หลังจากได้รับการรักษาจนร่างกายสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วอีกครั้ง แม้จะยังไม่เต็มร้อย แต่ก็เพียงพอสำหรับสถานการณ์ตรงหน้า ซิ่วอิงไม่รอช้าแม้เพียงเสี้ยววินาที ปลายเท้าดีดร่างออกจากเนินทรายพุ่งทะยานไปเบื้องหน้าดุจเหยี่ยวโฉบเหยื่อ ง้าวมังกรคู่ใจถูกควงสะบัดในมืออย่างคล่องแคล่ว แสงสีเงินวาววับสะท้อนกับแสงอาทิตย์ยามบ่ายที่ร้อนระอุ ตัดกับสีแดงฉานของโลหิตที่ยังคงเปรอะเปื้อนอยู่บนคมง้าว
ทันทีที่ซิ่วอิงเคลื่อนไหว เจ้าหมาสามหัว คู่ใจก็กระโจนตามมาติดๆ มันคำรามก้องด้วยเสียงอันดุดัน ดวงตาทั้งสามคู่จ้องเขม็งไปยังเหล่าปีศาจมังกรดำที่กำลังอาละวาดปลุกขวัญกำลังใจให้แก่ทหารที่ยังคงยืนหยัดต่อสู้อย่างเหนื่อยล้า ซิ่วอิงกวาดสายตาไปทั่วสมรภูมิ และในที่สุดก็พบกับร่างสูงสง่าของ แม่ทัพฮั่วชวี่ปิ้ง ที่กำลังถูกปีศาจมังกรดำร่างกำยำสี่ตนโอบล้อมเอาไว้ พวกมันแต่ละตนถือกระบองเหล็กขนาดใหญ่ แกว่งเข้าใส่แม่ทัพหนุ่มอย่างไม่ยั้ง แม้ฮั่วชวี่ปิ้งจะสามารถปัดป้องและตอบโต้ได้อย่างแข็งแกร่ง แต่การถูกรุมเช่นนี้ย่อมเสียเปรียบอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ซิ่วอิงกัดฟันแน่น ตัดสินใจพุ่งตรงไปยังจุดนั้นทันที
"เจ้าหมา! ไป!" ซิ่วอิงตะโกนสั่ง เจ้าหมาคำรามลั่น กระโจนนำหน้าเจ้านายไปยังกลุ่มปีศาจมังกรดำเหล่านั้น ด้วยพละกำลังมหาศาลของมัน เพียงแค่พุ่งชนร่างของปีศาจตนหนึ่งก็ถึงกับกระเด็นถอยหลังไปหลายวา ซิ่วอิงตามติดมาอย่างรวดเร็ว ง้าวในมือตวัดเป็นวงกว้าง ฟาดเข้าใส่ร่างของปีศาจมังกรดำตนที่ยืนอยู่ใกล้ที่สุดอย่างแม่นยำ คมง้าวผ่าอากาศด้วยความเร็วสูง กรีดผ่านเกราะหนังหนาของปีศาจราวกับเฉือนเต้าหู้ เลือดข้นพุ่งกระฉูด ร่างของปีศาจร้ายทรุดฮวบลงกับพื้นทรายทันที
ปีศาจมังกรดำอีกสามตนเห็นดังนั้นก็หันมาให้ความสนใจซิ่วอิงพร้อมกัน พวกมันคำรามก้อง โบกกระบองเหล็กเข้าใส่นางจากสามทิศทาง ซิ่วอิงหมุนตัวหลบกระบองที่ฟาดลงมาอย่างฉิวเฉียด ปลายง้าวแทงสวนขึ้นไปอย่างรวดเร็ว จ้วงเข้าที่ช่องท้องของปีศาจตนหนึ่ง เสียงร้องโหยหวนดังขึ้น ปีศาจตนนั้นทรุดตัวลงอีกตน ในขณะเดียวกัน เจ้าหมาก็เข้าตะครุบร่างของปีศาจอีกตนหนึ่ง ขย้ำด้วยกรามอันแข็งแกร่งทั้งสามหัวพร้อมกัน เกราะหนังหนาของปีศาจไม่อาจต้านทานแรงกัดอันมหาศาลได้ เสียงกระดูกแตกดังลั่น ปีศาจมังกรดำส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดทรมาน
ซิ่วอิงฉวยโอกาสที่ปีศาจอีกสองตนกำลังเสียสมาธิ ง้าวในมือพลันเปลี่ยนเป็นท่าร่ายรำที่พลิ้วไหวแต่แฝงไว้ด้วยความอันตราย นางก้าวเท้าอย่างว่องไว หลบหลีกการโจมตีของกระบองเหล็ก พร้อมกับตวัดง้าวเข้าใส่ข้อต่อแขนของปีศาจตนหนึ่ง เสียงเนื้อฉีกขาดดังขึ้น กระบองเหล็กหลุดออกจากมือหยาบกร้านของมัน
ในจังหวะเดียวกันนั้นเอง ฮั่วชวี่ปิ้งที่ถูกปลดจากพันธนาการก็โต้กลับทันควัน ทวนพู่แดงในมือพุ่งเข้าจู่โจมด้วยความเร็วราวสายฟ้าแลบ ปลายทวนแทงเข้าที่กลางหลังของปีศาจตนนั้นอย่างรุนแรง มันร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด ทวนของแม่ทัพหนุ่มแทงทะลุเนื้อหนังจนเกราะหนาไม่อาจต้านทานได้ ซิ่วอิงไม่รอช้า รีบหมุนตัวอีกครั้ง ง้าวฟาดเฉียงขึ้น เจาะเข้าที่ลำคอของปีศาจตนนั้นอย่างแม่นยำ เลือดทะลักออกมาเป็นสาย ปีศาจร้ายล้มลงสิ้นใจเป็นตัวที่สาม
ปีศาจมังกรดำตัวสุดท้ายที่เหลืออยู่มองเห็นความพ่ายแพ้ของพวกพ้องก็เกิดความหวาดหวั่น มันพยายามจะถอยหนี แต่ฮั่วชวี่ปิ้งไม่เปิดโอกาสให้มันทำเช่นนั้น เขาพุ่งเข้าประชิดตัวอย่างรวดเร็ว พร้อมกับส่งสัญญาณให้ซิ่วอิงล้อมปีศาจจากอีกทางหนึ่ง ซิ่วอิงเข้าประชิดตัวปีศาจตัวสุดท้ายอย่างว่องไว ง้าวของนางตวัดลงอย่างหนักหน่วง ผ่ากระหม่อมของปีศาจร้าย เลือดและเศษสมองกระจายไปทั่วบริเวณ ร่างของปีศาจมังกรดำล้มคว่ำลงกับพื้น เป็นอันสิ้นชีพตัวที่สี่
