12
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
เจ้าของ: Admin

【ร้านหม้อไฟและปิ้งย่าง - ฉ่าบู๋มู่ก่าต้า】

[คัดลอกลิงก์]
โพสต์ 2024-9-14 18:33:10 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย LuBairan เมื่อ 2024-9-14 18:58




ฉาบู๋มู่ก่าต้า
วันที่ 24 เดือน 08 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 10
เวลาสิบสองนาฬิกาเป็นต้นไป


ในช่วงสายของวันที่แสนจะวุ่นวาย ผู้คนมากมายตบเท้าเดินออกจากที่พักเพื่อเริ่มใช้ชีวิตกันจนควักไคว่เต็มเส้นถนน ใครจะไปรู้และใครจะไปนึก ว่าหนึ่งในคนที่เดินเฉียดหรือไม่ก็เดินผ่านอาจเป็นผู้สูงศักดิ์ บ้างอาจเป็นเชื้อพระวงศ์ บ้างอาจเป็นขุนนาง บ้างอาจเป็นคนใหญ่คนโต แต่ก็เชื่อได้เลยว่าคงไม่มีใครนึกว่าคนพึ่งสวนกันไปจะเป็นถึงพระชายาอย่างแน่นอน

นงคราญหยกขยับหมวกไผ่ผ้าคลุมที่ช่วยบดบังโฉมหน้าเลิศล้ำเป็นเอกเล็กน้อยเพื่อเรียกความมั่นใจของตัวเองให้กลับคืนมา ถึงเหล่าสตรีฝ่ายในจะไม่มีข้อห้ามในการออกมาด้านนอก แต่ก็ใช่ว่าจะสมควรออกมา บัดนี้เบื้องหน้าของนางคือร้านชาบูปิ้งย่างเพียงหนึ่งเดียวในฉางอัน.. หรือไม่ก็อาจจะเพียงหนึ่งในแผ่นดิน

อันที่จริงไป๋หรั่นไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าเหตุใดจะต้องใช้ร้านอาหารแปลกประหลาดนี้มาเป็นสถานที่นัดหมาย แต่เมื่อลองคิดทบทวนดูอีกครั้งอย่างถี่ถ้วนก็พบว่ามันอาจเป็นการดีแล้วก็ได้เพราะโดยทั่วไปคงไม่มีใครนึกว่าพระชายาผู้โด่งดังและหัวหน้าขันทีแสนยิ่งใหญ่จะนัดหารือกันในสถานที่เช่นนี้

นางไม่จำเป็นต้องอ้าปากถามสิ่งใดเลยด้วยซ้ำ เมื่อเสี่ยวเอ้อร์ของโรงเตี๊ยมเห็นหญิงสาวที่แต่งกายด้วยอาภรณ์ชั้นดีเดินเข้ามาทั้งที่ยังไม่ได้ปลดหมวกไผ่ผ้าคลุมก็รีบกระวีกระว้าดวิ่งเข้ามากล่าวพลางกระซิบเสียงเบา " นายท่านผู้หนึ่งกล่าวไว้แล้วว่าท่านจะมา เชิญทางนี้ขอรับ "

นับว่าเป็น.. เรื่องดีหรือร้ายล่ะนี่

" คราวหลังพึงระวังไว้หน่อยเถิด หากผู้ที่เขานัดมาหาใช่ข้า เจ้าจะลำบากเมื่อกล่าวอย่างนี้ "

สาวงามระบายลมหายใจออกผ่านริมฝีปาก เพราะไม่อยากให้ร้านอาหารต้องเสียลูกจ้างไปโดยใช่เหตุ นางเลือกที่จะเตือนเสียงเรียบแทนการตำหนิอย่างรุนแรงเพื่อไม่ให้คนทำหน้าที่ของตัวเองต้องเสียกำลังใจ ทว่าผู้ฟังกลับยิ้มรับอย่างรู้งานพลางก้าวขึ้นมาทั้งที่ร่างกายขยับโค้งลงผายมือเชิญให้นงคราญได้ก้าวไปตามทาง “ ไม่หรอกขอรับ ท่านผู้นั้นแจ้งผู้น้อยไว้แล้วว่าแขกของเขาจะต้องแฝงกายมาเช่นนี้ ”

‘ เขาอันตรายเกินไปจริง ๆ ’ ริมฝีปากสีกลีบเหมยกุ้ยขยับพึมพัมเสียงเบา ต่อให้ไม่พอใจแล้วอย่างไร สุดท้ายนางก็ไม่อาจทำสิ่งใดได้อยู่ดี โฉมสะคราญปรายตามองรอบกายเล็กน้อยก่อนจะเดินไปตามทางที่ถูกเชิญให้ก้าวไป สิ่งที่รอนางอยู่คือห้องรับรองพิเศษที่ส่งกลิ่นเนื้อย่างหอมฉุย

“ ผู้น้อยมิทราบว่านายหญิงโปรดปรานเนื้อย่างหรือเนื้อลวก ฉะนั้นผู้น้อยจึงเตรียมเอาไว้ทั้งสองประเภท.. ” ทั้งที่เขายืนหันหลังอยู่แท้ ๆ .. นัยน์ตาหงส์ของสาวงามหรี่ลงเล็กน้อยเมื่อได้ยินการกล่าวทักทายที่แสนแม่นยำประหนึ่งว่ามีตาหลังมองทะลุม่านผ้าแพรที่นางสวมอยู่ ไป๋หรั่นไม่แม้แต่จะปลดหมวกไผ่ผ้าคลุมออก สาวงามเช่นนางมีความคุ้นชินกับการซ่อนโฉมใต้ผ้าแพรยิ่งกว่าใคร

“ คุณชายจางสำราญได้อย่างนี้หรือว่ามีเรื่องน่ายินดีเกิดขึ้น? ” ประโยคทักคำแรกจากปากนงคราญแฝงไว้ด้วยความห่วงใยจนคนแซ่จางยังต้องชำเลืองตามองตามเงาร่างโอดสะองค์ที่ก้าวอ้อมโต๊ะทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าไปนั่งยังฝั่งตรงข้าม

“ นายหญิงได้ดิบได้ดีเช่นนี้ ผู้น้อยจะไม่สำราญได้อย่างไร ” ตะเกียบไม้ราคาแพงคีบเข้าพลิกเนื้อหมูบนกระทะร้อน ๆ ผู้ที่แสร้งทำเป็นว่านัดหมายครั้งนี้มีเพื่อเฉลิมฉลองเปล่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างพึงพอใจ “ ทั้งหมดนี้เป็นความโชคดีของผู้น้อยที่เลือกคนได้ถูกต้อง.. นายหญิงก้าวหน้าไวกว่าที่ผู้น้อยคาดไว้มาก ส่วนนี้ต้องชื่นชมว่าเป็นเพราะความสามารถของนายหญิง ”

สาวงามใต้ผ้าแพรมุ่นคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย ก่อนจะคลายออก “ เรื่องนี้คุณชายจางเองก็ลงแรงไปมาก ไหนเลยจะเป็นเพราะความสามารถของข้าฝ่ายเดียว ” ดูเสียก่อนว่าพริบตาเดียวในตำหนักตงเฉินของนางมีคนของเขาไปแล้วตั้งกี่คน

“ นายหญิงถ่อมตัวไปไย.. ผู้น้อยติดตามนายท่านมาหลายปี ทราบดีว่าลึก ๆ แล้วนายท่านโปรดปรานนายหญิงมากสักแค่ไหน ” ห่าวหมิงเคยลังเล.. ชั่วขณะหนึ่งที่เสียนอี๋ผู้นั้นก้าวกระโดดขึ้นมาเป็นที่โปรดปราน เขาถึงกับต้องหันย้อนไปมองว่าการตัดสินใจสนับสนุนหญิงงามเช่นลู่ไป๋หรั่นนับว่าเป็นสิ่งที่คุ้มค่าหรือไม่ ทว่าหลังจากนั้นไม่นานทุกอย่างก็กลับตาลปัตร “ ซ่างกวนซ่างซูกล่าวไว้ไม่ผิดเลย ”

หนทางของสตรียากนักหยั่ง ประเดี๋ยวตื้นเขินปลอดโปร่ง รู้อีกทีก็ซับซ้อนวุ่นวาย

บุคคลที่สี่ในบทสนทนาพาลทำให้ดวงตาคู่งามหรี่ลงเล็กน้อย นัยน์เนตรสีคมเข้มฉาบประกายขบขันกึ่งอาทร นงคราญหยกเหยียดริมฝีปากออกเล็กน้อย พลางจรดปลายนิ้วแตะกับขอบของจอกชาในระหว่างที่นางนึกถึงเรื่องเก่าก่อน “ อย่างไรก็ตาม นายหญิงสมควรเริ่มดำเนินแผนการที่เด็ดขาดกว่านี้ ” หัวหน้าของเหล่าขันทีทั้งปวงผู้ชำนาญการพิเศษด้านสร้างละครตลบแตลงเอียงใบหน้าเล็กน้อยเมื่อพูดจบ

“ เด็ดขาดกว่า… นี้? ”

“ บัดนี้นายท่านยังไม่มีผู้สืบทอดเลยสักคน หากว่านายหญิงสามารถมอบผู้สืบทอดที่เหมาะสมให้แก่นายท่านได้ แน่นอนว่าต้องเป็นความสำเร็จที่ไม่อาจหาสิ่งใดมาเทียบเคียงได้ ”ครั้งนี้อีกฝ่ายไม่ได้พูดปากเปล่า เขาลุกขึ้นประสานมือและโค้งลงเสมือนว่าขอความเมตตาให้นางเห็นดีเห็นงามไปกับแผนการที่เด็ดขาดขึ้น

ไป๋หรั่นปิดเปลือกตาและวางจอกชาในมือลง ไม่ใช่ว่านางไม่รู้ถึงความสำคัญของเรื่องทายาท สาวงามดั่งหยกปรายตามองชายที่ไม่ย่อท้อตรงหน้า “ เหตุใดจึงเลือกกล่าวเรื่องนี้กับข้า ” เสียงหวานถามกลับอย่างเชื่องช้า เปลี่ยนประโยคห้วนไร้ที่มาให้กลายเป็นนุ่มนวลน่าฟัง

“ เพราะหากเป็นท่าน เรื่องนี้ย่อมสำเร็จได้ง่ายที่สุด ” ห่าวหมิงยังคงมั่นใจว่านี่คือหนทางที่ถูกต้อง ผู้รังสรรบทละครค่อย ๆ ยกแผ่นหลังขึ้นกลับมายืนตรงพร้อมด้วยรอยยิ้มมีเลศนัย “ บุตรสาวก็มีแล้ว.. หากไม่สืบทายาทต่ออาจเป็นที่ครหาได้นะขอรับ ”

ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าความเป็นมาของเด็กคนนั้นไม่ธรรมดาแต่ก็ยังเลือกหยิบขึ้นมาพูด นงคราญหยกไม่ปฏิเสธว่าความเห็นของอีกฝ่ายเป็นเรื่องจริง.. ลูกสาวก็มีแล้วถ้ายังทำเป็นรั้งรอไม่คิดเพิ่มผู้สืบทอด ความคิดที่ว่าทั้งสองคนรักใคร่สมัครใจอาจสั่นคลอนได้ แต่แล้วอย่างไร? “ ข้ายังไม่คิดอยากมีบุตรชายหรือบุตรสาวเพิ่มในยามนี้ ”

“ ทว่าผู้คนล้วนต้องการ ”

“ หากนายหญิงให้กำเนิดบุตรชาย.. ท่านคงทราบดีว่าเขาจะได้รับสิ่งใดบ้าง ”

ลูกของตัวเองไม่เหมือนการรับเด็กบ้านอื่นมาเลี้ยง ความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น ความผูกพันที่มีมา รวมไปถึงความหวงแหนที่ไม่เคยได้สัมผัส.. วังหลวงแห่งนั้นคงทรหดมากยิ่งขึ้นเมื่อหากนางมีลูกกับชายที่ไม่ได้ปักใจรัก “ … ข้าจะไปแล้ว ”

“ กุ้ยฮวากับชาหวงซานเหมาเฟิงนี้.. ”

“ ถือเสียว่าเป็นการขอบคุณสำหรับที่ผ่านมา ” โฉมสะคราญงามดุจอัปสรยันกายลุกขึ้นพร้อมกับการวางขนมและน้ำทิ้งไว้ให้อีกฝ่ายเป็นกับแกล้ม ผ้าแพรขยับพริ้วไหวไปมาตามการขยับใบหน้าที่ไม่จริงจังนัก “ เรื่องคำแนะนำ.. เปิ่นกงจะลองเก็บไปคิดดู ”

“ นายหญิงไม่ทานก่อนสักคำ? ”

“ เปิ่นกงชอบเนื้อย่าง แต่เกรงว่าคงไม่เหมาะสำหรับวันนี้ ”



[NPC-11] จางกงกง
+5 ความสัมพันธ์สนทนาประจำวัน
+20 โบนัสความสัมพันธ์หัวดี
+15 ความสัมพันธ์ ขนมว่างเกรดม่วง และ ชาเกรดม่วง +10
+5 โบนัสความสัมพันธ์จากอาหารประเภทอาหารปรุง
+5 โบนัสความสัมพันธ์จากชาประเภทชงชา
+15 ความสัมพันธ์จากเอฟเฟคพรสวรรค์ดอกท้อ






แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-11] จางกงกง เพิ่มขึ้น 75 โพสต์ 2024-9-14 18:42
โพสต์ 20959 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2024-9-14 18:33
โพสต์ 20,959 ไบต์และได้รับ +10 EXP +15 คุณธรรม +10 ความโหด จาก ชุดหนิงเซียนหนี่ว์(ซูเฟย)  โพสต์ 2024-9-14 18:33
โพสต์ 20,959 ไบต์และได้รับ +10 EXP +15 คุณธรรม +15 ความโหด จาก โดดเด่นมีเอกลักษณ์  โพสต์ 2024-9-14 18:33
โพสต์ 20,959 ไบต์และได้รับ +6 คุณธรรม จาก พัดคุณชาย  โพสต์ 2024-9-14 18:33
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ธนูไม้จันทน์
กระบอกธนู
โดดเด่นมีเอกลักษณ์
พัดคุณชาย
หมวกไผ่ผ้าคลุม
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ญ)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x1
x10
x16
x5
x1
x1
x1
x2
x2
x2
x4
x3
x2
x4
x6
x3
x4
x1
x11
x9
x3
x4
x16
x2
x5
x4
x2
x7
x6
x4
x15
x4
x1
โพสต์ 2025-6-5 22:22:37 | ดูโพสต์ทั้งหมด



           หลินหยาก้าวเท้าเข้าสู่หน้าร้าน “ฉ่าบู๋มู่ก่าต้า” ด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัยผสมความหิวปนกันจนแทบแยกไม่ออก ใต้ป้ายร้านที่เขียนด้วยอักษรประหลาดแบบไม่คุ้นตา หญิงสาวเบิกตากว้างเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองป้ายอีกรอบ เธอไม่มั่นใจว่าแปลไม่ถูกหรือเจ้าของร้านแค่อยากตั้งชื่อให้ชวนสับสน “นี่มันภาษาชาติไหนกันนะ…?” เธอบ่นพึมพำก่อนจะโดนกลิ่นซุปและเนื้อผัดหรือย่างร้อน ๆ ปะทะจมูกอย่างจัง ราวกับลมฤดูร้อนที่พัดผ่านกลิ่นหอมอันโอชะ

           ภายในร้านเต็มไปด้วยไอน้ำร้อนจาง ๆ กลิ่นพริกหอมและกระเทียมเจียวเตะจมูกจนแทบเคลิบเคลิ้ม มีลูกค้าโต๊ะใหญ่ ๆ นั่งเรียงกันเป็นตับ คุยเสียงดังหัวเราะคิกคักเหมือนกำลังดูงิ้ว แต่บนโต๊ะกลับไม่มีใครเงยหน้าจากหม้อไฟเลยแม้แต่คนเดียว…กะ..กินอะไรกันขนาดนั้นอ่ะ เธอจะกินตลอดเวลาไม่ได้นะ..เงยหน้าขึ้นม๊าาาา

           หลินหยาคิดในใจก่อนที่จะกลั้นดวงใจของตนเองแล้วเดินไปเข้าร้านแล้วถามเจ้าของร้านตัวใหญ่กล้ามเป็นมัด ๆ ตรงนั้น ชายหนุ่มเป็นคนต่างถิ่นหรือเปล่านะ? … “สวัสดีเจ้าค่ะ ร้านนี้รับจ้างพนักงานชั่วคราวไหมเจ้าคะ?” นางเอ่ยถามขึ้นมาอย่างสงสัย ก่อนที่จะกระพริบตาปริบ ๆ รอ

           ชายหนุ่มเงยหน้ามา กะพริบตาหนึ่งทีแล้วหัวเราะ “โอ้ มีสิแม่นางตัวเล็ก! ช่วงนี้ลูกค้าโคตรจะบ้ากินกันเลย กินกันเหมือนพรุ่งนี้ไม่มีข้าวกิน! ค่าแรงล้างผักวันนี้ให้เลย 150 อีแปะ ทำไม่ยาก ไปหลังร้านได้เลยแม่นาง” หลินหยาแทบจะคุกเข่าแล้วร้องไห้กลางร้าน เธอค้อมหัวให้อีกคนเช่นนั้น “ขอบคุณมากเจ้าค่ะ ขอบคุณจริง ๆ เลยนะเจ้าคะ” เอ่ยบอกแล้วเมื่อได้รับคำสั่งเธอก็รีบตรงไปยังหลังร้านทันที

           พอเปิดประตูเข้าไปเท่านั้นแหละ โลกเบื้องหลังร้านอาหารก็ปรากฎขึ้นในครัวเต็มไปด้วยถังผักเรียงราย ทั้งผักบุ้ง ผักกาดขาว ผักชี ต้นหอม ฟักทองจีน แครอทแผ่นบาง

          “แทะแดกเข้าปากเลยได้ไหมเนี้ย” พึมพำนิดหน่อย..

           หลินหยาม้วนแขนเสื้อขึ้นแล้วเริ่มหยิบผักกาดขาวใส่มือล้างอย่างทะนุถนอม เธอถูเบา ๆ ล้างไล่ดิน ขัดโคนรากด้วยปลายนิ้ว พร้อมพึมพำกับตัวเอง “ทุงยาบาเล ๆ ทุง ๆ ซาฮูราา” ไม่รู้ว่ามันแปลว่าอะไรหรอกนะ พูดไปงั้นแหละ เวลาไหลผ่านไปอย่างรวดเร็วท่ามกลางกลิ่นผักเปียกและเสียงน้ำหยดกระทบถังไม้ ชุดที่เคยสะอาดตอนที่อยู่ร้านผ้า ตอนนี้มีร่องรอยของจุดน้ำเปียก ๆ เหมือนกับลายศิลปะ แต่มันเลอะมากกว่าน่ะสิ แต่หลินหยาก็ยังคงตั้งใจทำงานอยู่อย่างไม่ขาดตกบกพร่องเลยนะ

           เสียงหยดน้ำจากปลายผักชีเปียกตกกระทบขอบถังไม้ดัง แหมะ...แหมะ อย่างชวนง่วง ทว่าในจังหวะที่หลินหยากำลังล้างผักกาดขาวก้านสุดท้ายอย่างตั้งใจ พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวในเงามืดด้านหลังร้านขนาดใหญ่ หญิงสาวก็เลยขมวดคิ้วช้า ๆ ก่อนจะยื่นหน้าออกไปชะโงกมอง อะไรน่ะ? ผีเราะ?

           ขนขาวฟู ๆ ลายดำ ๆ กลม ๆ …นั่งกอดเข่ากินไผ่อยู่…ฮะ??...เข้!!

           ดวงตาหญิงสาวเบิกโพลงทันทีเหมือนถูกตบหน้าด้วยกะหล่ำปลี เธอผงะถอยหลังชนเข่งใส่ต้นหอมล้มพรืดแทบล้มทับ "ขะ..เข้! แพนด้า!?" สิ่งมีชีวิตตรงหน้านั้น...คือแพนด้าตัวจริงเสียงจริง ตัวเบ้อเร่อ นั่งพิงต้นไม้แทะไผ่กรอบแบบ ASMR กร๊วบ ๆ กร๊อบ ๆ แกร๊บ ๆ เดี๋ยว ๆ ทำไมมีแพนด้าด้านหลังร้านวะคะ?...หลินหยายืนอ้าปากค้าง ทำไมมีแพนด้าล่ะ? สัตว์เลี้ยงเจ้าของร้านเราะ?

