1234
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
เจ้าของ: Admin

ร้านบะหมี่สามหาว - สาขาฉางอัน

[คัดลอกลิงก์]
โพสต์ 2025-6-21 14:55:20 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ ยี่สิบเอ็ด เดือน ห้า รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามเหม่า เวลา 05.00 น. - 07.00 น. ไปกินข้าวเช้าที่ร้านบะหมี่สามหาว สาขาฉางอัน (พบ ตงฟาง ซั่ว)


         ยามเหม่า ฟ้าสว่างไล่ม่านหมอกบางเหนือฉางอันในยามพระอาทิตย์กำลังขึ้นกลางฤดูร้อน สายลมอ่อนพัดกลิ่นหอมจากต้นไม้ที่เบ่งบานตามตรอกเล็ก ๆ ลอยอวลมาตามเส้นทางของถนนก่อนที่จะพัดเข้าไปในตรอกของร้านบะหมี่เล็ก ๆ ที่เปิดม่านรับแสงเช้าตั้งแต่ไก่โห่เหมือนเคย เสียงเจื้อยแจ้วนั้นดังขึ้นจากด้านหลัง ร่างหนึ่งโผล่พรวกเข้ามาอย่่างเคยชิน ผมสีดำน้ำตาลไหม้จนเข้มถูกรวบไว้ลวก ๆ ดวงตากลมโตขี้เล่นวับวิบด้วยประกายความร่าเริอง เห็นเพียงเท่านี้ก็ทำเอาเถ้าแก่หาวปิ่งที่กำลังโรยงาบนถ้วยบะหมี่ก็ส่ายหน้ายิ้ม

         “ไง..เถ้าแก่ ข้ากลับมาแล้วนะเจ้าคะ” หลินหยาเอ่ยเสียงสดใสพลางเดินตัวปลิวเข้ามาราวกับเป็นลมของช่วงเวลาเช้าที่เริ่มเย็นแล้วค่อย ๆ อุ่นขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีผลอะไรกับเธอเลยสักนิดเดียว

         “อืม..เจ้าหายหัวไปหลายวันเลยนี้น่าแม่นางน้อย” เถ้าแก่ตอบนิ่ง ๆ แต่สายตาอบอุ่นยิ่งกว่าเดิมอย่างปิดไม่มิด “ก็..นะ..ข้าไปเป็นสาวใช้ในจวนคนมีอำนาจมาน่ะสิ..ลำป๊ากกลำบาก” เธอทำเสียงดัด ๆ นิดหน่อยพลางแกล้งยกชายเขนเสื้อแล้วทำท่าเป็นคุณหนูพลางหัวเราะคิกคัก เถ้าแก่หาวปิ่งจึงได้แค่ยกค้วเล็กน้อยแบบคนเหนื่อยกับอีกคน

         “แล้วไง..นี้กลับมาเพราะคิดถึงข้าหรือคิดถึงบะหมี่กันแน่ ยัยหนู”

         “แน่นอนว่าบะหมี่เจ้าค่ะ จัดมาเลย หนึ่งถ้วยด่วน ๆ ข้าหิวจนไส้กิ่วละ” หลินหยาเอ่ยขึ้นพลางยิ้ม ไม่พูดเปล่าแต่ยังขยิบตาข้างหนึ่งแกล้งอีกฝ่ายก่อนที่จะเดินไปนั่งตรงโต๊ะแบบขาประจำ แล้วเท้าคางมองหม้อซุปที่กำลังเดือดเบา ๆ บนเตาถ่าน “แต่ท่านไม่ต้องห่วงนะ ข้าจะกลับมาทำงานแล้วล่ะ ช่วงบ่ายว่างจัดเลย จะแวะมาเสิร์ฟให้ได้บ้าง ข้าต้องใช้เงิน วันเว้นวันก็ยังดี” เธอเอ่ยต่อเหมือนกำลังคิดไปพูดไป

         “เจ้านี้เอาแน่เอานอนไม่ได้สักวัน” เถ้าแก่พ่นลมหายใจทางจมูก

         “แหนะ พูดเหมือนตอนอยู่ท่านเดาใจข้าได้อย่างงั้นแหละ คิดว่าข้าเอาแน่เอานอนได้ตลอดหรือไง ไม่มีทาง แต่ตอนนี้ไม่มาทำงานนะ ข้ามากินเฉย ๆ หิวมากเลย ขอเส้นนุ่ม ๆ หมูสามชั้นเยอะ ๆ เลยนะ ไข่ยาวมะตูมอร่อย ๆ” หลินหยาว่าพลางหัวเราะลั่น ก่อนที่จะเอามือรองแก้มตัวเองแบบเด็ก ส่วนเถ้าแก่ก็เดินไปตักบะหมี่เส้นสดอย่างชำนาญขณะบ่นงึมงำ ๆ กับตัวเองอยู่ตรงนั้น

         ไม่ถึงห้านาที ชามบะหมี่ร้อน ๆ ก็โดนวางลงตรงหน้าหลินหยา กลิ่นหอมของน้ำซุปกระดูกหมูที่เคี่ยวจนกลมกล่ม ลอยคลุกเคล้ากับกลิ่นหอมของหอมเตียวจนทำให้ท้องไส้ของเธอนั้นร้องหิวเป็นจังหวะเลยล่ะ “นี้แหละที่ชข้าคิดถึงมันที่สุดเลย” เธอว่าพลางรีบจับตะเกียบแล้วคีบเส้นขึ้นมา เป่าปลายเล็กน้อยแล้วดูดเส้นเข้าปากอย่างมีความสุข แก้มทั้งสองข้างพองเหมือนกระรอกเก็บถั่ว ดวงตาเปร่งประกายเมื่อรสชาติอันคุ้นเคยนั้นไหลผ่านปลายลิ้น เถ้าแก่ที่ยืนมองเธออยู่นิ่ง ๆ ก่อนจะส่ายหัวเบา ๆ แต่รอยยิ้มจาง ๆ ยังติดอยู่บนมุมปาก

         ไม่นานก็มีสมาชิกใหม่ดังขึ้น ในยามที่หลินหยายังคงดูดเส้นบะหมี่เส้นสุดท้ายเข้าปากพอดิบพอดี พร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ไม่เร่งรีบ แต่มั่นคงจนสะดุดโสตประสาทของสาวเจ้าที่มักจับความเคลื่อนไหวรอบตัวได้ไวเกินคนทั่วไป ชายหนุ่มในชุดคลุมยาวสีเทาหม่นตัดขอบน้ำเงินเข้มก้าวเข้ามาภายในร้านอย่างเงียบเชียบ ใบหน้าคมสัน ดวงตาเรียวยาวแฝงประกายยากหยั่งถึง ทั้งสงบทั้งช่างสังเกต คล้ายพวกนักพรตเร้นกายมากกว่าชาวบ้านธรรมดา ไหนจะพัดพับไม้ในมือที่สลักลวดลายซับซ้อนดูมีอายุเก่าแก่ นั่นยิ่งยืนยันภาพลักษณ์ของเขาให้ยิ่งขรึมขลังขึ้นไปอีก

         หลินหยาที่กำลังล้างปากด้วยน้ำชาหอมจาง ๆ นั้นเงยหน้าขึ้นมองแล้วเบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างสดใสทันควัน “อ้าว ซินแสนี้หน่า” เสียงใสร้องเรียกพร้อมยกมือขึ้นก้มคำนับอีกฝ่าย ชายหนุ่มเพียงผงกศีรษะให้อย่างสุภาพ สายตาอ่านยากของเขายังคงเหมือนสังเกตโลกใบนี้อย่างไร้อารมณ์ แต่ปลายปากมีรอยยิ้มจาง ๆ คล้ายลมต้นฤดูใบไม้ผลิที่ลอดผ่านซุ้มไม้เก่า

         “คราวก่อนที่ท่านบอกว่าข้าจะได้พบน่ะ ตอนนี้ยังไม่เห็นนะ ยังไม่มีชายในฝันตจรงใจเลย” เธอว่าพลางเอ่ยบอกผลของเขาหัวเราะอย่างสนุกสนาน "แต่ก็จะรอดูอยู่นะ ถ้าแม่นจริงข้าจะมาขอคำทำนายเพิ่มอีกเป็นชุดเลย!"

