12
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป

ตำหนักเถียนเซี่ย | 恬夏宫

[คัดลอกลิงก์]
โพสต์ 2024-8-16 21:37:53 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย WeijiaLianhua เมื่อ 2024-8-17 16:55


ยามเหลียนฮวาเบ่งบานชั่วราตรี
วันที่สิบห้า ปาเยว่ เจี้ยนหยวนศกที่สิบ
ต้นยามเว่ย (13.00 น.)




   บ่ายที่แสนเรียบง่ายกับการนั่งอ่านม้วนตำราบางอย่างที่นางหยิบซักม้วนมาอ่านคลายเบื่อความจริงแล้วนั้นหากเป็นนางก่อนหน้านี้สักสัปดาห์คงไม่พ้นเดินไปเข้าครัวตั้งแต่ต้นอาทิตย์เพื่อทำอะไรสักอย่างที่ชมชอบลงท้องและแบ่งปันมันให้แก่ใครสักคนที่ก็คงไม่พ้นเหล่านางกำนัลที่นางพบเห็นและการยกถวายหวงตี้ ทว่าเมื่อเกิดความรู้สึกประหลาดที่ตีขึ้นมาเมื่อต้นสัปดาห์ เกิดเหตุการณ์ประหลาดอันส่งผลกระทบต่ออารมณ์ความรู้สึกของนาง การกักตนไว้แต่ในตำหนักเพื่ออ่านม้วนตำราหาข้อมูลอธิบายตัวนางเองจึงเป็นสิ่งที่นางกระทำตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา

   หรือไม่นางก็หาข้ออ้างไม่พบปะกับผู้ใด โดยเฉพาะบุคคลที่มีแนวโน้มทำให้นางเกิดกระแสอารมณ์ปั่นป่วนเกินกว่านี้

   เหลียนฮวาเป็นสตรีที่มักจะยึดมั่นในสิ่งที่นางสามารถคิดคำนวณได้ การต้องเจอสิ่งที่ยากคำนวณอย่างเรื่องของจิตใจคือสิ่งที่นางไม่เคยรับมือและหลีกเลี่ยงที่จะต้องรับมือมาตลอด ในยามปกตินางมักจะศึกษาจิตใจเพื่อควบคุมให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์ที่ต้องการ บัดนี้แม้จิตใจของตนเองก็ไม่อาจควบคุมได้แล่ว ไหนเลยจะกลับไปเป็นพหูสูตรน้อยจอมเสแสร้งเช่นเดิมได้

   “น่าปวดหัวนัก”

   เว่ยเจียเหลียนฮวาเอ่ยบ่นอุบบนตั่งนั่งที่นางเอกขเนกอย่างไร้ซึ่งมาดของสตรีผู้เป็นพระสนมเอกเสียนอี๋ หากผู้อื่นที่ไม่เคยรู้จักนางมาก่อนคงคิดว่าพระสนมเสียนอี๋คงทุกข์พระทัยเมื่อความโปรดปรานแปรเปลี่ยนไปหาใช่สิ่งที่นางได้รับเสมอไม่ ทว่าแท้จริงแล้วหากมาอ่านชื่อม้วนตำราที่เขียนว่า ‘รักแท้รักคืออะไร ?’ บางที่ความคิดเหล่านั้นคงจะแปรเปลี่ยนไปก็เป็นได้

   ไม่สิ คงไม่พ้นข่าวลือบอกว่าพระสนมเสียนอี๋ตกหลุมรักฝ่าบาทจนต้องศึกษาความรักเพื่อความมั่นใจในความรู้สึกของตนเองเป็นแน่ จะแบบไหนก็น่ารำคาญไม่แพ้กัน

   “มีจดหมายมาเพคะ”

   นางรับใช้เข้ามาพร้อมกับจ้าวหนิงเฟยที่ยกชามาให้นาง ดวงตากลมหวานละสายตาจากม้วนตำราประโลมโลกอธิบายวกไปวนมาในมือยามเข้าในลงบนตักเล็ก มือเรียวยื่นมือไรรับจดหมายมาเกิดอ่านเพื่อแลดูว่านี่คือสานส์จากผู้ใดกัน



   ด้วยที่ว่าเปิ่นหวางไม่อาจทราบได้ว่าท่านจะว่างหรือไม่ จึงถือวิสาสะส่งสานส์ถึงพระสนม เปิ่นหวางอยากจะเชิญท่านไปลิ้มรสอาหารเลิศรสที่ยิ่งกว่าโรงเตี๊ยมชางลั่งถิง เปิ่นหวางได้จองโต๊ะไว้แล้วโรงเตี๊ยมชื่อดังนอกเมืองฉางอัน ในคืนวันพรุ่งนี้ยามโหย่ว หากท่านไม่รังเกียจไปร่วมทานอาหารสักมื้อได้หรือไม่

   จาก ฉางซานเชียงหวาง


  


   ครั้นเมื่อทราบว่าจดหมายฉบับนี้คือสานส์ที่ส่งจากผู้ใดถึงนางก็ถึงกับละทิ้งซึ่งท่าทีเอกขเนกเกียจคร้าน ลุกขึ้นนั่งหลังตรงงดงามด้วยความเคยชินและตั้งใจอ่านให้ดีอีกรอบ ทันใดนั้นเมื่อมั่นใจแล้วว่านี่คือการเชื้อเชิญก็ปวดเศียรเวียนเกล้าขึ้นมาทันควัน นางเป็นพระสนมในองค์จักรพรรดิ ไหนเลยจะไปนั่งเสวยอาหารร่วมกันบุรุษอื่นใดได้ หากอยู่ภายในวังยังพอชักแม่น้ำทั้งห้าได้ ทว่านี่คือการออกนอกวังไปร่วมโต๊ะเพียงสองคน ยิ่งอีกฝ่ายเป็นถึงพระอนุชาแล้วนั้นไม่ต่างกับการอาจหาญสวมหมวกเขียวให้ฝ่าบาทหรอกหรือ

   เว่ยเจียเหลียนฮวานั่งคิดอยู่ราว ๆ หนึ่งก้านธูปได้ก่อนที่นางจะตัดสินใจเป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ต้องไปให้ได้ แม้นั่นจะหมายถึงว่าต่อให้ต้องเอาจ้าวหนิงเฟยไว้ที่ตำหนักก็ตาม เหลียนฮวาเอ่ยบอกให้นางกำนัลไปหยิบกระดาษและพู่กันมาให้ก่อนที่จะจรดน้ำหมึกตวัดเส้นตอบกลับไปว่านางจะไปตามคำเชื้อเชิญ

   ต่อให้นี่จะเป็นการสวมหมวกเขียวกลาย ๆ ทว่าเมื่อดวงใจที่เต้นระรัวนี้ไร้ซึ่งคำตอบให้แก่มัน นางคงไม่อาจอยู่นิ่งเฉยได้เป็นแน่—





[สามารถโรลเพลย์ค้นคว้าหาความรู้จากการฟัง หรือ อ่าน +30 EXP (วันละครั้ง)]



@Admin

แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับ 30 EXP โพสต์ 2024-8-16 21:48
โพสต์ 11925 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2024-8-16 21:37
โพสต์ 11,925 ไบต์และได้รับ +4 คุณธรรม จาก พัดคุณชาย  โพสต์ 2024-8-16 21:37
โพสต์ 11,925 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม +2 ความโหด จาก บัณฑิต  โพสต์ 2024-8-16 21:37
โพสต์ 11,925 ไบต์และได้รับ +2 EXP +4 คุณธรรม จาก พู่กันคัดอักษร  โพสต์ 2024-8-16 21:37
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ยอดคีตศิลป์
อัจฉริยะ
กระบี่
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
แหวนดาราจรัส(D)
พัดคุณชาย
พู่กันคัดอักษร
ชุดเหวินชิงฮวาเฟิน(เสียนอี๋)
หมวกไผ่ผ้าคลุม
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x16
x5
x10
x38
x1
x179
x2
x5
x2
x1
x163
x2
x2
x4
x6
x1
x1
x21
x33
x10
x2
x1
x19
x10
x4
x6
x3
x20
x2
x2
x11
x15
x134
x4
x3
x2
x277
x10
x4
x238
x6
x64
x33
x1
x50
x111
x67
x26
x164
x6
x17
x81
x16
x10
x21
โพสต์ 2024-8-22 18:29:33 | ดูโพสต์ทั้งหมด

ยามเหลียนฮวาเบ่งบานชั่วราตรี
วันที่สิบเก้า ปาเยว่ เจี้ยนหยวนศกที่สิบ
ต้นยามซื่อ (09.00 น.)




   “เปิ่นกงอยากทานหลี่โตวเกา”

   เสียงหวานของสตรีผู้เป็นเจ้าของตำหนักเถียนเซี่ยดังมาตั้งแต่หัวมุมก่อนถึงหน้าตำหนัก เว่ยเจียเหลียนฮวานั้นเดินมาจากตำหนักเซวียนเต๋อหลังจากที่นางได้เสร็จสิ้นการถวายพระพรรายงานตัวยามเช้าตามหน้าที่ของพระสนมยศสูง นางที่ต้องตื่นนอนตั้งแต่ยามอิ๋นบัดนี้หิวจนไม่อาจจะรั้งรอมื้ออาหารยามอู่เสียแล้ว ใบหน้าสวยที่ไม่ค่อยจะสนใจผู้ใดงอหงิกบ่นร้องหาขนมถั่วเขียวกะทิก้อนหอม ๆ คู่ชาอะไรก็ได้สักกาตั้งแต่ยังไม่ทันก้าวเข้าตำหนักด้วยซ้ำไป

   “ทูลเสียนอี๋เหนียงเนียง ฉางซานเซียนหวางขอเข้าเฝ้าพะยะค่ะ”

   ทว่าไม่ทันจะได้ก้าวพ้นธรณีประตูหน้าตำหนักก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเสียงของกงกงผู้น้อยเร่งเท้าก้าวมาทูลแจ้งโดยมีร่างสูงเจ้าของสานส์ที่ทูลนั้นอยู่ข้างหลังไม่ห่าง ดวงตากลมสบดวงตาคมของเขาด้วย ความรู้สึกสงสัยยิ่งว่าเหตุในบุรุษผู้ที่มักจะเจอะเจอนางยามวิกาลราวกับไม่ต้องการให้ผู้ใดรับทราบถึงความสัมพันธ์อันสนิทสนมไปมาหาสู่เช่น— สหาย ? …มาอยู่ตรงหน้าของนางในเวลากลสงวันแสก ๆ เช่นนี้ แลเหมือนว่าเจ้าตัวจะรับทราบคำถามที่ปรากฎบนใบหน้างามพอดีก็แย้มสรวลออกมาราวกับว่าพอใจที่ทำให้นางประหลาดใจได้ มือหนายกขึ้นผสานทำความเคารพพระสนมเสียนอี๋ก่อนจะเอ่ยธุระของตน

   “แลเหมือนว่าวันนี้ทั้งวันเปิ่นหวางต้องขอยืมตัวพระสนมเสียนอี๋มากับเปิ่นหวางเสียหน่อย พอจะได้หรือไม่ ?”