           แต่เนื่องจากกลัวว่าแพนด้าจะตบเลยกะว่าจะถามทีหลังดีกว่า กลับไปทำงานของตนเองต่ออย่างงง ๆ และเมื่อครบชั่วโมงเจ้าของร้านก็เดินมาตรวจงานก่อนที่จะยื่นถุงเงินเล็ก ๆ ให้กับหลินหยาอีกหนึ่งใบ

          “นี่จ่ายเลยนะ 150 อีแปะ เก็บให้ดีล่ะ อย่าทำตก แล้วถ้าพรุ่งนี้หิวเงินอีกแม่นางก็มาทำต่อก็ได้นะ ฮ่า ๆ ๆ” เจ้าของร้านบอกเธอแบบนั้น ทางหลินหยารับถุงพร้อมยิ้มกว้างแล้วรับเงินมาพลางกุมเงินแน่นราวกับกุมลูกไก่ทองคำ หลังจากที่เดินออกมาจากร้านเธอเหมือนพึ่งคิดอะไรได้ว่า..ลืมถามว่าแพนด้านั้นคืออะไรอ่ะสิ..อ้าว ตกใจจนลืมเลยหรอเนี้ย หรือเพราะเงินอีแปะมันทำให้เธอลืมทุกอย่างกันนะ? นั้นสิ







พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)

มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่

รางวัล: ค่าจ้าง 150 อีแปะ 10 EXP


แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับ 10 EXP โพสต์ 2025-6-5 22:44
โพสต์ 11477 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2025-6-5 22:22
โพสต์ 11,477 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม +4 ความโหด จาก ลาภลอย  โพสต์ 2025-6-5 22:22

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1เหรียญอู่จู +150 ย่อ เหตุผล
Admin + 150

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ดาวนำโชค
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
พลั่ว
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x15
x20
x52
x50
x25
x182
x1
x4
x4
x44
x1
x2
x2
x10
x10
x34
x2
x1
x122
x2
x18
x14
x5
x13
x60
x16
x49
x48
x74
x1
x1
x114
x3
x6
x1
x1
x1
x3
x9
x5
x3
x2
x1
x6
x6
x10
x5
x132
x40
x20
x7
x15
x42
x4
x1
x1
โพสต์ 2025-6-7 12:17:45 | ดูโพสต์ทั้งหมด


วันที่ เจ็ด เดือน ห้า รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามอู่ เวลา 11.00 - 13.00 น.


         เวลาเที่ยงตรงกลับมาแล้ว เวลาที่ใกล้เคียงกันของการเข้าสู่ยามอู่อย่างเป็นทางการตอนนี้พื้นหิวที่แผดเผาคือพื้นของถนนในฉางอันของช่วงหน้าร้อน ที่จะเผาเท้าสำหรับคนเดินตีนเปล่าแต่คงไม่มีใครเดินแบบนั้นหรอกถ้าไม่ใช่คนที่เป็นขอทาน ไม่สิ ขอทานยังมีรองเท้าเลย ของแบบนี้มันควรมีนะ … แต่รู้ไหมว่าตอนนี้แม้ว่าจะร้อนถึงเพียงไหนก็ไม่อาจขัดขวางความปรารถนาอันแรงกล้าของชาวฉางอันที่สุดยอดจะยืนยันแล้วก็ซดน้ำซุปที่เผ็ดร้อนกลางฤดูร้อนอย่างกล้าหาญชาญชัยสุดหัวใจคนมักของอร่อยในร้านหม้อไฟและปิ้งย่างอย่างร้าน ฉ่าบู๋มู่ก่าต้า ที่หลินหยายังคิดไม่ออกเลยว่ามันหมายความว่ายังไง

         เธอกำลังเดินไปที่ร้านอาหารแห่งนี้ที่มีเสียงพูดคุยกัน เสียงหัวเราะ เสียงของหม้อไฟปะทุแล้วก็เสียงตะโกนพร้อมกับการทะเลาะกับเตาถ่านที่มี

         ร้านอาหารแหางนี้เปิดได้อย่างงดงามมาเกือบหนึ่งปีแล้วล่ะ มันอยู่ใกล้สถานที่แถวย่านอาหารเหมือนกัน มีโต๊ะไม้ยาวเรียงราวแล้วก็มีสิ่งที่ตกแต่งมากมาย ลมพัดแรงพอให้ผ้าบางปลิวไปมาเหมือนกับธงเรียกแขกมันจะดีมากถ้าไอ้ลมนั้นไม่ใช่ลมร้อน เสียงของเนื้อวัวสไลซ์ถูกวางตรงตะแกรงร้อนแล้วดัง ฉ่า ฉ่า ฉ่า …อืมมมม อาหร่อยยย แบบเดียวกับเสียงของคนที่ตกหลุมรักคนอื่นไม่มีผิด ร้อนแรงและไม่อาจกลับใจได้เลยสักนิดเดียว

         หลินหยาเดินมาที่ร้านเหงื่อยังซึมเหมือนเดิมนิดหน่อยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มแป้นของเธอมือหนึ่งถือของไว้ภายใน นิ้วโป้งของเธอยังคงยืนยันว่าจะมาทำงานที่นี่แม้ว่ามันจะแปลก ๆ ที่มีหมีแพนด้าก็ตามที.. "สวัสดีเจ้าค่ะ เถ้าแก่ ข้ามาแล้ว.." เธอเอ่ยขึ้นยิ้ม ๆ แล้วโบกมือทักทายเถ้าแก่แล้วโดนลากไปทำงานทันที เถ้าแก่ร่างกล้ามที่ยกหม้อไห เตาถ่าน กระทะ ะละมังด้วยมือเดียวเดินมาแล้วมองเธอ

         "มาเลย ๆ ช่วยกันเคลียร์โต๊ะ เดี๋ยวคนต่อไปจะเข้าร้านแล้วล่ะ ล้างโต๊ะให้เลยนะ เดี๋ยวพวกคนต่อไปเรียงคิวแล้ว อย่าไปยืนใกล้เตานะ เดี๋ยวหัวเจ้าจะติดไฟแม่นาง" เจ้าของร้านเอ่ยบอกส่วนหลินหยาก็พยักหน้าแล้วรีบเดินไปอย่างรวดเร็วเพราะต้องเคลียร์โต๊ะแบบสติงชัว แค่ก ไม่ใช่ ๆ แบบรีบ ๆ นั้นแหละ เมื่อโดนสั่งแบบนั้นเธอก็รีบเดินไปลากกะละมังแล้วก็ผ้าขี้ริ้วออกมาวิ่งไปเคลียร์โต๊ะที่มีคนพึ่งทานอาหารเสร็จแล้วไปขัดโต๊ะแบบคนที่ไม่กลัวความตาย แถมยังฮัมเพลงไปด้วยเสียเลย ท่าทางเป็นคนที่อรรมณ์ดีเหมือนกันนะเนี้ย

         แต่เพราะที่นี่คนเยอะมาก เสียงฮัมเพลงของเธอก็เลยค่อนข้างที่จะโดนกลบหมดไม่เหลือซากเลยด้วยซ้ำ เอาเถอะสนุกจริง ๆ เลยล่ะ พอถึงช่วงเวลานี้ของวันทีไรมันก็ร้อนชนิดที่ไม่ต้องปิ้งก็สุกแล้วมั้ง แต่อย่ากินหมูดิบนะเดี๋ยวหูดับกันพอดี กินเนื้อสิวะ! แต่ขนาดนี้ผู้คนมากินก็มีเยอะเหมือนกัน ต่อคิวกันมาเหมือนกับอย่างกับต่อคิวตัดเวรตัดกรรมเหมือนบอกว่า หมูกะทะจะเยียวยาทุกสิ่ง ชุดของผู้คนสะบัดลู่ไปตามเหงื่อของพวกลูกค้า ริมฝีปากของแต่ละคนแดงเถือกจากน้ำซุปร้อน ๆ ของหม้อไฟซอสหม่าล่าแล้วกระทั้ง ทุกคนกำลังซดแล้วก็ย่างแล้วก็กินเรื่อย ๆ จนต้องมีการวางผ้าเย็นควบคู่กันให้เอาไปเช็ดเหงื่อเช็ดหน้าตัวเอง แต่อย่าเผลอเอามือเผ็ด ๆ นั้นเข้าตาอีกล่ะ

         หลินหยาไม่หยุดนิ่งแม้แต่วินาทีเดียว เธอวิ่งไปขอเตาหลุมใหม่ให้โต๊ะที่ไฟดับ บรรจุฟืน เพิ่มถ่าน เสิร์ฟผัก โยนเห็ด รินน้ำชา จนกระทั่งเผลอจะเทน้ำราดหัวตัวเองเพราะร้อนเกินไปจริง ๆ นะเนี้ยบอกเลยเพราะว่ามันร้อนมาก ๆ แต่ผู้คนก็ยังคงกินเหมือนกัน..โคตรแย่จริง ๆ เลยนะ เธอหาววอดนิดหน่อยจากการที่ตัวเองก็เริ่มหิวเหมือนกันแต่ก็คงไม่กินมันหรอกเพราะร้อน ๆ ไว้กินตอนหน้าหนาวแล้วกันนะ อีกอย่างคือเหนื่อยค่ะ …

         เธอระบายยิ้มเล็กน้อยแล้วจากนั้นก็เดินไปจัดการกับการทำงานอีกครั้งรอบนี้ค่อนข้างสบายนิดหน่อย เธอเดินไปล้างผักด้านหลังร้านเหมือนเมื่อวานนี้ อยู่กับน้ำมันก็ดีกว่าอยู่หน้าเตาแหละ เพราะว่าเธอเหนื่อยกับความร้อนเต็มทน ระหว่างล้างผักไปเรื่อย ๆ เธอก็ได้ยินเสียง กรวบ กรวบ แกร๊บ กรวบ กรวบ เป็นเสียง ASMR ของการกินท่อนไผ่แซ่บ ๆ ของท่านหมีแพนด้าหลังร้านที่เธอไม่รู้ว่ามันทำไมมาอยู่ตรงนี้วะเนี้ย แล้วทำไมมันกินไผ่แบบแซ่บ ๆ จังเลยวะ ทำเอาอยากลองเคี้ยวไผ่เหมือนกันเลยนะเนี้ย..แม่งหิวว่ะ…

         คิดแบบนั้นแล้วก็ล้างผักให้เรียบร้อย เปลี่ยนน้ำ เอาส่วนที่ใช้ไม่ได้ออกไปอย่างพิถีพิถันท่ามดลางความเหนื่อยอ่อนครั้งนี้แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรเลยนะ สนุกดีมากกว่า หลังจากที่เริ่มทำไปทุกครั้งเธอก็เริ่มชินกับการได้ยินเสียงหมีแพนด้ากินไผ่เสียแล้วล่ะ สักวันนะ เธอจะไปช่วยมันแทะไผ่สักกะทีเหมือนกัน กินแซ่บจนน่าอิจฉาเกินไปละมัน…