         ตงฟางซั่วไม่ได้เอ่ยอะไร เพียงแค่พับพัดในมืออย่างแช่มช้า เสียงพัดไม้ลั่นเบา ๆ เป็นจังหวะที่พอเหมาะกับถ้อยคำเย้าแหย่ของหญิงสาว ก่อนจะเอ่ยแผ่วเบาเหมือนกระซิบกับชะตากรรม "หากเป็นโชคชะตา... ไม่ต้องเร่งรัด มันจะมาในยามที่เจ้าประมาทที่สุดเสมอ"

         หลินหยาที่ได้ยินเช่นนั้นก็เบ้ปากน้อย ๆ อย่างไม่จริงจัง แต่ก็พยักหน้าอย่างคนที่เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “ก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้นเจ้าค่ะ เอาเป็นว่าข้าขอตัวก่อนล่ะ ต้องไปทำงานที่อื่นก่อนละ ไปก่อนนะเถ้าแก่” เธอลุกขึ้นจากโต๊ะ หยิบตะเกียบและชามไปวางในอ่างล้างอย่างรู้งาน แล้วก็หันมากล่าวลาสั้น ๆ แต่เต็มไปด้วยพลัง "ไว้พบกันใหม่นะ” ว่าจบก็เดินฉับ ๆ ออกจากร้านไปเลย ทิ้งไว้เพียงกลิ่นหอมอ่อนของน้ำมันงาและเสียงฝีเท้าคึกคักที่ยังคงเป็นสัญลักษณ์เฉพาะของนาง




@Admin


พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)
มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่
อื่น ๆ: -

รางวัล: +5 ความสัมพันธ์สนทนาทั่วไป [NPC-07] ตงฟาง ซั่ว
หัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20
โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม
โบนัส ความโปรดปราน NPC เผ่ามนุษย์ (ผู้มีบุญ) +20 แต้ม

แสดงความคิดเห็น

ตงฟางซั่วหัวใจตันแล้ว  โพสต์ 2025-6-21 15:05
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-07] ตงฟาง ซั่ว เพิ่มขึ้น 45 โพสต์ 2025-6-21 15:05
โพสต์ 15052 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-21 14:55
โพสต์ 15,052 ไบต์และได้รับ +6 EXP +10 คุณธรรม +8 ความโหด จาก กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)  โพสต์ 2025-6-21 14:55
โพสต์ 15,052 ไบต์และได้รับ +3 EXP +10 คุณธรรม +6 ความโหด จาก ผู้มีบุญ  โพสต์ 2025-6-21 14:55
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ดาวนำโชค
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
พลั่ว
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x20
x15
x20
x52
x50
x25
x182
x1
x4
x4
x44
x1
x2
x2
x10
x10
x34
x2
x1
x122
x2
x18
x14
x5
x13
x60
x16
x49
x48
x74
x1
x1
x114
x2
x6
x1
x1
x1
x3
x9
x5
x3
x2
x1
x6
x6
x10
x5
x132
x40
x19
x7
x15
x42
x4
x1
x1
โพสต์ 2025-6-21 17:55:57 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย LinYa เมื่อ 2025-6-21 23:55


วันที่ ยี่สิบเอ็ด เดือน ห้า รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามเว่ย เวลา 13.00 - 15.00 น. ไปทำงานร้านบะหมี่สามหาว - สาขาฉางอัน (พบ จาง ทัง มากินบะหมี่)


            หลินหยาส่วนชุดผ้าฝ้ายสีอ่อนเดินอย่างกระฉับกระเฉง กระเป๋าสะพายข้างสีน้ำตาลใบเล็กไกลไปมาตามจังหวะก้าวย่างของเธอ ขณะที่ในมืออีกข้างนั้นมีซาลาเปาไส้ผักร้อน ๆ ที่เธอแวะซื้อมาตั้งแต่หน้าซอยก่อนถึงตรงนี้เสียอีก เจ้าของริมฝีปากเล็ก ๆ แสนน่ารักคาบซาลาเปาเอาไว้ ดวงตาหวานใสสีน้ำตาลมะพร้าวอ่อนยังดูง่วงงุนปนขี้เกียจนิด ๆ ตามประสาคนเพิ่งตื่นได้ไม่นาน เธอกำลังคิดว่าวันนี้จะได้ทำงานปกติไหมนะ..อืมที่ร้านบะหมี่ เจ็บมือหน่อยแต่ก็โอเคแหละ..



            "เถ้าแก่เจ้าคะ มาทำงานแล้วววว ปวดมือนิดหน่อย แต่จะพยายามทำงานนะ"

            ร้านบะหมี่สาวหาวสาขาฉางอันเสียงน้ำซุปนั้นเดือดปุด ๆ คละคลออยุ่กับกลิ่นหอมของน้ำมันงาอีกครั้ง เครื่องปรุงรสเข้มข้นที่ลอยฟึ้งตลบอบอวลอบู่ทั่วร้าน โต๊ะไม้เรียบง่ายโดนใครคนหนึ่งเช็ดอย่างสะอาดเอี่ยม ลูกค้าทยอยเดินเข้าออกไม่ขาดสาย และในช่วงยามเว่ยที่แสงแดด่อนอลอยผ่านบานไม้เก่าครึ้มก็เริ่มเทมุมเฉียงพาดเข้ามายังโต๊ะด้านในสุดจนได้ ซึ่งเป็นที่นั่งขชองชายคนหนึ่งที่สะดุดตาจนคนในร้านอดที่จะชำเลืองไม่ได้เลย

            จางทัง ผู้มีนามสะท้านในศาลแห่งนี้ กำลังวางตะเกียบลงบนถ้วยบะหมี่ถ้วยที่สองของตนเองพอดิบพอดี เขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยพยักหน้าเบา ๆ กับเถ้าแก่ร้านเป็นสัญญาณว่าอิ่มดีแล้ว ไม่ต้องมาเติมอีกแล้ว ชายหนุ่มในชุดเรียบนั้นไม่หรูหราฟุ้งเฟ้อแต่ดุดี ร่างสูงโปร่งกับท่าทางนิ่ง ๆ ขรึม ๆ ชวนให้รู้สึกเหมือนอยู่ต่อนห้าผู้ตัดสินความผิดบาปของโลกแม้จะไม่ได้พูดอะไรเลยก็ตาม ราศีจากเขาไม่ได้มาจากอำนาจหรือกิริยาอันอวดดีของตนเอง แต่มาจากสายตาอันคมกริบที่เหมือนมองทะลุเนื้อแท้คนได้อย่างเงียบงันและไร้ความปราณี

            หลินหยานั้นเห็นว่าอีกฝ่ายที่กำลังจะเดินออกเธอก็เดินไปที่โต๊ะเพื่อที่จะเก็บชามตามเคย แต่เพราะการที่ตัวเองโดนคนกระแทกไหล่จนมือดันไปฟาดกับเหลียมไม้ของเสาแข็งทำให้มือของเธอไม่ค่อยดีเท่าไร..นั้นเป็นเหตุผลว่าอีกไม่กี่วินาทีต่อจากนี้จะเกิดเหตุการณ์ที่จะทำให้เธอรู้จักท่านชายคนหนึ่งที่ตอนแรกเธอคิดว่าเขาแค่เป็นคนกินจุคนหนึ่งเท่านั้นแม้ว่าจะไม่ทราบชื่อหรือเสียงเรียบนามของอีกคนแม้แต่น้อยก็ตามที..เอาเถอะ อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิด

            เขาเดินไปจ่ายเงินกับเถ้าแก่ตามจำนวนชามที่กินสองใบ จากนั้นก็ลุกขึ้นช้า ๆ ออกจตากร้านในเวลาเงียบเชียบเช่นเคย หากแต่ไม่ใช่เพราะเสียงหนึ่งที่ทำให้ฝีเท้าของเขาหยุดชะงัก

            “โอ๊ย..อีกแล้ว” เสียงเบาแต่ชัดเจนเพียงพอที่จะทำให้เขาหันกลับมามอง เพราะตอนนี้สาวใช้..ไม่สิ พนักงานของร้านคนหนึ่งตัวเล็ก ๆ ที่กำลังก้มเก็บถ้วยบะหมี่สองใบของเขาที่เพิ่งบางนั้นกำลังชะงักไปชั่วครู่ มือขวาของหลินหยาที่เพิ่งยกถ้วยน้ำซุปร้อน ๆ ไหลล้นออกมาเลอะปลายนิ้ว ร่างบางสะบัดมือน้อย ๆ คล้ายจะกลั้นเสียงร้อง

            จางทังหรี่ตาลงเล็กน้อย ไม่ใวช่เพราะตำหนิหรอก แต่เพราะแววตาของเขาไวต่อรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่เสมอ ชายที่เคยสืบคดีจากรอยหยักบนโต๊ะ กลิ่นน้ำหมึกที่ซุมลงกระดาษ หรือแม้แต่เงาที่ทอดทาบผิดมุมในห้องนั้นย่อมไม่พลาดต่อรอยสะดุดของนิ้วมือที่สั่นเล็ก ๆ หรือแววตาที่ปรือไปด้วยความเจ็บหรอก