   ยืมตัว ? ทั้งวัน ???

   ยืมตัวไม่ว่า ทว่าทั้งวันคืออย่างไร ที่ตรงนี้คือวังหลังหาใช่โรงเตี๊ยมหรือหอบัณฑิตให้แอบลอบพบปะ ทั้งยังเอ่ยออกมาอย่างเป็นทางการเช่นนี้นางจะต้องทำเช่นไร ? ฉางซานเซียนหวางรู้แจ้งแก่ใจดีว่าสตรีตรงหน้าย่อมคิดถึงผลกระทบที่จะตามมาแน่ ๆ ทั้งเขา ทั้งนาง ทั้งผู้อื่นที่พ่วงถึงพวกเขา

   “ไม่ต้องกังวลไปพระสนม เปิ่นหวางได้รับพระราชทานพระราชานุญาตจากองค์หวงตี้แล้วเรียบร้อย”

  “พวกเจ้าไปทำหน้าที่ตามที่ควรเสีย ไว้เปิ่นกงกลับมาเมื่อไหร่ค่อยตระเตรียมน้ำท่า ไม่ต้องทำไว้รอ”

   ราวกับเป็นการตอบรับกลาย ๆ นางโบกมือให้นางกำนัลทั้งหลายกลับเข้าตำหนักให้เรียบร้อย ทิ้งไว้เพียงจ้าวกู่กูที่คอยรับใช้ไม่ห่างตามนางไปยังประตูวังเพื่อขึ้นรถม้าตามที่องค์ชายแห่งต้าฮั่นขอตัวนางทั้งวันโดยไม่ผิดต่อองค์หวงตี้

   หรือเปล่า ?






[NPC-05] หลิว ชุ่น
UNLOCK 6 HEART of LIU SHUN  1/2



@Admin

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 8727 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2024-8-22 18:29
โพสต์ 8,727 ไบต์และได้รับ +2 คุณธรรม จาก พัดคุณชาย  โพสต์ 2024-8-22 18:29
โพสต์ 8,727 ไบต์และได้รับ +2 คุณธรรม +1 ความโหด จาก บัณฑิต  โพสต์ 2024-8-22 18:29
โพสต์ 8,727 ไบต์และได้รับ +2 คุณธรรม จาก พู่กันคัดอักษร  โพสต์ 2024-8-22 18:29
โพสต์ 8,727 ไบต์และได้รับ +2 คุณธรรม จาก ชุดเหวินชิงฮวาเฟิน(เสียนอี๋)  โพสต์ 2024-8-22 18:29
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ยอดคีตศิลป์
อัจฉริยะ
กระบี่
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
แหวนดาราจรัส(D)
พัดคุณชาย
พู่กันคัดอักษร
ชุดเหวินชิงฮวาเฟิน(เสียนอี๋)
หมวกไผ่ผ้าคลุม
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x16
x5
x10
x38
x1
x179
x2
x5
x2
x1
x163
x2
x2
x4
x6
x1
x1
x21
x33
x10
x2
x1
x19
x10
x4
x6
x3
x20
x2
x2
x11
x15
x134
x4
x3
x2
x277
x10
x4
x238
x6
x64
x33
x1
x50
x111
x67
x26
x164
x6
x17
x81
x16
x10
x21
โพสต์ 2024-8-25 19:29:47 | ดูโพสต์ทั้งหมด

ยามเหลียนฮวาเบ่งบานชั่วราตรี
วันที่ยี่สิบสี่ ปาเยว่ เจี้ยนหยวนศกที่สิบ
ต้นยามเว่ย (13.00 น.)




   นับจากวันนั้นวันที่เธอไปที่เทือกเขาฉินหลิง เว่ยเจียเหลียนฮวาก็ไม่ออกจากวังหลวงอีกเลย ด้วยทั้งได้รับคำจากองค์หวงตี้ให้ระมัดระวังตนเองให้ดี ทั้งยังไม่รู้ว่านางจะต้องออกไปเพราะเหตุใดอีกนางก็เอาแต่สิงตัวอยู่กับตำหนักของตนเอง ออกจากตำหนักก็แค่ตอนเช้าตรู่แสงอาทิตย์ยังไม่ทันจะส่องดีเพื่อไปถวายพระพรรายงานตัวกับองค์ไท่โฮ่ก็แค่นั้น ไม่มีเวรปรนนิบัติ

   “นี่ก็บ่ายแล้ว พระสนมสนใจไปเข้าครัวหน่อยดีหรือไม่เพคะ?”

   “ไว้ค่อยทำวันอื่นก็แล้วกัน”

   เว่ยเจียเหลียนฮวาเอ่ยก่อนจะเอนหลังอ่านม้วนตำราว่าด้วยเรื่องของศาสนาให้จบ นางกลับมาสู่สถานะตัวเกียจคร้านอีกคราจนนางกำนัลภายในตำหนักที่เป็นห่วงนางต่างชักชวนทำนู่นนี่ไม่ห่าง สุดท้ายนางก็ทำเพียงยื่นม้วนตำราให้พวกนางอ่านเป็นเพื่อนตัวเองถึงแม้ว่าคนที่อ่านได้จะมีเพียงจ้าวหนิงเฟยก็ตาม

   แล้วนางก็ไม่คิดจะสอนด้วย อย่าได้หวังว่าจะให้นางสอนเชียว

   ด้วยพื่งพ้นช่วงเที่ยงวันมา อาหารในท้องน้อย ๆ ก็ทำพิษ เธอที่เอนหลังอยู่ค่อย ๆ เคลิ้มไปกับสายลมของคิมหันต์และลมจากพัดที่นางกำนัลพัดโบกให้ ก่อนม้วนตำราจะตกลงบนตัวนาง เข้าสู่การหลับไหลอย่างเกียจคร้านเมื่อนางอ่านตำราได้เพียงสองบทเท่านั้น






[สามารถโรลเพลย์ค้นคว้าหาความรู้จากการฟัง หรือ อ่าน +30 EXP (วันละครั้ง)]

ขออีเว้นได้ไหม ชีวิตติดคอนเท้นเวอร์
#ขอนมิตการเดินทางตามหามุกวารี

@Admin

แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับ 30 EXP โพสต์ 2024-8-25 20:22
โพสต์ 6368 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2024-8-25 19:29
โพสต์ 6,368 ไบต์และได้รับ +2 คุณธรรม จาก พัดคุณชาย  โพสต์ 2024-8-25 19:29
โพสต์ 6,368 ไบต์และได้รับ +2 คุณธรรม +1 ความโหด จาก บัณฑิต  โพสต์ 2024-8-25 19:29
โพสต์ 6,368 ไบต์และได้รับ +2 คุณธรรม จาก พู่กันคัดอักษร  โพสต์ 2024-8-25 19:29
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ยอดคีตศิลป์
อัจฉริยะ
กระบี่
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
แหวนดาราจรัส(D)
พัดคุณชาย
พู่กันคัดอักษร
ชุดเหวินชิงฮวาเฟิน(เสียนอี๋)
หมวกไผ่ผ้าคลุม
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x16
x5
x10
x38
x1
x179
x2
x5
x2
x1
x163
x2
x2
x4
x6
x1
x1
x21
x33
x10
x2
x1
x19
x10
x4
x6
x3
x20
x2
x2
x11
x15
x134
x4
x3
x2
x277
x10
x4
x238
x6
x64
x33
x1
x50
x111
x67
x26
x164
x6
x17
x81
x16
x10
x21
โพสต์ 2024-8-25 22:09:30 | ดูโพสต์ทั้งหมด
WeijiaLianhua ตอบกลับเมื่อ 2024-8-25 19:29 #LianH01 { border: 0px solid; border-radius: 10px;


【นิมิต】





ลางนิมิต

เมื่อคุณเข้าสู่นิทรา คุณยืนอยู่เบื้องหน้าภูเขาหิมะสูงตะหง่าน ยอดเขาที่งดงามดั่งตำรา
เทียนซาน เหมันตร์ผนึกธารา อากาศหนาวเหน็บสุดระทวย ก่อนคุณเห็นหญิงสาวนางหนึ่ง
กำลังตกในภวังค์ของเหล่ามนุษย์มาร (ปีศาจเจวี๋ยฮว่า) ก่อนภาพจะตัดไปไปยังเมืองต้าหลี่
บ้านเรือนลุกเป็นไฟ โหมกระหน่ำ ผู้คนระส่ำระส่ายวิ่งหนีเหล่ามนุษย์มารที่บ้าคลั่ง
ก่อนภาพจะตัดไปที่นิมิต ฝูงผีดิบเดินอย่างเฉื่อยชาเต็มเมือง ๆ หนึ่ง  (หากคุณเกิดฉางซานจะจำชื่อป้ายโรงเตี๊ยมได้)
ก่อนภาพตัดไปที่คุณเห็นความมืดมิด ก่อนมีผีดิบโผล่พรวดขึ้นมาเต็มสายตาคุณ (ตัวอย่างปรากฎคล้ายๆแบบนี้ คลิก
ใบหน้าละม้ายกับฉางซานเชียงหวาง
ก่อนภาพตัดไปที่มุกส่องแสงสว่างไสวสีฟ้ากลางถ้ำ ให้ความรู้สึกอบอุ่นแผ่ซ่านออกมาจากมุก
เมื่อคุณยื่นมือไปหามุกสีฟ้าดังกล่าวก่อนเห็นภาพบางอย่างในมุก สตรีผู้มีท่อนล่างเป็นงูกำลังใช้มุกเม็ดนั้น
เผชิญหน้ากับมารปีศาจปลา (หากเคยปราบจ้าวปีศาจปลาจะรู้สึกคุ้นเคย แต่อีกฝ่ายกลับมีไอรังสีสีดำรอบตัวหนาแน่น)
ก่อนภาพนิมิตตัดไปที่ใบหน้าของ มารไป๋ชิงเสวียน หัวเราะก้องในหัวคุณและตื่นจากฝัน