         พอล้างผักเสร็จก็เอาพวกนั้นไปสะเด็ดน้ำ ก่อนที่จะได้ไปเสิร์ฟ พวกพนักงานจัดจานก็จะทำกันเองนั้นแหละ ตอนที่หลินหยากำลังเดินออกมาพักผ่อนเพื่อกินน้ำก็เลยเห็นเจ้าของร้านที่นั่งอยู่น่าจะกำลังพักผ่อนเหมือนกัน นั้นสินะ? ถามเถ้าแก่บ้างจะเป็นอะไรไปล่ะ ว่าทำไมถึงมีแพนด้าอยู่ด้านหลังร้านแบบหมีแพนด้าอ่ะ…ตัวเป็น ๆ

         "เถ้าแก่เจ้าคะ..ข้ามีคำถามเล็กน้อย ขอถามด้วยความเคารพเลยนะเจ้าคะ คือว่า ทำไมมีหมีแพนด้าอยู่ที่หลังร้านหม้อไฟหรือเจ้าคะ?" นางเอ่ยถามแบบนั้นอย่างสงสัย เจ้าของร้านวัยกลางคนก็มองเด็กสาวตอนแรกเหมือนเขาจะไม่ได้คิดอะไรหยิบแก้มน้ำมาดื่มแล้วเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ "ก็เลี้ยงไว้ให้หายเครียดน่ะ ด้านหลังเป็นก่อต้นไผ่ที่มันชอบด้วยทำไม ไม่ดีหรือ?" เสียงเขาถามต่อ อยากจะบอกว่าไม่ใช่ไม่ดี แต่มันกินแซ่บจนหลินหยาหิวไผ่อ่ะดิ..
"เปล่าเจ้าค่ะ มันกินแซ่บจนข้าหิวไผ่เลยเจ้าค่ะ เสียงคือแบบ กรวบ ๆ ดังตลอดเวลาที่ล้างผักเลย"

         เมื่อเถ้าแก่ได้ยินแบบนั้นแล้วก็หัวเราะนิดหน่อยเพราะมันเป็นแบบนั้นจริง ๆ นั้นแหละมันน่ารักแล้วก็กินแซ่บจริง ๆ อย่างไม่ต้องสงสัยเลยด้วยซ้ำ หลังจากนั้นก็คุยแล้วก็ทำงานกันต่อ นี้แหละช่วงเวลากลางวันของหลินหยาเพราะเธอต้องอยู่ในร้านค้าที่ต้องมีความร้อนอยู่รอบ ๆ แต่มันก็สบายใจดีเหมือนกันนะ? สนุกดีเหมือนกันนะเนี้ย..




@Admin


พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)
มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่
รางวัล: 150 อีแปะ - 10 EXP


แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับ 10 EXP โพสต์ 2025-6-7 14:05
โพสต์ 16253 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-7 12:17
โพสต์ 16,253 ไบต์และได้รับ +3 EXP +10 คุณธรรม +6 ความโหด จาก ลาภลอย  โพสต์ 2025-6-7 12:17

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1เหรียญอู่จู +150 ย่อ เหตุผล
Admin + 150

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ดาวนำโชค
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
พลั่ว
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x15
x20
x52
x50
x25
x182
x1
x4
x4
x44
x1
x2
x2
x10
x10
x34
x2
x1
x122
x2
x18
x14
x5
x13
x60
x16
x49
x48
x74
x1
x1
x114
x3
x6
x1
x1
x1
x3
x9
x5
x3
x2
x1
x6
x6
x10
x5
x132
x40
x20
x7
x15
x42
x4
x1
x1
โพสต์ 2025-6-8 21:49:35 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ แปด เดือน ห้า รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามอู่ เวลา 11.00 - 13.00 น.
ไปทำงานร้านหม้อไฟและปิ้งย่าง - ฉ่าบู๋มู่ก่าต้


         และแล้วเมื่อเวลาเข้ายามอู่ แดดเอียงเถียงกลายเป็นตรงกลางท้องฟ้างาม แสงอาทิตย์ที่เคยอ่อนนุ่มตอนนี้แรงจัดเริ่มจัดเป็นม่านไอร้อนลอยจากเตาหม้อไฟแล้วก็ตะแกรงย่างไปทั่วเขตตะวันของฉางอันเหมือนเดิม และที่หัวมุมถนนที่สามมีร้านที่ตั้งโดดเด่นในซอยเต็มไปด้วยกลิ่นของเนื้อย่างและน้ำซุปที่หอมจัดจ้านจนน่าเดินเข้าไปภายในร้าน …ป้ายร้านนั้นโบกไหวไปตามสายลมอ่อน ๆ แต่เพราะมันทำมาจากไม้เลยไม่ขยับสักหน่อย สะดุดตาด้วยอักษรประหลาดที่ไม่มีใครรู้ว่าแปลว่าอะไรเลย แต่กลับขึ้นชื่อในเรื่องรสชาติที่อร่อยล้ำจนแทบอยากร้องไห้ขณะเคี้ยว มีคนบอกว่าการมากินที่นี่ จะเป็นสิ่งเสพติด ถ้าไม่ได้มาทุกสัปดาห์หรือทุกเดือนใจมันจะอยู่ไม่นิ่ง มันต้องการหม้อไฟอ่ะค้าบ การกินหม้อไฟมันเป็นเรื่องปกติของคนที่มักของแซ่บและมักม้วนค้าบ แค่ก ๆ

         วันนี้หลินหยายังคงมาทำงานที่ร้านนี้อีกครั้งแต่สิ่งที่ต่างออกไปคือชุดผ้าฝ้ายสีชมพูอ่อนพอดีตัวที่มีผ้าคาดเอวสีขาวไข่มุกอ่อนโยน กระโปรงไม่ฟูฟ่องแต่พลิ้วไหวได้ทุกสถานะการณ์ของจังหวะเท้าของเธอ เส้นผมที่มักจะยุ่งเหยิงในวันเร่งรีบโดนมัดรวบเป้นมวยด้านหลังแล้วปล่อยบางส่วนลงด้านหลัง เธอติดปิ่นและดอกไม้เล็ก ๆ สีอ่อนทั้งสองข้าง เมื่อเดินผ่านประตูไม้เข้ามาแล้วกลิ่นหม้อไฟร้อน ๆ อร่อย ๆ ก็หอมหวนปะทะใบหน้าของเธอเสียแล้ว และเสียงของลูกค้าก็ดังก้องจ๊อกแจ๊กจอแจทั้งร้าน แต่แทนที่เธอจะได้เดินไปหลังร้านแบบปกติ เถ้าแก่กลับหันมองแบบครุ่นคิด

         "สวัสดีแม่นาง วันนี้เจ้าดูเหมือน หญิงสาว จริง ๆ เลยนะ?” เขาเอ่ยถามพลางกอดอกเหมือนกับคิดอะไรได้สักหน่อย ตอนแรกหลินหยากำลังจะหันไปมองค้อนเถ้าแก่เพราะมันหมายความว่าในทุก ๆ วันที่ผ่านมาเธอไม่เหมือนสตรีอย่างงั้นหรือ หยามมากนะ เดี๋ยวกัดหัวเถ้าแก่เสียเลยนี้ ฮึย ๆ “พอจะเป้นพนักงานเสิร์ฟได้ไหมล่ะ? ไม่ต้องไปอยู่ด้านหลังร้านล้างผักแล้วล่ะ เสียดายชุดสวย ๆ ของเจ้า” เขาเอ่ยบอกเช่นนั้น ส่วนหลินหยาก็เหมือนกับแปลกใจเล็กน้อยเพราะปกติเธอจะต้องไปล้างผักนะเนี้ย..เอ๊ะ โอเค ก็ได้แหละนะ  ความงอแงเมื่อครู่หายเป็นปลิดทิ้งเพราะเหมือนได้รับการเลื่อนตำแหน่งงานจากเด็กล้างผักกลายเป็นคนทำงานเสียอย่างงั้น แหม่ งี้นี่เองการแต่งตัวดี ๆ มันช่วยแบบนี้เองสินะ? ได้รับความน่าเชื่อถือมากขึ้น ยอดเลยนะเนี้ย “ได้เจ้าค่ะ แต่ท่านเถ้าแก่แน่ใจใช่ไหมเจ้าคะว่าข้าจะไม่ทำน้ำซุปหรือผักราดหัวลูกค้าเสียก่อน?”

         หลินหยาบอกแบบนั้นก่อนที่จะได้รับผ้ากันเปื้อนใหม่มา ขนาดเล็กกว่าปกติแล้วก็พับเรียบร้อย มีลายปักเป็นลายเส้นคล้ายใบไผ่แล้วก็แพนด้าคดเคี้ยวไปมาสวยงาม เธอผูกผ้าทั้งที่ยังยิ้มกว้าง ท่าทางการทำงานครั้งนี้อาจจะเป็นไปด้วยดีก็ได้ เธอหวังว่าแบบนั้นนะ ไม่รู้สิ มันคงจะดีขึ้นละมั้ง? ดวงตาเปล่งประกายราวกับได้แสดงบนเวทีใหญ่ของชีวิตจัวเอง แล้วจะพยายามทำหน้าที่ของเธอให้ได้ดีที่สุด “รับทราบเจ้าค่ะเถ้าแก่ ข้าจะเสิร์ฟแบบไม่ให้น้ำราดหัวลูกค้า แต่ขอให้มันไม่มีหมาจรมาไล่ข้านะเจ้าคะ” นางบอกแบบนั้นแล้วเดินไปทำงานอย่างเรียบร้อย เริ่มจากตรงไหนดีล่ะ? อืมมมม ก็คงทำงานหน้าร้านแหละ บริการลูกค้าเสิร์ฟอาหาร ยกเตาเปลี่ยนเตาถ่านงี้

         ทันที่เธอเดินเข้าพื้นที่โต๊ะอาหาร หลินหยาก็เปลี่ยนร่างเป็นพนักงานสาวน้อยมือโปร กระบวนท่าได้เลยล่ะ เธอยกเสิร์ฟชุดผัด เติมน้ำซุป เปลี่ยนถ่านราวกับถูกฝึกมาเองฉบับลอกแบบมาจากชาวบ้านที่ต้นแกงอยู่ ตอนนี้ไม่มีอะไรกระเด็นใส่เธอ บริการยิ้มพิมพ์ใจ แล้วก็แนะนำเมนูให้ลูกค้าได้เรียบร้อย ทำความสะอาดโต๊ะ เก็บของให้เรียบร้อย แนะนำการทานแบบที่เธอทำได้ ให้บริการกับยิ้มและหัวเราะ น้ำเสียงที่กระตือรือล้นทั้งที่ความจริงเธอได้นอนน้อยมาก ๆ แต่ก็ยังทำงานด้วยความน่ารักตามฉบับชของเธอ ลูกค้าบางคนจำได้นะว่าเธอปกติต้องใส่ชุดที่เปื้อนน้ำเพราะต้องล้างผักแต่วันนี้เธอมาเสิร์ฟอาหารแทน..