            เขาไม่ได้พูดคำใดในตอนแรก เพราะเอาตรง ๆ ก็พบเธอหลายรอบเหมือนกัน ทำเพียงเดินเข้ามาหาเธอหนึ่งก้าวแล้วยื่นมือล้วงเข้าไปในแขนเสื้อผ้าหยิบผ้าเช็ดหน้าเนื้อดีสีหมึกออกมาช้า ๆ “ควรระวังหน่อยแม่นาง” เสียงเรียบนุ่มแต่ชัดเจนเอ่ยขึ้น เป็นคำตำหนิที่ไม่มีแววดุด่า หากแต่หนักแน่นพอทำให้หลินหยาชะงัก เหลือบมองขึ้นสบตากับดวงตาสีดำเข้มที่เยือกเย็นแต่แฝงความใส่ใจที่ไม่เปิดเผยตรง ๆ

            ชายหนุ่มนั้นยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้ พร้อมกับสายตาที่กวาดมองนิ้วมือของเ้ธอโดยไม่แตะต้องหรือทำท่าทางอวดดีใด ๆ หากแต่แววตานั้นฉายชัดถึงคำถามที่ไม่ได้เปล่งเสียง แต่เขากำลังคิด ว่าเหตุใดมือของนางจึงมีรอยแผลแดงช้ำจาง ๆ อยู่ก่อนหน้านี้แล้วกัน? ….หึ..แกเป็นโคนันเราะ!!

            “ขอบคุณเจ้าค่ะท่านชาย” หลินหยาเอ่ยเสียงแผ่วเบา เบี่ยงตัวหลบเล็กน้อยขณะยื่นมือไปรับผ้า แล้วเหมือนจะบ่นว่าวันนี้แม่งโคตรซวย …จริง ๆ น่าจะเป็นเหตุผลว่าทำไมวันนี้เธอเลยทำงานผิดพลาด

            คำอธิบายของเด็กสาวไม่ได้ทำให้เขายิ้ม หากแต่สีหน้าก็ผ่อนคลายลงน้อย ๆ ดวงตาของเขาทำเพียงเหลือบมองมือของเธออีกครั้ง ราวกับจะประเมินอาหารว่าไม่ถึงขั้นต้องส่งไปโรงหมอหรอกจากสภาพนี้ “น้ำร้อนอาจทิ้งรอยไว้ พรุ่งนี้จะยังเจ็บอยู่ แม่นางอย่าหยิบของหนักนัก” เขาเว้นจังหวะ ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างไม่รีบร้อนแต่ก็จากไป แล้วพอเห็นว่าหลินหยาเอาผ้ามาซับไว้ตรงนั้นเขาก็ถอยหลังไปหนึ่งก้าว หันหลังออกจากร้านไป

            “ท่านชาย..เอ่อ เดี๋ยวขช้าจะเอาผ้าไปซักนะ ถ้ามาอีกพรุ่งนี้ข้าจะเอามาให้” นางเอ่ยบอกกับอีกฝ่ายเช่นนั้น หลินหยายกผ้านั้นแล้วโบกเบา ๆ  จางทังหยุดชะงักเล็กน้อยสีหน้าไร้แววเป็นปกติคล้ายไม่ได้ยินอะไรเป็นพิเศษ แต่หากสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าปลายคิ้วของเขาขยับน้อย ๆ ริมฝีปากยกขึ้นเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะกล่าวเสียงเบาราวกับกล่าวกับตัวเอง

            "...ยังไม่ต้องคืนหรอก"





@Admin


พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)
มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่
อื่น ๆ: -

รางวัล: 180 เหรียญอู่จู - 10 EXP
+5 ความสัมพันธ์สนทนาทั่วไป [NPC-09] จาง ทัง
หัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20
โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม
โบนัส ความโปรดปราน NPC เผ่ามนุษย์ (ผู้มีบุญ) +20 แต้ม




แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับ 10 EXP โพสต์ 2025-6-21 18:07
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-09] จาง ทัง เพิ่มขึ้น 55 โพสต์ 2025-6-21 18:07
โพสต์ 15157 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-21 17:55
โพสต์ 15,157 ไบต์และได้รับ +6 EXP +10 คุณธรรม +8 ความโหด จาก กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)  โพสต์ 2025-6-21 17:55
โพสต์ 15,157 ไบต์และได้รับ +3 EXP +10 คุณธรรม +6 ความโหด จาก ผู้มีบุญ  โพสต์ 2025-6-21 17:55

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1เหรียญอู่จู +180 ย่อ เหตุผล
Admin + 180

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ดาวนำโชค
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
พลั่ว
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x20
x15
x20
x52
x50
x25
x182
x1
x4
x4
x44
x1
x2
x2
x10
x10
x34
x2
x1
x122
x2
x18
x14
x5
x13
x60
x16
x49
x48
x74
x1
x1
x114
x2
x6
x1
x1
x1
x3
x9
x5
x3
x2
x1
x6
x6
x10
x5
x132
x40
x19
x7
x15
x42
x4
x1
x1
โพสต์ 2025-6-22 12:35:32 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ ยี่สิบสอง เดือน ห้า รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามเฉิน เวลา 07.00 - 09.00 น. ณ ร้านบะหมี่สามหาว สาขาฉางอัน


          แสงแดดทอยามเฉินกลับเข้ามา แสงส่องจากท้องฟ้าลงมายังพื้นดิน เหล่านกน้อยนั้นส่งเสียงรองกระจิบกระจาบอยู่บนหลังคากระเบื้อง ร้านบะหมี่สามหาวเปิดกิจการในช่วงเวลาเช้าเหมือนเช่นเคย ควันจาง ๆ ลอยขึ้นจากหม้อต้นกระดูกหมู หอมกลิ่นซุปที่ผ่านคืนอันยาวนาน เถ้าแก่ห่าวปิงในชุดเสื้อกั๊กผ้าฝ้ายยังคงง่วนอยู่กับการเตรียมวัตถุดิบตั้งหม้อ ตั้งชามวางเครื่องเคียงอย่างคล่องมือเช่นเคย ดวงตาเล็กเรียบแบบคนตาตี๋นั้นเหมือนวันนี้เป็นวันที่สดใส แล้วเมื่อเห็นเงาร่างของหญิงสาวที่เดินผ่านร้านนั้น ใบหน้าก็ยิ้มกว้างทันที

          “โอ้ยยย แม่นางน้อยหลินหยา!! ไปไหนน่ะ” เสียงเขาเอ่ยกระชับขณะยกชามออกมาจากชั้นวาง ก่อนที่จะเช็ดมือแล้วเดินตรงออกมานอกร้านพอดิบพอดี “เจ้าจะแวะกินบะหมี่หน่อยไหมล่ะเช้านี้” เถ้าแก่เอ่ยถามหลินหยาที่กำลังจะเดินผ่านทางตรงนี้ก็หยุดเท้าพอดีเหมือนเดิมอย่างงุนงงเล็กน้อยเมื่อถูกเรียก ดวงตาใสสีน้ำตาลมะพร้าวอ่อนนั้นเหลือบมองพลางระบายยิ้มเจื่อน ๆ “วันนี้ข้าอยากรีบไปทำงานเจ้าค่ะ นี้เห็นว่ามีเทศกาลตวนอู่ด้วย กะว่าจะรีบทำงานให้เสร็จแล้วไปงานเทศกาลเจ้าค่ะ” หลินหยาเอ่ยบอกเช่นนั้น ดวงตาของนางระบายกร้าวราวกับคนที่มีเป้าหมายในใจของวันนี้อยู่เต็มอกไม่มีทางปิดบังแต่อย่างใด

          “งั้นข้าจะไม่รั้ง แต่อย่าพึ่งไปสิแม่นาง เมื่อวานนี้มีชายคนหนึ่งมาฝากของไว้ บอกว่าถ้าเจ้าผ่านมาให้หยุดแล้วรับไปหน่อย”

          หลินหยานั้นขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วเหลือบมองไปทางมือของเถ้าแก่ที่ชี้ไปยังด้านข้างห้องร้านที่อยู่ใกล้หม้อต้มน้ำชา หลินหยาไม่เข้าใจเท่าไรแต่ก็เดินไปตามจุดชี้ ดวงตาของเธอสอดส่องลงก่อนที่จะหยุดอยู่ที่กล่องไม้ไผ่ขนาดเล็กตรงนั้น ที่วางไว้อย่างเรียบง่ายข้างกาต้มน้ำ กล่องทรงสี่เหลี่ยมผูกด้วยเชือกป่านเรียบร้อย ดูไม่ใช่ของมีค่าแต่บรรจงจัดวางอย่างน่าระแวงแปลก ๆ แต่สิ่งที่อดขำไม่ได้นั้นคือป้ายเล็ก ๆ ที่ห้อยติดหน้ากล่องนั้นมันเขียนด้วยหมึกแบบเข้มสวยเป็นระเบียบ..