- สร้างหัวข้อ ความฝันของคุณเกี่ยวกับนิมิตตามหามุกวารี ในโลกความฝัน
- จากนั้นเริ่มฟอร์มทีมและดำเนินการจัดวางสตอรี่ตามพลอต [ข้อมูลภารกิจ คลิก]

หมายเหตุ: บางบทอาจมีบทเสริมแทรกบทหลักที่คุณจัดสรร 
ทำให้บทหลักเรื่องราวต่อไปของคุณจะต้องปรับเปลี่ยนตามส่วนเสริมที่แทรกเข้ามา





แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 7238 ไบต์และได้รับ 4 EXP! [VIP]  โพสต์ 2024-8-25 22:09
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x1
x1
x300
x200
x200
x200
x200
x200
x200
x200
x200
x200
x200
x1
x1
x204
x1
x1
x1
x1
x6
x1
x1
โพสต์ 2025-5-9 15:53:16 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย WeijiaLianhua เมื่อ 2025-5-9 16:11


ยามเหลียนฮวาเบ่งบานชั่วราตรี
วันที่สี่ เอ้อเยว่ เจี้ยนหยวนศกที่สิบเอ็ด
ต้นยามซื่อ (09.30 น.)




   “พระสนม…”

   แว่วเสียงแผ่วเบาดังเอ่ยราวกับตรึงในจิต เสียงทุ้มที่แหบพร่าแสนคุ้นเคยแทรกซึมเข้าใจความมืดมิดอันแสนสงบ ความเบาหวิวทีหนักอึ้ง ความแปลกประหลาดที่คุ้นเคย ความนุ่มนวลที่แทงลึกเข้าในอกราวกับกำลังรบกวนความฝันแสนหวานของสตรีร่างบางที่ขดตัวในห้วงอนธการ

ผู้ใดกัน…

   เว่ยเจียเหลียนฮวาที่ต้องการพักผ่อนในห้วงราตรีอันยาวนานได้ขยับกายเบา ๆ เป็นคราแรกในรอบกี่ราตรีไม่อาจรับรู้ ดวงตาที่ทอดมองความมืดมิดไร้แววชีวาจนไม่อาจสัมผัสถึงชีวิตใดได้ นางที่จมในความมืดเช่นนี้มาตลอดค่อย ๆ มองหาว่าเจ้าของเสียงที่ก่อให้เกิดความรู้สึกแปลกประหลาดในอกนั้นอยู่แห่งหนใดกัน

   บัดนั้นเองที่มืิหนาของผู้หนึ่งตรงเข้ามาจับบ่าเล็กจากข้างหลังโดยที่ไม่ทันได้ตั้งสติ ใบหน้าจิ้มลิ้มรีบผินมองไปตามแขนแกร่งเพื่อทอดพิจใบหน้านั้น ความงดงามที่นางเพิ่งตระหนักถึง ความคมคายที่เพิ่งคำนึงหา พักตร์เปื้อนดินเปื้อนเลือดจดจ้องประสานดวงตาราวกับต้องการเรียกสติของนาง

   “ได้โปรด…ตื่นเถิด…”

   ฉับพลันนั้นภาพนิมิตรที่หายไปโหมกระหน่ำจนแทบคลื่นไส้ ภาพไข่มุกงามที่ส่องประกายเรียกแสงสว่างโอบล้อมร่างบางจนจำไม่ได้เลยว่าความมืดเป็นเช่นไร ทันใดนั้นเองร่างที่เคยเบาหวิวพลันหนักอึ้งและเจ็บปวดในลำคอ อกและช่องท้อง

   ณ สถานที่ที่ความมืดปกคลุมนั้น แท้จริงคือบนตั่งเตียงในตำหนักของนางเอง

   “พระสนมเพคะ!?!”

   เสียงหวีดร้องแรกที่ได้ยินหาใช่เจ้าของเสียงทุ้มไม่ ทว่ามันคือเสียงแหลมของนางกำนัลประจำตำหนักเถียนเซี่ยที่ตกใจกับการขยับกายของประมุขแห่งตำหนักนี้

   ไม่อาจรับรู้ได้ว่าหลังจากนี้พวกนางเอ่ยอันใด สิ่งที่นางรับทราบคือร่างของนางกำนัลคนหนึ่งที่วิ่งออกจากห้องไปอย่างรีบร้อนด้วยคำสั่งของนางกำนัลที่ิอยู่ข้างเตียงของพระสนม คงไปตามหมอหลวงกระมัง—

   “น้ำ…”

   น้ำเสียงที่ออกมาจากลำคอที่เจ็บแสบนั้นแสนแห้งผาก มือเรียวของสตรีข้างกายรีบรินน้ำจากเหยือกทองเหลืองใส่จอกน้ำทองเหลืองยื่นให้สตรีสูงศักดิ์ผู้หลับไหลนานแสนนานจวบจนผ่านไปหนึ่งเหมันต์ได้

   ราวกับแผ่นดินแตกระแหงได้พบเจอสายพิรุณเย็น ลำคอที่แห้งผากก็ดูจะชุ่มชื้นขึ้นมาบ้าง เว่ยเจียเหลียนฮวาค่อย ๆ ตั้งสติและมองรอบกาย ทบทวนว่าเหตุใดกันนางถึงมานอนเป็นผักเช่นนี้กัน สิ่งสุดท้ายที่นางจดจำได้คือนางกำลังตระเตรียมเดินทางออกไปตามนิมิตรของเทพเซียน ภาพห้วงฝันอันเลือนลางค่อย ๆ สะท้อนขึ้นมาในห้วงความคิดจนทำให้นางจดจำได้ถึงสิ่งที่นางต้องกระทำต่อจากนี้
   ไม่รั้งรอ ไม่ทบทวรสังขาร เว่ยเจียเหลียนฮวาฝืนการรีบขยับเพื่อหวังจะไปนั่งข้างตั่งเตียงเตรียมออกเดินด้วยสองเท้า ทว่าไม่ทันจะตะแคงข้างหันกายเพื่อหยัดร่างขึ้นนั่งก็ต้องเผชิญกับความปวดร้าวทั่วร่างแทนจนทำให้นางกำนับหวีดร้องตกใจกับท่าทีเช่นนี้

   เสียงฝีเท้าที่รีบเร่งก้าวเข้ามาในตำหนักตรงดิ่งมาถึงห้องของพระสนมผู้ตื่นจากบรรทมแสนยาวนานเอาเข้ายามต้นวสันต์ฤดู เจ้าของฝีเท้ามากมายนั้นประกอบไปด้วยแพทย์หลวง ลูกศิษย์ นางกำนัลที่ไปตามแพทย์หลวงเป็นหกฝีเท้า หลังจากนั้นตำหนักที่แสนเงียบเหงาก็ดูจะวุ่นวายขึ้นมาทันตาเห็น

   ใช้เวลาราว ๆ เค่อได้กว่าจะเข้าสู่ความสงบดังเดิม ให้เวลาแพทย์หลวงได้ซักถามอาการตรวจร่างกาย แพทย์หลวงวางนิ้วบนข้อมือบาง ตรวจชีพจรที่เพิ่งขยับออกจากขอบสะพานไน่เหอ ชีพจรช้าแต่มั่นคง

   "เหลือเชื่อ..." เขาพึมพำ “...ชีพจรของพระสนม...อ่อนลึกและสับสน ตำแหน่งอิน (阴) ถูกบดบัง ตำแหน่งหยาง (阳) เหลือเพียงเสี้ยวหนึ่ง ราวกับดวงจันทร์ในคืนดับแสง…”

  
“ข้า…ต้องพิษหรือ?”

   “ทูลพระสนม... เป็นเช่นนั้นพะยะค่ะ พระองค์ต้องพิษ ‘ไป่เมิ่งซวี’—พิษฝันขาวที่มิได้ฆ่าให้สิ้นชีพทันที แต่จะซึมลึกเข้าสู่ตันเถียน ปิดเส้นลมปราณใหญ่ ทำให้ร่างเข้าสู่สภาวะเหมือนตาย จิตถูกขังอยู่ในภวังค์ฝันอันไร้กาลเวลา” แพทย์หลวงเอ่ยด้วยน้ำเสียงมั่นคง “พยานและหลักฐานในวันนั้นแสดงว่าพระองค์ทรงได้รับพิษจากถ้วยชาขาวในวันที่ห้า ปาเยว่ ช่วงต้นสารทฤดู ก่อนจะหมดสติไปในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม หลังจากนั้นชีพจรลดต่ำจนแทบหาไม่พบ บางตำหนักเข้าใจว่าทรงสิ้นแล้ว…”
   “ทว่าข้ากระหม่อมกับหมอหลวงลี่พบสัญญาณปราณเย็นตกค้างที่จุด ‘ซานอินเจียว’ และ ‘หยินเหยา’ จึงรู้ว่าพระองค์ยังมีจิตคงอยู่ในห้วงหลับ จึงเร่งรักษาด้วย ชิงฮวาเยว่หลู่ ขับพิษทุกสามวัน และ ฝังเข็มเปิดจุดชีพจร เดือนละครั้งตลอดหกเดือนสิบเจ็ดวัน”
แพทย์หลวงหันไปพยักหน้าให้ลูกศิษย์ของตนเองส่งสัญญาณให้เอาเทียบยาที่เตรียมไว้ยื่นให้แก่นางกำนัลเพื่อให้นางพวกนั้นนำไปต้มยาถวายแด่พระสนมเสียนอี๋ “ตลอดเวลานั้น พระองค์ต้องพึ่งยาบำรุง เสวียนเจิ้งหยิน เพื่อประคองตับและปอดไม่ให้เสื่อม นางกำนัลผลัดเปลี่ยนดูแลไม่ให้เส้นปราณแห้งตาย ต้องขอพระราชทานอนุญาตแตะต้องวรกายเพื่อเคลื่อนลมปราณพระองค์ รักษาอุณหภูมิร่างกายตลอดเวลาพะยะค่ะ…”
   “เมื่อครู่ที่พระองค์ทรงฟื้น นับว่าเป็นสัญญาณว่าจิตได้คืนกลับแล้ว แต่…พิษยังตกค้างในเส้นลมปราณ ทรงอาจรู้สึกร้อนใน เจ็บคอ คอแห้ง อ่อนแรง และแน่นอกอีกระยะหนึ่ง ข้ากระหม่อมขอกราบเรียนว่า… หลังจากนี้ ต้องพักฟื้นอย่างน้อย เจ็ดสิบเจ็ดวัน ให้ครบหนึ่งรอบจันทรา เพื่อปรับลมปราณให้คืนสู่สมดุล หากฝืนเดินหรือตรัสมากเกิน จะทำให้พลังหยางแปรปรวน อาจทรุดหนักกว่าเดิม ตลอดเวลานั้น หม่อมฉันจะจัดให้พระองค์ดื่มยาเย็นวันเว้นวัน ยาบำรุงวันละหนึ่ง และเปิดจุดลมปราณทุกเจ็ดวันจนพลังกลับคืน หากไม่เร่งเร้าหรือถูกกระทบซ้ำ… อีก สามเดือนนับจากนี้ พระองค์จะทรงฟื้นกำลังได้เต็มที่พะยะค่ะ”