         พอเดินไปเอาของด้านหลังก็ได้ยินเสียงกรอบแกรบ ๆ แจ๊บ ๆ ดังเบา ๆ จากกองหลังกองผักกาด.. “อย่า..บอกนะ..ว่า!!” หลินหยามองก่อนที่จะวิ่งไปดูตามเสียง กร๊วบบบบ!! มันคือเจ้าแพนด้า หมีขาวดำตัวเขื่องจากด้านหลังร้าน ที่ตอนนี้กำลังนั่งโงนเงนเคี้ยวไผ่ข้างลังผักเหมือนตัวเองเป็นลูกค้าประจำของที่นี่ชนิดที่มีบัตรสะสมแต้มเต็มทุกช่อง… มันเป็นสัตว์เลี้ยงของเจ้าของร้านหรือเถ้าแก่ เธอทำอะไรมันไม่ได้หรอกนะ …

         “กินไผ่ได้ แต่ห้ามกินผักอย่างอื่นล่ะเจ้าอ้วน” เอ่ยบอกแล้วหรี่ตามองเจ้าหมีแพนด้าตัวนั้น

         หลังจากนั้นก็เดินไปทำงานต่ออย่างร่าเริงไม่เร่งรีบ บางทีก็มีเหนื่อยบ้างตอนคนเต็มบางทีก็มีหลุดทำช้อนหลนเหมือนกันนะไม่ใช่ทำงานได้ไร้ที่ติขนาดนั้น เธอหัวเราะแห้ง ๆ บ้างเป็นเรื่องปกติเพราะเธอต้องขอโทษ แล้วบางทีก็โดนชนบ้างแต่ก็ไม่เป็นอะไร เธอเข้าใจได้เพราะคนมันเยอะนั้นแหละ หลินหยาดูจะวุ่นวายบางครั้งและบางเวลา แต่บางครั้งสายตาของคนอื่นที่มองเธอก็ดูสนใจเกินไปจนน่าอึดอัด เธอชอบคนที่ไม่ต้องมามองเธอด้วยสายตาแบบนั้นมากกว่า

         และเมื่อแตะปลายยามอู่เถ้าแก่ก็เรียก “เลิกงานได้ เจ้าเหนื่อยไหม?” เขาเอ่ยถามแล้วหลินหยาก็เหลือบมอง รอยยิ้มของเธอปรากฎเล็กน้อย “ไม่เจ้าค่ะ ข้าสนุกดีกับการที่ท่านให้โอกาสข้าได้ลองเป็นพนักงานเสิร์ฟ” นางเอ่ยบอกแบบนั้น ก่อนที่เถ้าแก่จะยื่นอีแปะให้เหมือนทุกวัน หลินหยานั้นยิ้มจนตาหยีแล้วรับถุงเงินไว้แน่น ก่อนที่จะขอตัวออกจากร้านหม้อไฟให้เรียบร้อย กลิ่นพริกหอมยังอยู่ตรงชายเสื้อเธอเหมือนเดิม วันนี้ก็ยังคงผ่านพ้นไปด้วยดี



@Admin


พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)
มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่
รางวัล: 150 อีแปะ - 10 EXP


แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับ 10 EXP โพสต์ 2025-6-8 22:57
โพสต์ 15208 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-8 21:49
โพสต์ 15,208 ไบต์และได้รับ +3 ความชั่ว +5 ความโหด จาก ขลุ่ย  โพสต์ 2025-6-8 21:49
โพสต์ 15,208 ไบต์และได้รับ +3 EXP +10 คุณธรรม +6 ความโหด จาก ลาภลอย  โพสต์ 2025-6-8 21:49

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1เหรียญอู่จู +150 ย่อ เหตุผล
Admin + 150

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ดาวนำโชค
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
พลั่ว
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x15
x20
x52
x50
x25
x182
x1
x4
x4
x44
x1
x2
x2
x10
x10
x34
x2
x1
x122
x2
x18
x14
x5
x13
x60
x16
x49
x48
x74
x1
x1
x114
x3
x6
x1
x1
x1
x3
x9
x5
x3
x2
x1
x6
x6
x10
x5
x132
x40
x20
x7
x15
x42
x4
x1
x1
โพสต์ 2025-6-14 15:53:26 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ สิบสี่ เดือน ห้า รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามอู่ เวลา 11.00 - 13.00 น. ไปทำงานร้านหม้อไฟและปิ้งย่าง - ฉ่าบู๋มู่ก่าต้


          ขณะก้าวพ้นประตูไม้บานเก่าของโรงเงินตราฮั่นหัวหนงหมิน หญิงสาวไม่หันกลับมามองแม้เพียงนิด ทว่าสองมือน้อยที่กำถุงเงินไว้แน่น กลับบ่งบอกถึงคำมั่นสัญญาที่มีต่อตัวเองว่าทุกหยดเหงื่อจะไม่สูญเปล่า และแม้ชีวิตจะเปราะบางเพียงใด นางก็จะเดินหน้าต่อด้วยรอยยิ้มบางบนริมฝีปาก ยามอู่ที่อากาศเริ่มร้อนระอุ แสงแดดกลางฤดูร้อนสาดลงบนพื้นหินหน้าร้านหม้อไฟและปิ้งย่างที่ขึ้นชื่อที่สุดแห่งตรอก ร้านปิ้งย่าง "ฉ่าบู๋มู่ก่าต้า" กลิ่นหอมของน้ำซุปที่ต้มเคี่ยวจนได้ที่ลอยอบอวล ผสมกับกลิ่นถ่านไม้ที่กำลังเผาไหม้ในเตาหินสำหรับปิ้งเนื้อ ทำให้ผู้คนผ่านไปมาหยุดยืนมองหน้าร้านไม่ขาดสาย บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักตามสไตล์ยามเที่ยงในตรอกการค้าแห่งนี้

          หลินหยาเดินมาเธอสวมชุดสำหรับทำงานอย่างเรียบง่าย ผ้ากันเปื้อนอยู่ที่ร้านเดินมาเอาผ้ากันเปื้อนมาผูกคาดทับไว้ที่หน้าอกและผูกหลังแน่นหนา เดินเร็ว ๆ จนถึงจุดที่เจ้าของรา้นชายหนุ่มร่างใหญ่อยู่แล้วก้มโค้งคำนับให้อีกฝ่ายที่เป็นเถ้าแก่ร้านอย่างนอบน้อม ใบหน้าของเธอนั้นยังคงมีประกายแจ่มชัดเหมือนครั้งที่หายไป แม้อาจจะดูผอมลงนิดหน่อยก็ตาม “ขออภัยเจ้าค่ะ เถ้าแก่ ที่หายไปถึงห้าวันไม่ได้มาบอกกล่าวเพราะว่าข้าป่วยอย่างกระทัยนหันเจ้าค่ะ พอดีข้ากินของที่แพ้แล้วก็สลบไปไม่ได้สติเลย” หลินหยาเอ่ยบอกอย่างแผ่วเบาอย่างจริงใจ ดวงตาที่จ้องมองตรงไปอย่างสำนึกผิด ทำให้เถ้าแก่นั้นหัวเราะนิดหน่อยเพราะเขาไม่ได้ถือสา

          “ข้าไม่ได้ถือสาอะไรหรอก โชคดีแค่ไหนแล้วที่เจ้ารอดมาได้น่ะ เอาเถอะ ไม่เป็นอะไร ข้าเข้าใจดี เจ้ากลับมาทำงานได้ก็ดีแล้ว ตอนนี้ลูกค้าแน่นร้านอย่างกับมดขึ้นน้ำตาล ไปเริ่มจากการล้างผักก่อนแล้วก็ไปช่วยส่งอาหารตามโต๊ะแบบปกติทีนะ อย่าหักโหมล่ะ ร่างกายเจ้ายังไม่แข็งแรงดีนัก”

          หลินหยาเมื่อได้ยินดังนั้นเธอก็ค้อมหัวรับคำ แล้วเดินไปผ่านหลังร้านเข้าไปยังห้องครัวที่อบอ้าวด้วยไอน้ำและกลิ่นเนื้อหมัก นางเริ่มจากการล้างผักสดที่เรียงกองพะเนินอยู่ข้างอ่างไม้ ล้างอย่างระมัดระวังทุกใบ ทั้งผักกาดเขียว ผักบุ้ง เห็ดหอม และขึ้นฉ่าน ทุกชิ้นถูกตรวจเช็ดอย่างพิถีพิถันเเพราะรู้ดีว่านี้คือร้านที่ขึ้นชื่อเรื่องที่ลูกค้าคาดหวังคุณภาพอย่างสูงแหละ หลังจากที่เตรียมวัตถุดิบเสร็จแล้วนางก็ถูกเราี่ยให้ไปเปลี่ยนหน้าที่ไปยังหน้าร้าน สวมผ้าคาดเอวใหม่แล้วออกไปยังโถงทางเดินที่เต็มไปด้วยเสียงพูด เสียงจ้อกแจ้กของลูกค้า หญิงสาวเดินไปเสิร์ฟถาดไม้ที่บรรจุชามน้ำร้อน น้ำซุป ผักสด และเนื้อสไลด์ ขณะหลบหลีกโต๊ะและเก้าอี้ที่แออัดด้วยความชำนาญอย่างมาก ลูกค้าบางคนจำหน้าเธอได้นะเนี้ย

          “แฮ่..แม่นางคนนี้หายไปไหนมาตั้งหลายวัน”
          “แหม่ คิดว่าหนีไปแต่งงานเสียแล้วน่าา”

          หลินหยาที่ได้ยินแบบนั้นก็ทำเพียงยิ้มจาง ๆ ไม่ตอบโต้อะไรมากนักเพราะมีเพียงดวงตาที่ฉายแบบขอบคุณและท่าทางที่ไม่ถือตัวของเธอ เธอแค่ตั้งใจทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดก็พอ แม้จะมีเหงื่่อไหลบ้างจากขมับและซอกคอของตนเอง เสื้อผ้าเปียกปอนจากไอน้ำและความร้อนจากเตา แต่ก็ไม่มีคำบ่นหลุดออกมาจากปากของหญิงสาวแม้แต่น้อย เพราะสิ่งที่เธอทำก็คือ บ่นในใจแล้วกัน..เห่อ ทำไมต้องโดนบอกแบบนั้นด้วยนะ