          ‘แม่นางหลินหยาผู้เชี่ยวชาญการเลือกแตงโม’ และด้านใต้ของข้อความนั้น มีรูปแตงโมลูกจิ๋วที่วาดด้วยเล่นเส้นขึงขังแถมสีเส้นประกอบรัศมีแตงโมราวกับเป็นผลไม้มหัศจรรย์เสียอย่างงั้น

          “อะไรเนี้ย..ใครกันส่งมาให้..” เธอเหมือนจะหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ แต่เอาความจริงเธอนั้นเหมือนจะเดาได้เพราะเมื่อวานตัวเองดันมีเหตุการณ์เลือกแตงโมกับใครบางคน

          เถ้าแก่ห่าวปิงที่ยืนอยู่ตรงนั้นหัวเราะเล็ก ๆ ร่าระหว่างทำงาน “ข้าไม่กล้าถามหรอกว่าเขาเป็นใคร แต่งตัวดูดีนะ สุภาพมาก หน้าตาคุ้นนิดหน่อย ไม่ใช่คนธรรมดามั้ง พวกทหารละมั้ง? อย่างกับพวกทหารมือดีน่ะ แต่กลับฝากกล่องนี้ให้เจ้าด้วยสีหน้าจริงจังนะ ข้าก็จนใจที่จะเข้าใจความหมายของเขา”

          หลินหยานั้นใช้ปลายนิ้วของตนเองแตะกล่องไม้ไผ่นั้นเบา ๆ พลางเอียงหน้าเล็กน้อย ดวงตาวูบไหวไปด้วยความรู้สึกอันหลากหลาย รอยยิ้มของเธอผุดขึ้ันแบบช้า ๆ แบบแปลก ๆ หากเป็นคนที่เหมือนกับนายทหาร..ก็ท่านชายเว่ยจ้งชิงนี้? “เขาจริงจังกับการเลือกแตงโมขนาดนั้นเลยหรอ?..ฮ่ะ ๆ น่ารักจริง ๆ” หลินหยานั้นขยับนิ้วของเธอเอื้อมไปแกะเชือกป่านนั้น เปิดฝากล่องขึ้นช้า ๆ และไม่รู้ว่าด้านในมันมืออะไรกันแน่นะ?

          ทันทีที่เปิด กลิ่นอ่อนละมุนของกฤษณาเจือกลิ่นหวานของแตงโมแช่เย็นลอยขึ้นแตะปลายจมูกของเธอทันที..ภายในกล่องนั้นเป็นกล่องไม้ไผ่ปรากฎแตงโมนที่โดนหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ สีแดงสดวางเรียงเรียบร้อยบนแผ่นผ้าขาวบางที่รองไว้บนน้ำแข็งบดละเอียด เม็ดแตงโมถูกคัดออกทุกเม็ดอย่างตั้งใจ ข้างกันนั้นคือกระดาษที่พับบางแนบอยู่ริมข้างกล่องด้วย

          แม่นางน้อยหลินหยานั้นขยับหยิบขชึ้นมา ปลายนิ้วสัมผัสได้ถึงเนื้อกระดาษที่ไม่ใช่ของหรูตราแต่ถูกพับอย่างเรียบร้อย ลายมือที่เขียนลงตรงนั้นไม่ถึงกับสวยงามนักแต่มันสุภาพเรียบร้อยและมีร่องรอยของคนมีความพยายามจะเลือกคำอย่างระมัดระวังจนบางคำนั้นเธอเห็นรอยตัดคำจากหมึกจางเล็กน้อย คล้ายคนที่ไม่คุ้นชินกับการเขียนข้อความถึงใครบางคนเท่าใดนัก

          ‘ลูกที่เลือกให้เมื่อวาน กินเองหรือเปล่า?’
          ‘ถ้ายัง…ข้าจัดไว้ให้เจ้าด้วยแล้ว’
                    (ปล.หากไม่อร่อย ข้าจะลองเรียนรู้วิธีเคาะเปลือกแตงโมดูสักที)
                             
— เว่ย ชิง

          พอถึงตรงชื่อที่เขาเซ็นไว้ด้านล่าง หลินหยาถึงกัยเงียบไปเล็กน้อยชะงักไปนิดหนึ่ง ดวงตาคู่นั้นกะพริบช้า ๆ พลางเอียงหน้าคล้ายครุ่นคิดนัก เว่ยชิงเช่นนั้นหรือ? เอ๊ะ คล้ายชื่อของต้าซือหม่าเลยนี้หน่า? หลินหยานั้นเม้มปากเข้าหากันนิด ๆ ขณะดวงตาของเธอจ้องอยู่ที่ตัวอักษรที่ปลายจดหมาย แต่มันคงจะเป็นชื่อที่พ้องกันเสียละมั้ง คนสกุลเว่ยมีมากมายในแผ่นดิน …นั้นคือความคิดของหลินหยา แม้จะมีอะไรบางอย่างในใจเริ่มรู้สึกคล้ายคลึงจนเธออยากรู้มากกว่านี้อยู่ลึก ๆ

          ริมฝีปากสีอ่อนของนางคลี่ยิ้มช้า ๆ พลางถอนหายใจนิดหน่อย “เฮ้ย..จริงจังกับแตงโมเสียเหลือเกิน ท่านชาย” เธอบ่นเบา ๆ แต่แววตากลับไหวระริก ไม่ใช่เพราะแตงโม แต่เพราะข้อความนั้น มันไม่ใช่แค่การฝากผลไม้ มันคือความใส่ใจเงียบ ๆ ที่ไม่ต้องเรียกร้องอะไรเลยสักนิด หลินหยาหยิบแตงโมขึ้นมาหนึ่งชิ้น ลิ้มรสความเย็นฉ่ำที่ผสานกลิ่นหอมจาง ๆ ของไม้กฤษณารสชาติหวานละมุน สดชื่นราวกับคืนก่อนถูกเก็บไว้ในกล่องของความห่วงใยที่ไม่มีใครเห็น

          หลินหยานั้นเก็บกล่องลงกระเป๋าเจ็ดสมบัตรของตนเอง แล้วหันไปทางเถ้าแก่ “ข้าไม่กินแล้ว ได้ของกินแล้วเจ้าค่ะ ไปก่อนนะเถ้าแก่” เอ่ยบอกเช่นนั้น ก่อนที่จะหมุนตัวออกจากร้าน หอบเอากลิ่นหอมของผลไม้และข้อความลับจากผู้ชายคนหนึ่งไว้ ผู้ที่เธอยังไม่รู้จักในวันนี้ว่าเขาคือผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพต้าฮั่น



@Admin


พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)
มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่
อื่น ๆ: ปลดหัวใจ 2 ดวงของเว่ยชิง พี่ชายอะไรจะธงเขียนเป็นป่าอะแมซอนขนาดนี้
รางวัล: -

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 16624 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-22 12:35
โพสต์ 16,624 ไบต์และได้รับ +6 EXP +10 คุณธรรม +8 ความโหด จาก กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)  โพสต์ 2025-6-22 12:35
โพสต์ 16,624 ไบต์และได้รับ +3 EXP +10 คุณธรรม +6 ความโหด จาก ผู้มีบุญ  โพสต์ 2025-6-22 12:35
โพสต์ 16,624 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม จาก ทักษะนักดนตรีข้างถนน  โพสต์ 2025-6-22 12:35
โพสต์ 16,624 ไบต์และได้รับ +3 ความชั่ว +5 ความโหด จาก ขลุ่ย  โพสต์ 2025-6-22 12:35
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ดาวนำโชค
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
พลั่ว
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x20
x15
x20
x52
x50
x25
x182
x1
x4
x4
x44
x1
x2
x2
x10
x10
x34
x2
x1
x122
x2
x18
x14
x5
x13
x60
x16
x49
x48
x74
x1
x1
x114
x2
x6
x1
x1
x1
x3
x9
x5
x3
x2
x1
x6
x6
x10
x5
x132
x40
x19
x7
x15
x42
x4
x1
x1
โพสต์ 2025-6-22 18:32:47 | ดูโพสต์ทั้งหมด