เมื่อสังหารปีศาจมังกรดำทั้งสี่ตนลงได้ ทั้งซิ่วอิงและฮั่วชวี่ปิ้งก็หันมาสบตากันชั่วครู่ แววตาของทั้งสองเต็มไปด้วยความเข้าใจโดยไม่ต้องเอ่ยคำใด ซิ่วอิงพยักหน้าให้เล็กน้อย ก่อนจะพุ่งทะยานออกไปข้างหน้าอีกครั้ง ฮั่วชวี่ปิ้งก็ทะยานตามติดไปไม่ห่าง การประสานงานของทั้งสองเป็นไปอย่างราบรื่นและเปี่ยมประสิทธิภาพราวกับเคยร่วมรบกันมานับร้อยนับพันครั้ง
"เจ้าหมา! ไปทางซ้าย!" ซิ่วอิงตะโกนสั่ง เจ้าหมาสามหัวรับคำสั่ง กระโจนแยกตัวไปอีกทางหนึ่งเพื่อช่วยสกัดปีศาจที่กำลังดาหน้าเข้ามาอีกกลุ่มใหญ่ ซิ่วอิงและฮั่วชวี่ปิ้งพุ่งตรงไปยังศูนย์กลางของกองทัพปีศาจที่กำลังก่อความวุ่นวาย ง้าวของซิ่วอิงและทวนของฮั่วชวี่ปิ้งร่ายรำไปพร้อมกันดุจเงาตามตัว ง้าวของซิ่วอิงฟาดฟันเป็นวงกว้าง สร้างบาดแผลฉกรรจ์ให้กับปีศาจที่อยู่รอบกาย ในขณะที่ทวนพู่แดงของฮั่วชวี่ปิ้งพุ่งเข้าสังหารอย่างรวดเร็วและแม่นยำดุจสายฟ้าแลบ
ปีศาจมังกรดำตนหนึ่งถือกระบองเหล็กขนาดใหญ่ฟาดเข้าใส่ซิ่วอิงอย่างรุนแรง นางใช้ปลายง้าวรับไว้ เสียงโลหะกระทบกันดังสนั่น ซิ่วอิงถอยหลังไปหลายก้าวด้วยแรงปะทะที่มหาศาล ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง ทวนพู่แดงของฮั่วชวี่ปิ้งก็แทงเข้าที่กลางลำตัวของปีศาจตนนั้นอย่างจัง เลือดปีศาจพุ่งออกมาจากบาดแผลราวกับน้ำพุ ร่างของมันกระตุกเกร็งและล้มลง
"ระวัง!" ฮั่วชวี่ปิ้งตะโกนเตือน เมื่อเห็นปีศาจอีกตนกำลังจะพุ่งเข้าโจมตีซิ่วอิงจากด้านหลัง นางหันขวับกลับไปในทันที ง้าวในมือถูกตวัดขึ้นอย่างรวดเร็ว ฟันเข้าที่ลำคอของปีศาจตัวนั้นจนขาดสะบั้น
การต่อสู้ดำเนินต่อไปอย่างดุเดือด ง้าวของซิ่วอิงและทวนของฮั่วชวี่ปิ้งผสานพลังกันอย่างลงตัวและไร้ที่ติ บางครั้งซิ่วอิงเป็นฝ่ายเข้าจู่โจมเปิดทางให้ฮั่วชวี่ปิ้งเข้าทำลายล้าง บางครั้งฮั่วชวี่ปิ้งเป็นฝ่ายดึงความสนใจของปีศาจไว้เพื่อให้ซิ่วอิงหาจังหวะสังหาร ปีศาจมังกรดำล้มตายลงไปทีละตัวสองตัว ร่างของพวกมันกองพะเนินอยู่บนพื้นทรายสีแดงฉาน
ซิ่วอิงใช้ปลายง้าวเกี่ยวขาของปีศาจตัวหนึ่งให้ล้มลง ฮั่วชวี่ปิ้งไม่รอช้า พุ่งทวนแทงเข้าที่หัวใจของมันอย่างรวดเร็ว ง้าวของซิ่วอิงยังคงร่ายรำไปอย่างต่อเนื่อง สร้างบาดแผลให้กับปีศาจอีกตัวหนึ่ง จากนั้นฮั่วชวี่ปิ้งก็กระโดดข้ามร่างของปีศาจที่ล้มลง พุ่งทวนเข้าสังหารอีกตัวหนึ่ง การเคลื่อนไหวของทั้งสองรวดเร็วจนแทบมองตามไม่ทัน
ภายหลังจากการต่อสู้อันดุเดือดที่เพิ่งจบลงไปได้ไม่นาน ผืนทรายสีแดงฉานยังคงอบอวลไปด้วยกลิ่นคาวเลือด เสียงอาวุธกระทบกันเงียบลงชั่วขณะ เป็นช่วงเวลาที่ทหารทุกคนได้มีโอกาสพักหายใจ แต่แล้วความเงียบสงบนั้นก็ถูกแทนที่ด้วยแรงสั่นสะเทือนที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทั่วทั้งสมรภูมิราวกับพื้นดินกำลังจะปริแยกออกจากกัน สัญญาณอันตรายที่บ่งบอกว่าหายนะครั้งใหม่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น…
ทุกคนหันมองรอบกาย ทหารที่ยืนหยัดอยู่ต่างเสียหลักล้มลุกคลุกคลาน ทรายบนพื้นกระเพื่อมราวกับผิวน้ำที่ถูกโยนหินลงไป เสียงคำรามก้องดังแว่วมาแต่ไกล ก่อนที่เงาร่างมหึมาจะพุ่งทะยานจากแนวหลังของกองทัพปีศาจ ทะลวงร่างปีศาจระดับล่างที่ขวางทางจนกระจัดกระจายราวกับกำลังวิ่งฝ่าฝูงหุ่นฟาง
ในที่สุดร่างนั้นก็ปรากฏสู่สายตาทุกคน มันคือ ‘องครักษ์มังกรดำ’ รองแม่ทัพแห่งกองทัพปีศาจมังกรดำ ร่างกายของมันใหญ่โตกว่าปีศาจมังกรดำทั่วไปถึงเท่าตัว สวมเกราะเหล็กสีดำสนิทที่ประดับด้วยลวดลายสีทองอร่ามตั้งแต่หัวจรดเท้า ปีกขนาดใหญ่สีดำกางออกกว้างขวางเมื่อมันร่อนลงสู่พื้นดินอย่างหนักหน่วงจนพื้นทรายยุบลงเป็นวงกว้าง กระบองเหล็กขนาดมหึมาในมือของมันมีหนามแหลมประดับอยู่รอบด้าน เปล่งแสงทึบ ๆ น่าสะพรึงกลัว ดวงตาคู่เล็ก ๆ ของมันฉายแววความดิบเถื่อนและกระหายเลือดอย่างไม่อาจปกปิด แต่กลับไม่มีประกายของสติปัญญาอยู่เลย