   เมื่อได้ยลยินเช่นนั้นแล้ว สตรีผู้เป็นผู้ต้องพิษเช่นนางจำต้องยินยอมนอนพักกายไปอีกคราแม้ว่านิมิตฝันจะรบกวนใจนางมากเท่าใดก็ตาม ทว่าการที่นางจะไปตามนิมิตนั้นย่อมต้องหมายถึงการที่นางต้องไปช่วยผู้คน หากร่างกายของนางเป็นเช่นนี้แล้วจะไปกระทำการใดได้ เช่นนั้นแล้วนางจึงหมายมั่นจะรักษากายให้เร็วที่สุดเพื่อไปทูลขอฝ่าบาทออกจากเมืองอีกครา…






  เชิงอรรถศัพท์ทางการแพทย์จีนโบราณ
   1.ซานอินเจียว (三陰交 / Sān Yīn Jiāo)
   ➤ จุดฝังเข็มสำคัญอยู่ด้านในของขา บริเวณเหนือข้อเท้า ใช้เปิดการไหลเวียนของเส้นลมปราณหยิน ช่วยบำรุงตับ ม้าม ไต (อวัยวะเกี่ยวกับพลังพื้นฐาน)

   2.หยินเหยา (阴腰 / Yīn Yāo)
   ➤ จุดฝังเข็มในแนวเอว ด้านหลังร่างกาย เชื่อมโยงกับเส้นหยินเว่ย และสัมพันธ์กับปราณของไตและตับ

   3. ฝังเข็มเปิดจุดชีพจร (開穴行氣 / Kāi Xué Xíng Qì)
   ➤ เทคนิคฝังเข็มเพื่อเปิด “จุดชีพจร” (Xué = จุด / ช่องพลัง) ให้ลมปราณไหลเวียนได้ ช่วยฟื้นฟูหลังพิษหรืออาการอุดตัน

   4. ชิงฮวาเยว่หลู่ (清花月露 / Qīng Huā Yuè Lù)
   ➤ ยาสมุนไพรสมมุติในเรื่อง ทำจากกลีบดอกไม้ฤทธิ์เย็น 9 ชนิด ต้มกับน้ำค้าง 7 คืน ใช้ขับพิษร้อนในแบบไม่เร่งรัด

   5. เสวียนเจิ้งหยิน (玄正饮 / Xuán Zhèng Yǐn)
   ➤ ยาน้ำตำรับเก่า บำรุงหยินและหยางอย่างสมดุล ใช้หลังร่างกายฟื้นจากอาการช็อกหรือพิษหนัก

   6. หยางหาย (阳虚 / Yáng Xū)
   ➤ ภาวะพลังหยางลดต่ำ ส่งผลให้ร่างกายเย็น อ่อนแรง หายใจช้า เลือดไหลช้า

   7. ไฟลมปราณสะสม (火郁气滞 / Huǒ Yù Qì Zhì)
   ➤ ภาวะที่ปราณหยินสะสมมากเกิน ทำให้เกิดความร้อนใน จุดระเบิดเมื่อฟื้นคืนสติ กลายเป็นอาการแน่นอก ร้อนคอ เจ็บในอก

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 22848 ไบต์และได้รับ 16 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-5-9 15:53
โพสต์ 22,848 ไบต์และได้รับ +6 EXP +10 คุณธรรม +8 ความโหด จาก แหวนดาราจรัส(D)  โพสต์ 2025-5-9 15:53
โพสต์ 22,848 ไบต์และได้รับ +6 คุณธรรม จาก พัดคุณชาย  โพสต์ 2025-5-9 15:53
โพสต์ 22,848 ไบต์และได้รับ +5 EXP +15 คุณธรรม +6 ความโหด จาก บัณฑิต  โพสต์ 2025-5-9 15:53
โพสต์ 22,848 ไบต์และได้รับ +3 EXP +6 คุณธรรม จาก พู่กันคัดอักษร  โพสต์ 2025-5-9 15:53
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ยอดคีตศิลป์
อัจฉริยะ
กระบี่
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
แหวนดาราจรัส(D)
พัดคุณชาย
พู่กันคัดอักษร
ชุดเหวินชิงฮวาเฟิน(เสียนอี๋)
หมวกไผ่ผ้าคลุม
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x16
x5
x10
x38
x1
x179
x2
x5
x2
x1
x163
x2
x2
x4
x6
x1
x1
x21
x33
x10
x2
x1
x19
x10
x4
x6
x3
x20
x2
x2
x11
x15
x134
x4
x3
x2
x277
x10
x4
x238
x6
x64
x33
x1
x50
x111
x67
x26
x164
x6
x17
x81
x16
x10
x21
โพสต์ 2025-6-26 23:04:26 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย WeijiaLianhua เมื่อ 2025-6-28 01:08


荷香万里夏
กลิ่นบัวหอม คิมหันต์หมื่นลี้

วันที่ยี่สิบห้าอู่เยว่ เจี้ยนหยวนศกที่สิบเอ็ด
กลางยามเซิน ( 16.00 น. )


   จากนกกระเรียนเหินท่องท้องนภา สู่นกกระจอกในกรงทอง

   ครั้นรถม้ามาถึงหน้าประตูวัง ดวงหน้าของสตรีผู้เคยแย้วสรวลสดใสหม่นแสงเรียบนิ่ง บ่าเล็กยกตรึง ยึดอกผายมือกุมเสมอท้องสงวนกิริยา แม้อาภรณ์จะมิได้งดงามสูงค่าเช่นในวัง ทว่ากิริยานี้แสดงถึงความงามอันเป็นเอกของสติปัญญาและมารยาทที่พระสนมพึงมี สตรีช่างจ้อในบัดนี้ไม่เอื้อนเอ่ยแม้เพียงครึ่งคำ เรียวหัตถ์เล็กหยิบพัดขึ้นกางเป็นการส่งสัญญาณถึงจ้าวหนิงเฟยให้ยื่นสิ่งที่ต้องส่งมอบให้ จางสู่

   “สิ่งนี้คือถุงตำลึงเงินที่พระสนมของข้าตั้งใจมอบให้เป็นทั้งค่าแรงที่เจ้าอุตส่าห์เดินทางมาส่งและเป็นน้ำใจอันหวังให้เจ้าได้หยิบใช้ ไม่ว่าเจ้าจะกลับหนานเจ้าหรือตั้งรกรากเช่นชนต้าฮั่น ก็จงรับไว้เพื่อที่จะได้ตั้งตัวอย่างเข้มแข็ง”

   จ้าวหนิงเฟยเอ่ยอย่างขึงขังราวกับเอ่ยราชโองการก็ว่าได้ จางสู่ ผู้นอบน้อมรับด้วยความเต็มใจก่อนที่จะเดินทางออกจากอาณาบริเวณของวังหลวง พัดในมือถูกรวบเก็บพร้อมกับเดินไปอุ้มเสี่ยวเฮยจากพื้นเพื่อเป็นการแสดงให้ผู้คนเห็นว่าพระสนมเสียนอี๋โปรดมากเพียงใด ส่วนเว่ยซานนั้นเดินตามไม่ห่างราวกับเป็นคู่หูของจ้าวหนิงเฟยอีกที

   เสียงรอบกายเอะอะขึ้นมาชั่วขณะที่เรียวเท้าเล็กก้าวเข้าสู่อาณาบริเวณวังหลัง ทั้งผู้คนที่ตระหนักได้ถึงการกลับมาของพระสนมเสียนอี๋และผุ้คนที่ตื่นตระหนกกับหมาป่าผู้องอาจเดินตามไม่ห่างกายสตรีสูงศักดิ์ราวกับฌพธิสัตว์ผู้โอบอ้อมสัตว์ร้าย ทว่าหากตริตรองให้ดีนั้นจะแลเห็นว่านางช่างอาจหาญชาญชัยนักที่กล้ารับสัตว์ทรงเลี้ยงเข้าวังหลัง มิใช่เพียงหนึ่ง แต่ถึงสองตัว

   “ถวายความเคารพพระสนมเว่ยเจียเสียนอี๋เพคะ”

   ยามที่กายบางประทับ ณ ตำหนักเถียนเซี่ย ราวกับย่างก้าวบุษบงกระทบผืนน้ำกำเนิดระลอกคลื่นไปสู่ผู้คนทั้งตำหนัก บ่าวใช้นางกำนัลต่างเร่งออกมาถวายความเคารพเป็นอย่างดี ดวงตาสีเกาลัดกวาดตายลพินิจเรือนของตน ครั้นแลเห็นว่ามันได้รับการดูแลอย่างดีก็ถือว่าพวกบ่าวใช้พวกนี้รู้ความ

