เจ้าของ: Admin

[เทือกเขาฉินหลิง]

[คัดลอกลิงก์]

1

กระทู้

38

ตอบกลับ

5118

เครดิต

เสาหลักพวกพ้อง

พลังน้ำใจ
4880
ตำลึงทอง
45
ตำลึงเงิน
473
เหรียญอู่จู
11766
STR
25+15
INT
30+0
LUK
30+20
POW
20+0
CHA
0+0
VIT
15+12
คุณธรรม
941
ความชั่ว
0
ความโหด
605
โพสต์ 2024-8-20 17:38:55 | ดูโพสต์ทั้งหมด






วันที่ 15 เดือน 8 เจี้ยนหยวนศกที่ 10

เวลา 09.30



ปีศาจแพนด้าปรากฏกายขึ้นต่อหน้าต่อตา มักจะเลือกปลีกวิเวกอยู่อย่างสันโดษกับฝูงแพนด้าของมัน ปกติพวกมันไม่ค่อยสุมสิงหรือยุ่งกับผู้คน ทว่าการมาของพวกเขาคือการเข้ามาในอาณาเขตถิ่นฐานมัน


เทือกเขาฉินหลิง


“เกิดอะไรขึ้นข้างนอก” หนึ่งในพ่อค้าคาราวานตะโกนถามเสียงดัง


“ปีศาจแพนด้า”


“ไอหยาาาาาา !!! อาตี๋ลื้อจะสู้มันไหวมั้ย”


หลงเสวียนหางคิ้วกระตุก ‘จะไปไหวได้ยังไงก่อน’ คุณชายหิมะครุ่นคิดในใจ


ยังไม่ทันได้ตอบกลับปีศาจแพนด้าเข้ามาปะทะ ทำให้เกิดการต่อสู้ บุรุษหนุ่มแห่งตระกูลกงจื่อฉลาด รู้จักประมาณฝีมือตน จึงละถอยหาโอกาสหลีกหนี 


ใช้โอกาสกระโดดขึ้นบังคับบังเหียนม้าที่มีพวกพ่อค้านั่งซ่อนตัวสั่นกันอยู่พาหลบหนี



แพ้

https://han.mooorp.com/plugin.php?id=dzs_npccomrade:fight&aid=170



ไอเท็มดรอป(ใช้เอฟเฟคผ่านประลองระบบ): สุราไผ่เขียว 1 ไห


ไอเท็มดรอป(ประลองระบบ): 

สุราไผ่เขียว 2 ไห

และอัตราออก กระดูกวิญญาณ: (เลขไบต์ 0 , 7)



เปิดใช้งานพรสวรรค์ ลาภลอย @Admin

มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลกๆ แทรก 










แสดงความคิดเห็น

กำลังสุ่มจอมยุทธ์ช่วยเหลือ  โพสต์ 2024-8-20 20:05
โพสต์ 15820 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2024-8-20 17:38
โพสต์ 15,820 ไบต์และได้รับ +3 EXP +10 คุณธรรม +6 ความโหด จาก ลาภลอย  โพสต์ 2024-8-20 17:38
โพสต์ 15,820 ไบต์และได้รับ +3 ความชั่ว +5 ความโหด จาก ขลุ่ย  โพสต์ 2024-8-20 17:38
โพสต์ 15,820 ไบต์และได้รับ +4 คุณธรรม +3 ความชั่ว +5 ความโหด จาก หมวกไผ่ผ้าคลุม  โพสต์ 2024-8-20 17:38
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ผู้มีบุญ
มีดแล่เนื้อ
เกราะทองแดง
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ช)
ง้าวปีศาจปลา
หมวกไผ่ผ้าคลุม
พัดคุณชาย
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x12
x18
x2
x4
x1
x2
x2
x4
x4
x20
x56
x1
x6
โพสต์ 2024-8-20 20:11:29 | ดูโพสต์ทั้งหมด
GongziLoongxuan ตอบกลับเมื่อ 2024-8-20 17:38
#Alastor {
    width: 700px;
    border: 4px double #2a36b1;





[สุ่มความช่วยเหลือ]


จอมยุทธ์ชุดขาว [NPC-06] ปรากฎตัวก่อนเข้าช่วยคุณและคณะพ่อค้าไว้
แต่เธอไม่ได้ทำร้ายใด ๆ ปีศาจแพนด้า เลือกปลอบประโลมมันด้วยเมตตาจนแพนด้าค่อย ๆ สงบและกลับไปที่ของมัน
ก่อนหันมาเตือนพวกคุณ อย่าเข้าไปเขตป่าไผ่บริเวณนั้น ปกติพวกมันเป็นมิตรแต่ถ้ารุกล้ำเขตมันถึงจะโจมตีเพื่อปกป้องอาณาเขต

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 1226 ไบต์และได้รับ 1 EXP! [VIP]  โพสต์ 2024-8-20 20:11
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x300
x200
x200
x200
x200
x200
x200
x200
x200
x200
x200
x1
x1
x204
x1
x1
x2
x1
x6
x1
x1
โพสต์ 2024-8-22 10:15:47 | ดูโพสต์ทั้งหมด
วันที่ 21 เดือน 08 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 10 เวลา 15.00 น




หลังจากที่ชายหนุ่มจัดการปีศาจตัวใหม่ ด้วยความข้องใจเขาตัดสินใจมาทำสมาธิเผื่อได้เจอพี่หมานจะได้ถามได้


ทางผ่านไปจุดทำสมาธิ ชายหนุ่มเจอหลุมศพเเพนด้า เขาจึงคารวะมันแล้วเดินทางไปยัง จุดทำสมาธิ


"คารวะพี่หมานขอรับ" ชายหนุ่มทักทายพี่หมานและแนะนำเจ้าไก่


"ส่วนนี่ สหายข้า มีนามว่าเฮยจี" ชายหนุ่มผ่ายมือไปทางไก่


"คารวะพี่หมาน ข้าเฮ่ยจีเป็นลูกน้องของลูกพี่โจวขอรับ" เจ้าไก่เอ่ยคารวะ ไม่รู้ทำไมเจ้าไก่กลับดูสุภาพกับพี่หมานมากกว่าที่คิด


"หึหึ ยินดีๆ มาทำสมาธิกันเถอะ หลังจกาสมาธิถ้าเจ้าอยากถามอะไรค่อยถาม" พี่หมานกล่าว


ชายหนุ่มพยักหน้าหงึกๆ แล่วบอกให้เจ้าไก่หาจุดทำสมาธิ ส่วนเขาก็ไปนั่งสมาธิที่จุดเดิม


เวลาผ่านไปซักพักใหญ่ ชายหนุ่มก็ ออกจากสมาธิ สีหน้าเข้าดูสงบขึ้น


อย่างน้อยๆวันนึงข้าควรทำสมาธิซัก ชม


พี่หมานออกจากสมาธิ


"ถามมาซิ" เขากล่าว


"ตอนนี้ข้าบังเอิญเจอปีศาจตัวใหม่แถวรอบเมืองเรา มันร้องขอชีวิตข้า ท่าทางดูไม่น่าอันตราย ข้าเลยฟาดมันให้สลบแล้วก็จากมา ข้าอยากสอบถามว่า ข้าจะแยกปีศาจที่ชั่วร้ายอย่างไร เวลาข้าสังหารจะได้ไม่รู้สึกผิด" ชายหนุ่มกล่าวถาม


"สังหาร นอ สังหาร เสี่ยวโจว" พี่หมานเหลือบมองไปที่ง้าวของชายหนุ่ม


"เจ้าลองไปสำรวจตามหมู่บ้านดู ช่วงนี้มีเด็กคนไหน ออกไปเล่นในป่า ยามกลางคืนหรือไม่ จริงๆ เจ้าพวกปีศาจมันม่วงก็เเอบน่าสงสารมันต้องการตบะบริสุทธ์เพียงเล็กน้อย เท่านั้น แต่มันก็ไม่รู้เลยว่าการกระทำของมันส่งผลกับสิ่งที่มาสนิทมันมากแค่ไหน" พี่หมายสะบัดพัดและกล่าว


"เอาล่ะเรื่องนี้เจ้าต้องลองหาข้อมูลเพิ่มเติมเองข้าใบ้ให้แล้ว" พี่หมานหุบพัดและกล่าวกับชายหนุ่ม


"เข้าใจขอรับ หมู่บ้าน เด็ก กินตบะ" ชายหนุ่มพอปะติด ปะต่ออะไรได้แล้วเหลือแค่ข้อมูลยืนยัน


หลังจากนั้น ทั้งคู่ก็แยกย้าย ก่อนไปโจวจินสังเกตุว่าเจ้าไก่หลับ จึงตบหลังไปทีเพื่อปลุกก่อนที่จะให้มันวิ่งตามมา


----------------------------------
@Admin ผู้มีบุญขอรับเผื่อเจอเหตุการณ์ที่น่าสนใจ



ตงฟางซั่ว รอปลดครับ 5.99 อยู่ว

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 11281 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2024-8-22 10:15
โพสต์ 11,281 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +4 ความโหด จาก ผู้มีบุญ  โพสต์ 2024-8-22 10:15
โพสต์ 11,281 ไบต์และได้รับ +2 EXP [ถูกบล็อค] คุณธรรม +4 ความโหด จาก แหวนดาราจรัส  โพสต์ 2024-8-22 10:15
โพสต์ 11,281 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] คุณธรรม +4 ความโหด จาก ช่อเมล็ดข้าวมงคล  โพสต์ 2024-8-22 10:15
โพสต์ 11,281 ไบต์และได้รับ +5 ความชั่ว +4 ความโหด จาก ง้าวปีศาจปลา  โพสต์ 2024-8-22 10:15
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบี่
มือกระบี่
ช่อเมล็ดข้าวมงคล
หมวกไผ่ผ้าคลุม
เกราะทองแดง
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ช)
มีดแล่เนื้อ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x4
x4
x2
x2
x2
x6
x2
x2
x1
x4
x5
x1
x1
x16
x32
x24
x9
x1
x2

1

กระทู้

38

ตอบกลับ

5118

เครดิต

เสาหลักพวกพ้อง

พลังน้ำใจ
4880
ตำลึงทอง
45
ตำลึงเงิน
473
เหรียญอู่จู
11766
STR
25+15
INT
30+0
LUK
30+20
POW
20+0
CHA
0+0
VIT
15+12
คุณธรรม
941
ความชั่ว
0
ความโหด
605
โพสต์ 2024-8-23 08:17:50 | ดูโพสต์ทั้งหมด