วันที่ ยี่สิบสอง เดือน ห้า รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามเว่ย เวลา 13.00 - 13.30 น. ณ ร้านบะหมี่สามหาว สาขาฉางอัน (เอาผ้าเช็ดหน้าคืนให้จาง ทัง)


           แสงแดดยามเว่ยคล้ายจะเมตตากว่าทุกวัน เมื่อลำแสงสีทองอมส้มโรยตัวเฉียดพานชายคาร้านบะหมี่สามหาว ณ ฉางอัน ที่คุ้นเคย ริมถนนตรงนี้ยังพลุกพล่านไปด้วยเสียงเรียกลูกค้า แล้วก็กลิ่นน้ำซุปกระดูกหมูโชยหอมแตะจมูกคนที่อ่านไปมาอย่างเคย แต่สำหรับหญิงสาวเจ้าประจำที่เคยวิ่งวุ่นเสิร์ฟบะหมี่หรือล้างจานอย่างร่าเริงวันนี้เงาของเธอกับแผ่วกว่าปกติ

           หลินหยาก้าวเท้าเข้ามาในร้านโดยไร้ซึ่งความร่าเริงและความทะเล้น รอยยิ้มซุกซนแบบเดิมเหมือนเมื่อเช้า ดวงตาเปล่งประกายดูหม่อนลงเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด เธอก้มหน้าลงเล็กน้อยอย่างไม่รู้ตัว “เถ้าแก่เจ้าคะ วันนี้ข้าจะไม่ทำงานนะ…ข้าขอพักงานสักวัน…ไม่สิ อาจหลายวันด้วย” เสียงของเธอไม่ได้เศร้าแบบร่ำไห้ หากแต่เต็มไปด้วยความห่อเหี่ยวของคนที่เพิ่งเผชิญความน่าอายชนิดอยากเอาหัวมุดโอ่ง

           เถ้าแก่ห่าวปิวงที่กำลังใช้ตะเกียบคีบเส้นบะหมี่ชิมน้ำซุปขมวดคิ้วนิด ๆ พอเห็นท่าทางของเด็กสาวที่เคยเต็มเปี่ยมไปด้วยนพลังงานวันนี้กลับดูเหมือนลูกแมวเหมือนโดนฝน เขาจึงวางของแล้วพยักหน้าเบา ๆ อย่างเข้าใจ “ไม่ต้องบอกข้าหรอกว่าเกิดอะไรขึ้น...หน้าเจ้ามันฟ้อง” เถ้าแก่ถอนหายใจพลางเท้าคางมองนาง “แต่ถ้าเจ้าขอพักงานก็พักเถอะ ข้าไม่ว่าอะไร แค่อย่าไปหายหัวไปเฉย ๆ ก็พอ กลับมาเมื่อพร้อม เข้าใจหรือไม่?”

           หลินหยาเงยหน้าขึ้นมองเขาแววตาคล้ายอยากจะบอกว่าเธอโคตรซึ่งในแบบเข้าใจคนตรงหน้าเลยพลางเม้มริมฝีปากแน่นเหมือนพยายามกลั้นอาการอยากพร่ำบ่น เธอพ่นลมหายใจแล้วเบะปากนิด ๆ “ข้าคิดเงินผิดไปตั้งเกือบร้อยตำลึงเงินแน่ะ…” น้ำเสียงนั้นทั้งประชดตัวเองทั้งกลุ้มใจ “ไอ้เจ้าก้อนเต้าหู้นั้นมันทำให้ข้าแทบจะขายตัวใช้หนี้ ฮึ่ย…เขาน่าจะบอกข้าตั้งแต่แรกว่า 7 ตำลึงกับอีก 378 เหรียญอู่จู ไม่ใช่ 378 เหรียญอู่จูเฉย ๆ เสียหน่อย! ตาบ้าบ้าชะมัด!”

           ขณะที่หลินหยากำลังยกถ้วยน้ำขิงขึ้นจิบ กลิ่นขิงร้อนระอุช่วยให้หัวใจที่ร้อนรุ่มอันเนื่องจากเรื่องเต้าหู้ดูจะสงบลงเล็กน้อย หญิงสาวที่เคยดูห่อเหี่ยวอย่างเสียรูปก็คล้ายจะมีจังหวะลมหายใจใหม่ “จริงสิ ตอนแรกข้าก็ไม่ได้คิดว่าจะมาพักงานเฉย ๆ หรอก ท่านจำท่านชายเมื่อวานนั้นได้ไหม ที่ชอบนั่งตรงมุมร้านเมื่อวานน่ะ วันนี้เขามากินบะหมี่หรือยังเจ้าคะ?” เธอไม่พูดชื่อเขา เพราะเธอไม่รู้ชื่อเขาเลยแม้แต่น้อย เพียงจำได้แค่เงาร่างสูงโปร่งในชุดขุนนางสีน้ำหมึก ใบหน้าคมเข้มสุขุมที่แม้จะไม่เอื้อนเอ่ยมากความ แต่กลับยื่นผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ให้เธอในวินาทีที่เธอเจ็บน้ำร้อนราดมือ

           “หืม? อ้อ..คนที่มาเมื่อวาน เขาก็มาแทบทุกวันนะ วันนี้ยยังไม่โผล่มาเลย ทำงานหนักมั้ง ข้าไม่รู้เหมือนกัน เจ้านี้ช่างเก่งจริง ๆ พวกคุณชายหน้าตาคล้ายกันมีเยอะแยะ” เขาว่าพลางหัวเราะเบา ๆ ท่าทางไม่ได้ล่อเลียนอะไรหรอกแต่เห็นเรื่องนี้เป็นความน่ารักของคนที่เขามองเป็นน้องสาวหรือลูกสาวมากกว่า

           หลังจากนั้นที่กำลังคุยกันอยู่เธอก็เห็นเงาร่างสูงใหญ่ในชุดขุนนางสีเข้มแต่งเมยศกำลังก้าวเข้ามาอย่างสงบยสำหรับทำงาน หลินหยาเบิกตากว้างสักคร(ู่แล้วเธอก็ก้าวขึ้นเร็วนิดหน่อยแล้วเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าอีกคนอย่างไม่ลังเล ดวงตากลมใสซื่อของคนที่น่าจะโง่จริงนั้นสบแววตากับชายหนุ่มอย่างกล้าหาญโดยที่ไม่รู้เลยว่าเขาพาเธอเข้าซังเตได้เลยนะหากคิดเงินผิดอแีกครั้ง มือเรียวคว้าล้วงเข้าไปในเสื้อแล้วคลี่ห่อผ้าเช็ดหน้าที่ซักสะอาดแดดหอมฉุยส่งให้อีกคน

           “คุณชายเจ้าคะ นี้ผ้าเช็ดหน้าของท่าน ข้าบอกว่าจะคืนให้หลังซัก ข้าซักเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ เชิญรับไปด้วย” หลินหยาเอ่ยก่อนที่จะยื่นให้ทั้งสองมือแบบเป็นมารยาท เธอพูดเสียงนุ่มมากพร้อมยื่นผ้าให้

           จางทังที่เดินเข้าร้านมาด้วยใบหน้าเรียบเฉยตั้งใจจะสั่งบะหมี่เป็นอาหารกลางวันเหมือนทุกวัน แต่คราวนี้เขาอยู่ในชุดทำงาน เพราะช่วงนี้ทำงานหนักกว่าเดิมเพราะเป็นช่วงเทศกาลตวนอู่ จำเป็นต้องตรวจอะไรก็ไม่รู้ หลายส่วน ในศาลเองก็ยังคงมีคดีติดค้างรอความคืบหน้า ทว่าแม้จะเหนือยล้าเพียงใด เมื่อเห็นเด็กสาวร่างเล็กหน้าตาแจ่มใสยืนอยู่ตรงหน้า พร้อมรอยยิ้มที่ฝืนไม่ให้ตัวเองดูเก้อเขิน ก็อดที่จะหยุดชะงักไม่ได้ สายตาคมกริบมองผ้าเช็ดหน้าอันสะอาดในมือนาง ก่อนจะค่อย ๆ เอื้อมมือไปรับไว้อย่างไม่แสดงท่าทีรังเกียจแม้แต่น้อย แล้วรับไว้โดยที่ไม่แม้แต่จะสัมผัสปลายนิ้วกับนางสักนิด

           "แม่นางช่างใส่ใจและมีน้ำใจ…แม้จะเป็นเรื่องเล็กเช่นนี้ก็ไม่ละเลย" น้ำเสียงของเขานุ่มลึก ช้าและสุขุม "ข้าขอบใจ" คำพูดนั้นไม่ได้มีเสียงสูงหรือต่ำ แต่กลับให้ความรู้สึกมั่นคงเหมือนภูเขา