   “พระสนมเพคะ มีจดหมายสองฉบับถึงพระสนม”

ถึง—เสี่ยวเหลียนฮวา

   เด็กดีของเจี่ยเจีย,

   ยามลมเปลี่ยนทิศ ย่อมมีผู้เคลื่อนไหว

   แม้ใจจะปรารถนาต้อนรับการกลับมาของเจ้าด้วยตนเอง แต่ฤดูกาลในซูโจวมิอาจนิ่งนอนใจ — ฝั่งฟ้ายังพร่ามัว เจี่ยเจียจำต้องตามเงาผู้แทนโองการฟ้า บัดนี้หากพบคนผู้หนึ่งในคราบมังกร จงจำไว้ว่าเขาเป็นผู้ครองบทบาทที่ถูกกลั่นจากความจำเป็น เส้นด้ายถูกขึงไว้แล้ว เจี่ยเจียได้แต่ฝากฝังเจ้าร่วมแสดงละครฉากนี้ร่วมกันกับเขา อย่าให้ผู้ใดแลเห็นเงื่อมสายก่อนเวลา และเมื่อม่านปิดลง เจี่ยเจียจะรีบกลับไปยืนเคียงเจ้า

—ลู่เจี่ยเจีย


   ตัวอักษรงดงามที่นางได้เพียรอ่านทุกเมื่อยามศึกษาในสำนักศึกษา ณ ลั่วหยางได้ปรากฎตรงหน้า เนื้อความที่เต็มไปด้วยความลับแห่งบัลลังก์ทุกเส้นตวัดสื่อได้ถึงความจริงใจที่ต้องการให้นางช่วยเหลือ หากสตรีผู้เป็นดั่งปราชญ์แห่งยุคยอมรับในคราบมังกรทองบนบัลลังก์ขณะนี้ว่าเป็นโอรสสวรรค์ เช่นนั้นใต้หล้าก็หาได้มีผู้ใดตระหนักสังเกต นับว่าสมแล้วที่เป็ยเจี่ยเจียผู้มองกาลไกล ในสักวันที่คงเร็ว ๆ นี้ หากได้สนทนาเพียงชั่วขณะใยนางจะจดจำมิได้

   อย่างน้อยเขาก็เป็นสามีของนางเช่นกัน

   รูปร่าง น้ำเสียง ท่าทาง การตรัสคำเอื้อนวจี ดวงเนตรแห่งมังกรที่ทอดมองผู้คน ขึ้นชื่อว่าพระสนมเอกผู้เคยได้รับความโปรดปรานย่อมสามารถจดจำทุกสิ่งได้

   ร่างที่ยืนอ่านอักษรสื่อสาร จับใจความจนแน่นิ่งไม่ไหวติงค่อย ๆ ก้าวเดินตรงมายังเชินเทียนจุดงดงามก่อนจะบรรจงยกจดหมายรนไฟให้วอดจนเหลือเพียงเถ้าธุลี สารที่ได้รับนี้ไม่ควรตกไปถึงมือผู้ใดในใต้หล้าทั้งนั้น แม้จะก่อให้เกิดความลือที่แลเห็นเป็นความบาดหมางกับเทพธิดาจำแลง ทว่านางที่ต้องปกป้องสตรีผู้นั้นใยจะต้องสนคำคน

   เพื่อซีหวางหมู่ของนาง จำต้องเด็ดขาดและเยือกเย็น

   “อีกหนึ่งฉบับเล่า”

   “นี่เพคะ”

   บ่าวเอ่ยพร้อมมอบถวายจดหมายอีกหนึ่งฉบับให้แก่พระสนม หัตถ์เรียวที่ดูจะคล้ำขึ้นเล็กน้อยจากการเดินทางมาตลอดสองเดือนเต็ม ๆ ยกขึ้นมารับจดหมายมาพิจมอง ตัวอักษรที่ตวัดเขียนนามผู้ส่งถึงนั้นครานี้เองก็เป็นลายฝีพู่กันที่คุ้ยเคยทั้งยังเป็นอักษรที่นางไปบรรจงลากเขียนตามมาทั้งชีวิตสิบสองปีในจวนสกุลเว่ยเจีย

   “เรียนพระสนม เจ้ากรมโยธาเว่ยเจียฟูหยางขอเข้าเฝ้าพะยะค่ะ”

   “เห็นทีคงไม่ต้องแกะอ่านแล้วกระมัง” สตรีผู้เป็นใหญ่ในตำหนักคิมหันต์เช่นฤดูกาลในครานี้ค่อย ๆ ก้าวเดินไปนั่งตั่งบัลลังก์ของผู้เป็นเจ้าของตำหนัก ณ โถงกลาง “ให้เข้ามา”

   สิ้นวจีหวานขันทีผู้ส่งสารก็เร่งยอบกายขอตัวเพื่อไปเชิญแขกที่ส่งสารมาล่วงหน้าเพียงชั่วครู่เท่านั้น บัดนี้นางแอบรู้สึกเข้าใจฝ่าบาทขึ้นมาทันทีว่าเขาคงจะรู้สึกเช่นไรกับจดหมายแสนเอาแต่ใจของนาง

   เช่นนั้นแล้วหากให้เอ่ยกับสถานการณ์ตรงหน้านี้คงจะเป็น

   “หากว่าเปิ่นกงไม่แลเห็นสิ่งนี้ การขอเข้าเฝ้าแสนเอาแต่ใจของท่านจะจบเช่นไรกัน ท่านพ่อ”

   ทันทีที่ย่างก้าวของบุรุษผู้คมคายก้าวเข้ามายังอาณาเขตแห่งแดนคิมหันต์ วจีหวานก็เอ่ยขึ้นราวกับว่าต้องการเอ่ยกับเขามานานแสนนานทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะเข้ามาคราแรกเท่านั้น นี่เป็นการแสดงอำนาจของบุตรีที่มิได้เป็นลูกรักของจวนยอดบัณฑิต

   “คาราวะพระสนมเสียนอี๋ กระหม่อมต้องขออภัยยิ่งนักที่เรียนแจ้งเข้าเฝ้าอย่างกระทันหันนี้” เขาน้อมตัวถวายความเคารพแก่สตรีตรงหน้า “ทว่า…เรื่องนี้เร่งด่วนนัก จำต้องขอปรึกษาพระสนมเป็นการส่วนพระองค์พะยะค่ะ”

   คำว่าส่วนพระองค์ที่เขาเอ่ยทำให้นางจำต้องตวัดมือเป็นสัญญาให้บ่าวทุกคนออกจากอาณาบริเวณนี้ เหลือเพียงนาง จ้าวหนิงเฟย และเว่ยเจียฟูหยาง พระสนมเสียนอี๋ค่อย ๆ ลุกจากตั่งนั่งเพื่อเดินนำไปยังห้องทรงงานส่วนพระองค์ของประมุขตำหนักเถียนเซี่ย สร้างคำว่า ส่วนพระองค์ ให้เหมาะสมตามที่บิดาต้องการ ร่างเล็กค่อย ๆ หย่อนกายนั่งบนเก้าอี้ไม้เนื้อดี ยื่นเฮยเฉวียนให้จ้าวหนิงเฟยอุ้มเอาไว้เสียก่อน

   “เจ้าพาเว่ยซานกับเสี่ยวเฮยกับเสี่ยวซานไปเดินเล่นในสวนก่อน หากเปิ่นกงเสร็จธุระจะตามไป”

   จ้าวหนิงเฟยผู้รับคำของพระสนมก็โอบอุ้มเฮยเฉวียนเอาไว้ก่อนจะบอกให้เว่ยซานเดินตามออกจากข้างนอก พร้อมกันนั้นที่ห้องนี้เหลือเพียงบิดาและบุตรสาว นางก็ผายมือเชื้อเชิญให้บิดานั่งให้เรียบร้อยก่อนเริ่มสนทนา

   “มีธุระอันใดที่จำต้องคุยส่วนตัวเช่นนี้หรือท่านพ่อ”

   “ฝ่าบาทตรัสกับพ่อว่าพระองค์มีพระประสงค์จะรับเจ้าเข้าเป็นอี้หนี่ว์ (พระราชธิดาบุญธรรม)”

   “งั้นหรือ ?”

   “งั้นหรือ ? เจ้ามีสิ่งที่ต้องการเอ่ยเพียงเท่านี้น่ะหรือ”

   “แล้วจะให้ข้าเอ่ยสิ่งใด ในเมื่อเรื่องนี้แม้แต่ข้าที่ต้องถูกแต่งตั้งยังไม่รู้ความใด ๆ ทั้งนั้น”

   การเอ่ยถามเพียงสองคำพลันบังเกิดอารมณ์ในอก ลมายใจที่ลึกขึ้นเป็นการตอบสนองที่นางกำลังอดทนไม่กะทำสิ่งใดอันเป็นการไม่ไว้หน้าเขาผู้เป็นบิดาบังเกิดเกล้า เว่ยเจียฟูหยางได้ยินเช่นนี้พลันเข้าใจสถานการณ์โดยรวม ฝ่าบาทกำลังกระทำบางสิ่งโดยไม่อาจคาดเดาได้

   “แล้วเจ้าต้องการเป็นอี้หนี่ว์หรือไม่”

   “ถ้าหากว่าอยากแล้วท่านจะว่าอย่างไร”

   “นี่มิใช่เรื่องล้อเล่นให้เจ้าประชดประชันข้าได้เช่นในจวน นี่คือสิ่งที่จะเปลี่ยนชีวิตของเจ้าจนตราบสิ้นลม แม้เกิดร่วมจวนทว่าแตกดับห่างไกล แม้เพียงช่วงชีวิตสุดท้ายสถานที่ที่เจ้าจะได้หลับไหลคือหลุมศพของราชสกุลหลิว”

   “แล้วคุณงามความดีก็จะไม่ตกทอดถึงท่าน เช่นฐานะพระสนมใช่หรือไม่ ?”