วันที่ 15 เดือน 8 เจี้ยนหยวนศกที่ 10

เวลา 10.00




หลงเสวียนคุมบังเหียนรถม้าที่มีพวกพ่อค้าซ่อนตัวอยู่ หลบหนีจากปีศาจแพนด้าที่หมายจ้องจะเอาชีวิตพวกเขาทุกคน


ถึงมันจะอ้วนตุ๊ต๊ะ แต่ก็มีความเร็วในการกลิ้งและวิ่งตาม ขนาดปีศาจปลายังเคยพ่ายแพ้ นับประสาอะไรกับปีศาจที่เก่งกว่าอสุรกายร้ายตัวนั้น ชายหนุ่มมิอาจรับมือได้จริง ๆ 


เมื่อรู้สึกถึงแผนการที่ไม่เป็นไปตามที่วางไว้ หลงเสวียนเกิดอาการเครียดขึ้นมาทันที


ขณะเดียวกันจอมยุทธ์ชุดขาว] ปรากฎตัวก่อนเข้าช่วยบุตรชายตระกูลกงจื่อและคณะพ่อค้าไว้ หญิงสาวนิรนามที่ออร่าความแข็งแกร่งแต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยน


เธอไม่ได้ทำร้ายใด ๆ ปีศาจแพนด้า เลือกปลอบประโลมมันด้วยเมตตาจนแพนด้าค่อย ๆ สงบและกลับไปที่ของมัน “อย่าเข้าไปเขตป่าไผ่บริเวณนั้น ปกติพวกมันเป็นมิตรแต่ถ้ารุกล้ำเขตมันถึงจะโจมตีเพื่อปกป้องอาณาเขต”


“ต้องขอบคุณแม่สาวคนนี้จริง ๆ พวกข้าคิดว่าจะไม่รอดแล้ว” หนึ่งในกลุ่มพ่อค้ากล่าว


“เธอ ?”


“เรียกข้าเหรอ” จอมยุทธ์ชุดขาวถามกลับ


“ขอบคุณ” หลงเสวียนตอบนิ่ง ๆ ความเป็นคุณชายหิมะที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใครสักเท่าไหร่ ท่าทางการแสดงออกจึงถูกมองว่าดูเย่อหยิ่ง 


กระนั้นเขาก็ขอบคุณเธอด้วยใจจริง ก่อนจะพากลุ่มพ่อค้ากลับ 










แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 11008 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2024-8-23 08:17
โพสต์ 11,008 ไบต์และได้รับ +2 คุณธรรม +2 ความชั่ว +2 ความโหด จาก อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ช)  โพสต์ 2024-8-23 08:17
โพสต์ 11,008 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม +4 ความโหด จาก ลาภลอย  โพสต์ 2024-8-23 08:17
โพสต์ 11,008 ไบต์และได้รับ +3 ความชั่ว +5 ความโหด จาก ขลุ่ย  โพสต์ 2024-8-23 08:17
โพสต์ 11,008 ไบต์และได้รับ +4 คุณธรรม +3 ความชั่ว +5 ความโหด จาก หมวกไผ่ผ้าคลุม  โพสต์ 2024-8-23 08:17
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ผู้มีบุญ
มีดแล่เนื้อ
เกราะทองแดง
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ช)
ง้าวปีศาจปลา
หมวกไผ่ผ้าคลุม
พัดคุณชาย
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x12
x18
x2
x4
x1
x2
x2
x4
x4
x20
x56
x1
x6
โพสต์ 2024-8-23 18:32:05 | ดูโพสต์ทั้งหมด

ยามเหลียนฮวาเบ่งบานชั่วราตรี
วันที่สิบเก้า ปาเยว่ เจี้ยนหยวนศกที่สิบ
กลางยามซื่อ (10.00 น.)




   “นับจากนี้ไปจำต้องเดินเท้าแล้วพะยะค่ะ”

   เสียงของสารถีผู้ขับรถม้าให้แก่ฉางซานเซียนหวางและเว่ยเจียเสียนอี๋ได้เอ่ยขึ้นหลังหยุดรถม้าลง ณ สถานที่แห่งหนึ่ง เรียวมือขาวเลิกเปิดผ้าม่านคลุมหน้าต่างรถม้าขึ้นมองรอดด้านแล้วก็เริ่มเดาออกมาว่าสถานที่ที่เขาพานางมานั้นคือที่ไหน ภาพของตัวนางสมัยเหม่ยเหรินฉายขึ้นมาในห้วงคำนึง ร่างแน่งน้อยที่จำต้องเอนกายหลับไหลหนีความกลัวจากการขี่ม้าตัวเขื่องร่วมกับบุรุษผู้ที่นางไม่อาจเอ่ยว่าเขาคือสามีได้เต็มปากเท่าใดนัก

บัดนี้ก็เช่นกัน… นางไม่กล้าเอื้อนเอ่ยคำสองคำ สี่ห้าพยางค์ง่าย ๆ ได้เลย

   ด้วยความที่ต้องเดินเท้าขึ้นเขา ฉางซานเซียนหวางจึงลงจากรถม้าไปก่อนและรอประคองสตรีในอาภรณ์งามสมฐานะพระสนมเสียนอี๋ลงตามขั้นบันไดไม้รองเท้าลงจากรถม้าสูงลงมายืนพื้นอย่างมั่นคง

   “จากนี้เปิ่นหวางจะไปกับพระสนมเพียงสองคน พวกเจ้ารั้งรอที่ตีนเขาก็พอ”

   สิ้นวจีทุ้มมากด้วยอำนาจของราชวงศ์ เหล่าองค์รักษ์ นางกำนัล เด็กรับใช้ต่างรับคำและไม่ขยับเดินตามมา แน่นอนว่ากับจ้าวกู่กูนางก็หันไปสบตาพยักหน้าเล็ก ๆ เป็นสัญญาณให้กระทำตามคำของหวางเย่เสีย จ้าวกู่กูจึงทำเพียงหยิบถุงผ้าปิ่นโตเฉพาะของนางให้นางมาถือเอาเอง

   ซึ่งสุดท้ายก็กลายเป็นบุรุษข้างกายที่ฉวยหยิบไปถือเอง…

   ฉางซานเซียนหวางเห็นว่าบริวารทั้งผองเข้าใจในรับสั่งนี้ก็หันมาหานางเพื่อเอ่ยอธิบาย…แบบที่น่าจะไม่เข้าเค้าคำอธิบายมากนักก็ตาม

   “เปิ่นหวางอยากชวนพระสนมขึ้นไปทานขนาม จิบน้ำตาชมน้ำตกงาม รีบไปก่อนจะเย็นชืดจนหมด”

   นางอยากจะเอ่ยถามว่าเหตุใดจำต้องไปกันเพียงสองคน เขาไม่กังวลความปลอดภัยใด ๆ เลยหรือ ? ทว่าเมื่อดวงตากลมของนางสบเข้ากับกระบี่ห้อยเอวสอบแล้วก็ทราบได้ว่านางคงลืมไปเสียแล้ว ไม่มีผู้ใดในต้าฮั่นนี้ที่ไร้วรยุทธ์ไร้ประโยชน์ไร้พละกำลังเช่นนางแล้ว ไหนเลยที่นางจะต้องเป็นห่วงเขา ดีไม่ดีเขาต่างหากที่ต้องปกป้องนาง เว่ยเจียเหลียนฮซาได้ตระหนักถึงความคิดนี้ได้ก็พยักหน้าเบา ๆ พร้อมก้าวเดินตามไปเรื่อย ๆ

   เส้นทางขึ้นเขาไหนเลยจะราบเรียบ อีกทั้งนางไม่ได้ตระเตรียมตนเองมาปีนเขาแต่อย่างใด อาภรณ์รุ่มร่ามหวิดสะดุดชายกระโปรงล้มไปหลายคราจนท้อจะก้าวเดินขึ้นไปนัก

  “อ๊ะ—”

   แล้วคำว่าหวิดก็หายไป เหลือเพียงคำว่า สะดุดล้ม ชัดเจนแจ่มแจ้ง นางสะดุดชายอาภรณ์สีเข้มงามจนเสียสมดุลจนได้ มือเรียวพยายามเร่งคว้าที่ยึดเกาะซึ่งนั่นก็คือแขนแกร่งของร่างสูงที่ยื่นมาจับแขนเล็กไว้ไม่ให้หน้าคะมำไปเสียก่อน ความใกล้ชิดนี้ที่หายไปอย่างรวดเร็วและไม่ได้เตรียมใจทำเอานางแทบหยุดหายใจชั่วครู่ ทางผู้ให้ความช่วยเหลือเองก็ทราบดีถึงระยะห่างที่ลดลงจนแลเหมือนจะอันตรายเกินไปจึงกระแอมไปก่อนก้าวออกจากกายบางหนึ่งก้าว

   ในคราแรกเขาก็คิดว่าจะให้นางเดินไปตามปกติ ทว่าเมื่อพินิจอาภรณ์ของนางดูดี ๆ หากปล่อยไปคงได้กลิ้งตกเขาอีกสักคราเป็นแน่ ฉางซานเซียนหวางผู้ให้คำมั่นต่อองค์หวงตี้เกี่ยวกับความปลอดภัยของนางก็ยื่นมือหนามาให้นางเป็นการบอกใบ้ให้นางรับความช่วยเหลือเสีย

  “หากเจ้าตกไป ฝ่าบาทคงได้ประหารชีวิตเปิ่นหวางเป็นแน่ จับไว้เสียสิ”

   “ท่านก็ตรัสเกินจริงนัก”

   แม้นางจะอยากเดินด้วยตนเองเพียงใด ทว่าการเดินขึ้นเขาที่เหลืออีกราว ๆ ครึ่งทางนี้ไม่รู้เลยว่าชายอาภรณ์ที่รักดีจะรักนางจนรองเท้าไม่ให้แตะดินตอนไหนกัน ผู้คนราว ๆ สี่ซ่าห้าคนก็ทิ้งไว้ตีนเขา เช่นนั้นแล้วการรับความช่วยเหลือแต่โดยดีถือว่าเป็นเรื่องที่ดี มือเล็กยื่นมือไปจับมือหนาด้วยความยินดีก่อนที่จะดึงกายขึ้นไปเรื่อย ๆ ก้าวเดินต่อไปจนถึงยอดเขาคุ้นเคย

   คงไม่เจอพ่อจิ้งจอกนั่นหรอกใช่ไหม ?