มันคำรามเสียงดังสนั่นหวั่นไหวราวกับสายฟ้าฟาด ลำตัวที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อเคลื่อนไหวอย่างเก้งก้างและเชื่องช้า แต่ทุกย่างก้าวกลับทรงพลังมหาศาล มันมองข้ามทหารทั่วไปที่อยู่รอบกายไปเสียหมด สายตาของมันพุ่งตรงไปที่ซิ่วอิงและฮั่วชวี่ปิ้ง ราวกับรับรู้ได้ว่าทั้งสองเป็นภัยคุกคามที่แท้จริง มันแกว่งกระบองเหล็กในมืออย่างไร้ทิศทางเพียงหนึ่งครั้ง ก็เกิดแรงลมมหาศาลที่กวาดทหารที่อ่อนแอให้ลอยละลิ่วไปไกลหลายจั้ง ซิ่วอิงต้องใช้ปลายง้าวปักลงไปในพื้นทรายเพื่อยึดตัวเองไว้กับที่ ในขณะที่ฮั่วชวี่ปิ้งก็ใช้ทวนต้านทานแรงปะทะนั้นด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี
ทันใดนั้นเจ้าหมาสามหัวก็กระโจนเข้าหาศัตรูตัวฉกาจด้วยความกล้าหาญอย่างที่เคยทำมา แต่มันกลับถูกกระบองยักษ์ตวัดเข้าใส่จนร่างกระเด็นกลิ้งไปตามพื้นทรายหลายตลบ แม้จะยังไม่บาดเจ็บถึงชีวิต แต่ก็ทำให้มันเซื่องซึมไปชั่วครู่ ซิ่วอิงกัดฟันแน่น รู้ดีว่าศัตรูตรงหน้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่พวกตนจะรับมือได้โดยง่าย นางชำเลืองมองฮั่วชวี่ปิ้งที่ยืนอยู่ข้างกาย เขายืนนิ่ง สงบนิ่งยิ่งกว่าที่เคยเป็น แววตาของเขามั่นคงและแน่วแน่ ไม่มีความหวาดหวั่นใด ๆ ทั้งสิ้น
ซิ่วอิงไม่รอช้า นางตัดสินใจเปิดฉากการโจมตีก่อน ง้าวในมือถูกสะบัดออกไปอย่างรวดเร็ว วาดเป็นวงโค้งสีเงินพุ่งตรงเข้าใส่ช่องว่างของเกราะที่บริเวณข้อต่อของปีศาจร้าย แต่กระบองยักษ์ของมันกลับถูกยกขึ้นมาป้องกันเอาไว้ได้ทันเวลา เสียงโลหะกระทบกันดังก้องสนั่น หูของทุกคนอื้ออึงไปชั่วขณะ ซิ่วอิงดีดตัวถอยหลังอย่างรวดเร็วเพื่อหลบกระบองที่ฟาดสวนลงมาด้วยความเกรี้ยวกราด ทิ้งรอยยุบขนาดใหญ่ไว้บนพื้นทรายเบื้องหน้า
ฮั่วชวี่ปิ้งไม่ยอมให้โอกาสทองนี้หลุดลอยไป ทวนในมือพุ่งตรงเข้าใส่ขาที่ใหญ่โตของมันอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ปลายทวนกระทบเข้ากับเกราะสีดำอย่างจัง เกิดประกายไฟสว่างวาบ แต่ไม่อาจเจาะทะลวงเข้าไปได้ ซ้ำร้ายยังส่งแรงสะท้อนกลับมาจนเขาต้องถอยหลังไปหลายก้าว ซิ่วอิงเห็นดังนั้นก็ตะโกนสั่งเจ้าหมาสามหัวที่เริ่มฟื้นตัว
"เจ้าหมา! เข้าไปเบี่ยงเบนความสนใจ!"
เจ้าหมาคำรามอย่างดุดัน เข้าพุ่งชนปีศาจร้ายจากด้านข้างทันที มันใช้กรงเล็บอันแหลมคมข่วนเข้าที่เกราะของมัน ส่งเสียงดังน่ารำคาญ ขณะที่กรามทั้งสามหัวก็พยายามกัดเข้าที่ข้อเท้าของมันอย่างต่อเนื่อง การโจมตีของมันไม่สร้างความเสียหายใด ๆ แต่ก็เพียงพอที่จะดึงความสนใจของปีศาจตัวยักษ์ให้หันมาสนใจมันชั่วขณะ ซิ่วอิงและฮั่วชวี่ปิ้งจึงฉวยโอกาสนี้แยกกันเข้าโจมตีจากสองทิศทางพร้อมกัน ง้าวและทวนในมือร่ายรำเข้าใส่เป้าหมายอย่างไม่หยุดยั้ง แต่เกราะที่หนาและแข็งแกร่งของมันกลับเป็นอุปสรรคที่ยากจะฝ่าฟัน
แม้ทั้งสองจะร่วมมือกันได้อย่างยอดเยี่ยมเพียงใด แต่การโจมตีของพวกเขาก็เป็นเพียงแค่การสร้างรอยขีดข่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ บนเกราะของมันเท่านั้น องครักษ์มังกรดำส่งเสียงคำรามด้วยความหงุดหงิด มันสะบัดตัวอย่างแรง กระบองในมือฟาดออกไปอย่างไร้ทิศทางและไร้ชั้นเชิง แต่ด้วยพละกำลังอันมหาศาลของมัน การโจมตีแต่ละครั้งจึงเต็มไปด้วยอันตรายที่ไม่อาจประมาทได้ ซิ่วอิงและฮั่วชวี่ปิ้งต้องใช้ความว่องไวทั้งหมดที่มีในการหลบหลีกการโจมตีนั้นอย่างหวุดหวิด ท่ามกลางเสียงดังสนั่นของกระบองที่ฟาดลงบนพื้นทรายซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ซิ่วอิงเห็นว่าการต่อสู้เช่นนี้มีแต่จะเสียเปรียบ นางจึงหันไปตะโกนบอกแม่ทัพฮั่วชวี่ปิ้ง
"ต้องหาจุดอ่อนของมันเจ้าค่ะ!"