   “อย่าได้ยึดโยงในสิ่งที่ก่อความบาดหมางได้หรือไม่ พ่อมาอย่างสันติ” เว่ยเจียฟูหยางถอนหายใจเบา ๆ เขาที่ห่วงบุตรีคนนี้อยู่ห่าง ๆ ได้แต่นึกโทษตนที่ไม่เคยอยู่ใกล้ชิดนางแม้เพียงคราเดียว “หากว่ากันตามเนื้อผ้า การเป็นพระสนม แม้จะตำแหน่งเสียนอี๋เช่นนี้ย่อมสุขสบายยิ่งกว่า ตำหนักส่วนพระองค์โอ่อ่า บ่าวใช้หลายสิบชีวิต เบี้ยหวัดไม่ขาดมือ มีอำนาจในมือเจ้า กลับมาครานี้มิใช่จักได้เลื่อนขั้นหรอกหรือ เจ้าที่เคยเป็นถึงสตรีผู้ได้รับการโปรดปรานจนเลื่อนขั้นมาจนถึงเพียงนี้ ไยเจ้าจะเทกระจาดทิ้งราวกับโยนหีบไหลงก้นแม่น้ำฮวงเหอ”

   “ท่านสาธยายถึงเพียงนี้แล้วท่านต้องการเพียงแค่ให้ข้าเอ่ยว่าอย่างไร ‘ปฏิเสธฝ่าบาทไปเสียสิเจ้าคะ’ ท่านกำลังภาวนาให้ข้ารู้คุณเอ่ยเช่นนี้ใช่หรือไม่”

   “ข้าเพียงอยากให้เจ้าสุขสบาย เจ้าก็รู้ดีว่าสตรีที่เป็นบุตรีจากฟูเหรินรองมิได้มีโอกาสเป็นสตรีสูงศักดิ์เช่นนี้ การส่งเจ้าเข้าวังเป็นวิถีทางที่ดีต่อทุกฝ่าย”

   “ดีต่อข้า หรือดีต่อท่านกันแน่ เจ้ากรมโยธาธิการ”

   “แล้ววาสนาพระสนมไม่ดีอย่างไร ใยเจ้าถึงไม่ไขว่คว้าโอกาส ในเมื่อเคยเป็นที่โปรดปราน จะเป็นอีกสักรอบให้ขึ้นเป็นขั้นเฟยคงไม่เกินมือเจ้า”

   น่าขันสิ้นดี ต่อให้ขึ้นชื่อว่ายอดอัจฉริยะแห่งยุคหรือว่าที่จอมปราชญ์แห่งปัญญา สิ่งที่นางดูจะเป็นประโยชน์ต่อวงตระกูลได้มีเพียงการเป็นพระสนมไต่เต้าขึ้นเป็นพระสนมที่มองว่านางมีศักยภาพพอจะไขว่คว้าอำนาจในฝ่ายในได้

   “ท่านไม่คิดว่าใต้หล้านี้สิ่งที่ข้าต้องการเพียงแค่อยู่ใต้ฟ้ากว้างโดยอิสระหรอกหรือ…”

   “เหลียนเอ๋อร์…อิสระเป็นสุขเพียงชั่วครู สุดท้ายความมั่งคั่งจะช่วยให้เจ้าได้สุขสบายในบั้นปลายชีพชีวัน ข้าเพียงอยากได้หลักประกันเมื่อตาแก่เช่นข้าลงโลง เจ้าไม่ต้องทุกข์ยากลำบากตรากตรำ”

   ภายในหัวน้อย ๆ ช่างสับสนยิ่งนัก สายเลือดข้นกว้าน้ำเป็นเช่นไร ขึ้นชื่อว่าบิดาผู้มอบสายเลือดย่อมมีผลต่อดวงจิตมากเท่านั้น นางที่ได้แต่อดทนในจวนร้างบิดาผู้มารับราชการในเมืองหลวง พบหน้าเพียงเดือนเดียวจำต้องจาก ครั้นเกิดสิ่งใดก็ไม่อาจฟ้องร้องหรือได้สิ่งใดมาโดยง่าย ชีวิตที่นางได้รับจากเขาคือการอดทนต่อแรงกระทำแล้วรอรับรางวัลของผู้จำยอมก็เท่านั้น

   แล้วเมื่อไหร่กันที่นางจะไม่จำต้องทนอีกต่อไป

   “แต่ข้าไม่อยากเป็นเช่นท่านแม่ ท่านเข้าใจที่ข้าต้องการใช่หรือไม่ ข้าไม่อยากเป็นเพียงสนม ไม่ว่าจะเฟย หรือ กุ้ยเฟย ต่อให้ผืนดินถล่มโลกแตกดับข้าก็เป็นได้เพียงฟูเหรินรองอยู่วันยังค่ำ”

   เพราะนางตระหนักรู้ถึงใจของโอรสสวรรค์ และนางตระหนักรู้ถึงใจที่มิอ่านผูกติดต่อผู้นั่งบัลลังก์ตั่งทองนี้ได้ เช่นนั้นแล้วไซร้สตรีผู้ไม่เคยได้ร่วมเรรียงเคียงหมอนจะเป็นสิ่งในในสายตาของบุรุษที่จับจ้องเพียงภรรยาข้างกายและก้อนแป้งพยานรัก นางเป็นเพียงกาฝากร่วมอาศัยในนามของสนม ไม่ต่างจากเมียน้อยที่กินหรูอยู่สบาย

   ก็เป็นเช่นมารดา เพียงแค่ไม่ต้องทุกข์ระทมในรัก เพราะดวงใจของนางนั้นช่างแห้งเหือดเหลือเกิน

   การกล่าวถึงสตรีผู้เป็นรักหนึ่งเดียวในดวงใจของผู้เป็นพ่อทำให้เว่ยเจียฟูหยางผู้ยึดถือความเท่าเทียมภายในการครองเรือนนั้นปวดหนึบ มีหรือเขาจะไม่รู้ว่าเขาทำให้คนที่เขารักเจ็บปวดมากเพียงใด ปากบอกไม่อาจขาดนางได้ทว่าบัดนี้ยามที่นางยอมสละความรุ่งโรจน์ในสกุลเสวี่ยผู้เดินทางค้าขายทั่วใต้หล้า จำต้องอยู่ในกรงจวนสกลุเว่ยเจียที่หนานหยาง

   แต่ความตั้งใจของเขายังคงเป้นเช่นเดิม ในช่วงขณะที่ใต้หล้าถูกปีศาจรุกราน บ้านเมืองยังไม่สงบดีนัก การอยู่ในรั้ววังด้วยสติปัญญาของบุตรีแห่งเขา ผู้ที่ได้รับการขนานนามเป็นถึงยอดบัณฑิตในมวลพธูเช่นนั้นแล้วเขาเชื่อมั่นในการเอาตัวรอดของนาง แต่กับปีศาจมากมายที่พร้อมจะปลิดชีพเพียงพริบตา…เขาไม่อาจวางใจให้ออกห่างจากจุดศูนย์กลางแสงสุริยัน

   แม้ใกล้ชิดจนร้อนระอุ ทว่านี่ทำให้เขามั่นใจได้มากพอว่ามวลมารย่อมถูกแผดเผาจนมลายสิ้น

   “ข้าจะเมินคำถามนี้ของฝ่าบาทไปเสียก่อน ทว่าหากฝ่าบาทตรัสถามอีกครา บิดาจักปฏิเสธเพื่อตัวเจ้า”

   เว่ยเจียฟูหยางเอ่ยก่อนที่จะค่อย ๆ ลุกขึ้นราวกับว่าการปรึกษานี้ได้ข้อสรุปเรียบร้อยแล้ว เว่ยเจียเหลียนฮวาที่ต่อให้หลักแหลมเพียงใดกลับไม่อาจทำให้บิดาวางใจได้เลย ดั่งใบหลิวลู่ลม โอนอ่อนไหวเอนต่อพายุโหม ทว่ากลับอ่อนแอต่อคมกระบี่จนปลิดปลิว

   “ข้าขอไม่ส่ง”

   วจีหวานเอ่ยอย่างแผ่วเบาราวกับสายลมอ่อนพัดผ่านเท่านั้น ครั้นเมื่อร่างของเว่ยเจียฟูหยางหายไปจากลานสายตาของสตรีผู้ที่แม้จะเป็นพระสนมยิ่งใหญ่เพียงใด นางก็เป็นเพียงบุตรสาวในสายตาของบิดา กายบางค่อย ๆ เอนไปข้างหนัง ทิ้งกายลงกับโต๊ะไม้เนื้อเย็นเฉียบ บุตรสาวผู้ไม่อาจสืบสกุลได้ บุตรสาวผู้ที่จำต้องหวังพึ่งสวนงดงามเพื่อหยั่งรากและได้รับการดูแลที่ดี

   ผ่านไปร่วมหนึ่งก้านธูปได้ที่นางนั่งเหม่ออยู่เช่นนั้น เนื้อตัวยังคงมอมแมมจากการเดินทางครั้นอยากอาบน้ำชำระกายทว่ากลับอยากออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ก่อน กายบางค่อย ๆ หยัดลุกขึ้นยืนเต็มความสูงและเดินไปยังสวนกลางเรือนอันเต็มไปด้วยบุปผางามและน้ำตกจำลองส่งเสียงธารน้ำไหลหลั่งรินชวนจิตใจสงบ

   “นายหญิง นายหญิง!”