          เสียงเตือนของพ่อครัวหลังครัวดังขึ้นมาอีกครั้ง “แม่นางน้อย โต๊ะสิบสามสั่งเพิ่มหมูหมักกับเห็ดอีกชุด” เสียงนั้นบอกส่วนหลินหยาก็หันไปแล้วรีบพยักหน้าเดินไปรับถาดใหม่จากหลังร้าน ความว่องไวของเธอกลับมาอีกครั้งแม้จะยังไม่หายดีเต็มร้อย แต่จิตใจของเธอยังคงพร้อมสู้ชีวิตได้ทุกเมื่อ เธอรู้ว่าการกลับมาทำงานวันนี้ไม่ใช่แค่ค่าจ้าง 2-3 ตำลึงหรอกนะ แต่มันคือสิ่งที่ทำให้มีชีวิตชีวาต่างหาก




@Admin


พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)
มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่
รางวัล: 150 อีแปะ - 10 EXP


แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับ 10 EXP โพสต์ 2025-6-14 22:37
โพสต์ 10704 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-14 15:53
โพสต์ 10,704 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม จาก ทักษะนักดนตรีข้างถนน  โพสต์ 2025-6-14 15:53
โพสต์ 10,704 ไบต์และได้รับ +3 ความชั่ว +5 ความโหด จาก ขลุ่ย  โพสต์ 2025-6-14 15:53
โพสต์ 10,704 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม +4 ความโหด จาก ลาภลอย  โพสต์ 2025-6-14 15:53

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1เหรียญอู่จู +150 ย่อ เหตุผล
Admin + 150

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ดาวนำโชค
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
พลั่ว
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x15
x20
x52
x50
x25
x182
x1
x4
x4
x44
x1
x2
x2
x10
x10
x34
x2
x1
x122
x2
x18
x14
x5
x13
x60
x16
x49
x48
x74
x1
x1
x114
x3
x6
x1
x1
x1
x3
x9
x5
x3
x2
x1
x6
x6
x10
x5
x132
x40
x20
x7
x15
x42
x4
x1
x1
โพสต์ 2025-6-15 18:01:48 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ สิบห้า เดือน ห้า รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามอู่ เวลา 11.00 - 13.00 น. ไปทำงานร้านหม้อไฟและปิ้งย่าง - ฉ่าบู๋มู่ก่าต้


          แดดร้อนในยามอู่ร้อนยเปรี้ยง ๆ จนแม้แต่เงาของชายคาก็ดูเหมือนจะละลายหายไปจากพื้นถนนกันเลยทีเดียว แต่ในตลาดฉางอันกลางวันนี้ไม่มีคำว่าหยุดร้าน แน่นอนว่าร้านหมูกระทะก็เหมือนกัน เอ้ย ร้านหม้อไฟสิ ตั้งอยู่ตรงนั้นใกล้ถนนสายหลักที่คึกคักไม่แพ้แสงอาทิตย์ที่สาดลงมาบนหลังคากระเบื้องเก่าเลย กลิ่นของน้ำหอมฉุยของน้ำซุปหม้อไฟทั้งแบบเผ็ดจัดจ้านและซุปกระดูกหอมหวานลอยอบอวลตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ เสียงเนื้อเด้งในหม้อ เสียงผักฟู่ในน้ำเดือด เสียงหัวเราะัคิดคักของทั้งลูกค้า เด็ก ผู้ใหญ่ ผสม ๆ กันไปพร้อมกับเสียงการบริการของพนักงานของร้านทำให้ตอนนี้เหมือนกับงานเทศกาลแบบย่อม ๆ แล้วล่ะ

          หลินหยาสวมเสื้อผ้าธรรมดาที่สวมเมื่อเช้าเหมือนเคยสีฟ้าอ่อน เธอเดินไปหยิบผ้าคาดเอวกันเปื้อนสะอาดสะอ้านมาแล้วพับเข้ามุมทุกเช้าตามประสาคนที่ไม่อยากโดนว่าเท่าไร แม้ว่าจะพึ่งหายป่วยมาไม่กี่วัน เธอก็ไม่คิดจะปล่อยเวลาให้เสียเปล่าไปหรอกนะ หญิงสาวเดินเข้ามาทางหลังร้านอย่างเงียบเชียบแล้วพูดเสีนยงใสทักทายเถ้าแก่ร้าน

          “สวัสดีเจ้าค่ะเถ้าแก่ หลินหยามาแล้วเจ้าค่ะ”

          เถ้าแก่ชายนั้นหัวเราะเล็ก ๆ แล้วโบกมือเหมือนประมาณว่ารู้แล้ว “ไปล้างผักเหมือนเดิมนะ ล้างเสร็จก็ช่วยไปเสิร์ฟลูกค้าหน่อยล่ะ ลูกค้าเยอะนัก คนงานก็หนีไปคั่วสาวหมดแล้วเจ้าพวกนี้นี่” เขาบ่นนิดหน่อยส่วนหลินหยาก็หัวเราะเล็ก ๆ ตามไม่ได้เลยทีเดียว เธอเดินไปหยิบกะละมังใส่พักแล้วจัดการล้างผักตามปกติ ผักทุกอย่างก็ล้างหมดแล้วล่ะ เอาให้สะอาดไม่มีเศษขี้ดินติดแม้แต่น้อย เธอชอบกลิ่นเขชียวสดของผักเหล้านี้มากนัก มันทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในไร่เล็ก ๆ ที่เธอใฝ่ฝันอยากจะมีกันเลยทีเดียว

          หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อมือเริ่มแห้งและกลิ่นผักยังติดปลายนิ้ว เธอก็ถูกเรียกให้ไปช่วยเสิร์ฟแทน หน้าที่ประจำของหลินหยาในร้านนี้คือการเดินเสิร์ฟเนื้อสด แผ่นปลาบาง ๆ เส้นบะหมี่ที่ถูกทำใหม่จากหลังร้าน ไปจนถึงหมูสามชั้นหั่นแผ่นแบบฉ่ำ ๆ ทุกอย่างต้องวางเรียงอย่างงดงามในจานหยกหรือไม้ขึ้นรูป หลินหยาเดินผ่านโต๊ะแล้วโต๊ะเล่า รับเสียงเรียก บันทึกคำสั่ง นำของมาส่ง บางครั้งก็รินชาแล้วยิ้มให้เด็กตัวเล็กที่นั่งบนตักพ่อกับแม่อย่างเป็นธรรมชาติ การพูดจาสุภาพแต่ไม่เย็นชา ท่าทางคล่องแคล่วแต่ไม่ลนลานของนางทำให้ลูกค้าหลายคนอดชมไม่ได้ว่าหลิญงสาวดูมีความสุขกับงานที่ทำงานของนางนัก

          แม่นางนี้ยิ้มสวยเหมือนใบชาละลายเลยนะ” เสียงแซวจากชายวัยกลางคนที่นั่งเมาอยู่กับเพื่อโต๊ะหนึ่งดังขึ้น หลินหยาทำเพียงหัวเราะนิด ๆ แล้วหลบสายตา ไม่พูดอะไรหรอกแต่ก็ไม่ถือตัว นางรู้ดีว่าพวกเขาแค่พูดเล่นเพราะสุรา เจอแบบนี้จนชินแล้วล่ะ เพราะบางทีก็มีอยากจะมาลวนลามเหมือนกันนะ แต่พวกเขาคงเกรงใจท่านเถ้าแก่ที่ถ้ากล้าทำอะไรก็ชกเมื่อนั้นแหละ จากที่ดูกล้ามแกแล้วก็น่ากลัวอยู่เหมือนกันนะ

          กระทั่งเวลาเริ่มขยับเข้าใกล้ยามเที่ยงความวุ่นวายของร้านก็ยิ่งทวีคูณบรรดาหม้อไฟบนโต๊ะเริ่มเดือดปุด ๆ พร้อมกับเสียงสั่งของเพิ่ม เสียงช้อนกระทบถ้วย เสียงตะเกียบกระทบของ เสียงซุปกระเด็นและหัวเราะแบบไม่หยุดหย่อน หลินหยารู้สึกเหมือนตนกลายเป็นแม่น้ำกลางร้านที่คอยหล่อเลี้ยงความสุขให้คนทุกคน โดยไม่รู้ตัวเองก็ยิ้มกว้างไม่หยุดเช่นกัน ในโลกที่แสนวุ่นวาบบางทีการทำงานได้ล้างผักมันก็สนุกนะ แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำพหรับการทำงานน่ะ หลังจากนั้นเมื่อทำงานเสร็จก็เดินไปรับเงินมาให้เรียบร้อย ไม่ได้เยอะขนาดนั้นแต่มีความสุขมากกว่าเพราะงั้นเธอเลยไม่ว่าอะไรหรอกนะ



@Admin


พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)
มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่
รางวัล: 150 อีแปะ - 10 EXP

แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับ 10 EXP โพสต์ 2025-6-15 20:40
โพสต์ 10255 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-15 18:01
โพสต์ 10,255 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม +4 ความโหด จาก ผู้มีบุญ  โพสต์ 2025-6-15 18:01
โพสต์ 10,255 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม จาก ทักษะนักดนตรีข้างถนน  โพสต์ 2025-6-15 18:01
โพสต์ 10,255 ไบต์และได้รับ +3 ความชั่ว +5 ความโหด จาก ขลุ่ย  โพสต์ 2025-6-15 18:01

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1เหรียญอู่จู +150 ย่อ เหตุผล
Admin + 150

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ดาวนำโชค
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
พลั่ว
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x15
x20
x52
x50
x25
x182
x1
x4
x4
x44
x1
x2
x2
x10
x10
x34
x2
x1
x122
x2
x18
x14
x5
x13
x60
x16
x49
x48
x74
x1
x1
x114
x3
x6
x1
x1
x1
x3
x9
x5
x3
x2
x1
x6
x6
x10
x5
x132
x40
x20
x7
x15
x42
x4
x1
x1
โพสต์ 2025-6-21 15:05:27 | ดูโพสต์ทั้งหมด


วันที่ ยี่สิบเอ็ด เดือน ห้า รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามซื่อ เวลา 09.00 - 11.00 น. ไปทำงานร้านหม้อไฟและปิ้งย่าง - ฉ่าบู๋มู่ก่าต้า