ฮั่วชวี่ปิ้งพยักหน้าตอบรับ ก่อนจะดีดตัวเข้าโจมตีทางด้านหลังของปีศาจร้ายอีกครั้ง ซิ่วอิงอาศัยจังหวะนั้นพุ่งเข้าโจมตีที่ด้านหน้า พยายามล่อลวงให้มันหันมาสนใจและเปิดช่องโหว่เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาจจะมีขึ้นมาได้ แม้จะรู้ว่าความฉลาดของมันมีไม่มาก แต่พละกำลังของมันก็เป็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวอย่างยิ่ง
ทวนพู่แดงในมือของแม่ทัพถูกพลิกกลับ พุ่งเข้าแทงใส่ข้อต่อขาด้านหลังขององครักษ์มังกรดำอีกครั้ง แม้จะสร้างเพียงประกายไฟ แต่ก็เพียงพอที่จะดึงความสนใจของมันได้ชั่วขณะ ในขณะเดียวกันซิ่วอิงก็พุ่งตัวหลบการโจมตีที่ฟาดลงมาอย่างเกรี้ยวกราด นางพยายามสังเกตการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของมันอย่างละเอียดลออ
"เจ้าหมา! ขึ้นไป!" ซิ่วอิงตะโกนสั่งอีกครั้ง เจ้าหมาสามหัวกระโจนขึ้นไปบนแผ่นหลังของปีศาจร้ายอย่างรวดเร็ว กรงเล็บแหลมคมเกี่ยวเข้ากับรอยต่อของเกราะอย่างเหนียวแน่น มันใช้กรามทั้งสามขย้ำเข้าที่ท้ายทอยของมันอย่างบ้าคลั่ง แม้จะกัดไม่เข้าแต่ก็สร้างความรำคาญใจให้แก่มันอย่างยิ่งยวด องครักษ์มังกรดำคำรามอย่างบ้าคลั่ง พยายามจะปัดร่างของเจ้าหมาออกไป แต่เจ้าหมาก็เกาะติดแน่นไม่ยอมปล่อย
นั่นแหละ! ซิ่วอิงเบิกตากว้างเมื่อเห็นเข้ากับแสงสีแดงเรืองรองที่ลอดออกมาจากช่องว่างระหว่างเกราะที่ท้ายทอยของมัน แสงนั้นเลือนลางและไม่ชัดเจนนัก แต่ก็เพียงพอที่จะยืนยันว่านั่นคือจุดอ่อนที่พวกเขากำลังตามหา!
"แม่ทัพฮั่ว! ที่ท้ายทอยเจ้าค่ะ!" ซิ่วอิงตะโกนบอกฮั่วชวี่ปิ้งอย่างสุดเสียง ฮั่วชวี่ปิ้งพยักหน้ารับโดยไม่ต้องให้ใครบอกซ้ำอีก เขาดึงทวนกลับมาตั้งท่าอย่างแน่วแน่ เตรียมพร้อมที่จะพุ่งเข้าโจมตีอีกครั้ง ซิ่วอิงเองก็ไม่รอช้า นางใช้ปลายง้าวเกี่ยวขาของมันเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ขณะที่เจ้าหมาก็กัดไม่ปล่อยอยู่ที่ด้านบน
องครักษ์มังกรดำหันมาสนใจซิ่วอิงที่กำลังเกี่ยวขาของมันอยู่ มันเงื้อกระบองขึ้นสูงเตรียมจะฟาดลงมาใส่ร่างของนางอย่างรุนแรง แต่ในเสี้ยววินาทีนั้นเองฮั่วชวี่ปิ้งก็พุ่งทะยานขึ้นไปในอากาศราวกับพยัคฆ์ติดปีก ร่างของเขาลอยอยู่เหนือศีรษะของปีศาจร้ายในชั่วพริบตา
"ฮึ่ม!" ฮั่วชวี่ปิ้งเปล่งเสียงออกมาจากลำคอ ทวนในมือถูกปลดปล่อยออกไปจากกำมือด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี ทวนพุ่งตรงไปยังท้ายทอยขององครักษ์มังกรดำ ด้วยความเร็วราวสายฟ้าฟาด มันเจาะทะลุผ่านช่องว่างระหว่างเกราะที่เจ้าหมาได้สร้างขึ้นอย่างแม่นยำ ลึกเข้าไปในเนื้อหนังของมันอย่างจัง
เสียงคำรามอันน่าสะพรึงกลัวขององครักษ์มังกรดำดังขึ้นอย่างยาวนาน ร่างอันมหึมาของมันสั่นเทาอย่างรุนแรง พลังงานสีแดงเข้มพวยพุ่งออกมาจากบาดแผลราวกับน้ำพุ ก่อนที่เกราะเหล็กสีดำสนิทที่ปกคลุมร่างกายของมันจะเริ่มแตกร้าวและหลุดร่วงลงมาเป็นชิ้น ๆ ดวงตาเล็ก ๆ ที่เคยเต็มไปด้วยความดิบเถื่อนหรี่ลง ก่อนที่มันจะส่งเสียงร้องโหยหวนเป็นครั้งสุดท้าย และล้มลงสู่พื้นทรายด้วยเสียงอันดังกึกก้อง แผ่นดินสั่นสะเทือนเป็นวงกว้าง ฝุ่นควันลอยฟุ้งไปทั่วบริเวณ
เมื่อฝุ่นควันจางลง ภาพที่ปรากฏสู่สายตาทุกคนคือร่างที่ไร้วิญญาณขององครักษ์มังกรดำ นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นทราย ฮั่วชวี่ปิ้งร่อนลงสู่พื้นอย่างนุ่มนวล ทวนของเขายังคงปักคาอยู่ที่ท้ายทอยของปีศาจ ซิ่วอิงที่ใช้ปลายง้าวยันพื้นทรายเพื่อพยุงตัวขึ้นมาจากการปะทะครั้งสุดท้ายมองไปที่ฮั่วชวี่ปิ้งด้วยความโล่งใจก่อนจะยิ้มออกมาบาง ๆ