   ความหวั่นใจที่แฝงความอยากรู้อยากเห็นกลาย ๆ ได้ตีขึ้นมาเมื่อจำได้ว่าตอนนั้นนางถูกปีศาจจิ้งจอกเจ็ดหางรูปงามล่อลวงอย่างไร ทว่าประโยคที่ติดใจคงเป็นคำกล่าวที่ปีศาจตนนั้นเอ่ยกับนางว่านางมีแก่นวิญญาณที่แข็งแกร่ง…

   แข็งแกร่งอย่างไร แค่สะดุดล้มก็ตกเขาได้แล้ว

   บัดนี้ในครรลองสายตาของนางคือศาลายอดเขาศาลาเดิม ทัศนียภาพของยอดเขามุมเดิม หากเพิ่มเติมมาที่แปลกใหม่คงเป็นพื้นพรมที่ปู โต๊ะที่ตั้ง ขนมหวานที่จัดวางพร้อมถ้วยชาขึ้นไอร้อนจาง ๆ ราวกับตกแตงเอาไว้สำหรับการมาเที่ยวทัศนายอดเขาในครานี้ไว้ก่อนหน้าไม่นานนี้เท่านั้น

   คงจะมีบ่าวใช้มาล่วงหน้ากระมัง เห็นว่าไปทูลขอพระราชานุญาตเลยนี่นา

   “เชิญนั่งก่อน”

   “ขอบพระทัยเพคะ”

   เว่ยเจียเหลียนฮวายอบกายน้อย ๆ ก่อนจะก้าวเดินไปนั่งเก้าอี้กลมฝั่งใกล้นางที่สุดให้คลายเหนื่อยหอบจากการขึ้นเขามาหมาด ๆ มือเล็กยกผ้าเช็ดหน้าในมือที่นางถือซับเหงื่อตลอดทางขึ้นซับเหงื่อบริเวณขมับก่อนจะเก็บเข้ากระเป๋าช่องน้อยบริเวณแขนเสื้อ ใบหน้าสวยเงยขึ้นสบเข้ากับร่างสูงที่รินชาใส่จอกไม่พูดไม่จาเลื่อนมาให้นาง ร่างเล็กที่บัดนี้ต้องการชาสักจอกอยู่นั้นก็ไม่ปฏิเสธน้ำใจแต่อย่างใด ขอรับจอกชานี้ขึ้นจิบดับกระหายคลายความแห้งผาดในลำคอ ปล่อยให้เขาเอาถุงขนมของนางมาเปิดจัดวางเพิ่มเติมตามใจนึก

   “แม้ว่าจะสายไปเสียหน่อย ถือเสียว่าทานอะไรรองท้องก่อนทานมื้อเที่ยง” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นมา “บัดนี้ไร้หวางเย่ ไร้เสียนอี๋ มีเพียงข้า กับ เจ้า ในการร่วมโต๊ะเช่นจอมยุทธ์นี้เองโปรดเรียกนามของข้าเถิด หลิวชุ่น

   “...หม่อมฉันไม่กล้า—”

   “รู้จักเพียงนี้แล้วไยต้องหวั่นเกรง จะในฐานะของพระสนมหรือในฐานะของเว่ยเจียเหลียนฮวา สำหรับหลิวชุ่นผู้นี้ เจ้ามีสิทธิเอ่ยนามของข้า”

   ราวกับพันธสัญญาของมาร นางรู้สึกได้ในทันทีที่ต้องอ้าปากเอ่ยสักอย่างออกมาเพื่อตอบบุรุษตรงหน้า หากนางเอื้อนเอ่ยนามของเขาแล้วทุกสิ่งจะไม่ได้อาจถอยหลังกลับได้อีกแล้ว ทว่าหากให้เอ่ยสิ่งอื่นที่เป็นการปฏิเสธ นางกลับรู้สึกขัดแย้งการกระทำนั้นอยู่ภายในใจแม้ว่านางจะรู้อยู่แก่ใจว่าในฐานะพระสนมเสียนอี๋ การสนิทสนมกับชายอื่นล้วนเป็นเรื่องไม่เหมาะควร ร่างกายนี้ควรซื่อตรงต่อฮั่นอู่ตี้ผู้เป็นสามีของนางผู้เดียวเท่านั้นแล้วเหตุใดดวงใจนี้ไม่อาจกระทำตามเหตุผลที่นึกคิดได้เล่า

   บัดนี้เว่ยเจียเหลียนฮวาได้ค้นพบและตรัสรู้ เมื่อใดมีรักในดวงใจ เมื่อนั้นไร้เหตุผลใด ๆ จะทัดทาน

   “เจ้าค่ะ หลิวชุ่น…”

   แม้ว่าจะเป็นการเรียกขานนามของบุรุษแซ่หลิวเช่นกัน ทว่าความหนักใจนี้กลับต่างกันเหลือเกิน

   ฉางซานเซียนหวางได้ยินนามของเขาจากน้ำเสียงของสตรีที่เฝ้ามองมาตลอดพลันแย้มพระโอษฐ์งามทันใด ดวงใจที่เฉยชามาแสนนานราวกับต้นรักเหี่ยวเป็นตอบนผืนดินแตกระแหงพลันมีหน่อเขียวผุดขึ้นท่ามกลางความสิ้นหวังให้มีประกายงดงาม เขาได้เข้าใจแล้วว่าตั้งแต่วินาทีที่ได้ยลยินเสียงหวานเอ่ยโต้วาที พิศเห็นใบหน้าน่ารักเพียงชั่วพริบตายามแพรไหมโปร่งพริ้วไสว

   เขาไม่อาจมองนางเป็นสหายมาตั้งแต่แรกแล้ว

   “เช่นนั้นก็ทานอะไรสักอย่างเถิด หลี่โตวเกาที่เจ้าบอกอยากทานมิใช่หรือ ? ”

   “ท่านได้ยิน ? ”

   “เจ้าเอ่ยเสียงดังถึงเพียงนั้น”

   ในเมื่อสิ่งที่นางอยากรับประทานนั้นอยู่ตรงหน้าแล้วไหนเลยจะนั่งเฉย มือเล็กหยิบขนมเข้าปากกัดคำโตครึ่งก้อนอย่างนึกอารมณ์ดีขึ้นมาในทันที แน่นอนว่าไม่ได้มีเพียงหลี่โตเกาที่อยู่ตรงหน้า ซิ่งเหรินโต้ฟูเองก็ช่นกัน เหลียนฮวาหยิบช้อนตักขึ้นมารับประทานอย่างไม่นึกห่วงภาพลักษณ์ที่…ก็ไม่ได้จะมีมากมาย

   เขาบอกเองว่าจิบชาเช่นจอมยุทธ์ เช่นนั้นแล้วนางก็ไม่ต้องไปกระมิดกระเมี้ยนอ้าปากน้อย ๆ กัดคำเล็ก ๆ ปานวิฬาร์ดมอาหาร

   “ได้ยินว่าเจ้าเสนอเรื่องบึงสุ่ยปี้กับเสด็จพี่”

  
“ก็ใช่— ว่าแต่พวกท่านเชื่อมจิตกันหรือไร เอ่ยกับผู้หนึ่ง อีกผู้หนึ่งก็ทราบเช่นกัน ไม่คิดจะมีความลับกันบ้างหรือ ? ”

   “ก็เพิ่งจะมีนี่แหละ”

   ทำไมรู้สึกเป็นเรื่องคนแถวนี้วะ…

   ซึ่งคนแถวนี้ก็ไม่ใช่ใคร มีแค่นาง นางและนาง เว่ยเจียเหลียนฮวาผู้ไม่อาจทราบได้เลยว่าเหตุใดถึงไม่อาจสบดวงเนตรคู่นี้ได้จึงเลือกก้มหน้าก้มตาหยิบถ้วยฝูหยวนจื่อมาตักรับประทานอย่างขะมักเขม้นจนหกล้นออกมุมริมฝีปากเปรอะเปื้อนจนได้

   ไม่ทันที่มือเล็กจะวางถ้วยฝูหยวนจื่อในมือมาเช็ดน้ำขิงหอมที่เปื้อนไหลลงคางมน มือหนาก็ยื่นเรียวแขนยาวถือผ้าเช็ดหน้าสีน้ำเงินเข้มซับน้ำขิงที่เปื้อนด้วยความไวว่องจนแทบไม่มีหยดไหนเปรอะเปื้อนอาภรณ์ของนาง ทว่าการกระทำนี้ทำให้ระยะห่างหนึ่งโต๊ะคั่นหดเหลือเพียงนิดจนสามารถจดจ้องใบหน้าหล่อเหลาได้เต็มตา

   บัดนี้คำเอ่ยภายในใจของนางดังขึ้นอีกครา นี่สินะบุรุษที่เว่ยเจียอิงฮวาปักใจชื่นชอบเพียงพบหน้า

   นางหาได้เป็นสตรีที่มีจิตใจงดงามไม่ สิ่งใดที่นางต้องยื้อแย่งย่อมต้องได้มา สิ่งใดที่นางจำต้องไขว้คว้าต้องอยู่ในกำมือ ทีแรกนางเพียงหมายมั่นไว้ก่อนหน้านี้ว่าหากนางเหลืออดกับเว่ยเจียอิงฮวาเมื่อใด บุรุษผู้นี้แม้เขาจะเกลียดขี้หน้านางเพียงพบหน้าก็จะยั่วยวนให้จงได้ ทว่าเมื่อบัดนี้กลายเป็นสตรีแต่งงานกับองค์จักรพรรดิแล้วจึงโยนตัวเลือกนี้ทิ้งไปแสนไกล

   เหตุใดตัวเลือกนั้นจึงลอยวนกลับมาอยู่ตรงหน้านางได้กัน…

   อิงฮวาเอ๋ย อิงฮวา ในเมื่อเป็นเช่นนี้ต่อให้ข้าผิดต่อบุรุษผู้เป็นสามีความศักดิ์ แต่อย่างน้อยข้ามิได้ผิดต่อเจ้าแม้เพียงนิด

   เมื่อดวงตาสองคู่สบต้องดวงใจพลันเต้นระส่ำ ทันใดนั้นหวางเย่แห่งต้าฮั่นผุดกายลุกขึ้นไปยืนชื่นชมทิวทัศน์ยอดเขาฉินหลิงราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น นางที่ได้แต่นั่งนิ่งค้างจำต้องเร่งยกมือขึ้นตบแก้มใสที่ถูกระบายแต้มสีเลือดฝาดเบา ๆ เพื่อเรียกสติให้อยู่พร้อม

   “สวยงามดี เจ้าว่าไหม ? ”

   “อือ สวยงามดี”

   “สำหรับข้าแล้วมันคงเป็นความทรงจำที่งดงาม แม้ว่าจะมาเยือนหลายครา ทว่าในตอนนี้กลับงดงามที่สุด”