         ยามซื่อกลับมาอีกครั้งมันเริ่มต้นขึ้นพร้อมกับกลิ่นน้ำหอม ไม่สิ กลิ่นหอมของน้ำซุปเดือดปุด ๆ และเสียงกระทะร้อนฉ่า ๆ ในร้านฉ่าบู๋มู่ก่าต้า ร้านหม้อไฟและปิ้งย่างชื่อดับประจำเมืองหลวงอย่างฉางอันที่ตั้งอยู่บนถนนเส้นรองที่ติดกับตรอกคนเดินข้างหอชมวิว หลินหยาในชุดผ้ากันเปื้อนใหม่เอี่ยมรีบก้าวเข้ามาสู่ร้านด้วยสีหน้าที่แจ่มใส พลางเริ่มผูกผ้าขาวบางนั้นไว้ที่เอวอย่างคล่องแคล่ว เสียงเช็ดโต๊ะ เสียงวางของ เสียงเสิร์ฟจานดังกระทบกันเป็นจังหวะที่บ่งบอกได้เลยว่า ตอนนี้พลุกพล่านตามแบบฉบับร้านที่ลูกค้าแน่นตั้งแต่เวลาที่ยังไม่สายดี …แต่มันไม่ได้เยอะเหมือนตอนเที่ยงขนาดนั้นซึ่งดีแล้ว

         หลินหยาไม่พูดพร่ามทำเพลงอะไรทั้งนั้น เธอรีบหยิบเมนูไปให้ลูกค้าที่เพิ่งเข้ามา พาพวกเขาไปนั่งที่โต๊ะว่าง บริการน้ำก่อน แล้วยิ้มแย้มถามเมนูว่าอยากได้ชุดเนื้อส่วนไหนบ้างไหม น้ำซุปแบบไหน ใส ดำ? ต้มยำ หรืออื่น ๆ แค่ก รสชาติเน้นกลมกล่อมหรือจัดจ้าน ปากถามไปมือก็เสิร์ฟน้ำเสิร์ฟชาไปด้วยเหมือนกัน แววตาก็สอดส่องว่าตรงโต๊ะไหนนั้นเริ่มต้องเดินไปเติมถ่ายในเตาถ่าน หรือต้องเคลียร์จานเปล่าแล้วหรือเปล่าหากลูกค้าเดินจากไป

         พนักงานบางคนนั้นยังเก้ ๆ กัง ๆ แต่กับหลินหยานั้นเหมือนกับปลาสลิดที่โดนน้ำแบบที่โดนตัดหัวแต่ก็ยังวิ่งได้อยู่ ในร้านนี้ทำได้ทุกอย่างแบบไม่ต้องบอกแล้วล่ะ ท่ามกลางเสียงตะโกนเรียกของลูกค้ากับเสียงน้ำเดือดในหม้อดินข้างโต๊ะ บรรยากาศก็อบอุ่นเหมือนกันนะ แต่วันนี้มีอะไรบางอย่างแปลกไป..

         "เฮ้ย ได้ยินเรื่องซ่างกวงเหม่ยเหรินหรือยัง?" เสียงกระซิบกระซาบจากโต๊ะมุมใกล้หน้าต่างเรียกความสนใจของหลินหยาโดยไม่ตั้งใจ หญิงสาวหูไวทันที ไม่ใช่เพราะอยากยุ่งเรื่องชาวบ้านหรอกนะ แต่เป็นเพราะน้ำเสียงนั้นทั้งตื่นตระหนกและสนุกสนานในคราวเดียว

        “พระนางล้มป่วยแบบปริศนาเลยล่ะ ไม่มีหมอคนไหนวินิจฉัยโรคได้เลยนะ ขนาดหมอหลวงยังต้องยืนเกาหัวอยู่หน้าประตูเอ๋อ ๆ เลยตรวจเท่าไรก็ไม่เจอ” ชายคนหนึ่งพูดขณะที่เขาจิ้มหมูสามชั้นสไลด์บางลงหม้อในน้ำซุปสีน้ำตาลเข้มจนเกือบแดงที่เดือดพล่นรับเนื้อเข้าไปอย่างรวดเร็ว

         "เอ็งว่า...อาจจะเป็นฝีมือเผ่าปีศาจหรือเปล่าวะ? ได้ยินว่าเดี๋ยวนี้มีปีศาจบางตนปลอมตัวเป็นมนุษย์ได้ สวยด้วยนะ ไอ้เผ่าที่ล่อลวงผู้คนอะ" อีกคนทำเสียงเบาแต่มีแววขำขันเจืออยู่ "เขาว่า...ร่างของเหม่ยเหรินน่ะ ตอนนี้เขาเก็บในโลงแก้วเลยนะ เพื่อให้ร่างไม่เน่า! ข้าเห็นกับตาเมื่อไปส่งเครื่องหอมเข้าวัง! เย็นยะเยือกเหมือนถูกแช่น้ำแข็ง!" แหนะ..ใส่สีตีไข่แล้วบอกว่าตัวเองเห็นกับตาอีกล่ะ..

         หลินหยาแม่งกรอกตาเล็กน้อย เธอวางผักรวมมิตรตรงหน้าลูกค้าอีกโต๊ะที่สั่งไว้ มือยังแน่นอิ่งแต่หูเงี่ยฟังทั้งสองคนจากไกล ๆ ใบหน้าของหลินหยาไม่แสดงความรุ้สึก เธอยังคงสดใส และมีดวงตาใสซื่อที่บริสุทธิ์เช่นเดิมไม่มีเปลี่ยน มีเพียงรอยยิ้มที่สนุภาพตามหน้าที่ของตนเอง แต่ภายในน่ะสะกิดแล้วสะกิดอีก..

         เรื่องข่าวลือในวังเช่นนั้นหรือ? เหม่ยเหรินยถึงขั้นป่วยต้องใช้โลงแก้ว บ้าหรือเปล่า เอาเข้าโลงแก้วแล้วจะหายใจได้ยบังไง เหมือนแช่งให้ตายอ่ะ..แต่ข่าวลือก็คือข่าวลือ แล้วมีปีศาจมาเกี่ยวข้อง ถึงจะฟังแล้วเหมือนนิทานปรัมปราแต่นางรู้ว่าปีศาจมีออกเยอะแยะนอกฉางอัน หลินหยาไม่ใช่พวกใส่ใจกับข่าวพวกนี้หรอก แต่เธอเป็นคนจำเก่ง ใครปล่อยข่าวอะไรมาเธอก็จำได้หมดนั้นแหละ เธอเก็บข้อมูลไปด้วยขยับเข้าไปล้างจานบ้างข้างหลังใกล้โต๊ะข่าวลือนั้น..

         แม้จะไม่ได้ยินทั้งหมดแตค่ก็พอประมาลได้ว่าเครื่องนี้ก็ไม่ธรรมหรือเปล่า หรือแค่ขี้เซาหลับเงียบแล้วไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลยต้องรอฮ่องเต้ไปจุมพิตจากรักแท้ แต่ฮ่องเต้หลงใหลสนมลู่ที่มีบุตรให้พระองค์มาก ๆ …หึ..ในวังน่ะ ไม่มีคำว่ารักแท้หรอก ในสายตาของหลินหยา มันก็คือกามราคะที่คละคลุ้งเต็มไปด้วยอำนาจและสิ่งที่เรียกว่า การไม่ใช่มนุษย์ ไม่แปลกหรอก …

         คนธรรมดาก็เป็นเพียงหมากของผู้มีอำนาจแล้วรอวันโดนเด็ดให้ชีวิตปลิดปลิวเท่านั้นแหละ.. คนธรรมนั้นไม่จำเป็นต้องคิดหรอก ว่าจะเอาไปเล่าให้ใครไป เพระาไม่รุ้ด้วยซ้ำว่าจะตายวันตายพรุ่ง..

         สุดท้ายแล้วหลินหยาก็ถอนหายใจเฮือกเบา ๆ แล้วสะบัดผ้าเช็ดมือออกจากเอวของตเนอง หันหลังเดินกลับไปเตรียมเนื้ออีกชุดให้นำไปเสิร์ฟโต๊ะใหม่ที่เพิ่งสั่งมา เธอเหมือนพึมพำอะไรบางอย่างในใจแบบที่ชอบคุยกับตัวเองอยบู่แล้ว ขณะที่มือยบังจัดผักลงถาดอบบไม่หยุด เถ้าแก่คงไม่ชอบให้พูดเรือ่งพวกนี้ในร้านแน่ ฟังหูไว้หุแล้วกันเนอะ คนสำคัญแบบนั้นน่ะ ลำบากกันไปหมดจริง ๆ นั้นแหละ..

         แต่ถึงจะบอกแบบนั้นหลินหยาก็จำเรื่องนี้ได้อยู่ดี เพราะเธอดันเป็นรพวก..ลืมยากโคตร ๆ เลยน่ะสิ..เพราะงั้นจะจำได้มันก็คงไม่แปลกอะไร หลินหยาระบายยิ้มเล็ก ๆ เพราะอย่างไรแล้ว เธอก็จะไม่มีวันเหยียบเข้าไปในเกมการเมืองของสิ่งที่เรียกว่าพวกผู้มีอำนาจหรอกนะ แม้ว่านางจะคิดถึงใบหน้าของชายคนหนึ่งอยู่ก็ตาม แต่เธอไม่ได้ทำอะไรผิด เขาเสนอ และเธอก็สนองแม้ว่าเขาจะไม่พอใจเล็ก ๆ จากสิ่งที่เธอเห็นแล้วก็ตามที หลินหยาระบายยิ้มเล็ก ๆ ขอโทษนะใต้เท้าเถียนเฟิง ข้าน่ะ...ไม่ใช่หมากง่าย ๆ ของท่านหรอก และหากท่านอยากได้ข้าเป็นหมาก ก็อย่าหวังเลย เพราะท่านมัน...คนโหดร้าย สำหรับข้าเสียเหลือเกิน ใต้เท้าเถียนเฟิง.. โชคดีที่เมื่อวานเขาหลุดปากออกมาเรื่องชาวหนานเจ้า เธอเลยตัดเยื่อใยเรื่องนี้ได้ง่าย ๆ เลยล่ะ





@Admin


พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)
มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่
อื่น ๆ: ฟังข่าวลือจ้าาาา จะเอาอีเอ็นพรี๊วววว

รางวัล: 150 เหรียญอู่จู - 10 EXP
ฟังข่าวลือ 15 EXP



แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับ 25 EXP โพสต์ 2025-6-21 15:51
โพสต์ 15295 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-21 15:05
โพสต์ 15,295 ไบต์และได้รับ +6 EXP +10 คุณธรรม +8 ความโหด จาก กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)  โพสต์ 2025-6-21 15:05
โพสต์ 15,295 ไบต์และได้รับ +3 EXP +10 คุณธรรม +6 ความโหด จาก ผู้มีบุญ  โพสต์ 2025-6-21 15:05
โพสต์ 15,295 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม จาก ทักษะนักดนตรีข้างถนน  โพสต์ 2025-6-21 15:05

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1เหรียญอู่จู +150 ย่อ เหตุผล
Admin + 150