เจ้าหมาสามหัวกระโดดลงจากร่างของปีศาจร้าย มันวิ่งไปหาซิ่วอิงก่อนจะใช้หัวทั้งสามคลอเคลียนางอย่างออดอ้อน ซิ่วอิงลูบหัวของมันเบา ๆ เป็นการให้รางวัล เหล่าทหารที่ยืนหยัดอยู่ต่างส่งเสียงร้องก้องแสดงความดีใจและขวัญกำลังใจถูกปลุกให้ลุกโชนขึ้นอีกครั้ง
เสียงไชโยโห่ร้องของเหล่าทหารดังก้องไปทั่วสมรภูมิแห้งแล้ง แต่ความยินดีนั้นอยู่ได้ไม่นาน พื้นทรายที่เคยสงบเงียบพลันสั่นสะเทือนอีกครั้งอย่างรุนแรงกว่าคราวก่อน ทหารทุกคนต่างหยุดชะงัก สีหน้าของพวกเขากลับกลายเป็นความกังวลและหวาดหวั่น ซิ่วอิงหันไปมองหน้าแม่ทัพฮั่ว แววตาของทั้งสองเต็มไปด้วยความระแวดระวัง
ในขณะที่ทุกคนกำลังรอคอยหายนะครั้งใหม่ ทรายเบื้องหน้าพลันแตกกระจายออกเป็นสองทาง เผยให้เห็นกองทัพปีศาจมังกรดำจำนวนมหาศาลที่ดาหน้าเข้ามา ทหารในชุดเกราะทมิฬเดินเรียงแถวเข้ามาอย่างเป็นระเบียบ เสียงฝีเท้าของพวกมันดังกึกก้องราวกับเสียงกลองศึกที่ประโคมขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเงาขนาดใหญ่ที่ค่อย ๆ เคลื่อนมาเบื้องหน้าของกองทัพปีศาจ
และแล้วก็ปรากฏร่างสูงสง่าของบุรุษในชุดเกราะสีดำสนิทที่ประดับด้วยลวดลายสีทองอร่าม เขาเดินนำหน้ากองทัพด้วยท่วงท่าที่สง่างามและน่าเกรงขาม ใบหน้าของเขาคมคาย ริมฝีปากบางเฉียบยกยิ้มอย่างดูถูกเหยียดหยาม แววตาคู่คมกริบของเขาฉายแววความเจ้าเล่ห์และสติปัญญาต่างจากองครักษ์มังกรดำลิบลับ ในมือของเขาถือกระบี่สีดำสนิทที่เปล่งประกายแสงสีเงินเย็นเยียบชวนให้ขนลุก นั่นคือ แม่ทัพจอมทัพแห่งกองทัพปีศาจมังกรดำ ผู้ที่สั่งสมตบะจนสามารถแปลงกายเป็นร่างมนุษย์ได้ และพลังของเขาก็แข็งแกร่งกว่าปีศาจมังกรดำตนใดที่เคยปรากฏตัวในสนามรบแห่งนี้
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า!" เสียงหัวเราะเย้ยหยันดังขึ้นจากปากของแม่ทัพปีศาจ "พวกเจ้าช่างน่าสมเพชยิ่งนัก อุตส่าห์ร่วมมือกันโค่นล้มองครักษ์ผู้ไร้สติปัญญาของข้าได้ แต่ดูจากสภาพของพวกเจ้าในตอนนี้แล้วก็คงได้แค่นี้กระมัง"
คำพูดที่เต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยามนั้นทำเอาซิ่วอิงถึงกับเลือดขึ้นหน้า นางกำง้าวในมือแน่นจนข้อขาวโพลน พลางก้าวเท้าไปข้างหน้าเตรียมจะพุ่งเข้าไปสั่งสอนปีศาจโอหังตนนี้ แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อฮั่วชวี่ปิ้งยื่นมือมาจับไหล่นางไว้แน่น
"ใจเย็นก่อนทหารหรง" ฮั่วชวี่ปิ้งกระซิบเสียงเบา "อย่าให้คำพูดของมันมาทำให้เราขาดสติ"
ซิ่วอิงหันไปมองฮั่วชวี่ปิ้ง เขาสบตานางด้วยแววตาที่สงบนิ่งและมั่นคง แสงแห่งความเข้าใจโดยไม่ต้องเอ่ยคำใดถูกส่งผ่านถึงกัน ซิ่วอิงพยักหน้ารับอย่างไม่เต็มใจนัก แล้วถอยกลับไปยืนเคียงข้างเขา
"โฮ่! ยังมีเวลามาหยอกล้อกันอีกหรือ?" แม่ทัพปีศาจเย้ยหยัน "ดูเหมือนความตายที่อยู่ตรงหน้าจะยังทำให้พวกเจ้าไม่รู้สึกรู้สาสินะ"
ฮั่วชวี่ปิ้งไม่สนใจคำพูดที่ยั่วยุ เขาเพียงดึงทวนออกจากร่างขององครักษ์มังกรดำ และก้าวเท้าออกไปเบื้องหน้าแล้วชี้ทวนพู่แดงไปยังแม่ทัพปีศาจ
"กองทัพของข้าจะไม่ยอมให้เจ้าเข้ามาย่ำยีแผ่นดินนี้ได้อย่างแน่นอน เจ้าจงกลับไปเสียแต่โดยดีเถิด"
แม่ทัพปีศาจหัวเราะเสียงดังลั่น
"หึ! มีเพียงความตายเท่านั้นที่จะรอคอยเจ้า" พูดจบมันก็ยกกระบี่ในมือขึ้นชี้มายังฮั่วชวี่ปิ้ง "ทหาร! บุก! สังหารทุกคนให้สิ้นซาก อย่าให้เหลือแม้แต่เงา!"