   ด้วยบทสนทนานี้เรียกให้สตรีผู้ต้องการสงบดวงใจจำต้องผินใบหน้าไปมองร่างสูงผู้เอ่ยประโยคแลแปลกประหลาด เว่ยเจียเหลียนฮวาลุกขึ้นเดินไปยืนข้าง ๆ เขาราวกับต้องการเข้าไปเพื่อสนทนาด้วยให้ชัดเจนว่าสิ่งที่เขาเอ่ยขึ้นมานี้มันคืออะไรกันแน่ ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นคือความเงียบสงัดสักพักของร่างสูงผู้กำลังใช้ความคิด

   “เว่ยเจียเหลียนฮวา”

  “ว่าอย่างไร ? ”

   “ถ้าข้าไม่อยู่นาน ๆ ล่ะ ? ”

   “ไม่อยู่นาน ๆ ” วงคิ้วใบหลิวเลิกขึ้นด้วยความงุนงงในคำถามนี้ก่อนจะค่อย ๆ ครุ่นคิดว่าเขาจะไปไหนไกลได้บ้าง “ท่านจะกลับเมืองฉางซานหรือ ? ”

   “สมกับเป็นเจ้าจริง ๆ ที่พอเดาออกว่าข้าจะไปไหน”

   ใบหน้ารูปงามยังคงเอ่ยพร้อมรอยยิ้มของเขาเสมอ แม้ว่าจริง ๆ แล้วนางจะพอมองข้ามรอยยิ้มไปเรื่อยของเขาก็ตาม ทว่าครานี้กลับไม่อาจมองข้ามมันได้อีกต่อไปแล้ว ดวงตากลมที่ไม่ได้สนใจทัศนายอดทิวเขาอยู่แล้วนั้นจดจ้องคนข้าง ๆ อย่างต้องการหาคำตอบในสิ่งที่แปลกประหลาดนี้ หาเหตุผลที่นางรู้สึกตะขิดตะขวงใจนี้ จากเพียงผินใบหน้ามองจึงกลายเป็นหันกายไปกาเาเต็มตัว ทางฉางซานเซียนหวางได้แลเห็นเช่นนี้แล้วก็ทำได้เพียงสรวลเบา ๆ ที่ไม่ต่างจากการถอนหายใจเฮือกใหญ่เสียเท่าไหร่ก่อนที่จะหันมาคุยกันนางดี

   ราวกับว่าถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องเผชิญกับเรื่องตรงหน้านี้

   “ข้าได้รับรายงานจากฉางซานว่าเกิดเรื่องประหลาดเกินนิ่งเฉยจำต้องเร่งไปจัดการทันที”

   หวางเย่เอ่ยขึ้นมาราวกับว่าหน้าที่นี้ได้บีบบังคับให้จำต้องจากฉางอันไป เป็นความสั่นไหวที่จำต้องหลุบดวงตาลงไม่ให้นางผู้มีดวงเนตรแสนว่องไวได้พิศเห็น เขาสูดหายใจลึก ๆ ก่อนจะเงยใบหน้าขึ้นเพื่อสบกับดวงตากลมราวกับมีดอกเหมยเบ่งบานงดงามในนั้น ดวงตาที่บอกเขาว่าไม่จำเป็นต้องเร่งเอื้อนเอ่ยออกมาก็ได้ นางเป็นห่วง

   นางไม่รู้หรือไงนะว่าในเวลาเช่นนี้ความรู้สึกของนางกลับแสดงผ่านสีหน้าหมดจด แล้วจะเป็นตัวเสแสร้งได้เช่นไร

   “เรื่องราวนี้ด่วนมากนักจนข้าจำต้องเร่งกลับเมืองตั้งแต่รุ่งเช้าวันถัดไป รายงานที่ได้รับช่างโหดร้ายนักเกรงว่าต้นเหตุคงไม่พ้น…ปีศาจ” เขาเอ่ยอย่างช้า ๆ ใจเย็น ๆ ให้นางไม่ต้องกังวลว่าเขาจะหวาดหวั่นกับสิ่งนี้ “เช่นนั้นแล้ว การจากลานี้คงยาวนานนักเหลียนฮวา…”

  เพราะไม่รู้เลยว่าตัวข้านั้นจะได้กลับมาหาเจ้าหรือไม่

   เว่ยเจียเหลียนฮวาได้ยลยินเช่นนี้ก็พลันเกิดอาการอื้ออึง ลำคอแห้งผาก แววตากลมสั่นไหว ในหัวเล็ก ๆ นี้พยายามคิดวิธีการมากมายที่จะช่วยเหลือเขาโดยทันทีที่ได้แลเห็นความหวากหวั่นอันปิดไม่มิดถึงเพียงนี้

  “พอจะเล่าให้ข้าฟังได้หรือไม่ ข้าอาจช่วยท่านได้”

   “ข้ารู้ ข้ารู้ดีว่าเจ้าช่วยได้แน่นอน ทว่าสิ่งนี้ข้าเองก็ไม่ทราบว่าเป็นมาอย่างไร มีเพียงผลลัพธ์ที่พวกมันกระทำเท่านั้นอันเป็นสิ่งเดียวที่ประเมินได้โดยทันทีว่ามันร้ายแรงยิ่งนัก”

   ไม่รู้

   ไม่ทราบ

   ความไม่รู้ทั้งปวงนี้คือสิ่งที่นางเกลียดยิ่งกว่าสิ่งใดนัก หากไม่รู้แล้วจะรับมือได้อย่างไร หากไม่รู้แล้วจะต้องทำอย่างไร หากไม่รู้แล้วทำได้เพียงตั้งรับและตีผลร้ายแรงไว้ล่วงหน้าอย่างนั้นหรือ ? นางที่เกลียดความไม่รู้เช่นนี้จึงกลายเป็นสตรีผู้เอาแต่อ่านทุกสิ่งที่อ่านได้ เป็นตัวตนของสตรีผู้เกลียดความไม่รู้ บัดนี้เมื่อได้เจอกับความไม่รู้ตรงหน้า กลายเป็นความไม่รู้ที่นางเกลียดที่สุด

   ทั้งหาความรู้ที่ไหนก็ไม่ได้ ทั้งหาวิธีตั้งรับก็ไม่ได้ แล้วนางที่มีดีเพียงหัวโต ๆ กว่าชาวบ้านเขาหน่อยแบบนี้จะไปช่วยอะไรได้ เป็นคราแรกที่นางอยากโยนสมองนี้ทิ้งเพื่อแลกกับกระบี่ซักเล่มช่วยใต้หล้า

   “ไม่อาจให้คำมั่นว่าจะกลับฉางอันตอนไหน สิ่งที่ข้าสัญญาได้คือ… หากว่างจะส่งจดหมายมาหาเจ้าแน่นอน”

   เป็นคำสัญญาแม้เพียงลมปาก

                      กลับสลักมั่นลงลึกในจิตใจ







[NPC-05] หลิว ชุ่น
+5 พูดคุยประจำวัน
+20 หัวดีโบนัสความสัมพันธ์
+20 ความสัมพันธ์ ขนมว่างเกรดทอง + ชาเกรดทอง (+10)


@Admin

แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-05] หลิว ชุ่น เพิ่มขึ้น 55 โพสต์ 2024-8-23 19:16
โพสต์ 38951 ไบต์และได้รับ 18 EXP!  โพสต์ 2024-8-23 18:32
โพสต์ 38,951 ไบต์และได้รับ +6 คุณธรรม จาก พัดคุณชาย  โพสต์ 2024-8-23 18:32
โพสต์ 38,951 ไบต์และได้รับ +5 EXP +15 คุณธรรม +6 ความโหด จาก บัณฑิต  โพสต์ 2024-8-23 18:32
โพสต์ 38,951 ไบต์และได้รับ +3 EXP +6 คุณธรรม จาก พู่กันคัดอักษร  โพสต์ 2024-8-23 18:32
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ยอดคีตศิลป์
อัจฉริยะ
กระบี่
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
แหวนดาราจรัส(D)
พัดคุณชาย
พู่กันคัดอักษร
ชุดเหวินชิงฮวาเฟิน(เสียนอี๋)
หมวกไผ่ผ้าคลุม
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x16
x5
x10
x38
x1
x179
x2
x5
x2
x1
x163
x2
x2
x4
x6
x1
x1
x21
x33
x10
x2
x1
x19
x10
x4
x6
x3
x20
x2
x2
x11
x15
x134
x4
x3
x2
x277
x10
x4
x238
x6
x64
x33
x1
x50
x111
x67
x26
x164
x6
x17
x81
x16
x10
x21
โพสต์ 2024-8-28 01:10:54 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย RongXiuying เมื่อ 2024-8-28 01:40






วันที่ 27 ปาเยว่ เจี้ยนหยวนศกที่ 10 
เวลา 15.00 น.