           หลินหยานั้นเหลือบมองเขาแล้วยิ้มให้ “ไม่หรอกเจ้าค่ะ ข้าแค่ไม่อยากให้ใครมาหาว่าข้าไม่รับผิดชอบต่อคำพูดตัวเองแค่นั้น ยังไงก็ต้องคืนให้แบบสะอาดเจ้าค่ะ เช่นนั้นข้าขอตัว ขอให้ท่านมีวันที่ดีนะเจ้าคะ” เธอพูดพลางยิ้มให้ จากนั้นก็หมุนตัวออกจากร้านอย่างรวดเร็ว หญิงสาวแค่รู้สึกว่าการอยู่ใกล้เขาเหมือนอยู่ใกล้ซังเตไปเสียทุกที เพราะงั้น ขอโทษนะท่านชาย ข้าไม่ได้อยากจะรู้สึกอย่างงี้หรอก เธอแค่รู้สึกหวาดหวั่นกับคนที่เป็นขุ่นนางน่ะ ไม่มากก็น้อยตอนนี้รู้สึกเข็ดกับขุนนางตั้งแต่ท่านเถียนเฟิงแล้ว สาธุ ต่อไปก็คือ..คำขอจากขุนนางแทบจะเป็นงานของชาติ พยายามไม่ตอบรับดีกว่า





@Admin

พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)
มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่
อื่น ๆ: -

รางวัล: +5 ความสัมพันธ์สนทนาทั่วไป [NPC-09] จาง ทัง
หัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20
โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม
โบนัส ความโปรดปราน NPC เผ่ามนุษย์ (ผู้มีบุญ) +20 แต้ม



แสดงความคิดเห็น

จางทังหัวใจตันแล้ว  โพสต์ 2025-6-22 19:03
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-09] จาง ทัง เพิ่มขึ้น 35 โพสต์ 2025-6-22 19:03
โพสต์ 15496 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-22 18:32
โพสต์ 15,496 ไบต์และได้รับ +6 EXP +10 คุณธรรม +8 ความโหด จาก กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)  โพสต์ 2025-6-22 18:32
โพสต์ 15,496 ไบต์และได้รับ +3 EXP +10 คุณธรรม +6 ความโหด จาก ผู้มีบุญ  โพสต์ 2025-6-22 18:32
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ดาวนำโชค
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
พลั่ว
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x20
x15
x20
x52
x50
x25
x182
x1
x4
x4
x44
x1
x2
x2
x10
x10
x34
x2
x1
x122
x2
x18
x14
x5
x13
x60
x16
x49
x48
x74
x1
x1
x114
x2
x6
x1
x1
x1
x3
x9
x5
x3
x2
x1
x6
x6
x10
x5
x132
x40
x19
x7
x15
x42
x4
x1
x1
โพสต์ 2025-6-26 15:41:50 | ดูโพสต์ทั้งหมด


วันที่ 26 เดือน 5 รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11
ยามเว่ย เวลา 13.00 - 15.00 น. ณ ถนนสิบลี้ ร้านบะหมี่สามหาว


          ยามเว่ยลมร้อนกลางวันพัดวนเป็นวงแคบภายในตลาดตะวันออก ริมปากตรอกที่ตั้งร้านบะหมี่สามหาวสาขาฉางอัน ยังคงมีเสียงดัง โหวกเหวกของพ่อค้าแม่ค้าและลูกค้าที่ต่อคิวออยาวรอชามบะหมี่อันลือชื่อ ภายในร้านที่กลิ่นน้ำซุปกระดูกหมูต้มจนหอมโชยผสานกับเสียงกระบวยตักน้ำซุปกระทบชามดังกรุ๋งกริ๋ง เถ้าแก่ห่าวปิงยังคงคล่องแคล่วอยู่หน้าหม้อต้ม เสียงตะโกนเรียกลูกน้องชัดเจนดุจนักรบกลางสนามรบ… และท่ามกลางความวุ่นวายเช่นนี้ สตรีร่างบางคนหนึ่งก้าวเข้ามาอย่างเงียบเชียบ

          “อ้าว…” เถ้าแก่ห่าวปิงหันไปเห็นก็แทบจะยิ้มจนหูฉีก เขาวางตะหลิวลงก่อนมองหลินหยา “กลับมาแล้วหรือไงเแม่นางน้อย” เขาไม่ถามเรื่องผมสั้นที่ยาวพอถึงต้นคอแล้วโดนรวบขึ้นให้เหมือนคนที่ยังผมยาวอยู่ในตอนนี้ ไม่พูดถึงสายตาแข็งแกร่งที่ดูต่างจากก่อนหน้านี้เล็กน้อย เขาเพียงยกมือหนาขึ้น ลูบหัวเธอเบา ๆ พลางหัวเราะ "ไปไหนก็ไปได้แต่อย่าหักโหมนัก ข้ารอคนมาช่วยซอยต้นหอมอยู่นานเลยนะ"

          หลินหยาระบายยิ้มออกมาก่อนที่จะยกมือตอบรับทั้งที่ในใจก็รู้สึกเหมือนว่าเธอโล่งใจแปลก ๆ ที่ได้ยินเสียงของเถ้าแก่ที่สนิทด้วย ได้กลิ่นน้ำซุปที่คุ้นเคย และได้กลับมาอยู่ในห้องครัวแคบ ๆ ที่มีควันตลบแต่ให้ความรู้สึกอุ่นในเหมือนบ้าน หลินหยาเริ่มช่วยงานทันที ซอยผัก ตักน้ำชา ล้างถ้วย บางครั้งก็ยกถาดอาหารเดินสวนลูกค้าไปยังโต๊ะ บางครั้งก็เดินไปตักน้ำซุปให้เถ้าแก่ ท่ามกลางความร้อนอบอ้าวและเสียงอึกทึกเหล่านั้น หลินหยาทำงานอย่างคล่องแคล่วเหมือนเคย…หากแต่ไม่นาน…

          โลกของหลินหยาพลันเหมือนเบี้ยวบิดชั่วครู่ ดวงตาของเธอพร่ามัวอย่างรวดเร็ว มือที่กำลังยกถาดบะหมี่นั้นสั่นน้อย ๆ จนช้อนกระดกไปมา หลินหยารีบวางถาดบนโต๊ะก่อนที่จะยืนพิงข้างฝาผนังอย่างแนบเนียน

          ไม่ร้อน..ตัวไม่ร้อนเลย แม้จะรู้สึกวิงเวียนเหมือนคนเป็นไข้ ดวงตาคู่งามเริ่มพร่าเล็กน้อย ชั่วแวบหนึ่งหลินหยาสัมผัสได้ถึงความเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็งแช่ร่างไหลเอื่อยจากปลายนิ้วไปจนถึงต้นแขน อากาศรอบกายกลับอึดอัีดทั้งที่ภถายนอกยังคงมีเสียงหัวเราะหรือเสียงตะโกน

          หลินหยาก้มมองมือตัวเองเล็กน้อยแต่กลับเห็นแต่เพียงผ้าขาวสะอาดที่พันแขนทั่วแน่น ไม่เห็นสิ่งใดเลยนอกจากนั้น หากแต่นางสัมผัสได้ ความรู้สึกตึงน้อย ๆ ใต้ผิวหนัง ความเย็นเฉียบปะทะเหมือนกระแสเลือดกลับไหลทวนย้อนขึ้นมา ทว่ามันไม่ใช่เลือดธรรมดา มันคล้ายบางสิ่งที่กำลังไหลซึม นางพยายามกลั้นหายใจลึกหนึ่งที ไม่อยากให้เถ้าแก่หรือลูกค้าคนไหนต้องสังเกตเห็น ใบหน้าของเธอยังคงแต้มรอยยิ้มอ่อน ๆ ที่พยายามจะแข็งแรง แม้มันจะสั่นเล็กน้อยตรงหางตาก็ตาม

          "ขอโทษนะเจ้าคะเถ้าแก่…ขอข้านั่งพักตรงนี้หน่อย…" หลินหยาว่าแผ่วเบา ริมฝีปากยังมีรอยยิ้มแต่ดวงตาเริ่มพร่าไหว ร่างบางผละออกจากครัวเดินมานั่งตรงมุมโต๊ะริมกำแพงที่เจ้าของร้านเอาไว้พักของชั่วครู่คราว มือหนึ่งยังจับขอบแขนเบา ๆ เพื่อคลายแน่นและอาการเจ็บลึกที่เริ่มร้าวขึ้นทีละน้อย ด้านนอกแดดยังคงสาดเข้ามาจากช่องไม้เหนือหน้าต่าง แต่ภายในร่างกายของหลินหยากลับเย็นเยียบราวจมหิมะ นางนั่งนิ่งหลบอยู่หลังฉากของความวุ่นวาย หอบหายใจช้า ๆ เพื่อข่มอาการ

          เสียงฝีเท้าทางด้านหน้าทำให้หลินหยาเงนหน้าขึ้นมาเธอเห็นเขา ชายร่างสูงในชุดขุนนางประจำตำแหน่ง เดินเข้าร้านมาราวกับไม่เร่งรีบ ทุกฝีก้าวของเขาแน่นอน หัวไหล่ตั้งตรง ร่างกายที่ดูประหนึ่งสงยเย็นแต่กลับแผ่รังสีข่มขวัญกลาง ๆ คล้ายพยัคฆ์ที่สงยนิ่งในถ้ำมืดไม่เคลื่อนไหว เว้นเสียแต่มีผู้บุกรุก..

