้ที่ติ อ่อนหวานประดุจสายธาร แฝงคลื่นอารมณ์อันน่าประคับประคองราวกับหลิวต้องแรงลม


“นางฝึกได้ไวเกินไป เดิมทียังคิดว่าจะต้องใช้เวลาสักสองวัน กลับใช้เวลาเพียงเท่านี้…” หวังจื่อเอ่ยด้วยรอยยิ้ม


“เกรงว่าหากหม่อมฉันเรียนได้ช้า พระองค์จะไม่โปรดที่..หม่อมฉันโง่เขลาจนเกินไป” หลงเยวี่ยก้มหน้าซ่อนรอยยิ้ม


“เป็นเคราะห์กรรมของข้าที่จะต้องมีเด็กสาวอย่างเจ้าข้างกาย เอาเถิด” พระนางวางถ้วยชาลงทอดมองไปที่หญิงรับใช้ในตำหนัก “จี๋รุ่ย ไปหยิบผีผาอวี่ฮวามา”


เมื่อรับผีผาอันงดงามที่แกะสลักด้วยลายดอกไม้นานาชนิดจนปราณีตจนได้ชื่ออันไพเราะว่า “อวี่ฮวา: ฝนดอกไม้” แล้ว ก็เอ่ยอธิบาย


“มีอยู่คืนหนึ่งข้าได้ยินเสียงผีผาของเจ้า…ฟังแล้วน่ากลัวจริง ดีดเพี้ยนถึงเพียงนั้นไม่รู้ว่าฝ่าบาททนฟังได้อย่างไร”


“เพียงแค่ได้ยินเสียงผีผาของหม่อมฉันก็ทรงจดจำได้ หม่อมฉันดีดได้มีเอกลักษณ์ยิ่งเพคะ…”


ไท่โฮ่วหัวเราะ “ก็มีแค่เจ้า ฝีมือเพียงเท่านั้นก็กล้าดีด—อาจหาญไม่กลัวคำนินทาจริงๆ ข้าฟังแล้วยังอดถอนใจไม่ได้” หวังจื่อกวักมือเรียกหญิงสาว “มานั่งตรงนี้แล้วลองดีดเพลงที่เจ้าเล่นเมื่อคืนนั้นอีกสักครั้ง”


หลงเยวี่ยรับผีผามา ค่อยๆ ไล่นิ้วตามสายทำนองดีดบทเพลง “ห้าวหาญ” ที่นางเล่นถวายฝ่าบาทในคืนนั้นให้ไท่โฮ่วฟัง เสียงกรีดนิ้วไล่ระดับไปตามสายผีผา กลายเป็นท่วงทำนองที่ฟังแล้วสดชื่นกล่อมเกลาวิญญาณ 


เพลงนี้เล่นได้ง่ายมีทำนองเฉพาะตัว แม้จะมีฝีมือครึ่งๆ กลางๆ ก็ยังดีดได้ไพเราะ หลงเยวี่ยรู้จุดอ่อนจุดแข็งของตนเอง หวังจื่อจึงลอบชื่นชมในใจ


ข้าย้ำผ่านหิมะบนเขาฉีเหลียนลอดผ่านประตูอวี้เหมิน

และยังเดินต่อ ผ่านสายลพัดพาสายฝนกระทบขอบกำแพงเมือง

ผ่านภูเขาและแม่น้ำ

วีรบุรุษหนีเข้าป่าประดุจสายพิรุณ

กระบี่คั้นกลางระหว่างสวรรค์และโลกา ยกแทงทะลุเสียดฟ้าคราม

ข้าข้ามผ่านอาทิตย์อัสดงเหนือแม่น้ำยาวพันลี้สายหนึ่งในโม่เป่ย

ผู้ใดยลยิลเสียงขลุ่ยเฉียนซอหูบรรเลงบทเพลงขับขานไร้สิ้นสุด

คนรู้ใจกล่าว่า ตั้งแต่สมัยโบราณ วีรบุรุษควรให้คุณธรรมนั้นมาก่อน

ใต้ฟ้านี้หนทางในยุทธภพยังยาวไกลหลายปี

หากท่านกล่าวว่ายุทธภพนี้เป็นจิตวิญญาณ

เมฆบนนภาจะเปิดประตูนำทางให้

หากท่านกล่าวว่าโลกเปรียบดังแแม่น้ำ

เฝ้ามองอยากครอบครองมันผ่านไปสักพันปียังมิได้


ไท่โฮ่วช่วยชี้แนะการดีดบรรเลงของนางเพิ่มเติมอีกหลายจุด หลงเยวี่ยได้เพียงเอ่ยเบาๆ ว่า “ทรงปราดเปรื่องไม่แพ้โจหลางแม้แต่น้อย…” 