หลังจากฆ่าไก่ซิ่วอิงก็เดินทางมายังเทือกเขาฉินหลิงเพื่อพักผ่อนแต่ตอนนี้มือและแขนเต็มไปด้วยเลือดของไก่จึงได้เดินตามหาแหล่งน้ำเพื่อทำความสะอาดร่างกายของตน เสร็จแล้วจะได้ไปแวะหาที่เอนกายนอนกินขนมให้สบายใจ ไม่นานนักก็พบแหล่งน้ำจึงได้ย่อตัวแล้วลงมือทำความสะอาดร่างกายตนเอง “เลือดไก่แอบคาวเหมือนกันนะเนี่ย ขนาดข้าล้างน้ำตั้งสองรอบแล้วยังมีกลิ่นอยู่เลย” ซิ่วอิงยกมือขึ้นมาดมกลิ่นคาวของเลือดที่เพิ่งสังหารไก่ไปยังหลงเหลือบาง ๆ บนมือของนาง มือบางจุ่มลงในแหล่งน้ำอีกครั้งเพื่อล้างเอากลิ่นทุกอย่างออกให้หมด น่าเสียดายที่ไม่ได้พกสมุนไพรใด ๆ ติดมาด้วยเพื่อขจัดกลิ่น นางนั่งบ่นอุบอิบอยู่คนเดียวในขณะที่พยายามทำความสะอาดแขนและมีดที่ใช้ในการล่า จนไม่ได้ทันสังเกตว่าเสียงของนางกำลังรบกวนโสตประสาทของผู้ที่กำลังนั่งทำสมาธิอยู่ใกล้เคียง “ถ้าข้าเป็นเจ้าจะเบาเสียงลงหน่อย จะได้ไม่รบกวนผู้อื่น…” เสียงของใครบางคนดังขึ้นจากด้านหลังของคุณหนูตระกูลหรง นางหันไปตามเสียงที่สุขุมนุ่มลึกนั้นแล้วก็พบว่าห่างจากจุดที่นางกำลังล้างเนื้อล้างตัวไปไม่ไกลนักมีคุณชายผู้หนึ่งแต่งกายสะอาดสะอาดกำลังค่อย ๆ ลืมตาช้า ๆ ขึ้นมาดูต้นตอของเสียงที่กำลังรบกวนการนั่งสมาธิอันสงบเงียบของเขาอยู่ “ขออภัยคุณชาย…ข้าไม่ทันสังเกตว่ามีคนอยู่แถวนี้…” ไม่แปลกนักถ้าจะไม่ทราบว่ามีคนอยู่เพราะคุณชายผู้นี้นั่งเงียบมาก ถ้าไม่สังเกตดี ๆ อาจจะไม่รู้ถึงการมีตัวตนอยู่ของเขาบริเวณนี้เลยด้วยซ้ำไป “ไม่รู้ย่อมไม่ผิด ข้าไม่ถือสา” “ขอบคุณ คุณชายที่เข้าใจ” พูดจบก็หันไปล้างแขนตัวเองต่อ… “กลิ่นคาวเลือด…” เสียงของคุณชายผู้นั้นดังขึ้นอีกครั้งจนซิ่วอิงต้องหันไปดูอีกรอบ เขาทำจมูกฟุตฟิตเหมือนสัมผัสได้ว่ามีกลิ่นเลือดอยู่แถวนี้ และมันจะเป็นใครไปได้นอกจากคุณหนูตระกูลหรงที่เพิ่งไปปาดคอไก่มาสด ๆ ร้อน ๆ หวังว่าคุณชายท่านนี้จะไม่ได้กินเจนะ… “ข้าเพิ่งกลับจากการล่าสัตว์ คงเป็นกลิ่นของข้าเองเจ้าค่ะ” นางสารภาพไปตามตรง “เจ้าเป็นพรานป่างั้นหรือ?” “หาใช่พรานป่า ข้าแค่เพียงกำลังฝึกทักษะการล่าเจ้าค่ะ” “น่าแปลกเจ้าบอกว่าเจ้าเพิ่งไปล่าสัตว์ แต่กลับไม่มีสัตว์ติดไม้ติดมือเจ้ามา มีเพียงกลิ่นคาวเลือดที่ติดตัวเจ้า…คงไม่ได้ไปทำอะไรไม่ดีมาใช่หรือไม่?” คุณชายผู้นั้นมองซิ่วอิงด้วยสายตาที่ราวกับว่าจะจับผิด อย่าบอกนะว่าเขาคิดว่านางไปฆ่าหมกป่าใครมา สภาพแบบนางแค่ฆ่าไก่ยังเหนื่อยแล้วนับประสาอะไรกับการฆ่าคน นางยังไม่ได้รับการฝึกฝนเรื่องนั้นเลยด้วยซ้ำไป “คุณชายคงไม่ได้คิดว่าข้าไปสังหารคนมาใช่ไหมเจ้าคะ?” “เจ้าเหมือนอ่านใจข้าได้” คุณชายไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใดว่าสงสัยเรื่องนั้นจริง ๆ “ก็แค่แม่ไก่ตัวเดียวเจ้าค่ะ ข้าแค่มือหนักไปหน่อยซากไก่ก็เลยเละเทะจนไม่สามารถใช้ได้ ข้าก็เลยไม่มีอะไรติดไม้ติดมือกลับมา” ซิ่วอิงตอบไปตามความจริง “ครั้งนี้ข้าจะเชื่อเจ้าก็ได้” “ยังมีครั้งหน้าอีกหรือเจ้าค่ะ…ข้าบอกว่าไก่ก็คือไก่จริง ๆ หรือจะให้ข้าพาคุณชายไปดูซากที่ป่าไผ่ก็ได้นะเจ้าคะ” คุณชายกระตุกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยในท่าทางโผงผางของซิ่วอิง อันที่จริงเขาก็ไม่ได้คิดจะเอาความอะไรกับแม่นางผู้นี้อยู่แล้ว เพียงแค่จะดูว่านางจะแสดงปฏิกิริยาอย่างไรกับข้อสงสัยของเขาเพียงเท่านั้น เขาสังเกตนางตั้งแต่หัวจรดเท้าการแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่ดูมีราคาเหมือนลูกผู้ดี แต่กิริยาท่าทางดูผิดกันจนน่าแปลกใจ “ไม่จำเป็นหรอกและขออภัยถ้าหากคำพูดของข้าทำให้แม่นางไม่พอใจ” “ข้าไม่ถือสาเจ้าค่ะ คุณชายไม่ได้ทำอะไรผิดเป็นข้าเองที่เสียมารยาทกับคุณชาย” พูดจบซิ่วอิงก็เดินเข้าไปใกล้คุณชายผู้นั้นก่อนที่จะล้วงเอาขนมในกระเป๋าออกมาแล้วยื่นให้กับคุณชาย เขามองไปที่ขนมในมือของนางสลับกับมองใบหน้าของนางเหมือนยังไม่เข้าใจว่าสตรีผู้นี้ต้องการจะทำอะไร “มีอะไรหรือแม่นาง?” “ค่าทำขวัญเจ้าค่ะ…ที่ไปรบกวนการนั่งสมาธิของคุณชายและที่เสียมารยาท” “ขอบใจแม่นาง” เขารับขนมมาไว้ในมือแล้วมองดูรูปร่างของมัน “ขนมไร้กังวลเจ้าค่ะ เผื่อคุณชายจะได้อารมณ์ดีขึ้น” พูดจบซิ่วอิงก็ยื่นน้ำเต้าที่บรรจุชาเบญจมาศไปให้คุณชายด้วยอีกหนึ่งอย่าง “เผื่อขนมติดคอ…” คุณชายรับน้ำเต้ามาแบบงง ๆ แต่เขาก็ไม่เสียมารยาทถึงขนาดที่จะปฏิเสธน้ำใจของซิ่วอิงจึงรับไว้ทั้งหมด ในใจก็ยังแอบสงสัยว่าตระกูลไหนอบรมบุตรสาวมาแบบที่คนอย่างเขาไม่เคยพบเคยเจอแบบนี้นะ… “ขอบใจแม่นาง…” “ตระกูลหรงเจ้าค่ะ หรงซิ่วอิง ถ้าคุณชายเกิดสงสัยในกิริยามารยาทของข้า พวกเขาอบรบข้ามาอย่างดีแต่เป็นที่ข้าเองที่รับเอาไว้ไม่ได้ทั้งหมด…” สตรีนางนี้เหมือนรู้อีกแล้ว รู้ดีไปเสียหมด… “ข้าไม่เสียมารยาทที่จะสงสัยแม่นางขนาดนั้นหรอก” แม้ในใจจะแอบสงสัยไปแล้วก็เถอะ… “ข้าตงฟางหมานเฉียน” “คาราวะคุณชายตงฟาง” ซิ่วอิงนั่งลงที่พื้นโดยเว้นระยะห่างจากคุณชายพอสมควรก่อนจะควักเอาหมั่นโถวมากิน เพราะขนมที่ตั้งใจจะเอามานั่งกินพักผ่อนหย่อนใจดันยกให้คุณชายตงฟางไปเรียบร้อยแล้ว หมั่นโถวนี่มันเป็นเจ้ากรรมนายเวรของนางจริง ๆ เบื่อจะแย่แต่ก็ยังมีเหตุให้ต้องกินเสมอเลย “เจ้าต้องการน้ำชาคืนหรือไม่?...เดี๋ยวติดคอ” คุณชายย้อนซิ่วอิงด้วยประโยคเดิมที่นางบอกกับเขา นางหันขวับไปมองแล้วหรี่ตาเหมือนรู้ว่ากำลังโดนเอาคืนเข้าแล้ว “ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้าไปดื่มน้ำตรงนั้นได้” นางผายมือไปที่แหล่งน้ำเมื่อครู่ “ที่ที่เจ้าเพิ่งไปล้างเลือดมาน่ะหรือ?” คุณชายเลิกคิ้วสงสัย “ข้าดื่มได้เจ้าค่ะไม่ต้องเป็นห่วง ถ้าอย่างนั้นข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะ ขอให้คุณชายทานขนมให้อร่อย” “ขอบใจแม่นางอีกครั้ง” จบบทสนทนาซิ่วอิงก็ลุกออกไปทำทีเดินตรงไปที่แหล่งน้ำ วักน้ำสองสามทีทำท่า ‘ดื่มทิพย์’ แต่นางเองก็ไม่กล้าเอาน้ำพวกนี้ใส่ปากตัวเองหรอกเหม็นคาว! แค่ไม่อยากเสียฟอร์มจากนั้นก็เดินทางออกไปเพื่อให้คุณชายได้ใช้เวลาส่วนตัวต่อ

[NPC-07] มอบขนมไร้กังวล และ ชาเบญจมาศ ให้ ตงฟาง ซั่ว

+15 ความสัมพันธ์ ขนมว่างเกรดม่วง + (+5) ชาอะไรก็ได้
โรลเพลย์พูดคุยประจำวัน ได้รับความสัมพันธ์+5 แต้ม
หัวบ้า โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+10

@@Admin 










แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-07] ตงฟาง ซั่ว เพิ่มขึ้น 35 โพสต์ 2024-8-28 01:56
โพสต์ 20861 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2024-8-28 01:10
โพสต์ 20,861 ไบต์และได้รับ +15 คุณธรรม +8 ความโหด จาก ช่อเมล็ดข้าวมงคล  โพสต์ 2024-8-28 01:10
โพสต์ 20,861 ไบต์และได้รับ +6 คุณธรรม +4 ความชั่ว +15 ความโหด จาก ทวนยาว  โพสต์ 2024-8-28 01:10
โพสต์ 20,861 ไบต์และได้รับ +6 ความชั่ว +10 ความโหด จาก มีดแล่เนื้อ  โพสต์ 2024-8-28 01:10
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ยอดยุทธ์ผู้ล่า
ปราณเพลิงสีชาด
ยอดฝีมือ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
เกราะเกล็ดมังกร
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
หินสลักโบราณ
หมวกเกราะทหารใหม่
ตำรากฎทหาร
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ญ)
ง้าวปีศาจปลา
มีดแล่เนื้อ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x33
x1
x51
x44
x58
x1
x21
x28
x15
x10
x30
x20
x6
x1
x18
x148
x1
x27
x10
x5
x2
x116
x37
x172
x38
x2
x2
x40
x1
x3
x2
x7
x7
x7
x4
x5
x17
x2
x2
x16
x7
x20
x2
x84
x4
x4
โพสต์ 2024-8-30 00:20:34 | ดูโพสต์ทั้งหมด






วันที่ 29 ปาเยว่ เจี้ยนหยวนศกที่ 10 
เวลา 16.00 น.