สิ้นคำสั่งกองทหารปีศาจก็ดาหน้าเข้ามาประหนึ่งคลื่นยักษ์ที่ถาโถมเข้าหาชายฝั่ง ทหารของฮั่วชวี่ปิ้งที่ยืนหยัดอยู่ก็ไม่ยอมแพ้ พวกเขาส่งเสียงคำรามและพุ่งเข้าปะทะกับศัตรูอย่างกล้าหาญ การต่อสู้ครั้งใหญ่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เสียงอาวุธกระทบกัน เสียงร้องของทหาร เสียงคำรามของปีศาจ ดังกึกก้องไปทั่วสมรภูมิ
ซิ่วอิงและฮั่วชวี่ปิ้งต่างพุ่งทะยานเข้าสู่ใจกลางของวงล้อมปีศาจอย่างรวดเร็ว ง้าวของซิ่วอิงตวัดเป็นวงกว้าง ตัดร่างของปีศาจที่ดาหน้าเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ในขณะที่ทวนของฮั่วชวี่ปิ้งก็พุ่งแทงเข้าสู่หัวใจของปีศาจอย่างแม่นยำและรวดเร็วราวกับสายฟ้าแลบ การประสานงานของทั้งสองยังคงไร้ที่ติราวกับคนคนเดียวกัน แต่ครั้งนี้ศัตรูที่เผชิญหน้ามีจำนวนมหาศาลเกินกว่าที่จะรับมือไหว
"ท่านแม่ทัพ! ปีศาจมีมากเกินไปเจ้าค่ะ!" ซิ่วอิงตะโกนบอกเมื่อเห็นว่าทหารเริ่มเสียเปรียบและถูกต้อนจนมุม
"เจ้าหมา! ช่วยทหารทางซ้าย!" ฮั่วชวี่ปิ้งออกคำสั่ง เจ้าหมาสามหัวคำรามรับคำแล้วพุ่งทะยานเข้าสู่กองทัพปีศาจทางด้านซ้ายอย่างบ้าคลั่ง มันใช้ร่างอันมหึมาของมันพุ่งชนและตะครุบปีศาจมังกรดำหลายตัวจนกระเด็นออกไป เปิดช่องว่างให้ทหารของฮั่วชวี่ปิ้งสามารถตั้งรับได้อีกครั้ง
ในขณะที่ทั้งสามกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด แม่ทัพปีศาจก็ยืนมองดูการต่อสู้อยู่ห่าง ๆ ด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ เขากำลังรอให้พลังของซิ่วอิงและฮั่วชวี่ปิ้งอ่อนแรงลง ก่อนที่จะลงมือด้วยตัวเอง
ทหารของฮั่วชวี่ปิ้งเริ่มเหนื่อยล้าลงเรื่อย ๆ ทุกการโจมตีและการปัดป้องเป็นไปอย่างเชื่องช้า ซิ่วอิงและฮั่วชวี่ปิ้งต้องใช้พละกำลังทั้งหมดที่มีในการฟาดฟันและสังหารปีศาจที่เข้ามาไม่หยุดหย่อน
จู่ ๆ ก็มีปีศาจมังกรดำตนหนึ่งถือกระบองขนาดใหญ่ฟาดเข้าใส่ซิ่วอิงจากด้านหลัง นางหันกลับมาอย่างรวดเร็วและใช้ด้ามง้าวรับไว้ แต่ด้วยความเหนื่อยล้าและแรงปะทะที่มหาศาลทำให้ง้าวในมือของนางหลุดออกไปจากมือ กระเด็นไปไกลหลายจั้ง ซิ่วอิงพยายามจะถอยหนี แต่ปีศาจตนนั้นก็เงื้อกระบองขึ้นสูงพร้อมที่จะฟาดร่างนางให้แหลกละเอียด
"ทหารหรง!" ฮั่วชวี่ปิ้งตะโกนลั่น พยายามจะพุ่งเข้ามาช่วยแต่วงล้อมของปีศาจก็ทำให้เขาไปไม่ถึงตัวนาง
แต่ในเสี้ยววินาทีนั้นเองร่างของซิ่วอิงก็พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว นางใช้มือทั้งสองข้างคว้ากระบี่ของปีศาจหนูที่ล้มลงบนพื้นทรายแล้วใช้มันเป็นโล่กำบังตัวเอง เสียงกระบองกระทบกับกระบี่ดังสนั่น กระบี่ในมือของซิ่วอิงหักเป็นสองท่อนด้วยแรงปะทะที่มหาศาล
ในขณะที่ซิ่วอิงกำลังเสียหลักอยู่นั้น เจ้าหมาสามหัวก็พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว มันกัดเข้าที่ขาของปีศาจตนนั้นจนเซถลา ซิ่วอิงไม่รอช้า นางคว้ากระบองที่ปีศาจตนนั้นทำหล่นลงพื้น ฟาดเข้าที่ลำคอของมันอย่างแม่นยำจนคอหัก
ฮั่วชวี่ปิ้งเมื่อเห็นว่าซิ่วอิงปลอดภัยก็รีบกวาดทวนเข้าสังหารปีศาจที่ขวางทางจนหมดสิ้น ก่อนจะรีบวิ่งมาหาซิ่วอิง
"ไม่เป็นไรนะ?" เขาถามด้วยความห่วงใย เพราะเขายังคงยึดมั่นเป้าหมายที่ว่าจะต้องไม่มีใครต้องเสียสละชีวิตในศึกครั้งนี้
ซิ่วอิงพยักหน้าตอบพร้อมส่งยิ้มบาง ๆ ให้เขา
"ข้าไม่เป็นไรเจ้าค่ะ"
แต่ในระหว่างนั้นเองแม่ทัพปีศาจก็ได้ทะยานเข้ามาอย่างรวดเร็วแล้ว เขาโบกกระบี่ในมือเพียงหนึ่งครั้งก็เกิดคลื่นพลังสีดำพุ่งตรงเข้าใส่ซิ่วอิงและฮั่วชวี่ปิ้งอย่างรุนแรง ทั้งสองต่างถอยหลังไปหลายก้าวด้วยแรงปะทะที่มหาศาล
"ฮึ่ม! ข้าจะแสดงให้พวกเจ้าเห็นเองว่าพลังที่แท้จริงเป็นเช่นไร!" แม่ทัพปีศาจกล่าวเสียงเย็น
เขาเคลื่อนไหวด้วยความเร็วที่ไม่อาจมองตามได้ทัน กระบี่ในมือของเขาตวัดไปมาอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ทุกการเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัว ฮั่วชวี่ปิ้งต้องใช้พละกำลังทั้งหมดที่มีในการป้องกันและปัดป้องการโจมตีนั้น ส่วนซิ่วอิงก็ต้องใช้ความว่องไวทั้งหมดที่มีในการหลบหลีกการโจมตีของเขา
ฮั่วชวี่ปิ้งเข้าปะทะกับแม่ทัพปีศาจด้วยทวนพู่แดงในมืออย่างดุดัน ท่วงท่าของเขาคล่องแคล่วและเต็มไปด้วยพลังอันน่าเกรงขาม ทวนพุ่งเข้าโจมตีแม่ทัพปีศาจอย่างต่อเนื่อง แต่กระบี่สีดำในมือของศัตรูก็วาดสะบัดรับการโจมตีได้อย่างง่ายดาย สร้างเสียงโลหะกระทบกันดังกังวานไปทั่วบริเวณ
ซิ่วอิงใช้จังหวะที่ฮั่วชวี่ปิ้งดึงความสนใจของแม่ทัพปีศาจเอาไว้ คว้ากระบองเหล็กของปีศาจที่ล้มตายมาเป็นอาวุธ นางอาศัยความว่องไวและพละกำลังที่มี พุ่งเข้าโจมตีจากอีกด้านหนึ่ง กระบองเหล็กในมือฟาดเข้าใส่เกราะของแม่ทัพปีศาจอย่างจัง เกิดเสียงดังกึกก้อง แต่ก็ไม่อาจสร้างบาดแผลให้แก่ศัตรูได้
แม่ทัพปีศาจหัวเราะเยาะ
"หึ! อาวุธชั้นต่ำเช่นนั้นจะทำอะไรข้าได้!"