พระนางแย้มสรวลก่อนสีหน้าจะเปลี่ยนเป็นหนักใจ “หากคิดครอบครองผ่านไปสักพันปียังมิได้ เจ้าเป็นผู้มีใจอิสรเสรี…เพลงนี้วันหน้าดีดให้ข้าฟังก็พอ” พระนางเอ่ยเตือน หลงเยวี่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ไม่นานก็เข้าใจ 


ฝ่าบาทปรารถนารวมใต้หล้าให้เป็นปึกแผ่น เพลงนี้ชวนให้ถอดถอนใจเกินไป ขัดต่อพระประสงค์ของหวงตี้


“เพคะ เช่นนั้น...เพลงนี้หม่อมฉันจะดีดให้พระนางฟังอีกครั้ง…”


“ดี…” 


หลังจากฟังจบก็ทรงผินพระพักตร์ไปทางถงกูกู่ “วันนี้เจ้าพาตวนมู่เหม่ยเหรินไปที่ห้องเครื่องหลวง เตรียมอาหารรับประทานเล่นให้ฝ่าบาทสักชุด บอกว่าข้าให้นำมาส่ง”

  
เล่นดนตรีแนวสงบสบาย ถวายไท่โฮ่ว

รางวัลงาน: +50 พลังใจ, 3 ตำลึงทอง , +25 EXP , +10 บารมี ,

และ +10 ตบะฝึกฝนจากการฝึกฝนดนตรีสม่ำเสมอ

ความโปรดปรานจากหวงตี้ +35 แต้ม

ความโปรดปรานจากไท่โฮ่ว +20 แต้ม  


[NPC-02] เซียวจื่อไท่โฮ่ว

โรลเพลย์พูดคุยประจำวัน ได้รับความสัมพันธ์+5 แต้ม

หัวมาร โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+15


เปิดเควสต์ชงชาต้อนรับเหมันต์



แสดงความคิดเห็น

หัวใจหวงตี้ถึงลิมิตแล้ว  โพสต์ 2024-8-30 17:01
หัวใจไท่โฮ่วถึงลิมิตแล้ว  โพสต์ 2024-8-30 17:00
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-02] เซียวจื่อไท่โฮ่ว เพิ่มขึ้น 20 โพสต์ 2024-8-30 17:00
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-02] เซียวจื่อไท่โฮ่ว เพิ่มขึ้น 20 โพสต์ 2024-8-30 17:00
คุณได้รับ 25 EXP โพสต์ 2024-8-30 17:00

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +50 ตำลึงทอง +3 ตบะฝึกฝน +10 พลังปราณ +10 ย่อ เหตุผล
Admin + 50 + 3 + 10 + 10

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
นักสู้
บทสวดมนต์ฉบับคัดลอก
บาดเจ็บสาหัส
พู่กันคัดอักษร
ชุดเหวินเฉิน(เหม่ยเหริน)
ผีผา
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x5
x2
x19
x4
x1
x4
x8
x9
x2
x3
x5
x4
x2
x1
x2
x1
x3
x5
x2
x4
x20
x1
x7
x3
x1
x2
x6

3

กระทู้

122

ตอบกลับ

3259

เครดิต

เริ่มมีชื่อเสียง

พลังน้ำใจ
2168
ตำลึงทอง
110
ตำลึงเงิน
441
เหรียญอู่จู
15357
STR
66+13
INT
65+0
LUK
0+5
POW
50+0
CHA
15+0
VIT
13+5
คุณธรรม
2377
ความชั่ว
1202
ความโหด
2595
โพสต์ 2024-9-4 15:33:19 | ดูโพสต์ทั้งหมด




 @Admin 


CHAPTER 25

วันที่สิบเก้าเดือนแปดแห่งรัชศกเจี้ยนหยวนปีที่สิบ
วันจันทร์ ช่วงเวลาหลังการถวายพระพร


.

.

.