ซิ่วอิงเดินทางมาที่เทือกเขาฉินหลิงเพื่อตามล่าหาปีศาจมันม่วง จากการล่าในครั้งก่อนที่นางตั้งใจไปเพื่อขุดมันแล้วดันไปพบเข้ากับปีศาจมันม่วงแทน นางได้พบว่าหัวมันที่ได้จากการชำแหละปีศาจมันม่วงนั้นมากยิ่งกว่าการเดินขุดมันธรรมดาทั่วไปเสียอีก วันนี้จึงตั้งใจมาเพื่อล่าโดยเฉพาะและหอบมันม่วงกลับไปให้ได้มากที่สุด “อยู่นี่เองเจ้าปีศาจตัวร้าย แกดูอ้วนท้วนสมบูรณ์แบบนี้ต้องมีเนื้อมันมากแน่ ๆ” ปีศาจมันม่วงเมื่อรู้สึกตัวว่ากำลังถูกเพ่งเล็งโดยมนุษย์ก็ไม่รอช้าที่จะเริ่มโจมตีซิ่วอิงในทันที มิเช่นนั้นตัวมันเองนั่นแหลที่จะโดนสังหารไปเสียก่อนจะได้สู้ ซิ่วอิงใช้ทวนของนางกวัดแกว่งพยายามแทงเข้าที่ตัวปีศาจ ทว่ามันกลับหลบเก่งเสียจนน่าหงุดหงิดใจ ใช้เวลาอยู่นานกว่าที่สุดท้ายปลายทวนยาวอันคมกริบจะแทงทะลุเข้าไปที่ร่างของปีศาจมันม่วงได้สำเร็จ ร่างจัดการแล่และเก็บส่วนที่ต้องการใส่กระเป๋า แล้วเดินไปล้างเนื้อล้างตัวที่ริมน้ำก่อนจะหยุดชะงักเล็กน้อยแล้วหันหลังไปมองซ้ายมองขวา ไม่มีใคร… วันนี้ทางสะดวกสินะ… ซิ่วอิงถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อพบว่าไม่มีใครอยู่ด้านหลังของนาง หลังจากที่ล้างเนื้อล้างตัวเรียบร้อยแล้วจึงได้เดินไปนั่งเล่นแถวทุ่งหญ้า สักพักนางก็แอบมองซ้ายมองขวาอีกรอบเหมือนคนระแวงอะไรบางอย่าง “ซิ่วอิงเจ้าอย่าคิดไปเองสิ ไม่มีใครก็เห็นอยู่ คิดมากจริง!” นางพูดกับตัวเองก่อนจะเอนกายลงนอนบนผืนหญ้าเอาแขนทั้งสองข้างไขว้ไว้หลังหัว พร้อมสูดเอาอากาศบริสุทธิ์ของธรรมชาติอันแสนสงบเข้าไปเต็มปอด เวลาส่วนตัวแบบนี้ช่างเป็นอะไรที่รอคอยมานานแสนนาน หลายวันที่ผ่านมาเจอแต่เรื่องอะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมด “อย่าห่วงเลยคงไม่เจอคุณชายตงฟางอะไรนั่นที่นี่อีกรอบหรอก…เขาว่ากันว่าฟ้าไม่ผ่าซ้ำที่เดิมสองครั้ง—” “น่าเสียดายจริง ที่วันนี้ฟ้าดันผ่าที่เดิมเป็นครั้งที่สอง หรือถ้านับรวมเมื่อวานด้วย...ก็น่าจะผ่าสามครั้งสามคราแล้ว…” ใบหน้าอันงดงามของบุรุษที่พักหลังนี้เจอบ่อยเสียจริงก้มมองร่างของคุณหนูแห่งตระกูลหรงที่กำลังนอนเล่นบนผืนหญ้าอย่างสบายใจ พอเห็นหน้านั้นเข้าตาของนางก็ถึงกับเบิกกว้างกระเด้งตัวลุกขึ้นมานั่งแทบไม่ทัน เฮือกกกกกกกกก! “ทะ…ทำไมเป็นท่านอีกแล้วล่ะ อย่าบอกนะว่าท่านแอบตามข้ามา!” ซิ่วอิงรีบถามไปด้วยความตกใจหางสงหางเสียงคือลืมสิ้น… “แม่นางคิดว่าข้าตามแม่นางมางั้นหรือ ฟังดูเข้าข้างตัวเองไปหน่อย ข้าแค่เพียงทำกิจวัตรประจำวันนั่งสมาธิของข้าอย่างเช่นทุกครั้ง เพียงแต่ข้าได้ยินเสียงการต่อสู้เลยแวะมาดูเผื่อว่าจะมีใครต้องการความช่วยเหลือก็เท่านั้น…เป็นแม่นางเองมากกว่าที่พักนี้ชอบโผล่มาให้เห็นอยู่เรื่อย” “ยะ..อย่าบอกนะว่าท่านคิดว่าข้าสะกดรอยตามท่านมา ท่านคิดว่าข้าพิศวาสท่านงั้นหรือ? ข้าเพิ่งเจอท่านเป็นครั้งที่สามเองนะเจ้าคะ!” “แม่นางเคยนับครั้งด้วยหรือ...ข้าก็ยังไม่ได้พูดกล่าวหาแม่นางเช่นนั้นเลย ใยแม่นางถึงได้ร้อนตัวนักเล่า?” คุณชายตงฟางหัวเราะในลำคอเล็กน้อยอย่างนึกขำในท่าทีของซิ่วอิง เออว่ะ…จะร้อนตัวทำไม… ซิ่วอิงชะงักไปครู่หนึ่งนั่งคิดอะไรนิดหน่อยในหัว นางคงคิดมากไปเองจริง ๆ คนแปลกหน้าที่บังเอิญเจอกันแค่สามครั้ง ย่อมยังนับว่าเป็นความบังเอิญอยู่ดี และนางเองก็ไม่จำเป็นต้องมาแก้ต่างเรื่องนี้ด้วยเพราะอย่างไรเสียมันก็เป็นแค่ความ ‘บังเอิญ’ “ขอโทษด้วยเจ้าค่ะ ข้าพูดไม่คิดเอง…” นางตอบไปเสียงอ่อย ๆ พร้อมทั้งหลบตาคู่สนทนา “ว่าแต่วันนี้แม่นางออกมาล่าสัตว์อีกแล้วงั้นหรือ?” “พูดเหมือนรู้เลยนะเจ้าคะ…ก็ไม่เชิงเจ้าค่ะ วันนี้ข้ามาล่าปีศาจมันม่วง” “แม่นางทำให้ข้าประหลาดใจได้เสมอเลย ทั้งออกล่าสัตว์ มีฝีมือในการเล่นหมากล้อม แถมวันนี้ยังล่าปีศาจอีก ตระกูลของแม่นางคงภูมิใจน่าดู” คุณชายตงฟางนั่งลงบนผืนหญ้าโดยเว้นระยะห่างระหว่างกันแล้วสนทนาต่อ ภูมิใจกับผีสิ…ความในใจที่ซิ่วอิงอยากจะตอบออกไป ครอบครัวของนางไม่เคยสนับสนุนเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ การต่อสู้ที่อาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บของร่างกาย การเอาชีวิตมาเสี่ยงกับสิ่งที่ไม่เข้าท่า แม้จะโดนลงโทษมาแล้วหลายครั้งแต่นางก็ไม่เคยเข็ดสักที “ผิดกับสิ่งที่คุณชายคิดเลยเจ้าค่ะ ท่านพ่อท่านแม่ไม่ค่อยสนับสนุนเรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่” ซิ่วอิงถอนหายใจก่อนจะพูดต่อ “ข้าค่อนข้างดื้อรั้นในสายตาของทุกคน ในเมืองเกิดของข้าถึงกับเป็นที่ร่ำลือกันกว่าข้าเหมือนกับม้าพยศที่ปราบยากจึงไม่มีใครกล้ามาสู่ขอแม้จะถึงวัยนี้แล้ว…แต่ก็ไม่เป็นไรข้าไม่ได้สนเรื่องนั้นอยู่แล้วใครจะว่าอย่างไรก็ช่าง ชีวิตเป็นของข้า…” ซิ่วอิงพูดขณะที่มือของนางถือกิ่งไม้เขี่ยพื้นไปมาอย่างไม่รู้จะทำอะไร “ม้าดีต้องพยศ…แม่นางเคยได้ยินคำนี้หรือไม่?” คุณชายตงฟางหันไปถามซิ่วอิง “ไม่เคยเจ้าค่ะ…” นางตอบกลับไปสายตาก็ยังคงมองไปยังกิ่งไม้ที่เขี่ยดิน “คนที่เก่งย่อมมีความเป็นตัวของตัวเองสูงไม่ยอมก้มหัวให้ใครง่าย ๆ แต่ถ้าหากเราสามารถปราบพยศลงได้ให้เกียรติและเชื่อมั่นในตัวเขา…ก็จะได้ยอดอาชามาครอบครอง” กร๊อบ! กิ่งไม้ที่กำลังคุ้ยเขี่ยพื้นของซิ่วอิงถึงกับหักคามือเมื่อคุณชายตงฟางพูดจบประโยค…คม…คมมาก…คนที่มีปัญญาล้ำเลิศเป็นเช่นนี้เอง เพียงคำพูดไม่กี่ประโยคกลับทำให้นางรู้สึกดีขึ้นได้อย่างน่าประหลาดใจ “คุณชายรู้ตัวหรือไม่เจ้าคะ…ว่าพูดได้คมมาก…” “งั้นหรือ?” “ข้ารู้แล้วว่าท่านเป็นใคร…” ซิ่วอิงหันขวับมามองหน้าคุณชายด้วยสีหน้าจริงจัง “...”