เขาโบกกระบี่ในมือเพียงหนึ่งครั้ง พลังงานสีดำก็พวยพุ่งออกมาจากคมกระบี่เป็นรูปพญามังกรดำขนาดใหญ่ พุ่งตรงเข้าใส่ซิ่วอิงอย่างรวดเร็ว ซิ่วอิงเบิกตากว้างด้วยความตกใจ นางพยายามจะหลบหลีกแต่ก็ไม่ทัน พลังงานมังกรดำพุ่งเข้าปะทะร่างของนางอย่างรุนแรงจนกระเด็นถอยหลังไปหลายก้าว กระบองในมือหลุดออกจากมือ ร่างของนางกระแทกเข้ากับพื้นทรายอย่างแรงจนถึงกับกระอักเลือดออกมาคำใหญ่
"ทหารหรง!" ฮั่วชวี่ปิ้งตะโกนด้วยความตกใจ เขารีบพุ่งทวนเข้าจู่โจมแม่ทัพปีศาจอย่างบ้าคลั่ง แต่แม่ทัพปีศาจก็สามารถปัดป้องการโจมตีของเขาได้อย่างง่ายดาย
"มัวแต่ห่วงหญิงอื่นอยู่หรือแม่ทัพน้อย!" แม่ทัพปีศาจกล่าวเย้ยหยัน พลางใช้กระบี่ตวัดเข้าใส่ร่างของฮั่วชวี่ปิ้งจนเขากระเด็นถอยหลังไปเช่นกัน
ในจังหวะที่ทั้งสองกำลังเสียเปรียบอยู่นั้น เจ้าหมาสามหัวก็กระโจนเข้าใส่แม่ทัพปีศาจจากด้านข้าง มันใช้กรงเล็บแหลมคมข่วนเข้าที่ขาของเขาอย่างแรง จนเกราะสีดำเกิดรอยร้าวขึ้นมาเล็กน้อย แม่ทัพปีศาจหงุดหงิด เขาตวัดกระบี่ฟาดเข้าใส่ร่างของเจ้าหมาอย่างไม่ปราณี เจ้าหมาถูกแรงปะทะจนกระเด็นกลิ้งไปตามพื้นทรายหลายตลบ ร่างของมันเต็มไปด้วยบาดแผล แต่ก็ยังคงส่งเสียงคำรามอย่างดุดันไม่ยอมแพ้
ฮั่วชวี่ปิ้งเห็นดังนั้นก็ฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้ง เขาใช้ทวนพุ่งเข้าโจมตีแม่ทัพปีศาจอย่างไม่ลดละ แม่ทัพปีศาจพยายามที่จะรับมือกับการโจมตีอันรุนแรงของฮั่วชวี่ปิ้งอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันซิ่วอิงก็พุ่งเข้าโจมตีจากอีกด้านหนึ่ง นางรีบใช้จังหวะนี้รีบไปคว้าง้าวของตนกลับมา ง้าวในมือถูกวาดเป็นวงโค้งขนาดใหญ่ ฟาดเข้าใส่เกราะที่ด้านหลังของแม่ทัพปีศาจอย่างเต็มแรง
เสียงโลหะกระทบกันดังก้องสนั่นอีกครั้ง!
แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป...รอยร้าวบนเกราะของแม่ทัพปีศาจที่เจ้าหมาได้สร้างไว้ขยายกว้างขึ้นด้วยแรงปะทะจากง้าวของซิ่วอิง เลือดไหลซึมออกมาจากรอยร้าวเล็กน้อย แม่ทัพปีศาจคำรามด้วยความเจ็บปวด เขาหันกลับมาด้วยความโกรธแค้น ดวงตาคู่คมกริบของเขาลุกโชนไปด้วยไฟแห่งความแค้น
"บังอาจ! พวกเจ้าบังอาจทำข้าถึงเพียงนี้!" เขาคำรามลั่น ก่อนจะโบกกระบี่ในมืออย่างบ้าคลั่ง คลื่นพลังงานสีดำพวยพุ่งออกมาจากกระบี่เป็นวงกว้างเข้าโจมตีทั้งซิ่วอิงและฮั่วชวี่ปิ้งพร้อมกัน
ทั้งสองต้องใช้พละกำลังทั้งหมดที่มีในการต้านทานคลื่นพลังงานนั้นอย่างสุดกำลัง แรงปะทะที่มหาศาลทำให้พื้นทรายเบื้องหน้ายุบตัวลงเป็นหลุมขนาดใหญ่ ทั้งซิ่วอิงและฮั่วชวี่ปิ้งถูกคลื่นพลังซัดจนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ง้าวของซิ่วอิงและทวนของฮั่วชวี่ปิ้งหลุดออกจากมือกระเด็นไปคนละทิศละทาง
การต่อสู้ดำเนินต่อไปอย่างยาวนานจนกระทั่งแสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไป ความมืดเข้าปกคลุมสมรภูมิรบ แต่ประกายไฟจากอาวุธที่กระทบกันก็ยังคงสว่างวาบอยู่เป็นระยะ ซิ่วอิงและฮั่วชวี่ปิ้งใช้ความมืดให้เป็นประโยชน์ในการหลบหลีกการโจมตีอันบ้าคลั่งของแม่ทัพปีศาจ พวกเขายังคงต่อสู้ด้วยมือเปล่าและอาวุธที่หาได้ตามพื้น แต่การต่อสู้ที่ยืดเยื้อก็ทำให้ร่างกายของทั้งสองอ่อนล้าลงอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
ซิ่วอิงกระอักเลือดออกมาอีกครั้งขณะที่หลบกระบี่ของแม่ทัพปีศาจได้อย่างหวุดหวิด นางใช้เพียงหมัดและเท้าในการป้องกันตัวอย่างยากลำบาก ในขณะที่ฮั่วชวี่ปิ้งเองก็หายใจหอบแรง เขาใช้เพียงแขนและไหล่ในการปัดป้องการโจมตีอันหนักหน่วงของศัตรู
"เจ้าพวกมนุษย์น่ารำคาญ! จงยอมแพ้เสียเถิด!" แม่ทัพปีศาจคำรามด้วยความหงุดหงิด เขาไม่คิดว่าคนสองคนจะสามารถยืนหยัดต่อสู้กับเขาได้นานถึงเพียงนี้