มังกรเอ๋ย มังกรเอยลมเมฆตาม เป่าปากระบายความในหัวใจ 

มังกรเอ๋ย มังกรเอยลมเมฆประสาน ขับขานเสียงจากหัวใจ 

วิถีแห่งฟ้าปรวนแปรผัน ยากคำนวณเดากันนั้นไม่ได้ 

แพ้ชนะอยู่ที่กโลบาย ขอสาบานใจจงรักและภักดี 

ลูกผู้ชายควรมีปณิธาน สร้างสุขศานติ์ แด่ชนดลวิถี 

กลับเอ๋ย กลับเอย บ้านข้านี้ จะกลับมาอีกคราเป็นชาวนา

 กลับเอ๋ย กลับเอย กลับมาเอย ข้าปราถนาในวัยชรา กลับมาทำนาบ้านเดิม 

จันทร์แจ่มลมโชยมาสู่อ้อมกอด กระเรียณเอ๋ย ฟังเพลงพิณ

cr. บทแปลกวีมังกรหลับ


ปลายนิ้วกรีดลงบนผีผาดีดประหวัดสายเสียงยังไม่ทันจบถ้อยเพลง “กวีมังกรหลับ” ไท่โฮ่วที่เหม่อลอยมองออกไปนอกหน้าตาก็ตรัสด้วยสุรเสียงบางเบา อ่อนล้าราวกับสายพิณที่หย่อนคล้อย “...พอแล้ว” สีหน้าของไท่โฮ่วหม่นหมองริ้วของความเศร้าซึมปรากฏชัดตรงหางตา ริ้วรอยของพระนางดูจะเพิ่มขึ้นในชั่วข้ามคืนประหนึ่งรอยยับย่นบนผ้าแพรไหม ชวนให้คนกังวลยิ่งนัก หลงเยวี่ยระงับความอาดูรรีบเก็บผีผาด้วยความร้อนใจ ยอบกายลงข้างตั่งนั่งในท่ากึ่งคุกเข่า เอ่ยอย่างร้อนรน


“หม่อมฉันขอประทานอภัย”


ไท่โฮ่วทรงโบกพระหัตถ์อย่างอ่อนล้า “ช่างเถิด เป็นข้าที่ไม่อยากฟัง ไม่ใช่ความผิดของเจ้า ลุกขึ้นเถิด” จี๋รุ่ยประคองหลงเยวี่ยลุกขึ้น ขณะที่ถงกูกู่ประคองถ้วยโจ๊กข้าวสวยเข้ามากลิ่นหอมหวานของข้าวใหม่ลอยอบอวลจรุงจิตยิ่ง ทว่าไท่โฮ่วมิได้มองแม้แต่น้อย ที่บนโต๊ะยังมีสำรับอาหารอีกมาก ล้วนแล้วแต่เสวยไม่ลงทั้งสิ้น


สาเหตุก็เพราะธิดาของพระองค์ องค์หญิงผิงหยาง เวลานี้กำลังกรำศึกกับพวกปีศาจที่ซูโจว ทางแถบเจียงหนานมีปีศาจอาทิตย์อุทัยเข้าก่อกวน หลงเยวี่ยหัวใจคล้ายถูกบีบรัด ทิศทางนั้นเป็นบ้านของนางเช่นกัน…


ไท่โฮ่วทรงเชื่อพระทัยว่าฝ่าบาทสามารถกำราบความไม่สงบได้…


ทว่าสำหรับมารดาผู้หนึ่ง การมองลูกของตนเสี่ยงภยันตรายหาใช่มีแต่ความชื่นชมภาคภูมิที่ซึมซาบแผ่ขยาย ยามมีเรื่องบอบบางเหนือความคาดหมายปลิวเข้ามากระทบความอาทรห่วงใยก็ประหนึ่งใยแมงมุมที่เกี่ยวประหวัดรัดพันกาย เคลือบแฝงไว้ด้วยความไม่สบายใจ แม้หวังจื่อนั่งอย่างมั่นคงบนบัลลังก์หงส์มานาน ผ่านขวากหนามมามากมายก็ไม่อาจกล่าวว่า ตนไม่กังวลหวาดหวั่น ได้อย่างเต็มปาก


หลิวเช่อถึงกับต้องรับมือ…ไม่อาจคิดว่าเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย


หลงเยวี่ยเห็นเพียงใบหน้าอันเศร้าตรม นางไม่เคยมีบุตรธิดาจึงมิอาจเข้าใจน้ำพระทัยอันลึกล้ำและหัวใจอันน่าเวทนาของผู้เป็นมารดา ลึกลงไปในห้วงคำนึงกลับประหวัดหวนนึกถึง ตวนมู่เหนียนซื่อ เหนียนกว่านเอ๋อร์ มารดาผู้อาภัพของตนเอง… ภาพอันเลือนรางนั้นโผล่ขึ้นมาเพียงชั่วครู่ก็สลายไป ไม่ต่างจากไอร้อนจากพระกระยาหารบนโต๊ะที่บัดนี้เริ่มชืดชา


นางถูกเสียงหว่านล้อมของถงกูกู่ดึงออกจากภวังค์


“มื้อเช้าพระนางเสวยพระกระยาหารเพียงน้อยนิด เพียงน้ำแกงโสมไก่ดำบำรุงร่างกายก็เสวยไม่พร่อยถ้วย หากยามนี้ไม่เสวยอีกสักเล็กน้อยอาจจะกระทบต่อพระวรกายได้นะเพคะ” ถงกูกู่ประคองถ้วยข้าวต้มมาต่อหน้า “ข้าวต้มนี้ปรุงมาใหม่ยังร้อนอยู่ มีรสอ่อนบาง อีกทั้งเพิ่มสมุนไพรทำให้สดชื่น พระนางโปรดคำนึงถึงพระวรกาย เสวยสักเล็กน้อยเถิดเพคะ”


“ข้าไม่อยากรับประทาน” สุรเสียงของพระนางคล้ายทอดถอน ผิงหยางรับศึกที่ซูโจว เจียงหนานมีปีศาจอาทิตย์อุทัยออกอาละวาด บุตรของนางเหน็ดเหนื่อยลำบากอยู่ที่ด้านนอก หัวใจของนางมีกังวล ย่อมไม่มีแก่ใจจะรับประทานสิ่งใด 


ถงรั่วหลันมีสีหน้าลำบากใจ รอยยิ้มจืดจางประดับอยู่บนใบหน้า เรื่องเหล่านี้ละเอียดอ่อน เลือกถ้อยคำมากไปก็เป็นการเสแสร้ง แต่หากมิแก้ไขประการใดก็หวาดกลัวจะกระทบพระวรกาย


ข้ารับใช้คิดเผื่อเจ้านาย คววามสัมพันธ์แต่ปางหลังเดิมทีก็ลึกซึ้งยิ่งกว่าคำว่า “นาย” และ “บ่าว” ถงรั่วหลันอมยิ้มอย่างจนใจทอดมองหลงเยวี่ย พบใบหน้ากังวลของหญิงสาว พื้นเพของนางมาจากแถบเจียงหนาน ความหวาดหวั่นระคนกังวลใจประหนึ่งระฆังคู่ที่ก้องสะท้อนพ้องเสียงกับไท่โฮ่ว หลงเยวี่ยเข้าใจเจตนาของถงรั่วหลัน ริมฝีปากบางประดับยิ้มละไม ไม่อาจฝืนกลั้นความกังวลที่วาดผ่านนัยน์ตา ประคองถ้วยโสมหิมะตุ๋นเหง้าบัวและไป่เหอ เดินไปข้างหนึ่ง เอ่ยปลอบอย่างแช่มช้า


“หากพระนางไม่โปรดเสวยข้าวต้ม ลองเทียบเครื่องน้ำแกงโสมหิมะตุ๋นเหง้าบัวและไป่เหอถ้วยนี้เถิดเพคะ น้ำแกงโสมดื่มง่ายมีฤทธิ์เป็นยาบำรุง เหง้าบัวมีฤทธิ์เย็นและรสหวานเหมาะกับช่วงฤดูร้อนยิ่งนัก อีกทั้งเหง้าไป่เหอช่วยบำรุงปอด ลำไส้ และกระเพาะอาหาร ดับพิษร้อนในร่างกาย…” นัยน์พระเนตรไท่โฮ่วฉายความรำคาญพระทัยอย่างแจ่มชัด ทว่าหลงเยวี่ยคลี่ยิ้มหวานประหนึ่งสีสันของดอกเสาเย่าที่สีสันจัดจ้าน อ่อนหวาน และเปี่ยมด้วยพลัง “พระพี่นางทรงกรำศึกกับปีศาจที่ซูโจว ปกป้องดินแดนทางตะวันออกอย่างห้าวหาญ สมกับเป็นองค์หญิงแห่งแผ่นดิน ทว่าแม้จะแข็งแกร่งเพียงใดก็เป็นธิดาของพระนาง จะต้องห่วงหาอาทรในพระวรกายของพระนางที่สุด ฝ่าบาทและพระพี่นางคุ้มครองใต้หล้าและแว่นแคว้นด้วยบารมีของไท่โฮ่ว หากว่ายามเสด็จกลับมาทอดพระเนตรเห็นพระองค์ผ่ายผอมลงก็คงจะทุกข์ใจปวดร้าวเหนือคณา” 