คุณชายตงฟางไม่เคยเปิดเผยตัวตนและสถานะที่แท้จริงของตนเอง แล้วสตรีนางนี้รู้ได้อย่างไร? ตงฟางซั่วนั่งนิ่งมองหน้าซิ่วอิงอย่างลุ้นคำตอบว่าสิ่งที่นางกำลังจะปริปากพูดออกมาคืออะไรกันแน่ มันยังไม่ถึงเวลาอันสมควรที่จะให้คนแปลกหน้ารู้ว่าเขาเป็นใคร จึงต้องระวังตัวเป็นพิเศษ “คุณชายต้องเป็น…นักปราชญ์พเนจรอย่างแน่นอนเลยใช่ไหมเจ้าคะ!” นางใช้นิ้วชี้ไปที่คุณชายตงฟางแล้วพูดออกไปด้วยความมั่นใจ ในขณะที่อีกฝ่ายหลับตาลงแล้วถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่ตัวตนของเขายังไม่ถูกเปิดเผย “แม่นางหรงช่างมองขาดยิ่งนัก” “ใช่ไหมล่ะเจ้าคะ!…ข้าน่ะคิดแล้วเชียว คนฉลาด ๆ แบบคุณชายตงฟางเนี่ยจะเป็นอะไรไปได้อีก” นางฉีกยิ้มกว้างอย่างภูมิใจที่ทายถูก “แม่นางชมเกินไป” “อย่าได้ถ่อมตัวเลยเจ้าค่ะคุณชาย มิน่าล่ะข้าถึงได้เจอคุณชายทุกที่” ตงฟางซั่วได้แต่เลยตามเลยเล่นไปตามน้ำ ในเมื่อแม่นางผู้นี้คิดว่าเขาเป็นนักปราชญพเนจร ไม่ได้มีความสงสัยในตัวตนอื่นก็ปล่อยให้นางเชื่อไปแบบนั้นน่ะดีแล้ว…




ไอเท็มดรอป(ประลองระบบ): ตบะ 10 หน่วย เนื้อเทศ (เลขไบต์หลักสุดท้าย = จำนวนได้) พรสวรรค์: คนแข็งแรง ทุกการต่อสู้ (ประลองระบบ) จะยิ่งทำให้คุณแข็งแกร่งขึ้น ได้รับโบนัสค่าประสบการณ์เติบโต +30 EXP [NPC-07] ตงฟาง ซั่ว
โรลเพลย์พูดคุยประจำวัน ได้รับความสัมพันธ์+5 แต้ม
หัวบ้า โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+10


@@Admin 









แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับ 30 EXP โพสต์ 2024-8-30 00:26
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-07] ตงฟาง ซั่ว เพิ่มขึ้น 15 โพสต์ 2024-8-30 00:26
โพสต์ 21805 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2024-8-30 00:20
โพสต์ 21,805 ไบต์และได้รับ +15 คุณธรรม +8 ความโหด จาก ช่อเมล็ดข้าวมงคล  โพสต์ 2024-8-30 00:20
โพสต์ 21,805 ไบต์และได้รับ +6 คุณธรรม +4 ความชั่ว +15 ความโหด จาก ทวนยาว  โพสต์ 2024-8-30 00:20

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตบะฝึกฝน +10 ย่อ เหตุผล
Admin + 10

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ยอดยุทธ์ผู้ล่า
ปราณเพลิงสีชาด
ยอดฝีมือ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
เกราะเกล็ดมังกร
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
หินสลักโบราณ
หมวกเกราะทหารใหม่
ตำรากฎทหาร
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ญ)
ง้าวปีศาจปลา
มีดแล่เนื้อ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x33
x1
x51
x44
x58
x1
x21
x28
x15
x10
x30
x20
x6
x1
x18
x148
x1
x27
x10
x5
x2
x116
x37
x172
x38
x2
x2
x40
x1
x3
x2
x7
x7
x7
x4
x5
x17
x2
x2
x16
x7
x20
x2
x84
x4
x4
โพสต์ 2024-8-31 10:23:00 | ดูโพสต์ทั้งหมด
วันที่ 11 เดือน 08 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 10 เวลา  12.00




'ที่นี่ช่างร่มรื่นดีจัง' หลังจากที่เด็กหนุ่มทำงานมาอย่างเหน็ดเหนื่อยเขาก็พักผ่อนหย่อนใจด้วยการออกมาเดินเล่นรับลมธรรมชาติ


'เทือกเขาฉินหลิงสมกับเป็นสถานที่ ที่ดีจริงๆ' เด็กหนุ่มคิดในใจก่อนที่จะเดินเล่นไปเรื่อยๆ


"หงิงๆ" เสียงที่ดูน่าสงสารดังขึ้น


"นี่มันอะไร" เด็กหนุ่มมีท่าทางตื่นตัวและวิ่งไปยังทิศทางนั้น


เขาพบกับน้องหมาอยู่ตัวนึง ที่ขาของมันมีลักษณะ บาดเจ็ด และ มันเหมือนจะโดนฝูงทิ้ง


เด็กหนุ่มมองไปที่เจ้าหมาอย่างใจเย็นและค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ๆ


"แง่งๆ" เจ้าหมาที่เห็นคนเข้ามาใกล้ก็ขู่ใส่ เหมือนกับจะบอกว่าฉันมีเขี้ยวนะ


"โอ๋ๆนะ ครับ เจ้าหมาน้อย เจ้าเจ็บอยู่นะให้ข้าช่วยได้" เด็กหนุ่มใจเย็นพอที่จะนั่งอยู่กับเจ้าหมา และพยายามเข้าไปใกล้มันเพื่อที่จะช่วย


หลายครั้งที่ดูเหมือนจะมีสัตว์ใหญ่อันตรายเข้ามา ซีเหมินก็หยิบหินเขวี่ยงไปทางนั้นเพื่อไล่พวกมัน


ใช้เวลาซักพักกว่าซีเหมินจะเข้าใกล้น้องหมาได้


"ข้าเจ้าบิดนี่เอง" เด็กหนุ่มกล่าวกับมันเบาๆ


"หงิงๆ" เจ้าหมาร้องตอบเหมือนว่าจะเข้าใจที่เด็กหนุ่มพูด


"เจ้าอยากหายไหม ถ้าเจ้าอยากหายเจ้าต้องทนเจ็บหน่อยนะ" เด็กหนุ่มกล่าวกับเจ้าหมา


เจ้าหมาพยักหน้า หลังจากนั้น ซีเหมินก็เตรียมกิ่งไม้สั้นๆ พอดีกับขาเจ้าหมา 2 แท่ง และบอกกับเจ้าหมาว่า


"เจ้าพร้อมนะ" เด็กหนุ่มกล่าว


เจ้าหมาพยักหน้า


กร็อบ เด็กหนุ่มดัดขาเจ้าหมาให้เข้าที่ เจ้าหมาตัวกระตุกเล็กน้อย จากนั้น เด็กหนุ่มก็รีบเอากิ่งไม้ พันขาวางรอบขาเจ้าหมาแล้วเอาผ้าพัน


"เสร็จแล้ว หลังจากนี้ เจ้าพักซักวัน สองวันก็หายดีแล้วล่ะ" เด็กหนุ่มยกนิ้วให้เจ้าหมา


เจ้าหมาเหมือนรู้สึกขอบคุณเด็กหนุ่มก็เอาหน้ามาไถๆ ท้องซีเหมิน


"เอาล่ะข้าไปก่อนนะ" เด็กหนุ่มลุกและกำลังจะเดินจากไป


"หงิงๆ" เจ้าหมาเอาขาหน้าวางไว้ที่ตักและจ้องไปที่หน้าของเด็กหนุ่มราวกับว่าจะขอข้าไปด้วยซิ


"เจ้าอย่าจ้องมองข้าแบบนี้ ข้าแพ้สายตาแบบนี้" เด็กหนุ่มพึ่งเคยเจอหมาอ้อนครั้งแรก ถึงกับไปไม่เป็น


"เอาล่ะ เจ้าติดตามข้ามาก็ได้ เอาเถอะ ข้าจะเป็นเซียนกระบี่ในตำนานก็ต้องมีสหายคู่กาย งั้นเจ้าก็มาเป็นสหายของข้าเถอะเจ้าหมา" ซีเหมินยกนิ้วให้เจ้าหมา


เจ้าหมายกขาหน้าขึ้นมาแปะมือซีเหมิน


หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เดินทางเข้าเมืองกัน

------------------------


@Admin น้องหมา Join this Party ขอ Stats ด้วยครับบบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 14717 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2024-8-31 10:23
โพสต์ 14,717 ไบต์และได้รับ +4 คุณธรรม +3 ความชั่ว +5 ความโหด จาก หมวกไผ่ผ้าคลุม  โพสต์ 2024-8-31 10:23
โพสต์ 14,717 ไบต์และได้รับ +4 ความชั่ว +5 ความโหด จาก มีดแล่เนื้อ  โพสต์ 2024-8-31 10:23
โพสต์ 14,717 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม +2 ความโหด จาก ผู้ใช้กระบี่  โพสต์ 2024-8-31 10:23
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบี่
มือกระบี่
ช่อเมล็ดข้าวมงคล
หมวกไผ่ผ้าคลุม
เกราะทองแดง
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ช)
มีดแล่เนื้อ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x4
x4
x2
x2
x2
x6
x2
x2
x1
x4
x5
x1
x1
x16
x32
x24
x9
x1
x2
โพสต์ 2024-9-2 11:00:41 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 12 เดือน 08 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 10 เวลา  6.00



หลังจากที่ชายหนุ่มได้ฝึกฝนกระบี่และหลับไป 1 ตื่น เขารู้สึกว่าเขาควรที่จะหาอะไรทำหลังจากที่เขาสามารถถือกระบี่ได้อีกครั้ง เขาจึงออกเดินทางไปที่เทือกเขาเพื่อที่จะหาอะไรล่าพร้อมกับเจ้าหมา


'ข้าคงล่าหมาไม่ได้แล้วมั้งอย่างมากก็ตอนนี้' ชายหนุ่มคิดในใจและเหลือบมองไปที่เจ้าหมา


"โฮ่ง" เจ้าหมาเห่าตอบประนึงอ่านใจเด็กหนุ่มได้


"ข้าอยากล่าสัตว์เจ้าช่วยพาขาไปทีได้หรือไม่" เด็กหนุ่มกล่าวกับหมา


"โฮ่งๆ" เจ้าหมาที่ขาหายดีแล้วก็ยกขาหน้าขึ้นเป็นเชิงตกลงก่อนที่จะดมๆ ไปที่พื้นและวิ่งไปข้างหน้า


'มีสหายเป็นหมานี่มันก็ดีแหะ' เด็กหนุ่มยิ้มถูกใจ ก่อนที่จะถือกระบี่วิ่งตามหมาไป


วิ่งไปได้ซักพักก็เจอไก่ป่าอยู่ตัวนึง เด็กหนุ่มลูบปากในใจ 'หวานเจี๊ยบ'


"เก่งมากเจ้าหมา" เด็กหนุ่มลูบหัวเจ้าหมา ก่อนที่จะชักกระบี่ พุ่งเข้าไปตีไก่


ใช้เวลาไมนาน เด็กหนุ่มก็จัดการเชือดไก่ทิ้งได้สำเร็จ


'ไก่หรือจะสู้คนได้' ชายหนุ่มคิดในใจก่อนที่จะยกมีดขึ้นมาเตรียมแล่


'มันแล่ยังไงนะ อ่อใช่ เลาะตามแนว ถอนขน แล้วก็หั่นเป็นส่วนๆ' เด็กหนุ่มพยักหน้าและค่อยๆ แล่ โดยเนื้อส่วนไหนที่เขาหั่นพลาดก็โยนให้เจ้าหมากิน ส่วนไหนดีก็เก็บ