   ราวกับหากกันเนิ่นนานแม้เพียงชั่วครู่เท่านั้น เฮยเฉวียนเห่าบ้อกแบ้กน่าชังให้ได้ยินมาแต่ไกล ร่างก้อนขนสีดำโดดลงมาจากอ้อมแขนของจ้าวหนิงเฟยแล้ววิ่งเข้ามาอ้อนถูไถขาเรียวทันที เว่ยเจียเหลียนฮวาผู้เป็นนางรู้สึกเอ็นดูในภาพตรงหน้านักจึงอุ้มเฮยเฉวียนขึ้นมาก่อนจะเดินไปลูบหัวเว่ยซานข้างกายจ้าวหนิงเฟยเพื่อไม่ให้มันน้อยใจไป

   “เจ้ากรมโยธากลับแล้วหรือเพคะ”

   “อือ หมดธุระก็กลับไปแล้ว”

   ณ ชั่วขณะที่ได้ยินน้ำเสียงของสตรีตรงหน้า จ้าวหนิงเฟยพลันทราบได้ในทันทีว่าบัดนี้สิ่งที่พระสนมของนางต้องการมีเพียงการอยู่เงียบ ๆ ให้รอบกายโอบล้อมตัวนางเอง จ้าวหนิงเฟยผายมือไปยังศาลากลางสวนเล็ก ๆ เพื่อบ่งบอกว่านางนั้นตระเตรียมชาและขนมหวานให้พรักพร้อมเรียบร้อย

   “ขอบใจ”

   เว่ยเจียเหลียนฮวาเอ่ยออกมาจากใจ ยามนี้สหายข้างกายต่างแยกย้าย ในรั้ววังที่ไม่อาจไปมาหาสู่กันได้นอกจากฝากตัวอักษร ส่งรอยฝีพู่กัน สื่อความกันและกันราวกับอยู่ห่างแสนไกล— แม้ความจริงยามนี้จะหากไกลจริง ๆ ก็ตาม ร่างบางก้าวเดินไปที่ศาลา ทว่าแทนที่จะนั่งที่ตั่งบุนวมให้ดีนางกลับหย่อนกายลงกับขึ้นบันไดเพื่อให้พื้นที่ข้างกายเติมเต็มด้วยเว่ยซานและบนตักเป็นเสี่ยวเฮย จ้าวหนิงเฟยแลเห็นเช่นนี้ก็ได้แต่ส่ายหัวเบา ๆ ก่อนจะเรียงสถานที่ใหม่โดยยกจานขนมและแก้วชามาไว้อีกข้างกายที่ยังคงว่างแทน

   จากนั้นก็ปล่อยให้พระสนมได้พักกายจากการเดินทางแสนยาวนาน พักใจจากเรื่องราวมากมายที่ต้องเผชิญ ให้นางได้เป็นเพียงดอกบัวงามเหนือน้ำนิ่งกลางบึงเล็ก ทิ้งความปวดหัวทั้งตัวชั่วครู่ ฟื้นกำลังกายและใจเพราะนางรู้ดีว่าในฐานะของสตรีในวังย่อมต้องมีที่ที่ต้องไปในวันรุ่งขึ้น

   เรื่องเข้าเฝ้าคราบมังกรทองนั้นให้เป็นเรื่องของตัวนางในวันพรุ่งนี้จัดการก็แล้วกัน







@Admin




แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 39377 ไบต์และได้รับ 24 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-26 23:04
โพสต์ 39,377 ไบต์และได้รับ +10 EXP +25 คุณธรรม +20 ความโหด จาก กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)  โพสต์ 2025-6-26 23:04
โพสต์ 39,377 ไบต์และได้รับ +35 EXP +12 คุณธรรม จาก ยอดนักดนตรี  โพสต์ 2025-6-26 23:04
โพสต์ 39,377 ไบต์และได้รับ +15 EXP +20 คุณธรรม จาก อัจฉริยะ  โพสต์ 2025-6-26 23:04
โพสต์ 39,377 ไบต์และได้รับ +10 EXP +12 คุณธรรม +12 ความโหด จาก ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก  โพสต์ 2025-6-26 23:04
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ยอดคีตศิลป์
อัจฉริยะ
กระบี่
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
แหวนดาราจรัส(D)
พัดคุณชาย
พู่กันคัดอักษร
ชุดเหวินชิงฮวาเฟิน(เสียนอี๋)
หมวกไผ่ผ้าคลุม
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x16
x5
x10
x38
x1
x179
x2
x5
x2
x1
x163
x2
x2
x4
x6
x1
x1
x21
x33
x10
x2
x1
x19
x10
x4
x6
x3
x20
x2
x2
x11
x15
x134
x4
x3
x2
x277
x10
x4
x238
x6
x64
x33
x1
x50
x111
x67
x26
x164
x6
x17
x81
x16
x10
x21
โพสต์ 2025-6-28 01:26:55 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย WeijiaLianhua เมื่อ 2025-6-28 01:30


荷香万里夏
กลิ่นบัวหอม คิมหันต์หมื่นลี้

วันที่ยี่สิบห้า อู่เยว่ เจี้ยนหยวนศกที่สิบเอ็ด
ต้นยามไห่ ( 21.00 น. )


   ครั้นยามได้ฤกษ์เอนกายเตียงนุ่ม จ้าวหนิงเฟยก็เดินเข้ามาพร้อมถือถาดจดหมายฉบับหนึ่ง วงคิ้วขนงใบหลิวเลิกขึ้น มือเล็กหยัดกายกับเตียงไว้เพื่อยันไม่ให้ล้มลงนอนในทันที ลมหายใจเล็ก ๆ ถอนออกมาเบา ๆ ด้วยความหน่ายระคนสนเท่ห์ว่าเจ้าของจดหมายนี้เป็นของผู้ใดกัน

   “ของผู้ใดกัน”

   “ไม่ระบุเพคะ”

   ในเมื่อเป็นเช่นนี้การระบุตัวตนผู้ส่งสารคงจะเป็นการอ่านข้อความที่ส่งสารให้เท่านั้นกระมัง มือเรียวยื่นไปหยิบจดหมายจากถาดทองเหลืองมาแกะอ่าน ลายอักษรฝีพู่กันคุ้นเคยอีกคนปรากฎสะท้อนในดวงเนตรกลมหวานดั่งดอกท้อที่ไล่อ่านอย่างบรรจงราวกับตกอยู่ในห้วงพวังค์ สารที่สื่อมาถึงนางมีเพียงไม่ถึงสองประโยคดี ทว่ากลับดึงดูดไว้แสนนานจนไม่อาจตระหนักได้ว่าตนเองอ่านมันไปนานเท่าใดกัน

ถึง พหูสูตรปทุมมาลี


   但逢六月初阳照,微风近小暑拂身回,吾誓不负与汝之约。

   เพียงสุริยันฉายในวันแรกของเดือนหก ยามสายลมใกล้เสี่ยวสู่พัดวนรอบกาย ข้าจะไม่ผิดต่อสัญญาที่ให้แก่เจ้า


   รอบกายพลันมืดดับสงัดเสียงยามราตรี เรียวนิ้วที่ถูกขัดจนขาวซีดอีกคราค่อย ๆ ไล่ขีดเบา ๆ ตามรอยเส้นฝีพู่กันราวกับค่อย ๆ สัมผัสทุกความรู้สึกที่ผู้สื่อต้องการส่งมาถึงภายในลายตวัดคมนี้ ดวงใจที่เย็นเหยียบราวกับได้รับพลังชีวิตที่จะเต้นขึ้นมาอีกตราดังเป็นจังหวะในอก ไหล่มนที่เด็ดเดี่ยวเสมอมาค่อย ๆ สั่นเทาราวกับความอ่อนแอทั้งหมดได้แสดงออกมา ณ วันนี้ ดวงตากลมวาวด้วยหยาดน้ำที่เอ่อท้นเป็นหยดกลั่นกรองจากดวงจิตแห่งความคะนึงหา ลมหายใจถี่กระชั้นโดยไม่อาจหักห้ามได้ปานกำลังใช้เฮือกสุดท้ายจดจำกระดาษส่งสารตรงหน้า

   เว่ยเจียเหลียนฮวาค่อย ๆ ลุกขึ้นไปนั่งโต๊ะเขียนอักษรของตนเอง ทาบศิลาทับกระดาษกับโต๊ะตรึงให้เรียบ ฝนหมึกสีเข้มจุ่มพู่กันค่อย ๆ ตวัดคัดตัวอักษรในจดหมายนี้ ค่อย ๆ จินตนาถึงภาพของบุรุษผู้หนึ่งกำลังร้อยเรียงคำเอ่ยสั้น ๆ เหล่านี้ว่าเขาจะรู้สึกเช่นไรกัน ทุกข์หรือสุข ยินดีหรือโศกา แย้มสรวลหรือกรรแสง นางไม่อาจรับรู้ได้เลยนอกจากวงใสที่หยดลงกับกระดาษจนปลายอักษรเปื้อนเป็นดวง

   「吾」
   ข้า

   อักษรที่หมึกยังไม่แห้งดีถูกหยาดน้ำตาหลังกระทบปลายหาง คำว่า ข้า ที่แสดงถึงตัวเขาทำให้นางยิ่งทวีความหวัง ความสุข ความคะนึงหาและความสบสันหวาดกลัว

   ไยเส้นด้ายวาสนาถึงยุ่งเหยิงปานนี้

   เขาว่ากันว่าเมื่อมีรัก ทั้งเป็นยาบำรุงให้แข็งแกร่งเกินทัดเทียม ทั้งเป็นยาพิษให้ทุกข์ทนเกินผู้ใด

   แต่ใยความรักของนางช่างราวกับยาขมที่มีน้ำผึ้งเพียงก้อนเดียวต่อลมหายใจ









@Admin




แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 9205 ไบต์และได้รับ 4 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-28 01:26
โพสต์ 9,205 ไบต์และได้รับ +2 คุณธรรม +2 ความโหด จาก กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)  โพสต์ 2025-6-28 01:26
โพสต์ 9,205 ไบต์และได้รับ +2 EXP +2 คุณธรรม จาก อัจฉริยะ  โพสต์ 2025-6-28 01:26
โพสต์ 9,205 ไบต์และได้รับ +2 คุณธรรม +2 ความโหด จาก แหวนดาราจรัส(D)  โพสต์ 2025-6-28 01:26
โพสต์ 9,205 ไบต์และได้รับ +2 คุณธรรม จาก พัดคุณชาย  โพสต์ 2025-6-28 01:26
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ยอดคีตศิลป์
อัจฉริยะ
กระบี่
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
แหวนดาราจรัส(D)
พัดคุณชาย
พู่กันคัดอักษร
ชุดเหวินชิงฮวาเฟิน(เสียนอี๋)
หมวกไผ่ผ้าคลุม
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x16
x5
x10
x38
x1
x179
x2
x5
x2
x1
x163
x2
x2
x4
x6
x1
x1
x21
x33
x10
x2
x1
x19
x10
x4
x6
x3
x20
x2
x2
x11
x15
x134
x4
x3
x2
x277
x10
x4
x238
x6
x64
x33
x1
x50
x111
x67
x26
x164
x6
x17
x81
x16
x10
x21
โพสต์ 2025-6-28 21:35:45 | ดูโพสต์ทั้งหมด