“แม้ไท่โฮ่วจะไม่โปรดเสวยพระกระยาหาร…เห็นแก่ฝ่าบาทและพระพี่นาง อย่างน้อยก็เสวยน้ำแกงนี้สักถ้วยเถิดเพคะ”


หวังจื่อครุ่นคิดเนิ่นนาน นัยน์ตาอ่อนลง นางแตะหลังมือหญิงสาวตรงหน้า สกุลของหลงเยวี่ยยามนี้ปักหลักอยู่ที่เจียงหนาน ตั้งแต่ได้ยินข่าวเรื่องนี้ก็มีสีหน้าพะวงใจอยู่ตลอดเวลา กระนั้นยังดีดผีผาเล่านิทานหวังให้นางสำราญใจ กล่อมนาง เย้านาง ปรนนิบัตินางอย่างไม่ย่อท้อ ยากที่คนจะไม่รู้สึกเอ็นดู ทรงลูบมือที่แฝงด้วยรอยแผลเป็นนั้นอย่างแผ่วเบา “ลำบากเจ้าแล้ว”


หลงเยวี่ยเดิมทีก็มาจากบ้านที่มีเพียงหญิงม่ายและเด็ก ความเปล่าเปลี่ยวช่างคล้ายกับทิวทัศน์ในวังหลัง ยามไร้หวงตี้ก็คล้ายถูกพรากความชื่นมื่นไป ได้เพียงประคับประคองกันให้ผ่านไปในแต่ละวัน “พระนางเปี่ยมด้วยความสุข หม่อมฉันก็อิ่มเอมใจ ขอเพียงพระนางทรงแย้มสรวล หม่อมฉันไม่ลำบากเพคะ”


ไท่โฮ่วแย้มสรวลอย่างอ่อนล้า หลงเยวี่ยไม่โลภมากเห็นสีหน้านี้ของพระนางหัวใจก็เป็นสุขแล้ว 


โรลปลดล็อกหัวใจไท่โฮ่ว

  

เล่นดนตรีแนวสงบสบาย ถวายไท่โฮ่ว

รางวัลงาน: +50 พลังใจ, 3 ตำลึงทอง , +25 EXP , +10 บารมี ,

และ +10 ตบะฝึกฝนจากการฝึกฝนดนตรีสม่ำเสมอ (ยังได้อยู่ไหมคะ)



แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับ 25 EXP โพสต์ 2024-9-4 16:11
โพสต์ 22761 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2024-9-4 15:33
โพสต์ 22,761 ไบต์และได้รับ +5 EXP +10 ความชั่ว +15 ความโหด จาก คนกำยำ  โพสต์ 2024-9-4 15:33
โพสต์ 22,761 ไบต์และได้รับ +10 คุณธรรม +2 ความชั่ว +5 ความโหด จาก อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ญ)  โพสต์ 2024-9-4 15:33
โพสต์ 22,761 ไบต์และได้รับ +15 คุณธรรม +10 ความโหด จาก กระบี่คู่สลักจันทรา  โพสต์ 2024-9-4 15:33

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +50 ตำลึงทอง +3 ตบะฝึกฝน +10 พลังปราณ +10 ย่อ เหตุผล
Admin + 50 + 3 + 10 + 10

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
นักสู้
บทสวดมนต์ฉบับคัดลอก
บาดเจ็บสาหัส
พู่กันคัดอักษร
ชุดเหวินเฉิน(เหม่ยเหริน)
ผีผา
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x5
x2
x19
x4
x1
x4
x8
x9
x2
x3
x5
x4
x2
x1
x2
x1
x3
x5
x2
x4
x20
x1
x7
x3
x1
x2
x6
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้