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ดาวนำโชค
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
พลั่ว
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x15
x20
x52
x50
x25
x182
x1
x4
x4
x44
x1
x2
x2
x10
x10
x34
x2
x1
x122
x2
x18
x14
x5
x13
x60
x16
x49
x48
x74
x1
x1
x114
x3
x6
x1
x1
x1
x3
x9
x5
x3
x2
x1
x6
x6
x10
x5
x132
x40
x20
x7
x15
x42
x4
x1
x1
โพสต์ 2025-7-1 01:34:26 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 29 อู่เยว่ รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11

ยามซวี (เวลา 19.00 เป็นต้นไป)




ยามพลบค่ำย่างกรายแสงตะวันสุดท้ายลับขอบฟ้าไปแล้ว แสงโคมไฟเริ่มส่องสว่างขึ้นตามร้านรวงต่าง ๆ ทั่วฉางอัน ทว่าในใจของซูเหยาหาได้สงบเยือกเย็นเฉกเช่นยามรักษาคนไข้ไม่ นางถอนหายใจแผ่วเบา ลำพังทำงานเป็นหมออย่างเดียว รายได้ก็ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ ใครใช้ให้นางเป็นหมอมากคุณธรรมกันเล่า? พอคนไข้ยากไร้ไม่มีเงินจ่ายค่ารักษา นางก็อดที่จะไม่คิดเงินพวกเขาไม่ได้ ด้วยความจำเป็นเช่นนี้ นางจึงตัดสินใจออกหางานพิเศษเพื่อประทังชีวิต


เท้าเรียวพาซูเหยาเดินไปตามถนนที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คน เสียงจอแจและกลิ่นอาหารหอมหวนลอยมาตามลม จนกระทั่งนางมาหยุดอยู่หน้าร้านหม้อไฟแห่งหนึ่ง กลิ่นหอมฉุนของเครื่องเทศและเนื้อสัตว์ที่ลอยออกมาเชื้อเชิญผู้คนให้เข้ามาลิ้มลอง ร้านนี้ดูสะอาดสะอ้านและมีลูกค้าคับคั่งอยู่ไม่น้อย นางสูดหายใจเข้าลึกๆ รวบรวมความกล้า ก่อนจะก้าวเข้าไปภายในร้าน


ซูเหยามองหาเจ้าของร้าน ก่อนจะเห็นชายร่างใหญ่ผู้หนึ่งกำลังสาละวนกับการจัดโต๊ะและต้อนรับลูกค้า ใบหน้าของเขามีเหงื่อเป็นเม็ด ๆ แต่ก็ดูใจดี ซูเหยาเดินเข้าไปหาชายผู้นั้นด้วยท่าทีสุภาพ


"คารวะท่านเถ้าแก่ ข้ามีนามว่าซูเหยา ใคร่ขอรบกวนท่านเพียงครู่หนึ่งได้หรือไม่เจ้าคะ?"


เถ้าแก่ร้านหม้อไฟหันมามองซูเหยาอย่างพิจารณา ดวงตาของเขากวาดมองชุดที่เรียบง่ายของนาง แต่กลับสัมผัสได้ถึงความสงบในแววตาของหญิงสาวเบื้องหน้า


"มีเรื่องอันใดหรือแม่นาง? ยามนี้ร้านข้ากำลังวุ่นวายยิ่งนัก หากไม่มีเรื่องสำคัญคงต้องขออภัย"


"ข้าเข้าใจเจ้าค่ะ...คือว่า...ข้าใคร่ขอโอกาสทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวในร้านของท่าน เพื่อแลกกับค่าแรงประทังชีวิตเจ้าค่ะ มิได้หวังสิ่งใดเกินเลย เพียงขอแรงกายแลกกับความสุจริต"


เถ้าแก่ร้านหม้อไฟเลิกคิ้วเล็กน้อย เขาไม่ค่อยเห็นหญิงสาวที่ดูมีการศึกษาเช่นนี้มาขอทำงานใช้แรงงานเท่าใดนัก เขากวาดสายตามองซูเหยาอีกครั้ง ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า และเห็นถึงความมุ่งมั่นในดวงตาคู่นั้น


"เจ้าเป็นหญิงสาวบอบบางเช่นนี้ จะทนทานงานหนักไหวหรือ? งานในร้านหม้อไฟของข้ามิใช่งานสบาย ต้องแบกหาม ยกถ้วยชามมิขาดมือ"


"ข้ามิได้รังเกียจงานหนักเจ้าค่ะ ขอเพียงมีงานให้ทำ เพื่อมิให้อดอยากตาย และเพื่อให้ชีวิตนี้ได้ดำเนินต่อไป ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ มิให้ท่านเถ้าแก่ต้องผิดหวัง"


เถ้าแก่ร้านครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เห็นแววตาที่มุ่งมั่นและน้ำเสียงที่จริงใจของซูเหยา เขาก็พยักหน้าช้า ๆ


"เอาเถิด...ในเมื่อเจ้ามุ่งมั่นถึงเพียงนี้ ข้าจะให้โอกาสเจ้าได้ลองทำงานดูก่อนหนึ่งวัน หากเจ้าทำได้ดี ก็อยู่ช่วยงานกันต่อไป ผู้ที่ตั้งใจทำกิน ย่อมไม่อดตายจริงดังคำโบราณว่าไว้ เจ้าเริ่มงานได้เลยตั้งแต่ยามนี้ งานแรกคือช่วยข้าจัดโต๊ะและรับรายการอาหารจากลูกค้า"


ซูเหยาโค้งคำนับอย่างนอบน้อม ดวงตาฉายแววโล่งอกและยินดี 


"ขอบคุณท่านเถ้าแก่เจ้าค่ะ! ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังเด็ดขาด!"


ซูเหยาเริ่มงานทันที นางเรียนรู้งานอย่างรวดเร็ว แม้จะไม่คุ้นชินกับการเดินเหินท่ามกลางผู้คนพลุกพล่านและการยกถาดหนักๆ แต่ด้วยความตั้งใจและความคล่องแคล่วที่มีมาแต่เดิม นางก็สามารถปรับตัวได้ในไม่ช้า มือที่เคยสัมผัสชีพจรอย่างแผ่วเบา บัดนี้กลับถือถ้วยชามและเช็ดโต๊ะอย่างขะมักเขม้น เสียงเจื้อยแจ้วของผู้คนที่สั่งอาหาร กลิ่นฉุนของน้ำซุปที่กำลังเดือดพล่าน และความร้อนจากเตาถ่าน มิได้ทำให้นางย่อท้อแม้แต่น้อย


นางรับรายการอาหารจากลูกค้าด้วยรอยยิ้มสุภาพ จดจำรายละเอียดได้อย่างแม่นยำ เสิร์ฟอาหารอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง และคอยดูแลความสะอาดของโต๊ะอยู่เสมอ ลูกค้าหลายคนแปลกใจที่เห็นหญิงสาวผู้มีกิริยาเรียบร้อยเช่นนางมาทำงานเช่นนี้ แต่ก็รู้สึกสบายใจที่ได้รับการบริการที่ดีเยี่ยม


ยามผ่านไปอย่างรวดเร็ว ท้องฟ้าด้านนอกมืดสนิท ผู้คนเริ่มบางตาลง เถ้าแก่ร้านหม้อไฟที่เฝ้าสังเกตการณ์ซูเหยามาตลอดทั้งคืน เห็นความขยันขันแข็งและความตั้งใจของนางทุกอิริยาบถ


เมื่อร้านปิดลง ซูเหยาช่วยเถ้าแก่เก็บกวาดร้านจนสะอาดเรียบร้อย เหงื่อซึมที่ไรผมของนาง แต่แววตายังคงสดใส เถ้าแก่ร้านเดินมาหานางพร้อมยื่นถุงเงินอย่างเอ็นดู


"เจ้าทำงานได้ดีเกินคาดนัก" เถ้าแก่กล่าวด้วยน้ำเสียงชื่นชม "ข้ามิเคยเห็นผู้ใดขยันขันแข็งถึงเพียงนี้"


ซูเหยาเงยหน้ามองเถ้าแก่ด้วยความแปลกใจเล็กน้อย ไม่คิดว่าเขาจะเอ่ยชมเชยถึงเพียงนี้


"ขอบคุณท่านเถ้าแก่เจ้าค่ะ! นี่เป็นเพียงหน้าที่ที่ข้าพึงกระทำ" นางกล่าวตอบอย่างถ่อมตนพลางรับถุงเงินมาไว้ในมือ


เถ้าแก่ของร้านยิ้มกว้าง 


"พรุ่งนี้เจ้าก็มาช่วยงานข้าอีกเถิด...คนดีมีความสามารถเช่นเจ้า หาได้ยากยิ่งในฉางอันแห่งนี้"


ซูเหยาโค้งคำนับอย่างซาบซึ้งใจ 


"ขอบคุณท่านเถ้าแก่เจ้าค่ะ! ข้าจะมาแน่นอนเจ้าค่ะ!"


เมื่อออกจากร้านหม้อไฟ แสงจันทร์สาดส่องลงบนถนนที่เริ่มเงียบสงบ ซูเหยากำถุงเงินไว้ในมือแน่น หัวใจของนางเปี่ยมไปด้วยความหวังและความอิ่มเอมใจ เงินที่ได้มาจากการลงแรงกายด้วยความซื่อสัตย์สุจริตนั้นช่างหอมหวานยิ่งนัก อย่างน้อยคืนนี้นางก็มีเงินสำหรับซื้ออาหารประทังชีวิต เส้นทางชีวิตในฉางอันของซูเหยาแม้จะขรุขระ แต่ดูเหมือนว่าแสงแห่งความหวังได้เริ่มส่องนำทางนางแล้ว




โรลเพลย์ทำงานพาร์ทไทม์ประจำวัน

ค่าจ้าง: 150 อู่จู - 10 EXP (รายวัน)


แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับ 10 EXP โพสต์ 2025-7-1 01:41
โพสต์ 16051 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-7-1 01:34
โพสต์ 16,051 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] ความชั่ว +5 ความโหด จาก มีดแล่เนื้อ  โพสต์ 2025-7-1 01:34
โพสต์ 16,051 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] ความชั่ว +10 คุณธรรม +5 ความโหด จาก อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ญ)  โพสต์ 2025-7-1 01:34
โพสต์ 16,051 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] ความชั่ว +4 คุณธรรม +5 ความโหด จาก หมวกไผ่ผ้าคลุม  โพสต์ 2025-7-1 01:34

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1เหรียญอู่จู +150 ย่อ เหตุผล
Admin + 150

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
หมอป่า
มีดแล่เนื้อ
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ญ)
หมวกไผ่ผ้าคลุม
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x14
x4
x1
x1
x6
x4
x4
x23
12
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้