          จางทัง..คนที่หลินหยาไม่เคยถามชื่อ ชายหนุ่มทรุดตัวนั่งยังโต๊ะเดิมโดยไม่ต้องให้ใครกล่าวนำ พนักเก้าอี้ไม้รองรับแผ่นหลังในมุมที่เคยเคย ดวงตาคู่นั้นทอดมองไปข้างหน้าในทีท่าไร้พิษภัย หากแต่ไม่มีสิ่งใดในร้านนี้เล็ดรอดสายตาเขาไปได้ หนึ่งในนั้นคือหลินหยาที่นั่งอยู่ตรงมุมกำแพงอีกฝั่ง

          ดวงตาคมของเขาดั่งมีดสลัดสบเจ้ากับดวงหน้าของหลินหยาเพียงชั่วครู่เดียว รอยยิ้มริมฝีปากของนางก็ยกขึ้นมา เสียงในอกแผ่วลงแล้ว หากแต่ใบหน้าก็ไม่แผยอาการใดออกมา “วันนี้ข้าขอพักก่อนนะเจ้าคะ ท่านสั่งบะหมี่กับคนอื่นก่อนนะเจ้าคะท่านชาย”

          เขาไม่ตอบทันที ดวงตาคู่นั้นจับจ้องเรือนร่างของนางราวกับวิเคราะห์ชั้นใต้ผิว ดวงหน้าเรียบไม่กล่าวอะไร แต่จางทังก็ลุกขึ้นก่อนที่จะก้าวมายืนตรงหน้าหลินหยาดังที่นางไม่เคยคิดหรือทันตั้งตัว “หากวันนี้ยังไม่ทำงาน แล้วเหตุใดใบหน้าของแม่นางจึงซีดเผือกถึงเพียงนี้” น้ำเสียงเรียบแต่ทุ้มกังวานเหมือนกินก้อนหนึ่งที่ตกลงกลางบอน้ำ

          หลินหยาชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่จะระบายยิ้มอีกครั้งหนึ่ง “ข้าแค่เหนื่อยนิดหน่อยเจ้าค่ะ เดี๋ยวก็คงจะดีขึ้น”

          “อย่าลดค่าร่างกายตนเองลงด้วยคำว่านิดหน่อยเลยแม่นาง” เขาพูดขฯะดวงตายังจับจ้องใบหน้าของนางราวกับสังเกตตลอดเวลา “แม่นางคิดว่าข้าไม่สังเกตหรือ? เหตุใดมีความผิดปกติในร่างกายแม่นางหรือ?”

          หลินหยานั้นเอียงคอนางไม่รู้จริง ๆ ว่ามันหมายความว่ายังไง ในหัวของตนเองนั้นเหมือนคิดว่าน่าจะเพราะความเครียดที่ยังตกค้างจากเหตุการณ์รอบก่อน “ข้าไม่รู้เจ้าค่ะ..เพียงแต่แบบ อาจจะเพราะช่วงก่อนหน้านี้ข้าเครียดมากจนล้มป่วย..” นางตอบในที่สุด เสียงที่เบาราวกระซิบและจริงใจที่สุดในครานี้

          จางทังมองนางนิ่ง เขาไม่พูด ไม่ขยับ ก่อนจะยื่นผ้าเช็ดหน้าเล่มเดิมที่เคยยื่นให้นาง คราวนี้ไม่ได้ยื่นเพราะแผลน้ำร้อนลวก แต่เหมือนจะยื่นเพราะความเงียบสงบที่เขาอยากให้นางได้มีไว้แนบมือ “ถือไว้..เวลาหนาวจะได้มีอะไรแนบใจ” คำพูดเรียบง่ายแต่แฝงด้วยแรงอุ่นอย่างประหลาดดังขึ้นมา..

          หลินหยายื่นมือไปรับอย่างเงียบ ๆ ปลายนิ้วสัมผัสผ้าแล้วนิ่งงันไปชั่วพักหนึ่ง ดวงตากลมไหวแววเบา ๆ แบบแปลกใจ แปลกใจในสิ่งที่เขาทำ เขาสงบนิ่งแต่แสนลึกล้ำต่อสิ่งที่ตนเองเลือกทำ “ท่านชาย..นี่มันเจ้าบนเจ้ากลอนจริง ๆ นะเจ้าคะ” นางว่าแผ่วเบา ก่อนจะยิ้มออกมาเต็มริมฝีปาก





@Admin


พรสวรรค์: ลาภลอย (ไม้)
มีโอกาสพบเจออีเว้นท์แปลก ๆ บางอย่างแทรกในเควสที่กำลังทำอยู่
อื่น ๆ: เอาไปปลดจางทังงงง

รางวัล: 180 เหรียญอู่จู - 10 EXP
+5 ความสัมพันธ์สนทนาทั่วไป [NPC-09] จาง ทัง
หัวดี โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+20
โบนัส ความสัมพันธ์พิเศษ (VIP) กับ NPC +10 แต้ม
โบนัส ความโปรดปราน NPC เผ่ามนุษย์ (ผู้มีบุญ) +20 แต้ม



แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับ 10 EXP โพสต์ 2025-6-26 17:45
โพสต์ 17465 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-26 15:41
โพสต์ 17,465 ไบต์และได้รับ +6 EXP +10 คุณธรรม +8 ความโหด จาก กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)  โพสต์ 2025-6-26 15:41
โพสต์ 17,465 ไบต์และได้รับ +3 EXP +10 คุณธรรม +6 ความโหด จาก ผู้มีบุญ  โพสต์ 2025-6-26 15:41
โพสต์ 17,465 ไบต์และได้รับ +5 คุณธรรม จาก ทักษะนักดนตรีข้างถนน  โพสต์ 2025-6-26 15:41

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1เหรียญอู่จู +180 ย่อ เหตุผล
Admin + 180

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
แหวนดาราจรัส(D2)
ตำราอาหารลับของเสี่ยวจ้าวจื่อ
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา
ยอดคีตศิลป์
ปราณกระเรียนขาว(ไม้)
ดาวนำโชค
ขลุ่ยพันธะในเงาศาลา
พลั่ว
กระเป๋าเจ็ดขุมทรัพย์(D)
ทักษะผู้ขี่มังกรตะวันตก
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x20
x15
x20
x52
x50
x25
x182
x1
x4
x4
x44
x1
x2
x2
x10
x10
x34
x2
x1
x122
x2
x18
x14
x5
x13
x60
x16
x49
x48
x74
x1
x1
x114
x2
x6
x1
x1
x1
x3
x9
x5
x3
x2
x1
x6
x6
x10
x5
x132
x40
x19
x7
x15
x42
x4
x1
x1
โพสต์ 2025-7-14 02:00:13 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 10 ลิ่วเยว่ รัชศกเจี้ยนหยวน ปีที่ 11 

ยามเฉิน (เวลา 07.00 - 09.00 น.)