荷香万里夏
กลิ่นบัวหอม คิมหันต์หมื่นลี้

วันที่ยี่สิบหก อู่เยว่ เจี้ยนหยวนศกที่สิบเอ็ด
กลางยามโหย่ว ( 18.00 น. )


   ในยามแดดร่มลมตก ช่วงเวลาที่พระสนมเสียนอี๋เลือกเปิดหน้าต่างเรือนนั่งอ่านตำราพร้อมมือจับพู่กันขีดตวัดตัวอักษรตลอดหลายชั่วยามนับตั้งแต่กลับจากตำหนักเว่ยหยาง ราวกับว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้นางผ่านวันคืนไปได้โดยไม่ปล่อยดวงจิตล่อยลองไปยังที่ไกลแสนไกล

   แม้ว่านางจะออกตำรามาร่วมสามม้วน ทว่าการพัฒนาย่อมต้องอ้างอิงอยู่เสมอ ดวงตากลมสลับอ่านตำราเพื่อเป็นแนวทางและปรับปรุงให้ตำราของนางให้ดียิ่งขึ้นกว่าที่ตำราเคยมี ตำราบัณฑิตส่วนมากนั้นมักจะเต็มไปด้วยตำราอ่านยากยิ่งนัก เนื้อหาลึกซึ้งทว่ากลับไม่ได้หวนมานึกคิดถึงพื้นฐานอย่างเรื่องของภาษาที่ผู้คนใช้ การเรียบเรียงเกี่ยวกับภาษานี้เองทำให้นางได้เรียนรู้และตระหนักในความถูกต้องของการใช้ภาษามากขึ้นยิ่งนัก

   ครั้นช่วงเวลาล่วงเลยมายามโหย่ว จันทราเริ่มฉายชัดไร้แสงสนธยา มือเล็กก็ได้ฤกษ์วางพู่กันลงเสียที

   สองเท้าค่อย ๆ เดินออกจากห้องตำราอันเต็มไปด้วยม้วนอักษรมากมายตามประสาที่นางไล่เรียบเรียงม้วนทั้งหลายที่ได้ซื้อในช่วงตลอดการเดินทางนับพันลี้ที่ผ่านมา อาจเพราะในช่วงเวลาที่นางเขียนตำรามักจะจดจ่อจนไม่ได้สนใจรอบข้างเลยกระมัง ภาพที่นางเห็นเฮยเฉวียนและเว่ยซานเล่นกันโดยมีจ้าวหนิงเฟยคอยดูแลไม่ห่างจึงเป็นภาพที่พอจะเดาสาเหตุของมันได้ว่านางกำนัลข้างกายคอยช่วยเหลือเพื่อเกื้อหนุนสมาธิของนาง

   “พระสนม พระองค์เขียนตำราเสร็จแล้วหรือเพคะ”

   “อือ ขอชาหน่อยสิ”

   จ้าวหนิงเฟยขานรับก่อนจะเร่งเดินไปยังห้องชาของตำหนักเถียนเซี่ย ในตอนนี้เองที่ผุ้ปกครองอีกคนหายไป เหล่าสัตว์น่ารักพวกนี้พลันวิ่งมาหานางทันที เฮยเฉวียนและเว่ยซานวิ่งมาวนรอบกายก่อนจะหยุดตรงหน้า เว่ยเจียเหลียนฮวาไม่รั้งรอที่จะย่อกายลงเพื่อลูบหัวของพวกมันด้วยความเอ็นดู

   “จริงสิ เฮยเฉวียนกับเว่ยซาน วันนี้เรามาฝึกกันต่อเถิด”

   “ขอรับ!”

   “เหมือนเดิม ข้าจะสอนแล้วให้เสี่ยวเฮยทำเป็นตัวอย่าง แล้วก็ให้เสี่ยวซานทำตามอีกที”

   เว่ยเจียเหลียนฮวาเดินพาทั้งสองตัวไปฝึกเกี่ยวกับการทำตามคำสั่ง ทบทวนคำสั่งนั่งและหมอบของคราก่อน และฝึกวิ่งและหยุดตามคำสั่งที่เอ่ยออกมา ใช้เวลาผ่านไปไม่นานจ้าวหนิงเฟยก็กลับมาพร้อมกับถาดน้ำชาและ…จดหมายถึงฉบับ

   “พระสนมเพคะ มีจดหมายส่งถึงพระองค์”

   ร่างเล็กผู้ถูกขายเรียกว่าพระสนมได้ยินเช่นนี้ก็เดินกลับไปยังศาลากลางสวนริมน้ำตกจำลองเย็นสบาย มือสีซีดรับจดหมายมาพินิจก็พบว่านี่คือจดหมายจากกระดาษประเภทเดิม สีเดิมลวดลายเดิม ทั้งยังไม่ระบุนามผู้ส่งเช่นเดิม ครั้นเมื่อค่อย ๆ กางออกก็พบว่าเป็นฝีพู่กันของเขาอีกครา ทว่ารอบนี้ตัวอักษรตวัดรวมประโยคยามขึ้นมาก พร้อมทั้งลงชื่อในจดหมายชัดเจนว่ามาจากผู้ใดกัน

ถึง พหูสูตรปทุมมาลี


   ในกลางคิมหันต์ระอุกายเช่นนี้ ข้าหวังว่าเจ้าที่กลับตำหนักแล้วจะอยู่ดี เรือนด้านทิศใต้ที่เคยมีเสียงขลุ่ยลอยแผ่วมา ยามนี้กลับเงียบกว่าทุกครั้ง ข้า… นึกเป็นห่วงอยู่บ้าง ในหลายรอบโคจรจันทราที่ผ่านมา หาได้มีสิ่งใดตามใจดั่งปรารถนามากนัก ไม่รู้ว่าเจ้าจะเป็นเช่นกันหรือไม่ ในยามที่หวนกลับมาลิ้มชาหอมกลับรู้สึกขม ยามสดับถ้อยคำคนกลับเหนื่อยหน่ายเสียยิ่งกว่าการเดินทางพันลี้ แม้เรื่องนี้มิใช่สิ่งที่ข้าจะเอ่ยกระไรถึงฝ่ายในได้…ทว่าข้าเพียงอยากให้เจ้ารับรู้ ความเงียบมิใช่การเมินเฉย เพียงแต่เป็นความจดจ่อและสดับฟัง

   ในยามโหย่วที่สายลมเย็นขึ้น แสงสนธยาย้อมเมฆาครามเป็นสีอำพัน ข้าหวนนึกถึงอัญมณีคู่หนึ่งที่ไม่คิดว่าในชีวิตนี้จะได้พิจมองใกล้ ๆ ยามบัวบานเหนือน้ำพลันหนึ่งถึงผู้ที่เข้มแข็งเกินใครจนน่านับถือ ทว่าครั้นกลีบร่วงหล่นกลับหวนนึกถึงไหล่ที่สั่นเทาอย่างโดดเดี่ยวจนในอกพลันเบาหวิว

   จดหมายฉบับนี้หาได้ต้องการคำตอบกลับไม่ ข้าเพียงตวัดเขียนห้วงความคิดที่ไม่อาจสลัดหลุดไปได้เลย

   ข้าเพียงอยากให้เจ้าจะรับรู้...หากลมในตำหนักพัดเฉื่อยเย็นเมื่อใด ให้เข้าได้หวนนึกได้ว่าเป็นความรำลึกอย่างเงียบงันของคนผู้หนึ่ง— ท่ามกลางวันยาวคืนเย็นเช่นนี้

ด้วยความเคารพอย่างไม่อาจเอื้อนเอ่ย
หลิวชุ่น


   น้ำผึ้งหวานล้ำถูกหยดลงในยาขมอีกครา

   ราวกับประโยคภายในสื่อสารห้วงอารมณ์ผ่านสายลมที่โอบไล้จนเรือนผมปลิวไหวเบา ๆ แม้ว่าจะเย็นสบายหรือหนาวเหน็บเพียงใด ทว่าในยามนี้กลับรู้สึกได้ถึงความคำนึงของผู้ใดสักคน





พรสวรรค์ อัจฉริยะ
- สามารถโรลเพลย์ค้นคว้าหาความรู้จากการฟัง หรือ อ่าน +30 EXP (วันละครั้ง)
- สามารถโรลเพลย์เขียนตำราทางวิชาการขึ้นมา 1 เล่ม (สร้างบล็อกของเรา) +50 EXP : +2 Point : +100 ชื่อเสียงคุณธรรม (หากเป็นสนม +50 บารมี) (สร้างตำราสัปดาห์ละครั้ง)

- หลังเขียนตำราเสร็จแล้ว แนบรายละเอียดไว้ส่วนบนของบล็อก ชื่อตำรา: รายละเอียดโดยสรุปสังเขปตำรา: ตำราดังกล่าวจะถูกบัณฑิตทั่วไปช่วยกันนำไปเผยแพร่จนแพร่หลายทั่วฉางอัน



@Admin




แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับ 80 EXP โพสต์ 2025-6-28 21:57
คุณได้รับ +100 คุณธรรม โพสต์ 2025-6-28 21:57
โพสต์ 15697 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-28 21:35
โพสต์ 15,697 ไบต์และได้รับ +6 EXP +10 คุณธรรม +8 ความโหด จาก กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)  โพสต์ 2025-6-28 21:35
โพสต์ 15,697 ไบต์และได้รับ +10 EXP +2 คุณธรรม จาก ยอดนักดนตรี  โพสต์ 2025-6-28 21:35
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ยอดคีตศิลป์
อัจฉริยะ
กระบี่
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
แหวนดาราจรัส(D)
พัดคุณชาย
พู่กันคัดอักษร
ชุดเหวินชิงฮวาเฟิน(เสียนอี๋)
หมวกไผ่ผ้าคลุม
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x16
x5
x10
x38
x1
x179
x2
x5
x2
x1
x163
x2
x2
x4
x6
x1
x1
x21
x33
x10
x2
x1
x19
x10
x4
x6
x3
x20
x2
x2
x11
x15
x134
x4
x3
x2
x277
x10
x4
x238
x6
x64
x33
x1
x50
x111
x67
x26
x164
x6
x17
x81
x16
x10
x21
12
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้