เจ้าหมาสามหัวกระโจนเข้ามาอีกครั้ง มันกัดเข้าที่ขาของแม่ทัพปีศาจอย่างไม่ลดละ แม้จะไม่ได้สร้างบาดแผลใด ๆ ให้กับเขา แต่ก็เพียงพอที่จะดึงความสนใจของเขาไว้ได้ชั่วขณะ ซิ่วอิงและฮั่วชวี่ปิ้งฉวยโอกาสนั้นโจมตีจากสองทิศทางพร้อมกันอีกครั้ง ซิ่วอิงพุ่งเข้าไปในเงามืดเพื่อคว้าง้าวคู่ใจของนางกลับคืนมา ในขณะที่ฮั่วชวี่ปิ้งใช้จังหวะที่แม่ทัพปีศาจหันไปสนใจเจ้าหมา เขาพุ่งตัวคว้าทวนของเขาคืนมา
การต่อสู้ดำเนินต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งตลอดทั้งคืนยาวนานจนเข้าสู่ช่วงเวลาที่เงียบสงัดที่สุดของยามเช้ามืด ท้องฟ้ายังคงเป็นสีดำสนิท ไร้ซึ่งแสงดาวหรือแสงตะวัน ซิ่วอิงและฮั่วชวี่ปิ้งต่างอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ เสื้อผ้าขาดวิ่น ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลและคราบเลือด ง้าวในมือของซิ่วอิงยังคงถูกกุมแน่น แม้จะเต็มไปด้วยรอยเลือดและฝุ่นทราย ทวนของฮั่วชวี่ปิ้งก็ยังคงมั่นคงในมือของเขา ไม่ต่างอะไรกับส่วนหนึ่งของร่างกาย แต่ดวงตาของพวกเขายังคงเต็มไปด้วยประกายแห่งความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้
แม่ทัพปีศาจเองก็เหนื่อยล้าไม่แพ้กัน รอยร้าวบนเกราะของเขาขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เลือดไหลซึมออกมาจากบาดแผลอย่างไม่หยุดยั้ง เขาไม่คิดเลยว่าการต่อสู้กับมนุษย์สองคนจะทำให้เขาต้องใช้พลังงานมากถึงเพียงนี้
"ข้าจะต้องสังหารพวกเจ้าให้ได้!" แม่ทัพปีศาจคำราม พลางรวบรวมพลังทั้งหมดที่มีเข้าสู่กระบี่ในมือ กระบี่สีดำเปล่งแสงสีแดงเข้มที่น่าสะพรึงกลัวออกมา มันกำลังจะใช้ท่าไม้ตาย!
ซิ่วอิงและฮั่วชวี่ปิ้งมองหน้ากัน ทั้งคู่ต่างก็รู้ดีว่านี่คือโอกาสสุดท้ายแล้ว หากไม่สามารถโค่นล้มศัตรูได้ในครั้งนี้ พวกเขาจะต้องตายอย่างแน่นอน
"พร้อมหรือไม่ทหารหรง!" ฮั่วชวี่ปิ้งถามเสียงแหบแห้ง
"พร้อมเจ้าค่ะ!" ซิ่วอิงพยักหน้าตอบรับ
ฮั่วชวี่ปิ้งหันไปส่งสัญญาณให้เจ้าหมาสามหัว เจ้าหมาคำรามอย่างดุดัน ก่อนจะพุ่งเข้าโจมตีแม่ทัพปีศาจอย่างบ้าคลั่งเป็นครั้งสุดท้าย มันใช้กรงเล็บและเขี้ยวอันแหลมคมโจมตีที่ขาและแขนของแม่ทัพปีศาจอย่างไม่หยุดยั้ง การโจมตีที่ไม่สร้างความเสียหายใด ๆ แต่ก็เพียงพอที่จะดึงความสนใจของเขาไว้ได้อีกครั้ง ในจังหวะเดียวกันนั้นเอง ฮั่วชวี่ปิ้งและซิ่วอิงก็พุ่งเข้าโจมตีจากสองทิศทางพร้อมกันอีกครั้ง!
"เพื่อแผ่นดิน!" ฮั่วชวี่ปิ้งคำรามลั่น! เขาใช้ทวนพุ่งเข้าโจมตีรอยร้าวที่ด้านหลังของแม่ทัพปีศาจอย่างสุดกำลัง ในขณะที่ซิ่วอิงก็ใช้แรงทั้งหมดที่มีฟาดง้าวเข้าที่ช่องท้องของมันอย่างรุนแรง
การโจมตีที่ประสานกันของทั้งสองพุ่งเข้าสู่ร่างกายของแม่ทัพปีศาจในเสี้ยววินาทีเดียว รอยร้าวบนเกราะด้านหลังถูกทวนของฮั่วชวี่ปิ้งเจาะทะลุ เลือดพวยพุ่งออกมาจากบาดแผลอย่างบ้าคลั่ง!
"ไม่จริง! ข้าไม่มีวันแพ้เจ้าพวกมนุษย์ชั้นต่ำอย่างพวกเจ้า!" แม่ทัพปีศาจคำรามเป็นครั้งสุดท้าย ร่างกายของเขาสั่นสะท้านอย่างรุนแรง พยายามจะเงื้อกระบี่ขึ้นฟาดใส่ซิ่วอิงที่อยู่ใกล้ที่สุด แต่ก็ทำไม่ได้เพราะง้าวของนางยังคงปักคาอยู่ที่ช่องท้องของมัน
ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง ฮั่วชวี่ปิ้งก็ถอนทวนออกมาจากรอยบาดแผลที่ด้านหลังอย่างรวดเร็ว และใช้แรงทั้งหมดที่มี พุ่งทวนเข้าแทงที่หัวใจของแม่ทัพปีศาจอย่างรุนแรงและแม่นยำ!
"อำนาจไม่ได้อยู่ในอาวุธ หรือพลังที่แข็งแกร่งเท่านั้น..." ฮั่วชวี่ปิ้งกล่าวเสียงเรียบ มองดูร่างของแม่ทัพปีศาจที่กำลังสั่นสะท้านอย่างรุนแรง "หากแต่เป็นหัวใจที่แข็งแกร่งและไม่ยอมแพ้ต่างหาก...จงไปสู่ความตายซะ!"
สิ้นคำพูดร่างของแม่ทัพปีศาจก็ล้มลงสู่พื้นทรายอย่างหมดสภาพ เหลือไว้เพียงกระบี่สีดำที่ตกลงบนพื้นทรายอย่างโดดเดี่ยว…