แสงอรุณรำไรต้องผิวน้ำค้างบนหลังคาโรงหมอเจิ้งเทียน ซูเหยาบิดขี้เกียจเล็กน้อยก่อนจะลุกจากที่นอน นางไม่รีรอให้แสงตะวันสาดส่องเต็มที่ก็รีบปฏิบัติกิจวัตรประจำวันของตน


นางเริ่มต้นวันด้วยการจัดเตรียมโรงหมอให้พร้อมสำหรับผู้ป่วย เตาต้มยาที่ส่งกลิ่นสมุนไพรหอมกรุ่นถูกจุดไฟอุ่นไว้ตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง หม้อดินเผาสำหรับต้มยาถูกจัดเรียงเป็นระเบียบตามขนาดและชนิดของยาที่จะใช้ ชั้นวางสมุนไพรที่สูงจรดเพดานเต็มไปด้วยหีบห่อสมุนไพรนานาชนิดถูกตรวจตราความเรียบร้อยเพื่อให้หยิบใช้ได้สะดวก สมุนไพรแห้งที่ตากไว้เมื่อวานถูกเก็บเข้าที่อย่างเป็นระเบียบ 


เมื่อทุกอย่างจัดเตรียมเรียบร้อยโรงหมอเจิ้งเทียนก็พร้อมเปิดรับผู้ป่วย ทว่ายังพอมีเวลาว่างก่อนที่ผู้คนจะเริ่มหลั่งไหลเข้ามา ซูเหยาจึงตัดสินใจออกไปหางานเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำเพื่อหารายได้พิเศษ นางก้าวเท้าออกจากโรงหมอ เดินทอดน่องไปตามถนนที่เริ่มมีผู้คนสัญจรมากขึ้นเรื่อย ๆ เสียงรถม้าบดถนนและเสียงพ่อค้าเร่ขายของดังสลับกันไปทั่ว


ขณะที่นางเดินไปเรื่อย ๆ จมูกพลันได้กลิ่นหอมกรุ่นลอยมาตามลม กลิ่นหอมนั้นไม่ใช่กลิ่นดอกไม้หรือเครื่องหอม แต่เป็นกลิ่นที่ชวนให้ท้องไส้ปั่นป่วน ซูเหยาเดินตามกลิ่นนั้นไปเรื่อย ๆ จนมาหยุดอยู่ที่ปากตรอกเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในเมือง กลิ่นหอมยิ่งชัดเจนขึ้นเมื่อนางก้าวเข้าไปในตรอกแคบ ๆ แห่งนั้น และสิ่งที่พบก็คือร้านบะหมี่เล็ก ๆ ที่มีผู้คนยืนรอหน้าร้านอยู่ไม่น้อย ป้ายไม้เก่า ๆ แกะสลักอักษรจีนว่า ‘ร้านบะหมี่สามหาว’


ซูเหยามองเข้าไปในร้าน เห็นผู้คนแน่นขนัดตั้งแต่เช้า แต่ละคนต่างก้มหน้าซดบะหมี่อย่างเอร็ดอร่อย นางสูดกลิ่นหอมลึก ๆ อีกครั้ง แล้วตัดสินใจเดินเข้าไปในร้าน เดินตรงไปหาเถ้าแก่ร้านแล้วเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงนอบน้อม 


“ขออภัยเจ้าค่ะ ที่นี่พอจะมีงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ข้าทำบ้างหรือไม่เจ้าคะ?”


เถ้าแก่หาวปิ่งเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวตรงหน้า เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ เพราะใบหน้าของนางดูคุ้นตาคลับคล้ายคลับคลาจะเป็นหมอหญิงจากโรงหมอเจิ้งเทียนที่ชาวบ้านร่ำลือถึงความเมตตาและฝีมือการรักษา


“อ้อ...แม่นางนี่เอง” หาวปิ่งเอ่ยขึ้นช้าๆ “ใช่แม่นางที่เป็นหมอหญิงจากโรงหมอเจิ้งเทียนหรือไม่เล่า?”


ซูเหยาโค้งศีรษะเล็กน้อย 


“เจ้าค่ะ ข้าคือซูเหยาเจ้าค่ะ แต่ช่วงนี้ที่โรงหมอยังไม่วุ่นวาย ข้าเลยอยากจะหางานเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำเพิ่ม”


หาวปิ่งพยักหน้าเข้าใจ พลางเหลือบมองไปยังหม้อซุปขนาดใหญ่ที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่น 


“อืม...เช่นนั้นก็ดีเลย ที่ร้านข้างานเล็กงานน้อยมีให้ทำไม่ขาด ตั้งแต่ช่วยจัดชาม ล้างถ้วยชาม หรือไม่ก็ช่วยเสิร์ฟบะหมี่ให้ลูกค้า หากแม่นางไม่รังเกียจงานเช่นนี้ ก็เชิญช่วยงานได้เลย”


ซูเหยาคลี่ยิ้มอย่างโล่งใจ 


“ไม่รังเกียจเจ้าค่ะ ข้ายินดีอย่างยิ่ง”


หาวปิ่งชี้ไปยังกองชามที่รอการจัดเรียงอยู่มุมหนึ่งของร้าน 


“เช่นนั้นแม่นางช่วยจัดชามให้เรียบร้อยก่อนได้หรือไม่ ส่วนถ้วยชามที่ใช้แล้วก็กองไว้ตรงนั้น รอข้าว่างจะมาสอนวิธีการล้างให้สะอาด”


ซูเหยารีบเดินไปที่มุมร้าน เริ่มต้นจัดเรียงชามอย่างคล่องแคล่ว มือเรียวขาวที่เคยใช้จับเข็มและสมุนไพร บัดนี้กำลังจัดเรียงชามกระเบื้องอย่างทะมัดทะแมง แม้จะเป็นงานที่แตกต่าง แต่แววตาของนางก็ยังคงเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ


งานในร้านบะหมี่สามหาวนั้นมีให้ซูเหยาทำไม่ขาดมือ นางช่วยจัดเรียงชาม เสิร์ฟบะหมี่ และคอยเช็ดโต๊ะให้สะอาดสะอ้าน นางทำงานอย่างตั้งอกตั้งใจ แม้จะเหงื่อผุดพรายอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะบ่นหรือท้อถอย การเคลื่อนไหวของนางแคล่วคล่องและเป็นธรรมชาติ ราวกับงานบริการเหล่านี้เป็นสิ่งที่นางคุ้นเคยมาแต่เดิม 


จนกระทั่งพ้นช่วงสาย ผู้คนเริ่มซาลงบ้างแล้ว หาวปิ่งก็เดินมาหาซูเหยา


“แม่นางซู วันนี้คงเหนื่อยมากแล้วกระมัง” เขาว่าพลางยื่นถุงผ้าเล็ก ๆ ให้ “นี่คือค่าแรงสำหรับวันนี้ ถือเป็นสินน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ จากข้า”


ซูเหยาเปิดถุงออกดู พบว่าเป็นเหรียญทองแดงจำนวนหนึ่ง แม้จะไม่มากนัก แต่ก็เพียงพอสำหรับค่าครองชีพในแต่ละวัน นางรีบโค้งคำนับด้วยความซาบซึ้งใจ 


“ขอบคุณท่านเถ้าแก่มากเจ้าค่ะ”


“ไม่เป็นไร ๆ” หาวปิ่งโบกมือ “พรุ่งนี้เช้าหากไม่ติดอันใด ก็เชิญมาช่วยงานที่ร้านข้าอีกนะ”


ซูเหยายิ้มตอบรับ 


“เจ้าค่ะท่านเถ้าแก่”


เมื่อซูเหยาเดินออกจากร้านบะหมี่สามหาว แสงตะวันสายสาดส่องลงมายังตรอกแคบ ๆ ให้ความรู้สึกอบอุ่น นางรู้สึกเหนื่อยล้าจากการทำงานที่ไม่คุ้นเคย แต่ในใจกลับเปี่ยมด้วยความรู้สึกพึงพอใจที่หาเงินเล็กน้อยได้ในวันนี้ งานต่อไปก็คงจะเป็นการรักษาผู้ป่วย แล้วตกเย็นค่อยไปหางานอื่น ๆ ทำต่ออีก



โรลเพลย์ทำงานพาร์ทไทม์ประจำวัน

ค่าจ้าง: 180 อู่จู - 10 EXP


แสดงความคิดเห็น

คุณได้รับ 10 EXP โพสต์ 2025-7-14 09:32
โพสต์ 14776 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-7-14 02:00
โพสต์ 14,776 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] ความชั่ว +5 ความโหด จาก มีดแล่เนื้อ  โพสต์ 2025-7-14 02:00
โพสต์ 14,776 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] ความชั่ว +2 คุณธรรม +2 ความโหด จาก อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ญ)  โพสต์ 2025-7-14 02:00
โพสต์ 14,776 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] ความชั่ว +4 คุณธรรม +5 ความโหด จาก หมวกไผ่ผ้าคลุม  โพสต์ 2025-7-14 02:00

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1เหรียญอู่จู +180 ย่อ เหตุผล
Admin + 180

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
หมอป่า
มีดแล่เนื้อ
อาภรณ์พร่ำพิรุณ (ญ)
หมวกไผ่ผ้าคลุม
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x20
x14
x4
x1
x1
x6
x4
x4
x23
1234
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้