หลังจากนั้น เด็กหนุ่มก็กลับไปฝึกกระบี่ต่อ


-------------------------

@Admin ผู้ใช้กระบี - ทุกการต่อสู้ (ประลองต่อสู้ระบบ) และใช้กระบี่เป็นอาวุธหลัก +30 EXP (วันละครั้ง)




https://han.mooorp.com/plugin.php?id=dzs_npccomrade:fight&aid=337 ไก่ป่าเพศเมียเลเวล 5





ไอเท็มดรอป(ประลองระบบ):

เนื้อสัตว์ (เลขไบต์หลักสุดท้าย = จำนวนได้)

ซี่โครงไก่ (เลขไบต์รองสุดท้าย = จำนวนได้)



แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับ 30 EXP โพสต์ 2024-9-2 11:40
โพสต์ 4924 ไบต์และได้รับ 1 EXP! [VIP]  โพสต์ 2024-9-2 11:00
โพสต์ 4,924 ไบต์และได้รับ +2 ความชั่ว +3 ความโหด จาก มีดแล่เนื้อ  โพสต์ 2024-9-2 11:00
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบี่
มือกระบี่
ช่อเมล็ดข้าวมงคล
หมวกไผ่ผ้าคลุม
เกราะทองแดง
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ช)
มีดแล่เนื้อ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x4
x4
x2
x2
x2
x6
x2
x2
x1
x4
x5
x1
x1
x16
x32
x24
x9
x1
x2
โพสต์ 2024-9-2 22:14:54 | ดูโพสต์ทั้งหมด






วันที่ 2 จิ่วเยว่ เจี้ยนหยวนศกที่ 10 
เวลา 08.00 น.



กองทหารใหม่ยังคงวิ่งท่ามกลางแดดยามเช้าของเทือกเขาฉินหลิง สถานที่ถัดมาหลังจากเหตุการณ์งูเขียวที่ป่าไผ่ ระดับความยากของการวิ่งนั้นทวีคูณด้วยสภาพพื้นที่เป็นเนินความลาดชันจึงมีมากแถมแดดยังลงหัวเต็ม ๆ  ช่างเป็นสถานที่ทรมานน่องชั้นดีสำหรับการทดสอบทหารใหม่ สภาพของทุกคนที่ออกวิ่งติดต่อกันเป็นเวลาหลายชั่วโมงย่อมเริ่มมีอาการแสดงออกมาให้เห็น 

“นี่เจ้าหัวงูเขียว เจ้าน่ะยังไหวหรือไม่?” ผู้คุมขี่ม้ามาเทียบด้านข้างซิ่วอิงเมื่อเห็นว่านางมีทีท่าชะลอความเร็วในการวิ่งลง

“ไหวเจ้าค่ะ”

“ไม่ได้ยิน”

“ไหวเจ้าค่ะ!!!” 

แม้เหงื่อจะอาบหน้าแต่จะมายอมแพ้กับอะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก หากผ่านเรื่องแค่นี้ไปไม่ได้ต่อไปหากอยู่ในการศึกย่อมเอาตัวเองไม่รอด ปากของซิ่วอิงเริ่มแห้งจากการสูญเสียน้ำในร่างกายไปมาก…หิวน้ำ…อยากดื่มน้ำ…นางหันไปมองผู้คุมที่ขี่ม้าอยู่ข้าง ๆ กำลังกระดกน้ำจากน้ำเต้าที่พกมา

อะไรเนี่ย…

ทำไมผู้คุมกินน้ำได้แต่ทหารคนอื่นกินไม่ได้ นางเบะปากเล็กน้อยแล้วตั้งหน้าตั้งตาวิ่งต่อ ดูเหมือนผู้คุมจะสังเกตได้เลยพูดเย้าแหย่ออกไป

“เจ้าอยากดื่มน้ำงั้นหรือ?”

“ถ้าข้าบอกว่าอยากดื่มท่านจะให้ข้าดื่มหรือเจ้าคะ?” นางถามย้อนกลับไป

“ไม่”

“งั้นก็ไม่ต้องถามจะดีกว่าเจ้าค่ะ ท่านกำลังทำให้ข้าเสียสมาธิในการวิ่ง” นางเมินผู้คุมแล้วตั้งใจทำในสิ่งที่ต้องทำต่อไป

“ขอให้เจ้าเก่งอย่างปากว่า…” พูดคุมพูดก่อนจะหันไปจะโตนบอกทหารใหม่ทุกนาย  “ทุกคนจงฟัง…จะไม่มีการดื่มน้ำจนกว่าพวกเจ้าจะกลับไปถึงค่าย เข้าใจไหม!”

“รับทราบ!” ทุกคนขานรับ

“เผด็จการชะมัด…” ซิ่วอิงพูดกับตัวเองเบา ๆ 

ขบวนแถววิ่งมาจึงถึงลำธารเล็ก ๆ การจะผ่านไปได้จำเป็นต้องผ่านลำธารแห่งนี้ไปเสียดู ซิ่วอิงที่อยู่ด้านหน้าประเมินด้วยสายตาพบว่าลำธารนี้ตื่นเลยนำแถววิ่งฝ่าลำธารไปทันที ขบวนม้าของผู้คุมก็ควบผ่านลำธารไปเช่นกันจนน้ำกระเซ็นใส่เหล่าทหารใหม่เปียกไปหมด นี่มันคือการทดสอบความอดทนไม่ให้พุ่งเข้าไปต่อยหน้าผู้คุมทหารใช่ไหมเนี่ย!

“น้ำนี่มีปลิงดูดเลือด” 

เสียงคนด้านหลังของซิ่วอิงพูดขึ้น ดูเหมือนเขาจะโดนปลิงเกาะขาเข้าให้ ซิ่วอิงรีบมองขาของตนเองทันที โชคดีที่นางไม่โดนปลิงเข้า จะแอบหันไปกระซิบคนด้านหลังตอนผู้คุมเผลอ

“นี่เจ้าน่ะ ดึงปลิงออกแล้วส่งมาให้ข้า”

“เจ้าจะเอาไปทำอะไร”

“รีบเถอะน่า ก่อนที่ผู้คุมจะเห็นเข้า”

ทหารใหม่ด้านหลังไม่เข้าใจว่าซิ่วอิงพยายามจะทำอะไร แต่ก็ดึงปลิงจากขาตัวเองส่งให้กับนางแต่โดยดี นางรีบรับปลิงมาแล้ววิ่งต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนหรี่ตามองผู้คุมตัวดีที่ขี่ม้าอยู่ด้านหน้า เล็งแล้วแอบดีดปลิงให้กระเด็นไปติดบริเวณหลังคอของเขา จากนั้นก็กลับมาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้วิ่งไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น 

“ทำไมมันคัน ๆ คอ”

“...” ซิ่วอิงไม่พูดอะไรทั้งสิ้น

“นี่เจ้าน่ะเห็นอะไรที่หลังคอข้าหรือไม่ ข้ารู้สึกคัน” ผู้คุมหันมาถามซิ่วอิงที่อยู่ใกล้เขาที่สุด

“หมายถึงเจ้าตัวอ้วน ๆ ดำ ๆ ที่หลังคอท่านหรือเจ้าคะ?”

“ว่าอะไรนะ มีอะไรอยู่หลังคอข้า!”

“ปอ-ลอ-อิ-งอ…ปลิงเจ้าค่ะ…ลำธารเมื่อครู่มีปลิงดูดเลือด บางทีท่านอาจควบม้าแรงจนน้ำกระเซ็นเลยมีปลิงกระเด็นไปเกาะ”

“บ้าจริง!”

ผู้คุมคลำหลังคอก่อนจะดึงปลิงออกมา มันสูบเลือดมาสักพักแล้วเลยดูอ้วนใหญ่ดูน่าขยะแขยงไม่น้อย 

“คราวหน้าหากมีอะไรเกาะข้าอีกเจ้าต้องรีบบอกเข้าใจไหม อย่าปล่อยให้มันดูดเลือดข้า!”

“ข้ากำลังฝึกวิ่งอยู่เจ้าค่ะ คงไม่มีเวลาไปช่วยระวังภัยให้ผู้คุมหรอกนะเจ้าคะ”

“ข้านี่อยากรู้จริงคนปากดีอย่างเจ้าจะทนการทดสอบนี้ไปได้สักกี่น้ำ วิ่งต่อไป!”

ซิ่วอิงเร่งฝีเท้าวิ่งแซงม้าผู้คุม ทำให้ขบวนแถวต้องเร่งความเร็วตามอีกครั้ง ในใจของนางได้แต่ท่องยุบหนอพองหนออีกไม่นานกองทหารใหม่ก็คงจะถึงเมืองแล้วเมื่อถึงตอนนั้นทางวิ่งคงกลับมาราบเรียบเหมือนเดิมเสียที…




รางวัลโรลเพลย์วิ่ง(แนบท้ายโรลทุกโรล): +10 EXP 


@@Admin 





แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับ 10 EXP โพสต์ 2024-9-2 23:24
โพสต์ 16647 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2024-9-2 22:14
โพสต์ 16,647 ไบต์และได้รับ +2 EXP +8 ความชั่ว +8 ความโหด จาก คนกำยำ  โพสต์ 2024-9-2 22:14
โพสต์ 16,647 ไบต์และได้รับ +10 คุณธรรม +6 ความโหด จาก ช่อเมล็ดข้าวมงคล  โพสต์ 2024-9-2 22:14
โพสต์ 16,647 ไบต์และได้รับ +2 คุณธรรม +2 ความชั่ว +2 ความโหด จาก ทวนยาว  โพสต์ 2024-9-2 22:14
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ยอดยุทธ์ผู้ล่า
ปราณเพลิงสีชาด
ยอดฝีมือ
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
เกราะเกล็ดมังกร
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
หินสลักโบราณ
หมวกเกราะทหารใหม่
ตำรากฎทหาร
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ญ)
ง้าวปีศาจปลา
มีดแล่เนื้อ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x33
x1
x51
x44
x58
x1
x21
x28
x15
x10
x30
x20
x6
x1
x18
x148
x1
x27
x10
x5
x2
x116
x37
x172
x38
x2
x2
x40
x1
x3
x2
x7
x7
x7
x4
x5
x17
x2
x2
x16
x7
x20
x2
x84
x4
x4
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้